บทที่ 13

1475 คำ
"โอ๊ย..ซี๊ดด" จะร้องเจ็บแรงกว่านี้ก็ไม่กล้าเดี๋ยวลูกน้องรู้ว่าจอด ชายร่างสูงค่อยๆ ขยับตัวลงจากเตียง สองมือกุมน้องชายที่ถูกเธอเล่นงานเมื่อสักครู่ไว้ นิ้วชี้ยกขึ้นมาชี้หน้าเธอก่อนที่จะค่อยๆ ถอยออกจากห้องไป "สมน้ำหน้า" หญิงสาวลุกขึ้นแล้วรีบไปปิดประตูห้องไว้ เธอมองหาอะไรก็ได้ที่สามารถดันประตูได้ แต่ในนี้ก็มีแค่ตู้กับเตียง "ทำไมออกมาเร็วจังครับพ่อเลี้ยง" "เรื่องของกู พวกมึงสองคนเฝ้าอยู่ที่นี่ ส่วนมึงตามกูมา" พ่อเลี้ยงพันฤทธิ์สั่งให้เชี่ยวชาญตามมาขับรถให้ "เราจะไปไหนกันครับ" "ไปหาไอ้หมอ" "ใครเป็นอะไรครับพ่อเลี้ยง" "มึงไม่ต้องถามมากได้ไหม ขับรถเบาๆ ด้วยล่ะ" เชี่ยวชาญมองผ่านกระจกดูใบหน้าของพ่อเลี้ยงที่นั่งอยู่ด้านหลัง แต่ก็ดูไม่มีอะไรผิดปกติ [คลินิกในตัวอำเภอ] "มีอะไรทำไมโทร ให้ออกมาหาดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้วะ" นายแพทย์กฤษณะเป็นเจ้าของคลินิกแห่งนี้ และเป็นเพื่อนรักของพ่อเลี้ยงพันฤทธิ์ "มึงช่วยดูกล่องดวงใจให้กูหน่อยสิวะ" เจ็บนะไม่ใช่ไม่เจ็บ แต่ก็ยังทนมาจนถึงมือหมอ "หึหึ ไปโดนอะไรมาวะ" "มึงจะขำกูอีกนานไหม ดูให้หน่อยว่ากูจะยังใช้งานได้ไหมเนี่ย" "มึงแค่บอกมาว่าถูกอะไร เดี๋ยวกูจะจัดยาให้ไม่ต้องดูหรอก" "เข่า" "ฮ่าา" กฤษณะแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นใช้อวัยวะส่วนไหน พอรู้ว่าเป็นเข่าก็นึกถึงท่าทางได้ "ถ้ามึงไม่ใช่เพื่อนกูนะ กูสั่งเก็บมึงแล้วไอ้กฤษ! โอ๊ยย" จะใส่อารมณ์มากก็ไม่ได้เพราะมันสะเทือนถึงกล่องดวงใจ "เก็บแรงไว้หายใจก่อนดีกว่าไหมมึง หึหึ" กฤษณะอยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นเลยว่าเป็นคนยังไงถึงเล่นงานไอ้พ่อเลี้ยงเพื่อนรักได้ พอได้ยาเป็นที่เรียบร้อยพันฤทธิ์ก็ให้ลูกน้องพามาพักที่บ้านในตัวอำเภอ เวลาเดียวกันนั้นบ้านหลังที่อยู่ในป่า.. วันจันทร์นอนไม่ค่อยหลับกลัวว่าเขาจะเข้ามาเอาคืน เธอก็เลยพลอยระแวงจนนอนไม่ได้ ตอนนี้ไม่ได้กลัวว่าจะพลาดเสียตัวอย่างเดียวแล้ว กลัวว่าเขาจะเอาคืนมากกว่า เล่นงานเขาไปหลายครั้ง ถ้าตายอยู่ในป่าแบบนี้คงไม่มีใครรู้ แต่ก็ช่างเถอะ ถึงรู้ก็คงไม่มีใครเสียใจกับเธอหรอก เช้าวันต่อมา.. "ทำไมในห้องเงียบจังวะ" "เรื่องนั้นช่างมันเถอะแต่แกว่าเมื่อคืนพ่อเลี้ยงเจออะไร ทำไมถึงรีบออกมาจากห้องนั้น" "คงเจอดีเข้าให้ล่ะสิ" "กูก็ว่าเหมือนมึง แล้วพ่อเลี้ยงจะเก็บผู้หญิงคนนี้ไว้ทำไมวะ" "เก็บไว้ทำไมมึงก็รู้ นั่นผู้หญิงของพ่อเลยนะ" "ผู้หญิงของพ่อก็ของพ่อเถอะ ฆ่าหมกศพไว้ในป่าก็ไม่มีใครรู้แล้ว" อึก! วันจันทร์ที่เอาหูแนบกับประตูแอบฟังอยู่ถึงกับรีบถอยออกไป พวกนี้โหดร้ายกว่าที่เธอคิด มันฆ่ามากี่คนแล้วเนี่ย ที่เธอเอาหูแอบฟัง เพราะเริ่มจะหิวข้าวทำไมพวกเขาถึงไม่หาอะไรมาให้ แต่สิ่งที่ได้ยินมันทำให้เธอหวาดกลัวมาก บ่ายคล้อยวันเดียวกัน.. ตอนเช้าพวกมันเปิดประตูให้เธอออกไปทำกับข้าว วันนี้วันจันทร์ทำกับข้าวอร่อยมาก เพราะเธอไม่กล้าทำรสชาติเหมือนเดิม วันจันทร์ทำอาหารไว้เยอะ คงพอกินได้สองมื้อ ตอนเย็นเธอถึงจะออกไปทำใหม่อีกที เราจะช่วยทำแผนของพ่อเลี้ยงนั้นต่อหรือหาทางหนีดี ถ้าเธอมีแรงเหมือนผู้ชายคงพังหน้าต่างออกไปได้แล้ว ดึกๆ คืนเดียวกันสถานบันเทิงในตัวอำเภอ "พ่อเลี้ยงขา นานแล้วนะคะ" นิ้วเรียวของหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักเขี่ยหน้าอกแน่นๆ ของพ่อเลี้ยงพันฤทธิ์เบาๆ "ไม่กลัวเจ็บตัวอีกหรือไง" กับผู้หญิงพวกนี้เขาชอบใช้ความรุนแรงมันถึงใจดี "อยากเจ็บตัวค่ะ" เจ็บตัวนิดเจ็บตัวหน่อยแต่ว่าเงินที่ได้มาอยู่ได้เป็นเดือนๆ เลย มันคุ้มกับการลงทุนมาก อยู่ดีๆ ร่างเล็กของคนนั่งอยู่บนตักก็ถูกจับทุ่มลงบนโซฟาแบบไม่ทันตั้งตัว "โอ๊ย" ตามด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ถูกกระชากออก แต่หญิงนางนั้นก็ยังคงนอนให้พ่อเลี้ยงกระทำ "ต่อสิคะพ่อเลี้ยงขาา" อยู่ดีๆ เขาก็หยุด จนผู้หญิงที่ทำงานสถานบันเทิงขอให้เขาทำต่อ ที่พันฤทธิ์หยุดกลัวว่ามันจะเลยเถิดจนหยุดตัวเองไม่ได้เหมือนครั้งก่อน แต่พอเห็นผู้หญิงนอนให้ท่า มือหนาก็ดึงเข็มขัดออกมา แล้วก็ฟาดลง.. "ซี๊ดดด แรงกว่านี้ค่ะพ่อเลี้ยงขา" เพี๊ยะ! "โอ๊ยย ต่อเลยค่ะ" ร่างของผู้หญิงนางนั้นมีเลือดซิบออกมาให้เห็นบ้างแล้ว สายตาคมมองดูเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า ยิ่งเห็นผลงานนั้นมันยิ่งทำให้อุณหภูมิเลือดในกายของเขาเพิ่มสูงขึ้น มือหนาเอื้อมมาแกะกระดุมกางเกงแล้วก็รูดซิปลง พอซิปถูกรูดลงมาจนถึงช่วงล่าง มือนั้นก็ไปสัมผัสถูกกล่องดวงใจ ความเจ็บที่เธอฝากไว้เมื่อวานนี้ยังคงไม่จางหายไปไหน เพียงแต่ว่ามันไม่เจ็บมากแล้ว "เดี๋ยวก่อนสิคะพ่อเลี้ยง" วิไลวรรณรีบดันตัวลุกขึ้น แต่ด้วยความเจ็บปวดที่ถูกเข็มขัดฟาดบนร่างกายทำให้ลุกขึ้นไม่ได้ "เอาเงินไปให้เธอ" พันฤทธิ์สั่งลูกน้องที่ยืนรออยู่หน้าประตูแล้วก็ออกมาที่รถ เชี่ยวชาญจัดการให้เจ้านายเสร็จก็รีบตามออกมา "เราจะไปไหนกันต่อดีครับ" "ไม่รู้" เชี่ยวชาญก็เลยขับรถพาพ่อเลี้ยงกลับมาที่บ้านพักในตัวอำเภอก่อน "ยังไม่มีข่าวอะไรจากพ่อกูเลยเหรอ" "ยังไม่มีข่าวอะไรเลยครับ" "กลับบ้าน" "บ้านไหนครับ" "ปางไม้" "ครับ?" ที่เชี่ยวชาญแปลกใจ เพราะเจ้านายจะเอาหน้าที่ไหนไปเจอพ่อ ลักพาตัวผู้หญิงของท่านออกมาแบบนี้ "กูบอกให้กลับบ้านไงวะ" พันฤทธิ์แค่อยากจะรู้ว่ามันเป็นแบบที่ตัวเองคิดไว้ไหม ถ้าเป็นแบบที่คิดจริงพ่อกำลังจะทำอะไร ใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าจะขับรถมาถึงปางไม้ และตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เหลือแค่ลูกน้องที่เฝ้าเวรยามของพ่อเลี้ยงอิทธิพล เช้าวันต่อมาที่โต๊ะอาหาร.. ขณะทานข้าวอยู่พ่อเลี้ยงอิทธิพลก็กรอกหางตามองดูลูกชาย ส่วนลูกชายถึงแม้ไม่มองไป ก็รู้ว่าพ่อกำลังมองตนอยู่ แต่ที่พ่อพูดอะไรไม่ได้เพราะคนที่นั่งร่วมทานข้าวด้วยก็คือแม่ "เพื่อนไม่คิดว่าพี่ใหญ่จะมาทานข้าวที่บ้าน" พะเพื่อนเพิ่งรู้ว่าพันฤทธิ์มาค้างที่นี่เมื่อคืนนี้ พอมาถึงพะเพื่อนก็นั่งเบียดลงข้างๆ หลังทานข้าวเสร็จ.. "นานเท่าไรแล้วที่พี่ใหญ่ไม่พาเพื่อนออกไปดูหนัง" "พี่ไม่ว่างหรอก" "ช่วงนี้พี่ใหญ่ไม่ได้ทำงานอะไรสักหน่อยทำไมถึงไม่ว่างคะ" "ตาใหญ่มาคุยกับแม่หน่อย" สายตากนกจันทร์มองไปที่พะเพื่อนแบบไม่ปลื้ม "ครับ" "เพื่อนจะรออยู่นี่นะคะพี่ใหญ่" "ไม่ต้องรอ มีอะไรทำก็ไปทำ" "กว่าจะได้เจอหน้าพี่สักครั้งมันยากลำบาก..ก็ได้ค่ะ" พะเพื่อนหมุนตัวแล้วก็เดินออกไป "มีอะไรครับแม่" "กับแม่นั่นแม่ขอไว้แล้วใช่ไหม" "พะเพื่อนน่ะหรือครับ แม่ก็อย่าลืมสิครับว่าผมกับพะเพื่อนเป็นพี่น้องกัน" "แต่มันไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ" "มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้หรอกครับแม่" "กับลูกน่ะไม่มีทางเกิดขึ้นแต่กับแม่นั่นดูให้ท่าเกินงาม" "หึหึ ถ้าแม่กลัวเรื่องนี้ก็ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผู้หญิงข้างนอกยังมีอีกเยอะ" "เรื่องผู้หญิงข้างนอกก็เหมือนกัน อย่าให้แม่ได้ยินนะว่าไปทำร้ายผู้หญิงที่ไหนอีก เดี๋ยวตำรวจก็ตามมาถึงบ้าน" พันฤทธิ์ถูกแม่บ่นก็เลยออกมาจากบ้านก่อน ทีแรกคิดว่าจะมาดูปฏิกิริยาของพ่อ แต่แม่กลับไม่เปิดโอกาสให้เลย "เราจะไปไหนกันต่อครับ" เชี่ยวชาญถามผู้เป็นเจ้านายโดยการมองผ่านกระจก "ไปบ้านในป่า"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม