เจ้าอยู่หนใด

1143 คำ
หลังจากเหตุการณ์ในยามบ่ายวันนั้นที่บ้านโบราณใกล้ทะเลบัวแดง วีรินทร์ได้พบเรื่องประหลาดตามมาไม่หยุดหย่อน ซึ่งทั้งหมดหล่อนสรุปความได้ว่าเป็นเพราะรูปวาดเปลือยของสาวงามบนผืนผ้าไหม!! “แก้มอุ่นเห็นจริงๆ นะเฮียปอง ยัยอ้วนในรูปนั่น มันเคลื่อนไหวได้ บางวันส่งเสียงหัวเราะ บางวันร้องห่มร้องไห้ มะ มันต้องเป็นผีที่ออกมาจากภาพวาดผืนนั้นแน่นอน” คนไม่เชื่อเรื่องวิญญาณร้ายกำลังกลืนน้ำลายตัวเอง และเล่าถึงเรื่องเขย่าขวัญเป็นฉากๆ ให้พี่ชายฟัง วิรินทร์ทำธุรกิจซื้อขายบ้านและที่ดินเก่ามาหลายปี ประสบกับเรื่องลึกลับมามาก แต่หนนี้ไม่ธรรมดา หญิงสาวในภาพวาดออกมาตามเขย่าขวัญหล่อนไม่หยุด ทั้งที่ตอนแรกนึกว่าเป็นวิญญาณเฮี้ยนที่ล่องลอยอยู่ในบ้าน แต่ตอนนี้หล่อนมั่นใจแล้วว่า นางโผล่ออกมาจากรูปวาดบนผืนผ้าไหม ซึ่งอยู่ในหีบไม้โบราณที่ถูกซ่อนไว้ที่ผนังบ้าน! “ยัยอ้วนที่กำลังอาละวาดเนี่ย แกหมายถึงสาวจีนโบราณในรูปวาด หรือว่าเป็นตัวแกกันแน่ หา...” ปองคุณผู้เป็นพี่ชายแขวะสาวอวบไปหนึ่งหน เขาเห็นรูปวาดหญิงงามนั้นเพียงครั้งเดียว ตอนแรกนึกว่าน้องสาวอุตริให้ใครวาดรูปเจ้าหล่อนเปลือยกาย เลียนแบบโรสในหนังเรื่องไทนานิค “อร๊าย คนในรูปสิยะ อย่างแก้มอุ่นนี่อวบพองาม แต่ยายช้างน้ำในรูปนั่น ตูดก็งอน นมก็ใหญ่ แถมท่าทางคลั่งจัด อย่างกับสามีไม่ยอมชวนขึ้นเตียง บอกตามตรง สภาพนาง ผู้ชายที่ไหนเห็นแล้วจะมีอารมณ์” สาวอวบจำได้ดี ผู้หญิงปากแดงเถือก ซึ่งมีทรงผมสุดประหลาดล้ำคิดจะเลี้ยงต้อยเด็กหนุ่มผิวขาวละเอียดผู้งดงาม และยังเจรจาการค้ากับเขาอีกด้วย ท่าทางอย่างนั้นมองเผินๆ เหมือนตนยามหว่านเสน่ห์ใส่ผู้ชายมิผิดเพี้ยน “ใครจะมีอารมณ์อย่างนั้นหรือ ถามได้ก็คนที่วาดสิเว้ย ดูสิ สายตาผู้หญิงหยาดเยิ้มขนาดนั้น และท่าทางนางก็ชวนสยิว โดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจ โดดเด้งสะดุดตา!” พี่ชายหล่อนว่าแล้วก็มองเข้าไปรูปภาพ แต่แรก เขาอยากนำออกไปแร่ขายในตลาดมืดแต่วีรินทร์ไม่ยอม และยืนยันว่าจะเก็บเอาไว้จวบจนเกิดเรื่อง “และถ้ามันเป็นรูปชวนหลอนขนาดนี้ แกจะเก็บเอาไว้ทำไม” สาวอวบถอนลมหายใจแรงๆ ออกมาหนึ่งเฮือก ก่อนจะมองไปยังภาพวาด แล้วอ้อมแอ้มตอบว่า… “ก็นอกจากยายอวบในรูป ยังมีของดีโผล่มาให้แก้มอุ่นฝันหวานถึงเจ้าบ่าวในอนาคตด้วย” ปกติหญิงสาวไม่นิยมชมชอบหนุ่มน้อย แต่เขาคนนั้นช่างมีเสน่ห์ดึงดูดเหลือเกิน วีรินทร์คิดไปถึงใบหน้างดงามของบุรุษผมยาว ผิวขาวจัด ริมฝีปาก สีแดงสด เรือนกายเขาน่าสัมผัส น้ำเสียงก็ทุ้มเข้ม และมีรอยยิ้มแสนเกียจคร้าน ซึ่งกระชากหัวใจหล่อนได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็น ปองคุณมองหน้าน้องสาวด้วยความฉงน ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะลั่น “ฮ่าๆ ๆ แกนี่มันอยู่กับของโบราณเกินไปแล้วใช่ไหม และยังคิดเป็นตุเป็นตะไปเรื่อย เชื่อเฮียนะนังหนู ทั้งชาตินี้ และชาติก่อน...ไม่มีผู้ชายที่ไหนเขาจะชอบผู้หญิงปลิ้นปล้อน กะล่อน และอ้วนตัวเป็นตุ่มอย่างแกแน่” วีรินทร์โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง หล่อนเชื่อว่าตนเองไม่ได้บ้า หลายวันที่ผ่านมา หล่อน...พบเด็กหนุ่มคนนั้น กับภาพวาดสุดล่อแหลมของเขา แม้จะเป็นในฝันแต่ก็เหมือนจริงเหลือเกิน “อีเฮียปองไม่รู้อะไร อย่าทำมาเป็นพูดดี แก้มอุ่นเสน่ห์แรงจะตาย และมีดีพอที่จะทำให้ผู้ชายตายคาอก!” ปองคุณหัวเราะออกมาพรืดใหญ่ เขาดูแลน้องสาวคนนี้มาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย รู้จักหล่อนดีกว่าใคร จึงอดไม่ได้ที่จะฉุดคนที่กำลังหลงตัวเองให้ยอมรับความจริง “เฮียว่าแล้ว ทำไมแกถึงหายหน้าหายตาไปหลายวันตั้งแต่เก็บรูปลามกนั่นมา...” “หมายความว่าไง” สาวอวบถามเสียงเข้ม สีหน้าสีตาเอาเรื่องน่าดู “หึๆ ก็เพราะวันๆ เอาแต่ฝันเปียก จนไม่มีแรงโผล่หน้ามาให้ใครเห็นน่ะสิ” เมื่อสิ้นคำพูดนั้น วีรินทร์ก็กรี๊ดลั่น ก่อนส่งกำปั้นอวบๆ ซัดใส่แผ่นหลังพี่ชายจนเขาร้องโอดโอย วีรินทร์เก็บภาพวาดบนผืนผ้าไหมไว้ในห้องนอน หล่อนมักมอง ดูรูปวาดด้วยความสนใจ แต่มิใช่รูปสาวอวบเปลือยกาย หญิงสาวกำลังนึกถึงคนวาดหนุ่มน้อยผู้นั้นซึ่งมีนามว่า ฉีหยางซิ่ว คิดแล้วพลอยเกิดอาการหึงหวง หล่อนอยากรู้ว่าเหตุการณ์ต่อจากวันนั้นจะเป็นเช่นไร แม่สาวทรงเสน่ห์ในรูปภาพยั่วยวนเขามากแค่ไหนถึงได้กลายเป็นแบบให้อีกฝ่ายวาด และสุดท้ายภาพก็โผล่มาหลอกหลอนผู้คนจนถึงวันนี้ เมื่อคิดไปคิดมา หล่อนก็อยากเป็นนางแบบให้เด็กหนุ่มได้ใช้สายตาคมๆ โลมเลียเรือนร่างอวบอัดของตนลงบนผืนผ้าไหมบ้าง จากนั้น...คงจะมีกิจกรรมสุดหวามบนเตียงไม้ โดยมีเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดประกอบจังหวะ หญิงสาวหัวเราะอยากสุขสมใจอยู่ประเดี๋ยวก็ต้องหยุด เมื่อหูแว่วได้ยินเสียงทุ้มๆ ของใครคนหนึ่งเรียกขานคนรักของเขา เสียงนั้นคล้ายเจาะจงมาที่หล่อน “เจ้าอยู่หนใด...” เป็นเวลาเช้าตรู่ที่สาวอวบมีนัดกับลูกค้าใจกลางเมืองหลวง หลังจากใส่บาตรที่หน้าบ้านเรียบร้อย จิตใจก็ปลอดโปร่ง หล่อนฮัมเพลงเข้าไปในห้องน้ำ สระผมยาวสลวยด้วยความเพลิดเพลิน สักพักรู้สึกคล้ายมีสายตาใครบางคนจับจ้องจากทางด้านหลัง สาวอวบเอื้อมมือไปปิดฝักบัว ยามนั้นไอน้ำอุ่นทำให้ห้องน้ำอบอ้าวเล็กน้อย หล่อนยื่นมือไปหยิบผ้าขนหนู หวังเช็ดผมที่เปียกชื้น แต่จังหวะนั้นก้าวพลาดร่างเลยโงนเงนไปมาหวิดจะล้มคว่ำ จู่ๆ ก็มีสัมผัสอุ่นจัดช่วยประคองร่างอวบอัดไว้ “ข้า...เป็นห่วงเจ้า เมื่อครู่ต้องขออภัย ที่ข้า...เอ่อ ดื้อรั้น เอาแต่ใจตนเอง จนทำให้เจ้า...เจ็บ...เจ็บจนร่ำไห้ และไม่อยากอยู่ใกล้ชิดกัน” หญิงสาวขนลุกเกรียว ไม่ใช่มาจากภาษาแปลกหูของอีกฝ่าย หากเป็นเพราะแขนล่ำๆ ที่มีกล้ามเนื้อแกร่ง และมือใหญ่ที่โอบประคองร่างเปลือยเปล่าของหล่อนไว้เต็มไม้เต็มมือเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม