Devil candy seika xx look-om 05
“อ้าว คุณเซกะตื่นเช้าจังเลยนะคะ” ป้าแม่บ้านเอ่ยทักตอนที่ผมเดินปิดปากหาวเข้ามาในห้องครัว
“เช้าอะไรล่ะครับ ยังไม่ได้นอนเลย” ผมว่าก่อนจะเดินไปหยิบขวดน้ำมาสองขวด คนที่แก้งานทั้งคืนไม่หลับไปนอนเลย ผมเป็นห่วงเลยอยู่เป็นเพื่อนร่างเล็กเหมือนจะเครียดอะไรที่มันไม่ใช่เรื่องงานด้วยผมกลัวว่าเธอจะคิดมากแล้วหนีไปอีกเลยอยู่เฝ้าทั้งคืนเลย แต่คนตัวเล็กก็นั่งแก้งานทั้งคืนนะไม่ได้ไปไหน เว้นเสียแต่โดนไล่ไปอาบน้ำนั่นและถึงยอมลุก
“ฮะ? นี่น้องยังไม่นอนอีกเหรอ” แม่ที่เพิ่งเดินเข้ามาทำเสียงตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“ครับ นั่งแก้งานทั้งคืนเลยผมเลยอยู่เป็นเพื่อนด้วยกลัวน้องคิดมากเรื่องเมื่อคืนด้วย”
“งานเร่งเหรอลูก ทำไมน้องรีบทำแบบนั้น”
“เห็นบอกว่าต้องรีบแก้ให้เสร็จเพราะตีพิมพ์บ่ายนี้ครับ”
“นี่ใครใช้งานลูกสะใภ้ฉันหยักแบบนี้เนี่ย!”
“แม่ครับมื้อเช้ากับเที่ยงไม่ต้องรอผมกับน้องนะครับ ถ้าน้องทำเสร็จผมจะให้น้องนอนเลย”
“ได้ๆ จะเอาอะไรหรือหิวก็บอกแม่นะเดี๋ยวแม่ทำให้”
“ขอบคุณครับแม่”
ผมเดินกลับขึ้นก็ตอนนี้เจ็ดโมงเห็นจะได้นะ ผมชะงักค้างแต่ก็ต้องรีบปิดประตูลง ลูกอมยืนถอดเสื้อโชว์บลาตัวสวยอยู่กลางห้อง นี่เบลอขนาดถอดเสื้อง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ ร่างบางสวมกางเกงยีนเอวต่ำโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างน่าดึงดูด หน้าอกสวยดันบลาสีหวานออกมาอย่างยั่วยวน โอ๊ยผมร้อนล่ะ
“เค้าฝากเซฟงานหน่อยได้ไหมจะอาบน้ำ” ลูกอมหันมามองผมเต็มตัว ถ้าจะอ่อยผมขนาดนี้นะ ฆ่าผมเถอะ!!
“อะแฮ่ม! ได้ๆเดี๋ยวพี่เซฟให้รีบอาบล่ะจะได้มานอน”
“แต่เค้าต้องเข้าสำนักพิมพ์อ่ะ”
“เข้าไปทำไม” ฉันตะโกนถามคนที่เดินเข้าไปอาบน้ำ มือก็กำลังเซฟงานให้คนตัวเล็กอยู่ ภาพเมื่อกี้ยังติดตาผมอยู่เลย เอ็กไปไหนวะผมอุตส่าห์ห้ามใจไว้แล้วนะถ้าอ่อยอีกครั้งผมจับปล้ำแน่
“ไปดูปกค่ะ” ร่างเล็กตะโกนออกมา
“แต่ตัวเองยังไม่ได้นอนเลยนะ จะไปยังไงไหว”
“เค้าจะนั่งแท็กซี่ไป”
“ไม่ต้องเดี๋ยวพี่ไปส่ง” เรื่องอะไรจะยอมให้ไปเองล่ะ
“ไม่เอา! พี่ก็ยังไม่ได้นอนเหอะ”
“เดี๋ยวให้คนขับรถไปส่งไปด้วยกันนี่แหละ”
“มีชุดให้เค้าใส่ไหม” ร่างเล็กออกจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันร่างบางอยู่ โอ๊ย! นี่อยากให้จับปล้ำจริงๆใช่ไหมเนี่ย ผมล่ะอยากจะบ้าตาย ผมบ่นงึมงำกับตัวเองแล้วเดินไปลื้อหยิบถุงเสื้อผ้าที่เคยซื้อไว้ให้ลูกอมยื่นให้คนตัวเล็กไป ไม่หรอกเวลวาไปทานข้าวกับลูกค้าที่ห้างแล้วเห็นชุดสวยๆผมมักจะซื้อมาไว้ที่ห้องเผื่อเวลาผมพาคนตัวเล็กมาเธอจะได้ใส่ชุดที่ผมซื้อไงล่ะ แค่คิดก็ฟินไปสามชาติเศษแล้วแฟนใส่ชุดที่เราซื้อให้
“ติดกระดุมด้านหลังให้หน่อย”
แต่ตอนนี้ผมกำละงจะตายกับคนที่อ่อยโดยไม่รู้ตัว!!
Eng talk
“พี่รอตรงนี้นะ”
“ค่ะ พี่ง่วงไหมกลับก่อนก็ได้นะ” ผมบอกเซกะอย่างเกรงใจ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเขาไม่ยอมนอนแล้วอยู่เป็นเพื่อนฉันทั้งคืนจนถึงตอนนี้ที่ต้องเขาสำนักพิมพ์เพราะต้องเลือกแบบปกและคุยเรื่องงานเปิดตัว
“ไม่ รอกลับพร้อมกัน”
“รอแปบนึงเค้าจะรีบคุยงานนะ”
“ครับ พี่รอได้ไปเถอะ”
ฉันหันกลับไปมองคนที่บอกจะรออย่างเป็นห่วง ฉันเข้าไปคุยกับ บก.เรื่องปกเรื่องสารพัดอย่างงานที่ต้องแกฉันก็ทำเสร็จทันเวลาแทบแย่เหมือนกัน ฉันล่ะเกรงใจเซกะที่ทนอดหลับอดนอนนั่งอยู่เป็นเพื่อนทั้งคืนไหนจะตอนนี้อีกเขาก็ออกมาเป็นเพื่อน หลังจากคุยงานกับพี่ๆเกือบสองชั่วโมงฉันก็รีบลงมาตอนคุยงานลืมไปเลยว่าเซกะมาด้วย พี่บก.เดินลงมาด้วยเพราะจะออกไปข้างนอก
“ขอโทษนะที่ทำให้รอนานขนาดนี้” ฉันเดินไปหยุดตรงหน้าเซกะที่ทำหน้าง่วงๆเล่นมือถืออยู่
“ไม่เป็นไรน่า อย่าคิดมากสิว่าแต่คุยงานเสร็จแล้วเหรอ” เขาเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนที่สายตาอบอุ่นจะมองเลยไหล่ฉันไป
“เอ่อ นี่พี่เนย บก.สำนักพิมพ์ที่ทำงานด้วย” ฉันดึงมือเซกะเดินไปใกล้ๆพี่เนย พี่เนยมองฉันยิ้มๆเจ้าเล่ห์
“สวัสดีครับ เซกะแฟนลูกอมครับ” ฉันแอบหยิกที่แขนเซกะทันทีเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้นแต่เขาแค่ยิ้มไม่ร้องเจ็บหรืออะไรเลย
“ดีใจจังเลยนะคะเนี่ยคุณเซกะมาที่สำนักพิมพ์ด้วย” หือ? นี่พี่เนยรู้จักเซกะด้วยเหรอเนี่ย ฉันมองคนนั้นทีคนนี้ทีด้วยความสงสัย
“ใครๆเขาก็รู้จักคุณเซกะกันทั้งนั่นแหละน่า มีแฟนฮอตแบบนี้ไม่ยอมบอกกันเลยนะ” พี่เนยเอ่ยแซวเสียงสดใจ แต่ฉันกลับร้อนวาบที่หน้า แฟนอะไรกันล่ะเจ้าตัวยังไม่เคยพูดอะไรชัดเจนเลย เอ๊ะ หรือเคยพูดนะ ช่างเถอะๆฉันจำอะไรไม่ได้หรอก
“ยกเว้นอมนะคะ เพราะอมไม่รู้จักเขา” ฉันยกมือบอกพี่เนย ก่อนที่พี่เนยกับคนข้างๆจะหัวเราะออกมาเบาๆ ก็ฉันไม่รู้จักนี่จะให้ทำไงล่ะ เขาเป็นใครทำงานอะไรไม่รู้จักหรอก
“เราเคยรู้จักใครบ้างนอกจากเพื่อน พี่ที่สำนักพิมพ์แล้วก็นักเขียนที่ชอบ”
“อย่างน้อยก็ดีนะครับที่ยังจำผมได้บ้างน่ะ” คราวนี้เซกะเย้าด้วยรอยยิ้ม ที่พวกเขาจะแกล้งฉันใช่ไหมทำไมร่วมกันพูดแบบนี้กันหมดล่ะ
“ว่าแต่เมื่อไหร่คุณเซกะจะยอมให้นิตยาสารเราสัมภาษณ์คะเนี่ย”
“ให้คนข้างๆมาอ้อนผมสิครับ เผื่อผมยอมมา”
“หึหึ ลูกอมได้ยินแล้วนะอ้อนคุณเซกะให้ยอมรับงานสักที”
“ไม่เกี่ยวกับอมนี่คะพี่เนย พี่เนยอ้อนเขาเองสิ” ฉันยู่หน้าใส่เซกะก่อนจะขอตัวจากพี่เนย เซกะเดินโอบเอวฉันออกจากสำนักพิมพ์ หวังว่าจะไม่มีใครสนใจฉันหรอกนะที่จริงฉันน่ะไม่มีใครสนใจอยู่แล้วแต่คนข้างๆนี่สิสาวๆนี่มองกันตาละห้อยเลย พอกลับขึ้นรถได้เซกะก็ดึงฉันไปซบไหล่เขาก่อนที่เขาจะหลับไป พอเห็นแบบนี้ยิ่งเกรงใจเขาที่เขาเป็นแบบนี้
ฉันหยิบมือถือขึ้นมาเล่นรอ ฉันง่วงนะแต่ยังไม่อยากจะนอนเพราะอีกเดี๋ยวก็ต้องตื่นแล้วเลยทนสักหน่อยค่อยไปนอนยาวๆทีเดียว มีคนแท็กอะไรไม่รู้เข้ามาเยอะแยะเต็มไปหมดหนึ่งในนั้นคือคนที่หลับอยู่ข้างๆนี่แหละ
Yamakashi Seika whit Look-Om NV
9 hour
พักบ้างก็ได้ไหม เดี๋ยวก็ป่วยหรอก
Like Comment Share
นอกจากนี้ยังมีรูปที่ฉันนั่งอยู่หน้าจอคอมกำลังเครียดกับงานที่ต้องแก้ มีคนมาเม้นเยอะมากแต่เซกะไม่ได้ตอบใครกลับเลยแม้กระทั่งเม้นของเพื่อนเขา
SK Seika fanpage โอ๊ยๆๆ ฟินค่าฟินลูกชายตามแฟนไม่ให้ห่างเลยค่า สงสัยจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ใช่ไหมคะคุณลูก @Yamakashi Seika เข้าใจว่าน้องว่ารักแต่จำเป็นต้องตามขนาดนี้ไหมคะตอบ!
นอกจากนี้มีรูปที่เซกะนั่งเล่นมือถือรอที่โซฟาที่หน้าประชาชาสัมพันธ์เมื่อกี้ พี่เขาจะมีแฟนคลับอยู่ทุกที่เลยใช่ไหมทำไมมีรูปแบทบจะทุกอิริยาบถ
น้องดาว พเนจร :: เค้ามานั่งรอกันที่สำนักพิมพ์ ดูแล้วน่าจะง่วงมากเลยนะคะ
หม่ามี้น้องลูกหวาด :: มีความอิจเบอร์แรง ตามทุกไปทุกที่คอยอู่ตอนน้องททำงานหนัก แม่ขาหนูอยากได้แบบนี้
น้องดาว พเนจร ::@ม่ามี้น้องลูกหวาด จริงๆ อยากได้แบบนี้ นางมีความน่ารักเหมือนนางจะรู้ว่าเราถ่ายรูปนะแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
น้องนาง พลูโต :: อยากย้ายไปทำงานที่น่านนนนน
Ww_wW ::ใจเย็นๆค่ะเม้นบน มากไม่ค่อยเจอหรอกค่ะน้องเป็นนักเขียนนานๆเข้าสำนักพิมพ์ที
น้องนาง พลูโต :: @SK Seika fanpage ใครมีรูปเม้นรัวๆแบ่งรูปหน่อยสิคะ อินี่ใจจะขาดแล้ว
SK Seika fanpage ::อ่ะๆ แบ่งก็ได้
Nongning nn :: เมื่อกี้เข้าประชุมกับน้องลูกอม น้องไม่ได้เลยเลยมาทั้งคืนตอนเช้าก็เข้ามาคุยงานอีก แต่นางไม่บ่นไม่หวี่ยงเลยนะ พักบ้างนะคะลูก Yamakashi Seika Look-Om NV
SK Seika fanpage :: จริงเหรอ? โอ๊ย นี่ลูกชายชั้นหาลูกสะใภ้ได้ดีมากขนาดนี้เลยเหรือเนี่ย
Sakura color :: เมื่อกี้ถ่ายตอนที่สามีโอบกอดแฟนนางได้ อร้ายยย ฟินไปอีกสิบโลก
Mama mammos ;; ชีนีหลบไป กระเทยเม้าเอง
SK Seika fanpage:: เม้ามาๆ ฉันรู้แกมีรูปความฟิน แชร์ค่ะแชร์
รูปหลายสิบรูปถูกเม้นลงใต้โพสนั้นหลายสิบรูปฉันแค่กดไลค์ คนเหล่านั้นน่าจะเป็นแฟนคลับเซกะนั่นแหละ ตอนนี้ในแฟนเพจนิยายฉันก็คึกคักโคร่วมกับกลุ่มแฟนคลับเซกะด้วย เอากับพวกเขาสิฉันมองรูปพวกนั้นยิ้มๆแต่ละรูปนี่แบบถ่ายทันได้ไง อีกอย่างวันนี้ไม่ได้บอกใครด้วยว่าจะเข้าบริษัทฉันว่าต้องมีแฟนคลับเซกะเข้าร่วมสรุปงานด้วยแน่เลยถึงได้รู้ละเอียดขนาดนี้
“ถึงแล้วครับคุณชาย เอ่อ” ลุงที่ขับรถบอกก่อนจะหันกลับมามองฉันกับเซกะ
“เดี๋ยวหนูปลุกเขาเองค่ะลุง ขอบคุณนะคะ”
“ยินดีครับ” ลุงยิ้มให้ฉันก่อนจะลงจากรถ
“เซกะ นี่เซกะ พี่คะถึงบ้านแล้วนะ พี่เซกะ” ฉันเขย่าแขนเขาอยู่นานกว่าเขาจะรู้สึกตัว เขาเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่นฉันต้องใช้แขนโอบเอวเขาไว้ก่อนจะเดินเข้าบ้านพอถึงห้องนอนเขาก็ทิ้งตัวนอนบนเตียงแล้วหลับไปทันทีฉันทิ้งตัวนอนอีกฝั่งของเตียงแต่ไม่คิดว่าคนที่เหมือนจะหลับไปแล้วดึงฉันเข้าไปกอไว้แน่นมือก็ดึงๆผ้าห่มมาคลุมร่างเราไว้
“หนาวไหม” เซกะถามเสียงงึมงำ ริมฝีปากร้อนกดจูบที่ซกคอฉันแรงๆ ทำเอาฉันขนลูกด้วยความตกใจ เขาไม่เคยทำแบบนี้เลยนะตั้งแต่รู้จักกันมา ยกเว้นก็วันที่โมโหแล้วทะเลาะกันอยู่ห้องอ่ะ
“ไม่ค่ะ” ฉันตอบเขาก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อย ทั้งแก้งานไหนจะเรื่องเพื่อนแล้วยังมีเรื่องที่ได้ยินเรื่องที่พ่อเขาพูดอีก บ้าที่สุดเลย
“นอนพักนะ ตื่นแล้วจะทำอะไรให้ทาน”
“อื้อ ขอบคุณนะคะ”
“ครับ”
เขาจูบลงที่แก้มฉันหนักก่อนแล้วดึงร่างฉันให้ชิดกับเขามากขึ้นก่อนที่ทั้งห้องจะตกอยู่ในความเงียบ เสียงเครื่องปรับอากาศยังทำงานได้ดีไม่มีที่ติ แต่ความอบอุ่นทีจากคนตัวใหญ่ที่กอดฉันอยู่มันทำให้ผ้าห่มแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
*เซกะ...ตอนนี้เราอยู่ในสถานะไหน?*
“ตื่นแล้วเหรอลูก” เสียงแม่เซกะร้องทักขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นเซกะเดินจับมือฉันเดินมาจากด้านบน แต่ฉันไม่กล้ามองหน้าพวกท่านเลยไม่ว่าจะเป็นคุณแม่หรือคุณพ่อของเซกะ คุณพ่อท่านบอกว่าจะให้เซกะแต่งงานกับผู้หญิงที่ชื่อเจนอะไรนั่น และยังบอกอีกว่าทำงานเป็นนักเขียนมันจะได้สักเท่าไหร่กันเชียว ตอนนั้นฉันช็อกจนพูดอะไรไม่ออกเลยล่ะ เรื่องหลายๆเรื่องโถมเข้ามาหาฉันจนไม่รู้จะตั้งรับกับเรื่องไหนก่อนดี ระหว่างที่แก้งานในหัวฉันก็มีเรื่องเซกะลอยเข้ามาตลอดเวลา โอเคฉันยอมรับฉันรู้สึกดีที่มีเขาอยู่ข้างๆแบบนี้ แต่ความจริงฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาจะสนุกที่เข้ามาแกล้งฉันเล่นอีกนานแค่ไหน ก็จริงอย่างที่พ่อเขาว่านั่นแหละอาชีพฉันมันจะมั่นคงแค่ไหนกันเชียว
“ครับ น้องงอแงจะกลับ”
“ลูกอมทานข้าวกับแม่ก่อนไหมลูกแม่ทำอาหารไว้ให้หนูด้วยนะ”
“เอ่อ คือ”
“ให้เวลาน้องหน่อยนะครับ ผมจะออกไปค้างกับน้องนะครับ” เซกะเป็นฝ่ายตอบแทนฉัน คงเป็นเพราะเห็นฉันอ้ำอึ้งอย่างอึดอัด
“ขอโทษนะคะหนูต้องกลับไปทำงาน” ฉันบอกคุณแม่ท่านอย่างเกรงใจมือก็ยกไหว้ ฉันรู้ว่าทำแบบนี้มันเสียมารยาทแต่จะให้ฉันนั่งเกรงแบบนี้เกือบชั่วโมงฉันก็ไม่ไหวนะ
“ไม่ลูก แม่ไม่โกรธหนูหรอกแต่หนูมาที่นี่ได้ทุกเมื่อเลยนะคนไม่แคร์หนูช่างเขาแต่แม่รักหนูนะลูกสะใภ้แม่มีคนเดียวคือหนูนะ”
“พ่อแค่พูดเล่นกับคุณอาเขาเองนะลูก อย่าโกรธพ่อเลยนะลูกสะใภ้พ่อก็คือหนูนะลูก” ยิ่งได้ยินพวกท่านพูดแบบนี้ฉันยิ้มรู้สึกไม่ดี
“ไม่ค่ะไม่ ไม่ต้องขอโทษหนูหรอกค่ะ เอ่อ หนูขอตัวกลับเลยได้ไหมคะ”
“ได้ลูกได้ โทรหาแม่บ้างนะเซกะขับรถไหวไหมให้ลุงไปส่งหรือเปล่า”
“ผมขับไหวครับแม่ ผมได้นอนแล้วลูกอมกลับกันเถอะ”
“สวัสดีค่ะ”
ฉันยกมือไหวผู้ใหญ่ทั้งสองก่อนจะเดินออจากบ้านหลังใหญ่โดยมีเซกะประคองอยู่ไม่ห่าง เซกะเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่ยอมพูดอะไรกระทั่งถึงห้องเขาเดินเข้ามากอดฉันจากด้านหลังแต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย
“จะกลับก็ได้นะ อมอยู่ได้” ฉันเกรงใจเขาจริงๆนะที่ต้องมาตามฉันมาคอยดูแลแบบนี้
“ไม่พี่จะอยู่ด้วย”
“ไม่ไปทำงานหรือไงเอาแต่ตามแบบนี้น่ะ”
“พรุ่งนี้ก็ต้องเข้าประชุมอ่ะ” เขาบอกเสียงงอแง หึหึ ไม่คิดว่าเขาจะมีอารมณ์แบบเด็กๆแบบนี้ด้วย
“ลูกอม พี่คุยกับพ่อแล้วนะท่านบอกท่านไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นท่านแค่พูดเล่นเราอย่าคิดมากนะท่านน่ะรักเรามากเหมือนกันนะ” เซกะกระซิบข้างๆหูฉันเบาๆ เขาก็คงจะเครียดไม่น้อยที่ฉันเงียบแบบนี้
“ท่านน่ะโดนแม่งอนไปแล้วด้วย”
“มันแค่ตกใจที่ได้ยินแบบนั้นน่ะ เข้าบ้านผู้ชายแล้วยังได้ยินว่าผู้ใหญ่จะให้เขาแต่งงานกับคนอื่นได้ยินแบบนั้นจะให้ยิ้มร่าเหรอ จะไม่ให้คิดหน่อยหรือไงว่าที่เข้าไปยืนตรงนั้นยืนในสถานะอะไร คนที่พี่ควงเล่นๆ ของเล่นชิ้นใหม่ของพี่หรือเป็นนักเขียนที่แม่พี่...”
เสียงฉันขาดหายไปเมื่อมือใหญ่นุ่มประคองใบหน้าฉันให้หันกลับไปหาเขาก่อนจะก้มลงมาจูบอย่างแผ่วเบาๆ ริมฝีปากร้อนขบเม้มริมฝีปากฉันอยู่นานกว่าจะยอมถอยหน้าออกห่าง หน้าผากเราสองคนแตะกันเบาๆไม่มีถ้อยคำใดๆหลุดออกจากริมฝีปากเรานอกเสียจากเสียงลมหายใจหอบถี่ของเรา เขาเอียงหน้าก้มลงมาจูบไว้อีกครั้งและครั้งนี้มันก็เนิ่นนานกว่าครั้งที่แล้ว ร่างสูงทาบทับลงมาอากาศแทบจะไม่ไหลแทรกผ่านร่างเราไปได้เลย
“อ๊ะ พอแล้วนะ” ฉันยกมือประคองใบหน้าคนที่กำลังจูบตามซอกคอและเนินอกอยู่ ไม่รู้ฉันเผลอหรือเขามือเร็วกันแน่เพราะเสื้อยืดที่สวมอยู่ถูกเลิกขึ้นมากองเหนือหน้าอกแถมเขายังจูบเม้มอยู่แบบนั้น
“ทำไมอ่ะ” เขาครางถามงึมงำ แต่ริมฝีปากก็ยังจูบที่เนินอกที่ดันบลาขึ้นมา ไอ้หื่นนี่เป็นใครทำไมฉันไม่เคยรู้จัก
“ยังไม่พร้อม ขอเวลาหน่อยนะ”
“เฮ้อ ก็ได้ๆให้เราพร้อมก่อนก็ได้แต่ขออยู่แบบนี้สักพักนะ”
เขาทิ้งตัวลงมาทับร่างฉันไว้ฉันยกแขนโอบรอบคอของเขาไว้เหมือนกัน เกือบยี่สิบนาทีที่เรากอดกันอยู่บนเตียงแบบนั้น เซกะผละออกจากร่างฉันก่อนยื่นมือมาดึงเสื้อที่กองอยู่เนินอกลงให้มือก็ดึงมือฉันให้ลุกนั่ง เราอาบน้ำก่อนไหมเดี๋ยวพี่ทำอะไรให้
“ไม่ต้องทำหรอก เดี๋ยวเค้าต้มบะหมี่เอง” ฉันบอกอย่างเกรงใจแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเขาตวาดเสียงดัง ฉันมองหน้าเขานิ่งๆ ขอบตาร้อนผ่าวแต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรกับเขาฉันเดินเข้าห้องน้ำก่อนจะจัดการอาบน้ำน้ำตาร้อนๆไหลอาบแก้มสองข้าง บ้าจริงฉันไม่ร้องไห้แบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ ตั้งแต่ที่พ่อตวาดฉันตอนที่เข้าใจผิดว่าฉันแกล้งลูกคนใหม่ของจากนั้นฉันก็ไม่ร้องไห้ด้วยความรู้สึกนี้อีกเลย มันรู้สึกหน่วงๆที่ใจน้ำเสียงที่เขาตวาดฉันนั้นมันบ่งบอกได้ชัดเจนเลยล่ะว่าเขาหงุดหงิดและรำคาญ ฉันเคยเรียนจิตวิทยามาบ้างและพอจะเข้าใจว่าเขาหงุดหงิด
“ลูกอม เพื่อนโทรมา” เสียงเคาะประตูห้องน้ำดังขึ้นฉันเลยสวมเสื้อคลุมทับร่างกายก่อนจะเปิดประตูรับโทรศัพท์จากเขา
“ลูกอมเรื่องเมื่อกี้พี่ขอโทษพี่ไม่อยากให้เรากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพวกนั้นอ่ะ พี่เป็นห่วงเรา”
“ว่าไงพอส” ฉันรับสายเพื่อนโดยที่ไม่สนใจคนที่เดินตามนั่นเลย
(มึง กูว่าฝ้ายมันไม่ไหวแล้วว่ะ กูสงสารมัน)
“กูก็สงสารมัน แต่กูเชื่อว่ามันทำได้อย่าให้กูเจอไอ้หมอผีนั่นอีกอีกนะกูจะตบแม่ง” หงุดหงิดจริงๆนะเวลาพูดถึงผู้ชายคนนั้น
(ฝ้ายมันรับงานแม่งสารพัดอย่าง)
“กูบอกมันแล้วนะว่ายืมจากกูก่อนก็ได้มันก็ไม่ยอม”
(กูก็บอกมันนะ แต่มันอยากจัดการเองเราก็คงทำได้แค่อยู่ข้างๆมันนั่นแหละ)
“อือ ถ้ามีอะไรโทรบอกกูด้วยนะโทรมาเลยกูไม่ค่อยเชคข้อความแล้วช่วงนี้กูเปิดเรื่องใหม่”
(เออๆ มึงน่ะพักบ้างแม่งกลัวพระเอกนิยายหายหรือไงกันเร่งแต่งจัง)
“อ้าว พระเอกนิยายกูหายากมึงเข้าใจไหมกว่าจะได้พระเอกแต่ละคนกูชิปคู่เกย์ไปกี่คู่” ฉันบอกเพื่อน รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากเมื่อได้คุยกับเพื่อนแบบนี้ ฉันเดินเข้าไปหยิบเสื้อยืดขึ้นมาจะสวมแต่ก็ต้องฉุกคิดได้ว่ายังไม่ได้ชุดชั้นใน ฉันว่าฉันควรจะนอนต่อนะเบลอมากจริงๆ
“เออมึง แค่นี้ก่อนนะกูจะนอนต่อแล้วว่ะ”
(เออได้ ดูแลตัวเองด้วย)
“ค่า บายมึง”
(บาย)
ฉันแต่งตัวเสร็จก็เดินออกไปที่ห้องครัว ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั่นแหละฉันชินแล้วล่ะที่จะกินอะไรแบบนี้ลองทำกับข้าวทีไรได้ทำความสะอาดครัวใหม่ทุกที บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี่แบบง่ายสุดแล้วแต่ความสุขของฉันก็ต้องพังลงเมื่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ควรจะอยู่ในตู้เย็นไม่มี ฉันจำได้ว่าฉันเก็บไว้ในตู้เย็นนะทำไมมันไม่มีสักห่อเลยล่ะ
“เซกะ!!!”
“อะไรๆ” เซกะโผล่หน้ามาจากห้องบนดูก็รู้ว่าเปลือย แต่ช่างเขาก่อนสิตอนนี้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปฉันมันไปไหน
“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปไหน”
“มันหมดไง”
“ไม่ ครั้งล่าสุดมันเหลือเต็มตู้เลยนะ” ฉันเถียงกลับ นิ้วก็ชีไปที่ตู้เย็น ฮื่อ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปฉัน
“รอแปบๆ เดี๋ยวพาออกไปซื้อ”
เซกะกลับเข้าไปในห้องเกือบสามสิบนาทีก่อนจะออกด้วยเสื้อยืดกางเกงสามส่วน ชิ เห็นแล้วหมั่นไส้ ฉันเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ก่อนจะถูกเขาดึงมือไปจับแล้วพาเดินลงไปที่รถ
“ตัวเอามาม่าเค้าไปซ่อนใช่ไหม!?” พอขึ้นมานั่งบนรถฉันก็ถามเขาเสียงดัง แต่เขาแค่ยิ้มแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ จริงๆเลยผู้ชายคนนี้ ถ้าเขาเอามันไปซ่อนเวลาที่เขาไม่อยู่จะให้ฉันกินอะไรล่ะถ้าไม่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปน่ะ
“ก็พี่บอกเราแล้วไงว่าพี่จะทำอาหารให้ เรากินไอ้นั่นมานานเท่าไหร่แล้วล่ะ” เซกะถามกลับ มือก็ยกลูบผมฉันเบาๆ
“ก็ถ้าพี่ไม่อยู่แล้วเค้าจะกินอะไรล่ะ อย่ามายุ่งกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเค้า!”
“หึหึ พูดแบบนี้พี่คงไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ หลงเราขนาดนี้”