บทที่ 4

887 คำ
ณ.อำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงราย "ทำไมเราถึงมาไกลกันขนาดนี้คะ" ถามทีไรก็ถูกแม่ว่าทุกที แต่ก็อดถามไม่ได้เพราะนั่งรถมาเกือบจะ 24 ชั่วโมงแล้ว "ไม่ต้องถามมากหรอกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว" เพราะศรีไพรเห็นป้ายทางเข้าตอนที่เลี้ยวเข้ามา "แค่อยากเที่ยวภูเขาแวะที่เชียงใหม่ก็ได้นี่แม่" ทางที่วิ่งเข้ามาตั้งแต่ถนนใหญ่มีแต่ภูเขาและต้นไม้ใหญ่ปกคลุม ยังไม่นานรถก็มาจอดหน้าบ้านไม้สักหลังใหญ่ ไม่ใหญ่ธรรมดาสิใหญ่และกว้างขวางมากด้วย "โรงแรมเหรอแม่" "ลงรถได้แล้ว" "เราจะอยู่กันกี่วันคะ" วันจันทร์ถามแม่ขณะที่ลงมายืนยืดเส้นยืดสายอยู่ "เอากระเป๋าตัวเอง" ศรีไพรถูกสามีสั่งไม่ให้พูดเรื่องนั้นแล้วก็เลยไม่ตอบคำถามลูก วันจันทร์เดินอ้อมไปเอากระเป๋าตัวเองที่อยู่หลังรถ "โรงแรมอะไรทำไมเหมือนบ้านคนจัง" "ถามอะไรมากมายตามมาเถอะน่า" หญิงสาวถือกระเป๋าเดินตามพ่อกับแม่เข้ามา พอพวกเธอถือของไปแล้วรถตู้คันนั้นก็ขับออกไป "แล้วรถเขาจะไปไหนคะแม่" "จะถามอะไรนักหนา" "ที่นี่ไกลบ้านคนจะตาย แล้วเราจะกลับออกไปกันยังไง" เพราะบ้านหลังนี้อยู่บนเนินเขา และอาณาเขตแถวนี้ก็ไม่เห็นมีบ้านคนเลย "ว่าแต่ที่นี่ก็สวยมากเลยนะ" "มากันแล้วเหรอ" เสียงทุ้มของชายวัยกลางคนที่คุ้นหูหน่อยพูดขึ้นจนวันจันทร์รีบหันไปมอง "?" ใบหน้าที่มีรอยยิ้มตอนมองดูบรรยากาศรอบข้างเมื่อสักครู่เปลี่ยนไป "สวัสดีเจ้าค่ะ" "สวัสดีขอรับกระผม" "บอกให้พูดกันปกติไง" "มิได้หรอกขอรับ" ยิ่งมาเห็นอาณาจักรของพ่อเลี้ยงคนนี้แล้วมันก็ยิ่งทำให้สองสามีภรรยาตื่นตาตื่นใจ "เอาที่สะดวกเลยแล้วกัน เข้าบ้านสิ" "แม่คะเดี๋ยวก่อนค่ะ" มือเรียวเอื้อมไปรั้งแขนของผู้เป็นแม่ไม่ให้เดินเข้าไป "อยากจะถามอะไรค่อยเข้าไปคุยกันข้างในตามมา" ศรีไพรสะบัดมือลูกสาวออกเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปก่อน วันจันทร์ก็เลยจำใจต้องเดินตาม ทั้งๆ ที่เริ่มมีความสงสัยอยู่ในใจแล้ว "มารับกระเป๋าคุณๆไปเก็บสิ" "ไม่ต้อง!" เสียงผู้หญิงดังขึ้นมาจากชั้นบน จนแม่บ้านที่กำลังจะเดินมายกกระเป๋าหยุดเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นมีอิทธิพลมาก "พ่อเลี้ยงพาใครเข้าบ้านอีก ไหนบอกจะพอแล้วไม่ใช่เหรอ" "ถ้าความคิดไม่สร้างสรรค์ก็หยุดคิดซะ แล้วนี่รับเงินเดือนจากใครบอกให้มายกกระเป๋าก็มายกสิ" พ่อเลี้ยงอิทธิพลหันไปตะคอกแม่บ้าน จนแม่บ้านรีบเดินมารับกระเป๋า "ไม่ต้องหรอกค่ะ" วันจันทร์กอดกระเป๋าตัวเองไว้แน่น "ส่งกระเป๋าให้ขี้ข้าไป" ศรีไพรกระซิบพูดกับลูกสาว แต่แม่บ้านก็ได้ยินคำใช้เรียกจิกหัวอยู่ พอศรีไพรเห็นว่าลูกสาวไม่ทำตามก็เลยกระชากกระเป๋าแล้วส่งให้กับแม่บ้าน วันจันทร์ไม่พอใจก็เลยเดินหนีออกไปทางซีกซ้ายของตัวบ้านหลังนั้น บ้านหลังนี้ปลูกสร้างแบ่งเป็นโซนเหมือนว่าไม่ได้มีอยู่ครอบครัวเดียว และบ้านก็ถูกปลูกสร้างด้วยไม้สักราคาแพงทั้งหลัง "หนูมาหาใครเหรอ" "คะ?" วันจันทร์ที่กำลังมองหาทางออกรีบหันไปหาคนที่ถาม "คือว่าฉันมากับแม่ค่ะ" "......" คนที่คุยกับวันจันทร์ชำเลืองสายตามองไปที่บ้านหลังใหญ่ "ฉันว่าหนูกลับไปเถอะ" "เดี๋ยวก่อนสิคะ หนูขอถามอะไรหน่อยสิ" "ฉันคงบอกอะไรหนูไม่ได้หรอก" วันจันทร์เดินกลับมาทางเดิมแบบงงๆ ในเมื่อทางซ้ายไปแล้วเจ้าของบ้านทางนั้นไม่ต้อนรับเธอก็เลยไปทางขวาดู บ้านอะไรจะสร้างใหญ่โตขนาดนี้ แต่ก็สมแล้วล่ะกับเนื้อที่กว้างขวางดูแค่สายตาก็รู้ว่าคงไม่ต่ำกว่าร้อยไร่ "เธอเป็นใคร" เท้าเรียวหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนพูดมาจากมุมที่เพิ่งเดินผ่านเมื่อสักครู่ "ฉันกำลังหาทางกลับ ทางที่มาเมื่อกี้อยู่ค่ะ" ที่จริงเธอไม่ได้ตั้งใจเดินมั่วซั่วขนาดนี้หรอก แต่มันเหมือนเขาวงกตเลย "เธอเป็นแม่บ้านคนใหม่มาทำงานที่นี่เหรอ" "เปล่าค่ะ" "ถ้างั้นเธอก็เป็น.." "พะเพื่อน!" เสียงชายวัยกลางคนตะคอกจนคนที่พูดอยู่เมื่อสักครู่รีบหุบปาก วันจันทร์รีบหันกลับไปมอง ก็เห็นว่าเป็นบิดาของพี่เขย "ฉันว่าแล้วหนูต้องหาทางกลับไม่เจอ..ตามมาสิ" "คุณพ่อคะ?" ผู้หญิงที่คุยอยู่กับวันจันทร์เมื่อสักครู่อุทานออกมาแบบตกใจ "ไม่มีอะไรทำหรือไงเรา ถ้าไม่มีก็เข้าไปดูงานที่โรงงาน" "มีอะไรเหรอพะเพื่อน" พิมพาได้ยินเสียงสามีแว่วๆ ก็เลยรีบเดินออกมา แต่ก็ไม่ทัน "เมื่อกี้คุณพ่อน่ะสิคะพาผู้หญิงเข้าบ้านอีกแล้ว" "อะไรนะ?" "เพื่อนขอตัวโทรหาพี่ใหญ่ก่อนนะคะ" พูดจบพระเพื่อนก็ถือโทรศัพท์เดินออกไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม