ชุลมุนรักนายขนมหวาน 4

4129 คำ
Devil candy seika xx look-om 04 “ลูกอม” “อื้อ!” ฉันควานมือดึงผ้าห่มมาคลุมศีรษะไว้ด้วยความหงุดหงิด ฉันอยากจะนอนต่อนะ “ไปอาบน้ำก่อนเร็ว จะได้กลับกัน” “ขอนอนต่อได้ไหม” “ไม่ได้ครับ ไปอาบน้ำได้แล้วเร็ว” “สิบนาที” “ไม่” “ห้านาที” “ไม่ ลุกได้แล้ว” ฉันลุกนั่งบนเตียงโดยมีเซกะดึงมือขึ้น เขามองและบังคับทางสายตาให้ลุกไปอาบน้ำ ฉันลงจากเตียงก่อนจะเข้าไปอาบน้ำพอเดินออกมาเซกะก็ยื่นเสื้อยืดสีขาวมีให้ตัวหนึ่งฉันรับมาก่อนจะคว้ากางเกงยีนสีเข้มของตัวเองแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำ เสื้อยืดสีขาวสกรีนคำว่า my บนอกด้านซ้าย ส่วนคนที่อยู่ข้างนอกก็สวมเสื้อยืดสีขาวแบบเดียวกันกับฉันสกรีนคำว่า love บนอกเสื้อด้านซ้าย ใช่แล้วล่ะมันเป็นเสื้อคู่ก็เซกะงอแงจะซื้อให้ได้เลยต้องยอมแบบนี้ไงล่ะ พอยอมซื้อทำเอาคนอยากได้ยิ้มกว้างอารมณ์ดีเลยล่ะ “ไม่คิดจะเปลี่ยนร้านหน่อยหรือไง” น้ำเสียงเศร้าๆของของปุยฝ้ายดังขึ้นแซวฉัน อยากจะบอกมันนะถ้ามีร้านอื่นเค้กอร่อยฉันก็คงไปนานแล้วล่ะ “ถามจริงลูกอมเจ้าของร้านไม่ไล่แกออกจากร้านบ้างเหรอ มานั่งทุกวันแบบนี้น่ะ” “ยังไม่มาไล่นะ ถ้าเจ้าของร้านมาไล่ฉันคงไม่กล้ามาที่นี่อีกนั่นแหละ” ฉันนั่งฟังฝ้ายมันระบายความอัดอั้นตันใจอยู่นานเลย ไม่รู้คุยเรื่องอะไรกันอยู่ถึงได้ตกลงไปเที่ยวผับ ฉันเอาของไปเก็บที่คอนโดแต่ไม่ได้เปลี่ยนชุดหรอกนะ เสื้อยืดกางเกงยีนเก๋ๆ ฮ่าๆๆ ฉันขี้เกียจนั่นแหละเลยไม่เปลี่ยน “นัดเพื่อนกี่โมง” เสียงเข้มของคนที่นอนบนเตียงนอนเอ่ยถามฉันที่ยืนอู่หน้ากระจกในห้องน้ำ “พี่ถามว่านัดเพื่อนกี่โมง” “สองทุ่ม ทำไมเหรอ” ฉันเดินออกจากห้องน้ำแล้วถามเขากลับ ตั้งแต่กลับจากแม่ฮ่องสอนนี่ก็จะสองสัปดาห์แล้วล่ะเขามักจะเข้ามาที่ห้องฉัน หลังเลิกงานเขาก็จะเข้าไปรับที่ร้านขนมของเขาแล้วพากลับมาส่งแล้ววันนี้เขาก็ไปรับแล้วมาส่งที่ห้องแล้วก็นอนขึ้นอืดอยู่แบบนี้ไงล่ะ “ปลุกพี่หน่อยนะพี่จะไปด้วย” “จะไปได้ไง พรุ่งนี้ไม่ไปทำงานหรือไง” “พรุ่งนี้วันอาทิตย์ไหมล่ะ อย่าลืมล่ะปลุกพี่ด้วย” “อยากไปคนเดียว” “ไม่!” “นี่! เราไม่ได้เปป็นอะไรกันนะอย่ามาทำให้สับสนได้ไหม!!” “ที่ผ่านมามันยังไม่ชัดเจนหรือไง!!” “กรี๊ด!” ร่างฉันลอยไปบนเตียงตามด้วยร่างสูงของเซกะที่เข้ามาคร่อมร่างฉันไว้ เราต้องตากันอยู่แบบนั้นใบหน้าหล่อโน้มลงมาจนชิดริมฝีปากร้อนๆของเขาแตะลงที่ริมฝีปากฉันเบาๆแต่ฉันเม้มปากแน่นไม่ยอมเผยปากให้เขาจูบอย่างที่ใจคิด คนถูกขัดครางในคออย่างหงุดหงิดมือก็เลื่อนมาบีบคางฉันไว้แรงๆ “อ๊ะ” เสี้ยววิที่เผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บ เรียวลิ้นร้อนก็สามารถสอดแทรกเข้ามาได้ ฉันดิ้นแรงๆและผลักให้เขาออกห่างก่อนจะตวัดฝ่ามือใส่หน้าเขาเต็มแรง “นี่! ฟังพี่บ้างสิ” เซกะตะคอกฉันเสียงใส่ฉันเสียงดัง มือหนึ่งรวบเข้าที่มือฉันทั้งสองข้างไว้เหนือศีรษะส่วนอีกข้างก็ประคองใบหน้าฉันไว้ “พี่เป็นห่วง ไม่อยากให้ไปคนเดียว” “แต่เรา...” “ลูกอม ที่ผ่านมาพี่ชัดเจนกับเรามากเลยนะเราไม่เปิดใจรับบ้างเลยเหรอ” น้ำเสียงนุ่มนวลกระซิบอย่างน้อยใจ ฉันกรีดปลายนิ้วตามโครงหน้าเขาช้าๆ “มันเชื่อยาก ไม่เคยรู้จักกันเลยแต่จู่ๆก็เข้ามาพัวพันแล้วยังทำเหมือนเป็นแฟนกันทั้งที่เราไม่ได้เป็นอะไรกันเลย” “พี่น่ะ...” เสียงเขาชะงักลงเมื่อมือถือเขาส่งเสียงเรียกเข้า เขาหยิบขึ้นมาดูอย่างหงุดหงิด หน้าจอมือถือที่เขาถืออยู่มันโชว์เป็นชื่อ ผู้หญิง... *Cheriebelle* ฉันผลักเขาจนร่างสูงเสียหลักล้มลงบนเตียง ฉันก้าวลงจากเตียงก่อนจะคว้ากระเป๋าที่วางอยู่บนโซฟาแล้วออกจากห้องมาทันทีทั้งที่นั่นมันคือห้องฉัน แต่เพราะมีเขาไงฉันเลยออกมา ยิ่งได้เห็นแววตาระยิบระยับของเขาฉันยิ่งหงุดหงิด แม้จะคอยบอกตัวเองมาตลอดว่าเขาไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น ฉันเชื่อที่แม่เขาพูด แต่สิ่งที่เห็นเขาเป็นวันนี้... “ลูกอม! ลูกอม! อย่ามาทำตัวงี่เง่าแบบนี้นะ” งี่เง่างั้นเหรอ หึ เขาพูดคำนั้นออกมาจริงๆน่ะเหรอคำว่างี่เง่าน่ะ ฉันขึ้นแท็กซี่ที่ขับผ่านมาโดยไม่สนใจคนที่ตะโกนและวิ่งตามมาจากข้างหลังนั่นแลย ฉันมาถึงก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมงแต่พอมาถึงก็เห็นพอสกับเก๋อเก๋อนั่งอยู่โต๊ะ ฉันเดินเข้าไปใกล้ทั้งสองแล้วคว้าแก้วเหล้าในมือพอสมาดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว “เฮ้ย! เดี๋ยวก็เมาหรอก เป็นอะไรมาเนี่ย” “กูหงุดหงิด ขออีกแก้วดิ” “ลูกอม! พี่ยอมให้แต่ไม่ได้ให้ดื่มเยอะแบบนี้นะ” ฉันกรอกตามองบนอย่างหงุดหงิดเมื่อได้ยินเสียงที่ไม่ได้อยากได้ยิน “มึงเอามาอีกแก้ว” ฉันม่สนใจเขาแต่เลือกที่จะหันไปบอกเพื่อน “เออๆ อย่างเหวี่ยงสิวะ อ่ะๆเอาไป” พอสยื่นแก้วเครื่องดื่มมาให้ฉันรับมาก่อนจะดื่มรวดเดียวจนหมดอีกครั้งพอแก้วที่สามที่ถูกส่งมามันก็ถูกกระชากออกห่างจากฉันทันที “ฟังก่อนสิ จะงอนจะโกรธอะไรก็...” ***“เซกะ******!”*** เขาชะงักคำพูดพวกนั้นพร้อมกับร่างสูงโปร่งที่เดินเข้ามากอดคอเขาแล้วโน้มเข้าไปจูบเซกะ ถูแวล่ะฟังไม่ผิดหรอกพวกเขาจูบกันต่อหน้าฉัน... “นี่เฌอ! หยุดทำแบบนี้สักที” “แหม ทีเมื่อก่อนล่ะชอบให้ทำ” “เฌอ!! เรามีแฟนแล้วเลิกยุ่งกับเราสักที” เซกะผลักผู้หญิงคนนั้นออกก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือฉันแล้วดึงเข้าไปนั่งบนตักเขา “หึ คุณลืมเฌอแล้วจริงเหรอ คืนนั้นเรายัง...” ฉันอยากจะกรี๊ดใส่ไอ้คนที่กอดฉันอยู่จริงๆ เขามันบ้าที่สุดเลย ฮื่อ!! ฉันอยากร้องไห้ “คืนนั้นเธอวางยาฉันแล้วพาเข้าโรงแรม!” “ว๊า รู้เร็วจัง” “เลิกทำแบบนี้สักที ฉันไม่เอาเรื่องเธอก็ดีเท่าไหร่แล้วนะ” เซกะบอกน้ำเสียงที่บ่งบอกได้ว่าหงุดหงิดเต็มที แต่พวกเขาจะคุยกันก็ปล่อยฉันก่อนได้ไหม ฉันไม่อยากเป็นตัวคั่นกลางของใคร “หึหึ ถ้าเบื่อเมื่อไหร่มาหาเฌอได้ตลอดนะคะ” หล่อนหัวเราะคิกคักแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะ แต่ฉันที่กำลังจะลุกออกจากตักเขาก็ต้องเซนั่งลงบนตักเขาตามเดิม “อย่าเพิ่งงอนสิ ฟังก่อนได้ไหมล่ะ” ไม่อยากฟัง ปล่อย!!” ฉันดันแขนเขาออกจากเอวแล้วลุกยืน ไม่นานฝ้ายก็มาถึง ฉันแอบเหวี่ยงใส่เพื่อนด้วยอ้อไอ้หมอผีมาด้วยนะ คนที่ทำให้เพื่อนฉันเสียใจนั่นแหละเก๋อเก๋อกับพอสตั้งท่ารั้งฉันเมื่อฉันทำท่าจะพุ่งใส่ไอ้หมอผีนั่น เซกะที่รวบเอวฉันไว้แน่นคงจะกลัวว่าฉันจะไปทำร้ายร่างกายเพื่อนเขาล่ะมั้ง “จะรังเกียจไหมครับถ้าพี่จะขอร่วมโต๊ะด้วย” หึ ไอ้หมอผีมาคนเดียวยังไม่พอยังพาแฟนมาด้วย กลัวคนไม่รู้หรือง่ารักกันมากน่ะ “รังเกียจค่ะ เชิญคุณไปสถิตที่อื่นเถอะค่ะ” ฉันตอบกลับไปเหลืออด รู้ทั้งรู้ว่าเพื่อนฉันคิดอะไรแต่เขาก็ยังทำร้ายเพื่อนฉันมากขึ้นเรื่อยๆแล้วไหนจะพาแฟนมาด้วยแล้วยังจะขอนั่งร่วมโต๊ะอีก อยากรู้จริงๆเขามีความรู้สึกบ้างไหมหรือจิตใจมันด้านชาไปหมดแล้ว “แต่พี่อยากนั่งตรงนี้” “งั้นก็เชิญนั่งตามสบายเลยนะคะ เปลี่ยนร้านเถอะอยู่นานกว่านี้กูว่ากูคงได้ฆ่าคนจริง” ฉันลุกขึ้นยืนอย่างหงุดหงิดท้ายประโยคบอกเพื่อนเสียงเข้ม เซกะดึงมือฉันไว้สายดุของเขามองมาที่ฉันอย่าตำหนิ “ปล่อย!!” “จะไปไหน” “ยุ่งอะไรด้วยล่ะ” ฉันตอบเสียงนิ่งๆ พยายามดึงข้อมือออกจากการเกาะกุมของเขา ทำไมมันมีแต่เรื่องชวนหงุดหงิดไปหมดแบบนี้ “ถ้าจะไปที่ใหม่โทรมาจะไปรับตอนกลับ” หึ จะไปรับงั้นเหรอ ตลกจังเขาจะไปรับฉันทำไมกัน “ไม่!” “เออ! เดี๋ยวโทรไปเองก็ได้” “โทรเหรอ คงโทรไม่ติดหรอก” ฉันหยิบมือถือออกมาก่อนจะจุ่มลงไปในถังน้ำแข็งที่เริ่มละลายเครื่องมันคงน็อกไปแล้วล่ะลงไปทั้งเครื่องขนาดนั้น “อุ้ย โทรศัพท์ตกน้ำทำไงดี” ฉันชูมือถือไปมาก่อนจะยิ้มให้เซกะซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่ามันเป็นรอยยิ้มแบบไหน แต่ตอนนี้ข้างในฉันมันกำลังร้อนรุ่มด้วยความโกรธ หลังจากออกจากผับเราก็ตกลงกันว่าจะซื้อเครื่องดื่มไปดื่มที่ห้องฉันแทน เราดื่มกันครั้งคืนเครื่องดื่มหมดไปสองขวดเห็นจะได้ ฉันไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตอนไหน ตอนนี้ฉันไม่สามารถลืมตาแล้วเดินไปเปิดประตูได้เลย จากเสียงเคาะห้องที่ดังมานั้นไม่รู้ว่าใครมากันแน่ แต่รู้ตัวอีกทีตอนปวดฉี่แล้วเข้าห้องน้ำนั่นแหละฉันเดินเข้าห้องน้ำทั้งที่ยังหลับตาอยู่ “เฮ้ย! เข้ามาได้ไง” ฉันเบิกตากว้างมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวที่ฉันนอนก่อนหน้านี้ โซฟาเบดตัวใหญ่ถูกฝ้ายกับพอสยึดไปเรียบร้อย สภาพสองคนนั้นแทบจะสิงกันอยู่รอมร่อแต่ว่ามันก็เป็นเรื่องปกตินั่นแหละเพราะเราก็เมาแล้วนอนด้วยกันมาแบบนี้มาตั้งนาน ส่วนเก๋อเก๋อก็หลับอยู่โซฟาอีกตัว “โอ๊ย เวียนหัว” “ก็สมควรเหอะ” ฉันทรุดตัวนั่งบนพื้นอย่างหมดแรง ไม่ได้รู้สึกอยากจะอาเจียนแต่ว่ามันหน่วงๆมึนๆอยู่ในหัวอ่ะ “รอนี่แหละเดี๋ยวไปทำอะไรให้ทาน” เซกะอุ้มฉันไปบนบนโซฟาก่อนจะกดจูบที่หน้าผากแรงๆแสดงอาการหมั่นเขี้ยว ฉันได้แต่ฮึดฮัดด้วยความหงุดหงิด ฉันเห็นเข้าเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะกลับออกมาด้วยผ้าห่มสำรองเขายื่นผ้าห่มไปให้ฝ้ายี่ลุกนั่งแล้วซบหลังพอสส่วนอีกผืนเขาถือมันมาใกล้ฉันก่อนจะคลี่ห่มให้ พอสถามฝ้ายเรื่องงานแต่งแต่ประโยคที่ไอ้หมอผีพูดคือ พ่อฝ้ายเป็นหนี้ครอบครัวไอ้หมอผีและฝ้ายก็ต้องแต่งงานเป็นการใช้หนี้ นี่พวกเขาคิดว่ามันเป็นนิยายหรืองทำไมถึงได้ทำแบบนี้ ฉันผุดลุกนั่งมองเพื่อนอย่างเป็นห่วง มันพูดพึมพำอะไรอย่างอย่างก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายของมันแล้วออกจากห้องไป “พี่!! มึงพูดบ้าอะไรออกไปฮะ!” “กูไม่รู้!!” “ไม่รู้เชี่ยไร มึงมันเชี่ยกูจะไม่ช่วยมึงอีกแล้ว!!” “ออกไปจากห้องฉัน!!” ฉันชี้นิ้วไปที่ประตูห้อง สายตามอไอ้ผู้ชายไร้หัวใจคนนั้น “ฟังพี่ก่อนลูกอม” ไอ้หมอผีนั่นมองฉันอย่างขอความเห็นใจ ฉันยิ้มก่อนจะลุกแล้วเดินเข้าไปใกล้ผู้ชายคนนั้น แม้จะมีอาการเวียนหัวมากแค่ไหนก็ต้องข่มเอาไว้ ฉันยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะตวัดฝ่ามือใส่หน้าผู้ชายเห็นแต่ตัวคนนั้นสามครั้งติด เลือดเลวๆของหมอนั่นซึมออกมาตามมุมปาก “คนอย่างนายไม่ควรจะได้รับโอกาสจากใครทั้งนั้นแหละ ออกไปจากห้องฉันซะ!!” “อมใจเย็นๆ” พอสเดินเข้ามาล็อคแขนฉันให้ถอยห่างจากผู้ชายคนนั้น “มึงจะให้กูใจเย็นเหรอ มันทำให้เพื่อนเราเป็นแบบนี้กูคงจะใจเย็นได้หรอกนะ” ฉันตะโกนใส่หน้าผู้ชายคนนั้นด้วยความโกรธเซกะเดินเข้ามาดึงฉันเข้าไปกอดแนบอกพรางพูดปลอบให้ใจเย็น “อม มึงไม่ต้องกูเอง” จบคำพอสถลาเข้าไปต่อยผู้ชายคนนั้นเก๋อเก๋อได้วิ่งเข้าไปดึงร่างพอสออกห่างจากผู้ชายคนนั้น ส่วนฉันก็ถลาจะเข้าไปตบผู้ชายคนนั้นอีก “พีมึงกลับไปก่อนเถอะ ค่อยคุยกัน” ผู้ชายคนนั้นทำหน้าไม่พอใจก่อนจะยอมเดินออกจากห้องไปส่วนฉันกับพอสโดนลากเข้าไปนั่งบนโซฟา เซกะมองฉันด้วยแววตาตำหนิ แต่ฉันหาได้สนใจฉันไม่มองเขาด้วยซ้ำ ยังไม่เคลียเลยนะที่เขายอมให้ผู้ชายคนนั้นเข้ามาในห้องฉันแบบนี้ “พอสทานข้าวด้วยกันก่อนนะค่อยกลับ” “รบกวนด้วยนะครับ” “แล้วเมื่อคืนดื่มหนักกันเหรอทำไมดูในสภาพนี้กัน” เซกะหันกลับมาถามฉันมือก็ยื่นมาดึงคอเสื้อขึ้นให้ แต่ฉันปัดมือเขาออกด้วยความหงุดหงิด “หงุดหงิดอะไรอีกเนี่ย” เซกะว่าอย่างไม่ใส่ใจ “อม มึงจะเหวี่ยงใส่พี่เขาทำไมวะเนี่ย ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ” พอสถามฉันสีหน้ายิ้มๆ “เขาหลอกกู” “พี่หลอกอะไรเรา” เซกะโน้มหน้าลงมาใกล้ฉันที่ทิ้งตัวนอนคว่ำตามความยาวโซฟา ฝ่ามือร้อนลูบที่ผมเบาๆ ใบหน้าเขาไม่ได้แสดงสีหน้าหงุดหงิดอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับยิ้มอย่างมีความสุข “หลอกว่ารักไง แล้วยังไปหอคนอื่นอีกมีรูปส่งมาให้ดูด้วยชิ!” “พี่บอกแล้วไงคะว่ายัยนั่นวางยาพี่อ่ะ พอตื่นก็อยู่สภาพนั้นแล้ว เดี๋ยวตอนบ้ายจะพาเข้าร้านไปดูความจริงกัน” “ไม่ไปงอนอยู่!” “โอ๊ยๆๆ แม่มดหัวฟูมีผัวอย่างนี้มันต้องฉลอง!!” “ผัวบ้าอะไรล่ะ” ฉันคว้าหมอนปาไปใส่พอส รู้สึกร้อนๆยังไงไม่รู้แฮะแอร์เสียหรือเปล่ววะเนี่ย “หน้าเราแดงอ่ะ” เซกะเย้าเสียงสดใส ยิ่งมีเสียงหัวเราะของพอสกับเก๋อเก๋ออีก “เค้าร้อน!!” “ฮ่าๆๆ ร้อนก็ร้อนป่ะไปทานข้าวกันดีกว่า” ยังดีที่เขาไม่แกล้งแซวฉันต่อแต่เลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อง หลังจากทานข้าวเสร็จฉันก็เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียง นอนละน๊า “ลูกอม บ่ายๆไปร้านกันนะ” “เค้าอยากกันเค้กด้วย” “ครับๆ นอนเถอะเดี๋ยวพี่นะ ฝันดีครับ” “ฝันดีค่ะ” Sei-ka talk ตอนนี้คนขี้งอนหลับไปแล้วล่ะ ผมเดินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วออกมาทิ้งตัวนอนข้างๆคนที่หลับไปก่อนหน้านี้ ผู้หญิงตัวเล็กๆผิวขาวๆผมยาวๆใส่แว่นนั่งอยู่หน้าจอคอม ทุกวันหลังจากที่ผมเลิกงานจากบริษัทผมก็จะเข้าไปที่ร้านขนมและผมก็จะเจอเธอนั่งอยู่แบบนั้น ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่เอาต้องรีบออกจากบริษัทเพื่อที่จะเห็นหน้าเธอ “เธอยังไม่มีแฟนนะคะมาสเตอร์” ผู้จัดการร้านกระซิบบอกผมในวันที่ผมท้าวคางมองเธอ ไม่ได้สนใจรายงานประจำวันของร้านที่วางอยู่ตรงหน้าเลย “รบกวนเอาไปเสิร์ฟลูกค้าโต๊ะหกหน่อยนะคะ” ดูสิผมเป็นเจ้าของร้านแต่โดนผู้จัดการร้านสั่งให้เอาเค้กไปเสิร์ฟ ผมจะไม่อะไรเลยนะถ้าโต๊ะหกไม่ใช่โต๊ะที่ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ เธอกำลังพิมพ์งานอะไรสักอย่างอยู่คิ้วขมวดนั่นทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา งานเธอมันเครียดขนาดนั้นเลยเหรอถึงได้ทำสีหน้าเคร่งเครียดแบบนั้น “เค้กได้แล้วครับ” “ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณก่อนจะสายตายตาจากคอมแล้วมองเค้ก รอยยิ้มสวยอยู่เผยออกมาเพียงเพราะเค้กชิ้นเดียว ใจผมกระตุกแล้วเต้นรัวถี่เพียงเพราะเห็นรอยยิ้มของเธอ เธอเงยหน้าแล้วยิ้มให้ผมก่อนจะเอ่ยพูดกับผมตรงๆเป็นประโยคแรก “ขอน้ำมะนาวแก้วหนึ่งนะคะ” อะไร ย่ามาหัวเราะนะถึงแม้เธอจะสั่งเครื่องดื่มแต่เธอก็คุยกับผมนั่นแหละ จากนั้นผมก็คอยแต่จะหาเรื่องไปเจอหน้าเธอช่วงๆหลังๆผมเข้าร้านบ่อยขึ้นทั้งที่บริษัทผมอยู่ไกลจากร้านมากแต่ผมก็ยอมขับรถอ้อมไปวนมาอยู่แบบนี้เกือบสี่เดือน ถึงแม้มันจะเป็นเวลาแค่สี่เดือนแต่สำหรับผมมันนานมากกับการที่จะทำความรู้จักกับใครสักคน แต่รู้อะไรไหมอุปสรรคของผมคืออะไร แม้ผมจะเข้าหาชวนคุยถามนู่นถามนี่แต่ลูกอมกลับจำผมไม่ได้ด้วยซ้ำ เดินห้างผมแกล้งเดินผ่านก็ไม่รู้ตัว ตอนไปเที่ยวผมนั่งโต๊ะข้างๆก็ไม่ทัก อีกอย่างวันนั้นผมอุตส่าห์หน้าด้านเดินเข้าไปชนเธอตรงๆยัยนั่นก็ยังจำผมไม่ได้อีก คุณคิดดูว่ายัยนี่มีสมองไว้จำอะไรบ้างบอกจากรสชาติมาม่าที่เธอกินกับนิยายที่เธอแต่งน่ะ จากนั้นก็อย่างที่รู้ๆนั่นแหละผมตามเธอตื้อเธอแล้วตัวตัวติดตลอดเวลา ลูกอมก็ไม่รู้จะขยันไล่ผมไปถึงไหนเพราะให้ตายยังไงผมก็ไม่ไปหรอก ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะที่จะเล่นๆน่ะผมจริงจังขนาดพาไปบ้านบอกทุกคนว่าจีบเธออยู่แต่อย่างว่ายัยนั่นไม่สนใจเลย แต่ก็ไม่ว่าอะไรนะเวลาผมเดินจับมือหรืองอแงเวลาอยากถ่ายรูปคู่ ตอนที่ตามเธอไปแม่งฮ่องสอนมันเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากจริงๆนะ แม้เธอจะยังงอนเรื่องที่นั้นอยู่ก็ตามแต่ผมก็ให้คนจัดการแล้วสืบหาความจริงหมดแล้วและผมก็กำลังจะบอกเธอ ผมน่ะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอได้เชื่อใจว่าผมจริงจังและจริงใจ แต่บางทีเธอก็ทำเหมือนว่าคิดเหมือนกับผม แต่บางเวลาก็เหมือนเธอไม่ได้คิด จนผมเริ่มไม่มั่นใจว่าที่จริงแล้วข้างในลูกอมคิดอะไรอยู่กันแน่... “ลูกอม ตื่นได้แล้วเข้าร้านกัน” “อื้อ! ไม่ไปได้ไหมง่วง” และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมชอบคือเวลาลูกอมง่วงเธอมักจะงอแงแล้วอ้อน ผมแทบจะละลายทุกครั้งเวลาเจอลูกอ้อนเธอ “ไม่ได้นัดเลขาไว้แล้ว ลุกเร็ว” ผมกดจมูกลงบนแก้มใส่อย่างหมั่นเขี้ยว คนที่งอแงอยู่ออกอาการฮึดฮัดก่อนจะเปลี่ยนเป็นตะแคงตัวเข้ามากอดผมไว้ไม่ให้ผมได้จูบเธออีก เห็นไหมล่ะบอกแล้วเวลาอ้อนยัยนี่น่าจับฟัดที่สุดเลยล่ะ “ลูกอม อมตื่นก่อนเร็วเดี๋ยวพาออกไปกินอะไรอร่อยๆ” “ไม่เอาไม่อยากไปปวดหัวตัวร้อนไม่สบายไปไม่ได้” “เป็นเยอะขนาดนั้นเชียว” “ไม่อยากไปจริงๆนะ” คนตัวเล็กยังอ้อน แขนเล็กนั่นกอดผมไว้แน่น โอ๊ยอย่าอ่อยขนาดนี้นี้ทนไม่ไหวแล้วจับกินจะโกรธไม่ได้นะ “ไม่เอาน่า ไปล้างได้ก่อนนะแล้วเราเข้าร้านกัน” “ก็ได้ๆ” ลูกอมยอมตกลงเสียงงอแงหลังจากร่างเล็กก้าวลงจากเตียงผมก็ลุกนั่งก่อนจะส่งข้อความบอกเลขาว่ากำลังจะออกไป พอลูกอมออกจากห้องน้ำผมก็ต้องนั่งรอคนติสนั่งทำใจก่อน เราออกจากห้องก็ตรงไปที่ร้านขนมทันที “หิวหรือเปล่า” “ไม่” ลูกอมตอบเสียงนิ่งทำหน้าเครียดอยู่หน้าจอมือถือ คงจะเรื่องเพื่อนนั่นแหละ “ที่ร้านมีไวไฟป่ะ เค้าต้องแก้งานอ่ะ” ลูกอมเงยหน้ามองสีหน้าเครียด ผมยิ้มแล้วพยักหน้าให้ ก็นึกว่าเรื่องอะไรพอถึงร้านลูกอมก็เดินเอาของไปวางที่โต๊ะประจำมุมร้านทันทีก่อนจะเดินกลับมาสั่งเครื่องดื่มกับขนม “เอาอันนี้ค่ะ เค้กมะพร้าวด้วยแล้วก็บลูเบอร์รี่ เครื่องดื่มเอาโกโก้นะคะขอแบบเข้มๆเลย” “ได้ค่ะ” พนักงานยิ้มล้อให้ลูกอมแล้วยังเผื่อมายังผมอีก ตอนนี้ก็ยังไม่มั่นใจนะว่าใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้อง ผมเดินตามลูกอมกลับไปที่โต๊ะ “ใส่รหัสให้เค้าหน่อย เดี๋ยวเค้าคุยกับ บก.ก่อน” ลูกอมยื่นมือมาดึงแขนผมเข้าไปนั่งลงข้างๆเธอ มือเล็กหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะกดโทรออก ผมเชื่อมไวไฟให้คนตัวเล็กเสร็จก็นั่งมองเธอที่กำลังคุยงานกับปลายสายเกือบสิบห้านาทีเธอก็วางสายแล้วหันกลับมาดูหน้าจอ “อยากได้อะไรบอกพี่นะ” “ขอบคุณค่ะ” “ครับ” ผมนั่งข้างๆลูกอมที่กำลังแก้งาน เค้กหลายชิ้นที่เธอชอบถูกนำมาวางแต่คนตัวเล็กยังไม่มีทีท่าจะเงยหน้าขึ้นมาเลย ผมหยิบเค้กขึ้นมาป้อนเธอสลับกับเครื่องดื่ม นี่มีเมียหรือลูกวะเนี่ยดูแลดีขนาดนี้แต่ที่ทำๆไปผมไม่ได้อึดอัดใจหรอกนะออกจะชอบด้วยซ้ำทั้งที่ไม่เคยทำแบบนี้กับใคร “เอ่อ บอสครับ” “หือ? อ้อครับ โทษนะครับก็อย่างที่เห็นสั่งอะไรมาทานก่อนก็ได้ครับ” “ได้ครับ” เลขาผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปสั่งเค้กและเครื่องดื่มรอคนตัวเล็กแก้งาน เรื่องที่เกิดขึ้นผมก็รู้พอคร่าวๆถ้าจะให้ดีต้องให้เลขาผมอธิบายให้เธอฟังอ่ะนะ ผมมีเลขาสองคนคนหนึ่งทำเรื่องเอกสารอีกคนก็ทำทุกอย่างนั่นแหละตอนนี้ทั้งสองกำลังนั่งที่โต๊ะติดหน้าร้าน นั่งดื่มเครื่องดื่มรอ ผมก้มมองคนข้างๆอีกครั้งและครั้งนี้ผมแอบตกใจเพราะร่างเล็กเริ่มเข้าสู่โหมดจริงๆจัง “รอเค้าใช่ไหม” ลูกอมละสายตาจากคอมแล้วมองผมอย่างเกรงใจ “อืม ใช่เลขาที่ให้พี่ไปเช็คเรื่องนั้นไงแต่เราทำงานก่อนก็ได้” “ไม่เป็นไรหรอก คุยเสร็จเรากลับเลยได้ไหมเค้าจะไปแก้งาน” คนตรงหน้าผมทำสีหน้าจริงจัง “ได้ แต่วันนี้กลับบ้านใหญ่นะแม่อยากเจองานไปทำที่นู่นก็ได้” “ค่ะ รีบคุยเถอะ” มือเล็กปิดคอมเก็บของผมพยักหน้าบอกให้เลขาเข้ามาได้ เลขาก็อธิบายเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ทั้งผมและลูกอมฟัง จะว่าโง่ก็ได้นั่นแหละผมก็ห่วงยัยนั่นอยู่นะเพราะอย่างน้อยก็เป็นเพื่อนกันแต่ใครจะไปคิดล่ะว่ายัยนั่นจะวางยานอนหลับผมแล้วถ่ายรูปส่งไปให้แฟนตัวเองเป็นการประชดแค่นั้นยังไม่พอยังส่งมาให้ลูกอมอีกแล้วเป็นไงล่ะ ลูกอมโกรธแล้วหนีไปไกลถึงแม่ฮ่องสอนเลยไง “ขอบคุณนะคะ แล้วก็ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ต้องรอนานขนาดนี้” ร่างเล็กยกมือไหว้ขอโทษเลขาทั้งสอง ทำเอาเลขาผมรับไหว้กันแทบไม่ทันทั้งสองยิ้มให้ผมอย่างภูมิใจ จะบอกว่าผมเก่งใช่ไหมล่ะที่หาแฟนได้ดีและน่ารักขนาดนี้ พอแยกกับเลขาผมก็พาลูกอมกลับบ้านทันทีแม่คิดถึงลูกอมอยากจะเจอเลยโทรบังคับแกมขู่ให้ผมพาลูกอมเข้าบ้านน่ะสิ ทุกวันนี้ผมเริ่มจะกลัวแล้วล่ะว่าท่านจะรักลูกอมมากกว่าผมที่เป็นลูกแท้ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆผมน้อยใจได้ไหมอ่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม