สัตยาสนับสนุนคำพูดของภรรยา เพราะทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่า คุณยายโอบบุญรักโรงเรียนของนางมากแค่ไหน ทุกเวลาทุกนาทีตลอดทั้งชีวิตท่านก็อุทิศให้กับการศึกษาของเด็ก ๆ นักเรียนของท่าน
“ต้องให้ยายนิกนั่นแหละคอยดูแล ยายนิกก็จริง ๆ เลย...” นิจรีหันไปคุยกับสามี ท่าทีหนักใจ
“ผมจัดการพูดกับยายนิกเองครับ” สัตยาจ้องหน้ากับภรรยา พร้อมหันไปรับปากกับแม่ยาย
“เอาอย่างนี้ไหมครับ” สัตยาขยับเข้าไปนั่งใกล้ ๆ ภรรยาและคุณยายโอบบุญ แล้วแผนการต่าง ๆ ก็พรั่งพรูออกมาจากปากของเขา
ทุกคนต่างพยักหน้าและยิ้มกว้าง เมื่อหาทางออกได้แล้ว
เหตุการณ์ในอดีตเมื่อทั้งสองคนถึงที่สนามบินกระบี่ ปืนฉวยข้อมือของนิกกี้ให้เดินออกมาพร้อม ๆ กัน
“เราสองคนจะทำทริปนี้เป็นความทรงจำดี ๆ นะ” ปืนขอคำมั่น
“ความทรงจำดี ๆ ของเราสองคน ตลอดไป...” เธอต่อคำให้ ทั้งสองหันหน้ามายิ้มให้แก่กัน ความสุขแบ่งบานอยู่เต็มในหัวใจ
“โน่นไง คนขับรถ เห็นชื่อของปืนที่เขาเขียนไหม” ปืนชี้ให้เธอดูป้ายชื่อของตัวเองที่คนขับชูอยู่แล้ว
นิกกี้หัวเราะขึ้นมาทันที
“นิทาน” เธอขำที่คนเขียนสะกดชื่อของเขาผิด
“คืนนี้ ปืนเล่านิทานให้นิกกี้ฟังไหม” เธอพูดเล่น
“อยากฟังจริง ๆ เหรอ” เขาพูดพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่ม
นิกกี้รู้ตัวว่าพลาดไปแล้ว พูดแบบนี้เหมือนให้ท่าเขาเลย
‘น่าตบปากตัวเองนัก พูดออกไปแบบนั้นได้ยังไง’ เธอติตัวเอง ก่อนจะเฉไฉไปเรื่องอื่น
“ปืน เราสองคนไปไหนก่อนดีจ๊ะ” นิกกี้ถามขึ้น
ตอนนี้ในหัวสมองมันตื้อไปหมด พอเกิดเหตุการณ์หวาน ๆ ที่ปืนทำให้เธอใจเต้นแรง ทำให้หญิงสาวถึงกลับขาดความมั่นใจลงไปนิดหน่อย และสารภาพกับตัวเองว่ายังคงตื่นเต้นไม่หายกับรอยประทับจูบของเขา
“ไปกินอาหารทะเลกันไหม”
“ใช่ มาทะเลก็ต้องไปกินอาหารทะเลสิ” สองคนยิ้มให้แก่กัน
ความสุขที่โฉบเข้ามาหา ทุกอย่างช่างน่าจดจำ เวลาที่เราสองได้อยู่ด้วยกันแบบนี้มันคงตราตรึงอยู่ในจิตใจไปอีกแสนนาน
เสียงฝีเท้าวิ่งตึง ๆ เข้ามาในบ้าน
“ต๊าย ๆ ต๊าย ๆ บ้านฉันพังแน่ ๆ” คุณโอบบุญโวยวาย
“สวัสดีค่ะ” ไศลทิพย์ส่งเสียงทักทายมาแต่ไกล ก่อนจะยกมือไหว้เมื่อเข้ามาใกล้ทุกคน หญิงสาวโผเข้าไปกอดคุณแม่ของเธอด้วยความดีใจ
ฟอด...ฟอด...ฟอด...ฟอด...
เธอหอมแก้มของแม่เหมือนกลับไม่เคยหอมมาก่อน
“พ่อล่ะ” คุณพ่อทวงสิทธิ์บ้าง เธอรีบผละออกจากอ้อมกอดของแม่วิ่งเข้าหาคุณพ่อเหมือนตอนเด็ก
“โตจนหมาเลียตูดไม่ถึง ปริญญาโทก็จบแล้วดูทำตัว” คุณโอบบุญติงหลานสาว
“คุณยาย....” เธอส่งเสียงและวาจาออดอ้อน ก่อนจะผละจากคุณพ่อมานั่งลงตรงหน้าของคุณยาย และก้มกราบไปที่ตักของท่านด้วยกิริยานอบน้อม
“ขอให้คุณยายสุขภาพแข็งแรงเป็นหมื่น ๆ ปี”
“จ้า...” สุดท้ายท่านก็ยิ้มออกมาจนได้ ยกมือขึ้นลูบศีรษะของไศลทิพย์ด้วยความเอ็นดู
“กินข้าวได้แล้วค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว” หน่อยเดินเข้ามาใกล้ ๆ แล้วก็บอกทุกคน
“พี่หน่อย เหมือนสวรรค์มาโปรด” เธอรีบลุกไปกอดเอวพี่สาวด้วยความคิดถึง
“โอเวอร์” พี่สาวผลักหน้าใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าผากของนิกกี้
“แล้วโจกับโจ้ไม่มาด้วยหรือคะ”
“แล้วถ้าพี่พามาด้วย เธอจะช่วยเลี้ยงไหมล่ะ”
“โอ๊ย... ไม่มาก็ดีแล้ว หนูไม่ชอบเด็ก” เธอประกาศตัวอย่างแรงกล้า แต่จริง ๆ ไศลทิพย์ไม่ได้เกลียดเด็กหรอก แต่ที่พยายามแสดงออก เนื่องจากไม่อยากรับช่วงต่อโรงเรียนของคุณยายในตอนนี้
“นี่...” พี่สาวชักอารมณ์ขุ่น ๆ ชี้นิ้วตามหลังน้องสาวที่เดินลิ่ว ๆ ก้าวขายาว ๆ ไปในครัว
“ดูสิคะ” หน่อยหันไปฟ้องทุกคน
คุณยายได้แต่ส่ายหน้า และระอาใจ นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้นิกกี้ไม่ยอมรับสืบทอดโรงเรียนของคุณยาย
“คุณคะ” นิจรีส่งสายตาให้สามี
“ปล่อยให้กินข้าวให้อิ่มก่อน เดี๋ยวผมจัดการให้” ทุกคนมองหน้าของสัตยา
บนโต๊ะอาหารในครัว
ทุกคนวางช้อนกับส้อมประกบคู่ในจานของตัวเอง
“พุงกางเลย” นิกกี้นั่งเอนลงไปทำพุงป่อง ยกมือขึ้นมาตบท้องเบา ๆ
“คุณแม่คะ” นิจรีทำสีหน้าเคร่งเครียดเริ่มคุยกับคุณโอบบุญ
“อือ...ก็เหมือนที่แม่บอกทางโทรศัพท์นั่นแหละ หมอให้พักผ่อน ถ้าไม่พักแม่อาจจะอายุสั้นกว่านี้” น้ำเสียงของคุณยายจริงจัง
“คุณยายเป็นอะไร” นิกกี้แสดงสีหน้าตกใจส่งเสียงถาม
“หลายโรค” คุณยายไม่บอกแต่ทำน้ำตาคลอ
“คุณยาย...” เธอทำเสียงละห้อย รีบเดินเข้ามานั่งลงใกล้ ๆ ทำท่าคลอเคลีย ซบหน้าลงไปบนตัก
คุณพ่อคุณแม่และพี่สาวมองหน้ากันแล้วยิ้ม
“นิก ลูก ตัดสินใจเหอะ มาช่วยงานคุณยายนะลูก” คุณสัตยาบอกลูกสาว เธอยกหน้าขึ้นมองใบหน้าของคุณยาย
“อย่าไปบังคับเลย ไม่ทำก็อย่าทำ ยายจะขายเสีย” น้ำเสียงเศร้า
“ไม่ได้นะคะคุณยาย คุณยายรักโรงเรียนนี้มาก”
“ใช่... แต่คงถึงเวลาแล้วละ ยายปลงแล้ว”
แต่สีหน้าของท่านกลับเศร้าลงไปกว่าเดิม
“นิก...” น้ำเสียงทรงอำนาจของพ่อเรียกขานชื่อ
“ค่ะ”
“พ่ออยากให้นิกดูแลงานแทนคุณยายสักปีหนึ่ง ปีหน้าพ่อกับแม่จะลงมาบริหารเอง”
“ก็ได้ค่ะ”
“หื้อ...” ทุกคนส่งเสียงออกมาแทบพร้อม ๆ กันไม่คิดว่านิกกี้จะรับปากโดยง่ายอย่างนี้
“คุณยายพักได้แล้วนะคะ ต่อไปนิกกี้สัญญาจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดค่ะ คุณยายวางใจได้เลยค่ะ”
“งั้นก็เริ่มงานพรุ่งนี้เลย” คุณยายเปล่งเสียงด้วยความดีใจสุด ๆ
“หา...” เธอหงายเงิบ