บทที่ 1 [วันจันทร์)
ในงานแต่งของข้าราชการทหารเรือ..
"สวัสดีครับ" คนที่เอ่ยทักทายก็คือนายอิทธิพลหรือเรียกอีกอย่างว่าพ่อเลี้ยงอิทธิพลบิดาของเจ้าบ่าวในคืนนี้
"สวัสดี" บุญนำคือพ่อของเจ้าสาว
"ผมเป็นพ่อเจ้าบ่าว" พ่อเลี้ยงอิทธิพลเห็นท่าทางอีกฝ่ายไม่อยากคุยด้วยก็เลยแนะนำตัว เพราะทั้งสองเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก
"อ้าวเหรอครับสวัสดีครับท่าน" ดวงตาที่แข็งกร้าวเมื่อสักครู่เปลี่ยนไป สองมือของบุญนำพนมขึ้นมากราบไหว้อย่างสวยงาม "กระผมไม่รู้ว่าท่านเป็นบิดาของลูกเขยกระผม"
"เราพูดกันปกติเถอะครับ"
"มิได้หรอกครับท่านกระผมเป็นแค่ผู้น้อย"
"พ่อคะ!" วันจันทร์พยายามปรามพ่อไม่ให้ทำพฤติกรรมแบบนี้ วันจันทร์ก็คือน้องสาวของเจ้าสาว พี่สาวของเธอคือนาวาโทคะน้า
"เงียบ!!" ศรีไพรตะคอกบุตรสาว
"คนนี้ก็ลูกสาวของพวกคุณหรือครับ" พ่อเลี้ยงอิทธิพลมองดูสาวสวยที่นั่งเคียงข้างอยู่กับแม่เจ้าสาว
"ใช่แล้วเจ้าค่ะ"
วันจันทร์รู้สึกอายเวลาพ่อกับแม่เจอคนรวยมีฐานะก็ชอบเป็นแบบนี้ ไปเอาคำศัพท์พวกนี้มาจากไหนก็ไม่รู้
ตอนที่กำลังคิดเรื่องพ่อกับแม่อยู่ วันจันทร์แอบมองดูพ่อสามีของพี่สาว สายตาท่านมองเธอแปลกๆ
รูปร่างหน้าตาของวันจันทร์ก็ไม่ได้ด้อยไปจากคะน้าคนเป็นพี่สาว และบ้านนี้ลูกสาวสวยกันทุกคน
"ทำไมหรือครับ คุณท่านสนใจลูกสาวของผมเหรอ"
"พ่อ!" วันจันทร์เหลือจะทนแล้วก็เลยเสียมารยาทลุกขึ้น
"วันจันทร์นั่งลง!" มือของแม่เอื้อมไปกระชากตัวลูกสาวให้นั่งลง แต่วันจันทร์ก็สะบัดมือออกแล้วเดินไปจากโต๊ะนั้น
"แบบนี้แหละที่เราต้องการ" พ่อเลี้ยงอิทธิพลมองตามหลังเด็กสาว ถึงแม้เธอจะไม่เด็กแล้วแต่สำหรับพ่อเลี้ยงอิทธิพลเธอเด็กมาก
"เมื่อสักครู่คุณท่านพูดว่าอะไรนะครับ"
"ผมอยากได้ลูกสาวของพวกคุณ"
พอคำนี้ออกจากปากพ่อเลี้ยงอิทธิพล บุญนำก็หันมองหน้าภรรยา ส่วนศรีไพรก็มองหน้าสามีแบบไม่ได้นัดหมายกันเลย
"ถ้าเป็นแบบนี้เราก็รวยตายน่ะสิ" บุญนำคนเป็นสามีกระซิบพูดกับภรรยา เพราะดูท่าแล้วพ่อเลี้ยงคนนี้คงสนใจลูกสาวคนรอง ถ้ารู้ว่าจะมีแต่คนรวยๆ มาร่วมงานแต่งคงขนลูกสาวมาทั้งบ้านแล้ว
"แกก็ลองถามท่านดูหน่อยสิ"
"จะให้กูถามอะไรวะ" ถึงแม้ว่าทั้งสองจะไม่ทะเลาะกันแต่คำพูดก็ประมาณนี้อยู่แล้ว
"ทำไมต้องให้ได้สอนด้วย ลูกชายให้ได้ตั้งสองล้าน แกไม่คิดเหรอว่าคนพ่ออาจจะให้เยอะกว่านั้น" สองล้านที่ศรีไพรพูดถึงก็คือค่าสินสอด ที่จริงเรียกไปแค่ล้านเดียว แต่พายุเพิ่มให้อีกหนึ่งล้านบาทเพื่อไม่ให้พ่อกับแม่ของเธอมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตลูกสาวอีก ก็เป็นเสียแบบนี้ใครเขาอยากให้มายุ่งกับเมียรักล่ะ พายุหรือนาวาโทพายุที่พูดถึงก็คือลูกชายคนรองของพ่อเลี้ยงอิทธิพล ที่แต่งงานกับคะน้าพี่สาวของวันจันทร์ (ทั้งสองอยู่ในเรื่องลวงรักแฟนเก่านะคะ)
"คุยกับผมมาได้เลยครับ ไม่ต้องเกรงใจเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว" พ่อเลี้ยงอิทธิพลเห็นสองสามีภรรยากระซิบพูดคุยแถมยังมองมาที่ท่าน
"กระผมคิดว่าท่านสนใจลูกสาวคนกลางของกระผมใช่ไหมครับ"
"ใช่"
"นั่นไงฉันว่าแล้ว ถามต่ออีกสิ" คนเป็นภรรยาสะกิดสามีให้พูดต่อ
"ลูกสาวผมยังไม่เคยมีแฟน ถ้าคุณท่านสนใจเราคงต้องคุยเรื่องราคากันหน่อยครับ"
"?" อิทธิพลคิดไว้แล้วว่าพ่อกับแม่ของลูกสะใภ้ต้องเป็นคนแบบนี้แน่ แต่ทำไมดูลูกสาวทั้งสองไม่เหมือนพ่อแม่เลย "ได้สิ"
"พ่อๆๆ" ศรีไพรสะกิดสามีไว้ก่อน เพราะถ้าพูดเรื่องเงินต้องให้แบ่งกันลงตัว
"อะไรของมึงวะเงียบไว้เถอะน่า!"
"คนพี่ได้สองล้านคนน้องห้าม น้อยหน้ากันเข้าใจไหม" ศรีไพรยังกระซิบบอกสามี
"ได้ๆๆ" พอตอบภรรยาแล้วบุญนำก็หันมาหาพ่อเลี้ยงอิทธิพล "คุณท่านคิดว่าจะให้ผมได้เท่าไรครับ"
"พวกคุณจะไม่ถามเลยเหรอว่าผมต้องการลูกสาวพวกคุณไปทำอะไร"
"เรื่องนั้นแล้วแต่คุณท่านเลยครับ ผมอยากให้คุณท่านเอ็นดูลูกสาวผมให้มากก็พอแล้ว" บุญนำคิดว่าพ่อเลี้ยงอิทธิพลคงอยากได้ลูกสาวตัวเองไปเป็นอนุภรรยา
"เรื่องนี้เรารู้กันแค่สามคน พวกคุณทำได้ไหมล่ะ"
"ได้สิเจ้าคะ" ศรีไพรตกปากรับคำไปอย่างไว
"งานแต่งเจ้าพายุเสร็จเราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกที" พูดจบพ่อเลี้ยงอิทธิพลก็เดินเข้าไปหาเจ้าบ่าวเจ้าสาวเพราะใกล้ฤกษ์ส่งตัวเข้าหอแล้ว
"คนจะรวยช่วยไม่ได้ อยู่ดีๆ บุญเก่าก็นำพา"
"นำพาอะไร เงินที่ได้ไปเอาไปเล่นการพนันหมดหรือยัง" เงินที่ศรีไพรพูดถึงก็คือเงินหนึ่งล้านบาทที่แบ่งกับสามี
"คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวเรื่องเงินของกันและกัน ตัวเองก็ใช่ย่อยที่ไหน"
"อย่ามาพูดมากนะเห็นไหมนั่นเขาจะส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวแล้วรีบไปสิ!" พอสามีพูดให้บ้างก็รีบหาเรื่องเลี่ยง
หลังส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอเสร็จ ญาติที่มาจากทางไกลก็กลับมาพักโรงแรมเดิม
"ผมกลับก่อนนะพ่อ"
"แกจะรีบกลับไปไหนรอกลับพรุ่งนี้พร้อมกัน"
"งานแต่งจบแล้วทำไมต้องรอด้วย พ่ออยากอยู่ก็อยู่ต่อเองสิ"
"ไอ้ใหญ่!"