รถปอร์ตสีเหลืองโดดเด่นสะดุดตา เอกลักษณ์ที่มีเฉพาะรุ่นบ่งบอกถึงราคาอันแสนแพง สมรรถนะความเร็วทะลุไมล์ปราดเปรียวคล่องตัวเป็นเลิศ รถหรูคันนั้นวิ่งมาจอดหน้าตึกเรียนคณะนิเทศสร้างเสียงฮือฮาเรียกสายตาเหล่านักศึกษาที่เดินขวักไขว่ให้หันกลับมามอง เหล่านักศึกษาชายหญิงทั้งหลายต่างพากันสงสัยและอยากรู้ว่าเจ้าของรถสปอร์ตคันหรูที่ไม่คุ้นตาดูแล้วไม่น่าจะใช่ของนักศึกษาในคณะนี้ เสียงอื้ออึงพากันถกเถียงพูดคุยถามหาว่าใครกันนะที่ได้เป็นผู้ครอบครองเป็นเจ้าของ แต่หากเป็นนักศึกษาสาวสวยหลายคนที่ให้ความสนใจกับแก๊งหนุ่มวิศวะขั้นเทพ หรือเคยมีซัมติงย่อมรู้ดีว่ารถสปอร์ตคันนี้เป็นของใคร เสียงกรี๊ด เสียงซุบซิบพูดคุยของนักศึกษาหญิงที่เกาะกลุ่มพูดคุยเฝ้ารอใครบางคนที่คิดไว้ว่าใช่ให้ก้าวลงจากรถคันสวยเตะตา เหล่าสาวสวยต่างอยากทำความรู้จักแนบชิดสักครั้งนั่นนับว่าเป็นโชคดี เหล่านักศึกษาทั้งชายและหญิงเดินมุงหน้ามุ่งไปยังตึกเรียนต่างพากันหยุดชะงักให้ความสนใจจับจ้องเมื่อประตูรถกำลังแง้มเปิดออก เจ้าของเรียวขาขาวสวยนวลเนียนที่สวมรองเท้าส้นสูงสีขาวขนาดสี่นิ้ววาดขาออกจากรถได้เพียงนิดเดียวแต่ยังไร้เงาร่างเจ้าของเรียวขาสวยนั้นออกมาจากรถ
กว่าจะลากยัยจุ้นขึ้นรถมากับผมได้เล่นเอาผมเหนื่อยและหมดพลังงานไม่ใช่น้อย เมื่อก่อนว่าดื้อแล้วนะแต่พอบอกอะไรยัยจุ้นมักคล้อยตามผมเสมอ ดูตอนนี้สิทั้งบังคับทั้งขู่เข็ญแล้วยังไม่ยอมทำตามผมสักเรื่อง ผมต้องคอยสำรวจรอบๆตัวตลอดเวลากลัวว่าจะมี ไอ้พวกเสือ สิงห์ กระทิงแรด พวกเหยี่ยวทั้งหลายมาโฉบเฉี่ยววนเวียนอยู่รอบตัวยัยจุ้นทำให้ผมไม่ไว้ใจ
"เดี๋ยวก่อนยัยจุ้นเย็นนี้พี่จะมารับไปเสื้อชุดใหม่ห้ามหนีไปไหนกับใครเด็ดขาด แล้วอีกอย่างอ่อยผู้ชายให้มันน้อยๆลงหน่อยพี่ไม่ชอบให้ใครมองและเข้าใกล้เราเข้าใจหรือเปล่า" ขณะที่ยัยจุ้นกำลังจะก้าวขาลงจากรถเสียงเรียกอันดุดันทำให้ยัยจุ้นชะงักหันกลับมามองพร้อมกับขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัย เพียงไม่นานยัยจุ้นกลับแสดงสีหน้ายุ่งๆเบื่อหน่ายมองบนใส่ตอนที่ผมพูดเสร็จ
"ทำไมข้าวปุ้นต้องไปซื้อชุดใหม่ด้วยคะใครๆเขาก็ใส่แบบนี้กันทั้งนั้นพี่ลองหันมองดูรอบๆสิ อีกอย่างพวกหนุ่มๆเขาก็ชอบมองผู้หญิงใส่สั้นใส่รัดทั้งนั้น หรือว่าพี่ไม่ชอบข้าวปุ้นเห็นพี่ธามมองตาค้างน้ำลายหกบ่อยๆเวลาเห็นขาขาวๆและหุ่นอวบอัด ไม่เข้าใจจริงๆทีตัวเองยังชอบมองเลย" ผมได้แต่แอบยิ้มตอนที่เธอพูดถึงผมออกมาด้วยอาการหึงแล้วผมดันชอบมองตอนข้าวปุ้นงอนกระฟัดกระเฟียดไม่พอใจนั่นแสดงว่าเธอยังแคร์ผมบ้าง เหมือนกับตอนที่เธอวิ่งไล่จัดการผู้หญิงที่มาข้องเกี่ยวหรือผมแวะเวียนไปขายขนมจีบ ความจุ้นของเธอทำให้ของคาวที่ผมกำลังจะเคี้ยวหลุดลอยไปหลายครั้ง จนผมต้องแอบทำมันเงียบๆไม่ให้ยัยจุ้นรู้ ถึงผมจะชอบมองผู้หญิงสวยๆขาขาวใส่สั้นๆรัดๆมากแค่ไหน ถึงจะชอบแอบไปกินตับผู้หญิงเหล่านั้น ผมก็ไม่ชอบให้ผู้ชายคนไหนใช้สายตามองและทำอย่างนั้นกับผู้หญิงของผมเช่นกันโดยเฉพาะข้าวปุ้น ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมถึงให้ความสำคัญและให้เธอเป็นคนพิเศษที่ผมไม่อยากให้ใครเข้าใกล้นอกจากผม ส่วนผู้หญิงคนอื่นที่ผ่านเข้ามาผมแค่ปล่อยผ่านไปไม่สนใจอยู่ใกล้ชิดเหมือนกับข้าวปุ้น เพราะเธอพิเศษความหวงที่ฝังลึกรากลึกทำให้ผมต้องใส่ใจทุกรายละเอียดของข้าวปุ้น
"ก็เพราะไอ้พวกหน้าหม้อมันชอบมองพร้อมใช้ตาหื่นใส่อยากล่าเราพี่ถึงไม่ชอบไง" ผมเห็นสายตาหื่นของพวกมันทีไรกำปั้นที่กำแน่นอยากสวนออกไปทันที ผมได้แต่กำหมัดแน่นดังกร็อบด้วยความโมโห
"ไอ้หน้าหม้อที่ว่ารวมถึงพี่อีกคนใช่ไหมคะ" ยัยจุ้นก็ขยันต่อปากต่อคำดีเหลือเกิน อยากสั่งสอนปากเล็กอมชมพูแล้วบดขยี้ให้อ่อนระทวยจนไม่กล้าเถียง
"มันไม่เหมือนกัน กับพี่เรียกใส่ใจรายละเอียด ส่วนพวกนั้นหูหม้อดำหื่นกาม" ผมตอบออกไปหน้าตายไม่สนใจว่าเธอจะทำหน้ายังไงที่ได้ยินคำตอบจากผม
"แหวะ!! ตัวเองหื่นกามน้อยที่ไหนอย่าคิดนะว่าข้าวปุ้นไม่รู้ว่าพี่ชอบกินตับ" แล้วยังไงแค่กินล้างปากไม่ใช่ของโปรดสักหน่อย ส่วนตอนนี้ผมกำลังมองหาของโปรดที่อยากกินไปตลอด
"ตับกินบ่อยๆไม่ดีมันคาวทำให้เป็นพยาธิได้ พี่อยากลองกินแป้งบ้างมันคงมีประโชน์ต่อร่างกาย" สายตากรุ้มกริ่มแพรวพราวมองไปที่เธอเพื่อให้รู้ว่าผมกำลังพูดถึงเรื่องอะไร
"กินแป้งก็ไม่ดีเหมือนนะคะมันอุดตันเส้นเลือดทำให้เป็นพิษต่อร่างกายได้เหมือนกัน แล้วแป้งมันก็ไม่ได้เคี้ยวง่ายๆเหมือนอย่างแต่ก่อนแล้วด้วย แต่ถ้าพี่ชอบและอยากกินแป้งจริงๆคงต่อแถวรอคิวยาวหน่อยนะคะ เขาบอกว่าแป้งเจ้านี้น่าอร่อยและดูแซบเวอร์จนมีคิวยาวไปหลายกิโลเหมือนกันค่ะ" ยัยจิ้งจอกจอมจุ้นขยันปั่นให้ผมหัวร้อนได้ทุกนาที แล้วไหนจะยังยั่วยวนด้วยการบดเบียดเข้าหาชวนให้อยากกลืนกิน ผมอยากกระโดดเข้าไปดูดกินความอวบอิ่มของเรียวปากสวยให้ละลายคาปากหนา
"ไม่ต้องห่วงแถวยาวที่ว่าจะหายไปในพริบตาเหลือคนต่อแถวเพียงคนเดียวคือพี่" ผมฉวยโอกาสเอี้ยวตัวไปใกล้หวังสัมผัสความอวบอิ่มไม่ว่าจะเป็นปากหรือภูเขาก้อนโตที่ชี้หน้าผมในตอนนี้
"ชิ ดูมั่นใจดีเหลือเกินนะคะระวังจะหน้าแตกเอาได้ ไปเรียนดีกว่าไม่อยากอยู่เห็นใครแถวนี้หน้าแตก" เจ้าของปากอิ่มพูดจบก็รีบถอยหลังหนีอย่างว่องไวราวกับอ่านสายตาเดาใจผมถูกว่าผมอยากทำอะไร ใช้เวลาเพียงไม่นานเธอหายออกไปจากรถท่ามกลางเสียงซุบซิบที่มีทั้งชื่นชมจากพวกหน้าหม้อทั้งหลาย และเสียงนินทาด้วยความอิจฉาของหญิงสาวหลายคนที่จดจ้อง ผมอยากจะลงจากรถแล้วขนาบข้างแสดงความเป็นเจ้าของร่างสวยเดินไปส่งให้ถึงยันหน้าห้องเรียน อยากดับฝันพวกที่มันคิดจะมาตามจีบคนของผม แต่เจ้าของร่างสวยกลับใช้ความไวกลมกลืนเดินหายไปในกลุ่มคนที่กำลังกรูไปที่ตึกเรียน ทิ้งไว้เพียงร่องรอยอุ่นๆที่เบาะและกลิ่นหอมๆกระจายฟุ้งบนรถ ผมสูดดมกลิ่นหอมละมุนพลันนึกถึงเจ้าของกลิ่นหอมและใบหน้าสวยที่ยังวนเวียนอยู่ภายใจ ผมตัดใจขับรถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนไปจอดยังคณะของตัวเองพักเอาแรงที่ห้องพักประจำของกลุ่มผมก่อนถึงเวลาขึ้นเรียนอีกสองชั่วโมงข้างหน้า
"โผล่หน้ามาแต่เช้าเลยนะไอ้หมาติดสัตว์" เจ้าของเสียงและคำพูดหมาๆไม่ใครที่ไหนไอ้ดีเดย์หน้าตึง
"มึงสิติดสัตว์ โผล่แต่เช้าคงตามเฝ้าตามดมกลิ่นเหมือนกันล่ะสิ" ผมไม่ปล่อยให้มันใช้ปากเสียๆเล่นงานผมฝ่ายเดียว
"แต่กูก็ไม่เหมือนหมาบางตัวที่ปล่อยกระต่ายร่างเล็กไปบอกแดกไม่ลง กระต่ายน้อยหายไปแล้วกลับมาอีกทีก็โตน่ากินหมาตัวนั้นมันเสือกกลืนน้ำลายอยากกลับไปกินจนต้องวิ่งไล่จับ ไล่งับ กูอยากจะหัวเราะหมาตัวนั้นเพราะกระต่ายดันมีตัวเลือกใหม่ ปล่อยให้หมาตัวเดิมอดแดกหิวโซเที่ยวไล่งับคู่แข่งที่เข้าใกล้กระต่ายไม่สนหน้าไหน สมน้ำหน้าอยากแดกของไม่มีคุณภาพ เป็นยังไงล่ะทีนี้กระต่ายตัวเดิมไม่ยอมให้กินง่ายๆ เสียหมาไปเลยสิ" ไอ้ดีเดย์ไอ้หมาพิตบูลกัดไม่เลือก
"เสือก แถมพูดมากนะมึงคอยดูดีๆกระต่ายที่เคยวิ่งตามกูตอนนั้นจะวิ่งกลับมาหากูอย่างเต็มใจเหมือนเดิมนั่นแหละ" ผมไม่เชื่อหลอกว่ากระต่ายที่หลงชอบหมาป่าที่สง่างามและลุ่มหลงจะเปลี่ยนใจไปได้ง่ายๆ
"ถุย!!กูจะคอยดูว่ากระต่ายจะวิ่งมาหาหมา หรือว่าหมามันจะทำหน้าหงอยเดินตามหากระต่ายกันแน่" ไอ้ดีเดย์แม่งก็กัดไม่ยอมปล่อยเหมือนหน้าตึงหน้าเหวี่ยงที่มันชอบทำประจำ
"สงสัยกูจะตาฝาดหรือไม่โลกจะแตกที่เห็นไอ้คนนอนแข่งกับแดดเปรี้ยงๆมันมาแต่เช้า" เสียงเปิดประตูเข้ามาของไอ้ไนท์กี้พร้อมกับหมาหลายตัวที่มันปล่อยออกมาเพ่นพ่านวิ่งไล่งับคนอื่น
"มันก็พอๆกันไหมวะ หมาบางตัวมันขยันตื่นเช้ามาตามต้อยๆเพราะกำลังถูกเมินความหล่อไม่ได้ช่วยให้มันเคี้ยวอะไรได้ง่ายๆแถมยังโดนถีบส่งไล่ไปไกลๆอีกต่างหาก" ผมสวนกลับไอ้ไนท์กี้ทันควันไม่ปล่อยให้มันเอาหมาออกมาวิ่งไล่กัดผมได้ ผมยังสงสัยว่าพวกเราคบกันมาได้ยังไงตั้งนานมีแต่ตัวดีๆปากหมาพอๆกัน
"อยู่กันเป็นฝูงเลยนะพวกมึงกำลังกัดกันลับเขี้ยวอยู่หรือยังไงวะ หรือกำลังรวมหัวหาอาหารหมาแดกกันอยู่"
"อยู่เป็นฝูงเชี่ยอะไรครับ แล้วมึงหายหัวไปไหนตั้งนานคงไม่ได้พาน้องกูไปทำอะไรชั่วๆมานะ ไม่งั้นกูเอาเลือดหัวมึงออกแน่ไอ้ติวเตอร์ กูเห็นออกมาส่งน้องกูก่อนกูอีกมึงพาน้องกูแวะที่ไหนหรือเปล่า" ไอ้ติวเตอร์ปากหมาเดินเข้ามาเป็นคนสุดท้าย
"แวะเหี้ยไรไอ้พี่เขยน้องมึงสิพยศใส่กูไม่เลิกกว่าจะแวะส่งที่คณะได้เล่นเอากูเหนื่อย น้องมึงนะปากหนักกว่ากูจะง้างปากให้พูดออกมาแต่ละคำได้กูพูดจนปากฉีก" ไอ้ติวเตอร์บ่นงึมงำอย่างขัดใจ
"เชี่ย!!ใครพี่เขยมึง กูอยากสมน้ำหน้าน้องกูทำถูกต้องแล้วที่ไม่อยากพูดไม่อยากยุ่งกับผู้ชายเหี้ยอย่างมึง" ผมพูดสมน้ำหน้าและยิ้มเยาะเย้ยไอ้ติวเตอร์ เย็นนี้คงต้องกลับไปตบรางวัลเปลี่ยนรถเแรงๆคันใหม่ให้สิงห์นักบิดอย่างน้องสาวผมขับเล่นๆ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผมถึงเปลี่ยนรถคันใหม่ได้ง่ายวันละหลายคันเพราะที่บ้านทำธุรกิจนำเข้ารถหรูและชิ้นส่วนอะไหล่รถจากนอก ไอ้ติวเตอร์จะได้ไม่วนเวียนอยู่รอบๆตัวน้องสาวผม กลัวว่าลับหลังมันจะตลบหลังจับน้องสาวผมกินตับ พวกเราสี่คนต่างคนต่างไม่ยอมให้กันปล่อยของใส่กันจนกระทั่งถึงเวลาเข้าเรียน เรียนเสร็จผมต้องรีบทำเวลาไปดักรอยัยจุ้นที่ไม่รู้ว่าจะพยศและเล่นแง่อะไรใส่ผมอีก เธอขยันปั่นให้ผมวิ่งไล่จับจนเหนื่อย ผมวิ่งตามหัวหมุนรอบทิศ ได้แต่คิดไว้ถ้าจับตัวเป็นๆได้เมื่อไหร่จะลอกคราบให้เห็นดีถึงข้างในทุกซอกทุกมุม