เบลกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัยแต่ที่น่าตกใจคือแม่ยืนกอดอกรอด้วยสีหน้าเอือมระอาคล้ายว่าชินชาในสันดานขี้เมาของเขา แล้วไหนว่ามาถึงบ่ายไงว่ะ! เขาตีหน้ายิ้มกว้างทั้งที่รู้สึกง่วงจนแทบลืมตาไม่ขึ้นเดินไปกอดแม่พอดีกับที่เห็นว่าพี่ชายพึ่งเดินออกมาพร้อมกับน้ำเปล่าอีกแก้ว
แล้วมันมาทำไมว่ะ?
"เมาแต่เช้าเลยนะมึง"
"มาทำไมว่ะ?"
"กูกับแม่มาถึงสักพักแล้วนี่มึง...พึ่งออกมาจากผับเหรอ?"
"กูพึ่งมาจากบ้านเพื่อน งั้นเดี๋ยวไปอาบน้ำแป๊ปหนึ่งแล้วจะออกมาหา"
"กินข้าวเช้าด้วยกันค่อยนอนนะ"
"กินมาแล้ว พึ่งกินข้าวต้มเมื่อกี้นี้เอง"
“งั้นมึงอาบน้ำแล้วก็นอนไปเลยเถอะ สภาพเละเทะมาก!"
เขาหอมแก้มแม่ไปอีกทีก่อนจะอาบน้ำแล้วนอนเพราะถ้าขืนอยู่แบบนี้คงต้องนอนฟังแม่บ่นเรื่องนิสัยที่แก้ไม่หายสักทีของเขาแถมยังจะหนักข้อมากขึ้นทุกวันด้วย ตั้งแต่ที่เขาโสดอีกครั้งเมื่อตอนอายุยี่สิบห้าหลายคนก็เริ่มกังวลว่าจะหาเมียไม่ได้เนื่องจากวันๆอยู่แต่ผับบาร์ร้านเหล้า เวลาว่างก็ไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทส่วนช่วงไหนเกิดอารมณ์เปลี่ยวก็มักซื้อเด็กน่ารักสักคนมาสนองอารมณ์ให้สมอยากจัดหนักสักคืน ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครจริงจังและไม่เคยสนใจใคร
แต่ตอนนี้รู้สึกว่าอยากมีเมียแล้วสิ
หนูเอยอายุสิบแปดยังว่ะ
ไม่มั่นใจว่าเขาจะโดนคดีพรากผู้เยาว์รึเปล่าถ้าหากว่าเอาเธอมานอนกกกอดตามใจตัวเองมากเกินไป คิดก็ขำจริงๆเจอกันครั้งแรกก็อ้วกแตกจนเธอต้องมาลูบหลัง สภาพเขาในตอนนั้นคงจะเมามากจนดูไม่ได้แน่นอน แล้วป่านนี้เธอจะลืมกันไปแล้วรึเปล่าก็ไม่มั่นใจ
ทำยังไงถึงจะได้เจออีกครั้งนะ?
เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์อย่างรวดเร็วจนแทบไม่น่าเชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเขากลายมาเป็นลูกค้าประจำของร้านขายข้าวต้มนี้แล้ว ทุกหกโมงเช้าเขาจะลากพี่ชายที่อยู่ด้วยสักระยะมากินด้วยกันเพราะะหวังว่าจะได้เจอกับเด็กสาวที่อยู่ในฝันบ่อยๆอย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เพราะเราเจอกันในเวลาแค่ไม่นานเองแล้วนับจากเช้าวันนั้นก็ไม่เคยเจอแม้แต่เงาเธอเลย
“เหมือนเดิมครับลุง”
“ใจคอมึงจะไม่แดกอย่างอื่นเลยรึไงไอ้เบล?”
“แล้วไง?”
“นี่มันพึ่งจะหกโมงเช้าเว้ยไอ้สัตว์ ไม่คิดว่ากูจะง่วงมั้งเหรอว่ะ?”
“มึงก็กินๆไปเถอะน่าจะบ่นอะไรนักหนาว่ะ?”
“ไอ้สัตว์!”
แววตาง่วงงุนกวาดมองรอบๆร้านด้วยความหวังว่าจะได้เจอกับเด็กสาวคนเดียวแต่ก็ไม่เคยเจอเลยสักครั้ง เธอไม่ได้บอกว่าเรียนอยู่ที่โรงเรียนไหน ไม่บอกว่าอายุเท่าไร ขอเบอร์ก็ไม่ให้ ขอช่องทางอื่นก็ไม่ให้ ไม่รู้ว่าจะหวงอะไรนักหนา
หรือว่ามีแฟนแล้วนะ?
คิดมากก็ปวดหัวกินข้าวต้มดีกว่า
วันเวลาผ่านไปอีกเดือนที่เขายังคงพยายามมองหาเด็กสาวคนเดิมไม่หยุดจนรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องพยายามขนาดนี้ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเช้าวันนั้นก็ส่งผลต่อตัวเขาอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ อารมณ์ทางเพศที่ไม่ได้มีมากมายก็ลดลงจนไม่รู้สึกกับใครเลยด้วยซ้ำ บางคืนก็ฝันถึงเด็กที่นั่งกินข้าวต้มด้วยกันและที่สำคัญเลยคือยังจำสัมผัสของมือเล็กที่ลูบแผ่นหลังให้ได้ดีว่าอ่อนโยนขนาดไหน
คืนนี้เขามานั่งดื่มกับพี่ชายและเพื่อนอีกสามคนที่ผับด้วยความสนุกได้ไม่เต็มที่อย่างไร้เหตุผลที่สุด เขานั่งดื่มเพื่อหวังให้เมาแล้วหลับไปโดยไม่ต้องคิดถึงใครคนหนึ่งที่เจอกันแค่ไม่ถึงชั่วโมงแต่อยู่ในความทรงจำนานนับเดือน แล้วไม่รู้ว่าเมื่อไรจะสามารถสลัดออกจากหัวไปได้ด้วย
เมื่อคืนเขายังฝันถึงเธอ...นรกฉิบหาย!
แบบนี้เรียกว่าตกหลุมรักได้ไหม?
“มึงเป็นอะไรห่ะเบล?”
“อกหักมั้ง!”
“ใครมันกล้าทิ้งมึงว่ะ?”
“ไม่มีอะไรหรอก! กูพูดเล่นแล้วกูกลับก่อนนะ”
“เออๆกลับดีๆละ”
คืนนี้พี่ชายน่าจะกลับเช้าเพราะมันตั้งใจมาดื่มโดยเฉพาะแล้วพรุ่งนี้ตอนบ่ายเขาจะไปส่งที่สนามบินเพื่อให้มันกลับบ้านไปอยู่กับแม่สักทีหลังจากที่อยู่ด้วยมาเดือนครึ่งจนเริ่มรู้สึกเหม็นขี้หน้าแล้ว พี่ชายทำตัวเหมือนพ่อใครจะชอบว่ะ! เพียงแค่เดินออกมาก็รู้สึกว่ายังไม่อยากจะไปไหนแล้วแถวนี้ก็มีร้านดีๆให้เลือกค่อนข้างเยอะ มือกดโทรศัพท์พิมพ์ข้อความไปยังร้านประจำที่มีสาวๆให้เลือกมาดูแลตลอดทั้งคืนแต่สุดท้ายก็กดลบข้อความเพราะไม่รู้สึกอยากจะเอากับใครจริงๆเลยสักคน
นี่เขาตายด้านไปแล้วรึไงกัน
“บอกแค่ชื่อแล้วเสี่ยจะไปตามหาหนูจากที่ไหนห่ะ?”
“เจอตัวเมื่อไรนะจะไม่ปล่อยง่ายๆแน่ เสี่ยจะจูบหนูไปถึงมดลูกเลยคอยดู!” บ่นไปงั้นแหละแต่ถ้าได้ก็เอาจริงนะ เขาเดินออกมาสูดอากาศด้านนอกถึงจะไม่ได้บริสุทธิ์มากแต่ก็ทำให้รู้สึกดีกว่าอยู่ด้านในหลายเท่า
เขายืนในที่ประจำแล้วจุดบุหรี่สูบพ่นควันอย่างช้าๆพลางกดโทรศัพท์หาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนที่อยู่ในระแวกนี้ที่สามารถไปตามหาเด็กสาวได้บ้างเพราะยิ่งปล่อยไว้นานวันยิ่งรู้สึกว่าอาการที่เป็นอยู่จะแย่มากยิ่งขึ้น
วันนั้นที่เจอกันเธอยังอยู่ในชุดนอนสีเทาเข้มเรียบๆไร้ลวดลาย สะพายกระเป๋าเล็กๆสีดำปล่อยผมยาวถึงกลางหลังและกลิ่นตัวหอมมากทั้งที่เราเจอกันในห้องน้ำนะ
คิดแล้วก็อายจริงๆนะ