“ แล้วใครใช้ให้พี่คิดไม่ดีกับน้ำหวานก่อนทำไมล่ะ ” สาวน้อยทำแก้มป่องสะบัดหน้าอย่างงอนๆ จนจ่อยเกือบจะอดใจไม่ไว้อยากจะหอมแก้มแดงๆ นั้นสักฟอด ถ้าไม่กลัวว่าตัวจะถูกทุบอีกยกหนึ่ง แต่ยังทำปากแข็งปฏิเสธหน้าด้านๆ
“ ใครจะกล้าคิดอะไรกับน้ำหวานอย่างนั้นล่ะจ๊ะ แค่พี่ชวนมาดูฉากหวานๆ ของพระนางคู่ใหม่ก็แค่นั้นเอง ”
“ อะไรของพี่จ่อย คู่พระคู่นางที่ไหน ”สาวน้อยทำสีหน้างุนงง
“ เถอะ..น่าเงียบๆ เดี๋ยวพาไปดูอะไรหนุกๆ กัน ” จ่อยเอ่ยกับเด็กสาวไม่วายส่งแววตาทะเล้นก่อนจะพาน้ำหวานย่องไปข้างโบสถ์
ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูปปางประทานพรตั้งประดิษฐานกลางโบสถ์ กุ้งนางกำลังพนมมือไหว้พระ ดวงตางามหงอนหลับพริ้มปากจิ้มลิ้มกำลังขมุบขมิบอธิฐานขอพรจากพระ จนคนที่พึ่งมานั่งลงข้างๆ มองหญิงสาวอย่างนึกขำ
เมื่อลืมตาหญิงสาวก็หันไปคว้ากระบอกติ้วที่วางอยู่ข้างหน้าโดยไม่ได้สนใจใคร เสียงติ้วดังสนั่นสะท้านโบสถ์จนธนาอดคิดไม่ได้ว่าหญิงสาวอธิฐานขออะไรกับพระ เมื่อติ้วที่ทำจากไม้ไผ่กลิ้งกระเด็นออกจากกระบอก กุ้งนางจึงเอื้อมไปคว้าขึ้นหวังจะดูหมายเลข แต่ก็ถูกมือหนาของใครคนหนึ่งคว้าไปเสียก่อน
“ เอ๊ะ! อีกแล้วนะ จะทำอะไร ? เอาคืนมา! ” หญิงสาวแหวนัยน์ตาขุ่นอดแปลกใจไม่ได้ว่าเขามานั่งตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร
“ ฉันก็แค่จะหยิบติ้วคืนให้ แค่นี้ก็ต้องดุด้วย ” ปลัดหนุ่มยื่นติ้วคืน เมื่อแอบดูหมายเลขบนไม้ไผ่แล้ว
“ ใครใช้ให้ตามฉันมา? ”
“ ใครตามเธอ สำคัญตัวผิดหรือเปล่า ฉันมาไหว้พระต่างหากล่ะ ” ปลัดตัวโตโต้กลับ หญิงสาวถึงกลับหน้าเสียไปนิดหนึ่ง
“ อย่างนั้นก็เชิญตามสะดวก ” พูดจบกุ้งนางก็ก้มลงกราบพระ จึงเป็นโอกาสให้ธนาส่งสัญญาณไปยังจ่อยที่แอบดูคนทั้งสองที่ช่องหน้าต่าง
กุ้งนางเดินออกมาที่ตู้ใบเซียมซีเลือกหยิบใบเซียมซีที่ตนเขย่าได้ แม้จะรู้สึกแปลกๆ เพราะเซียมซีใบที่ตนเขย่าได้นั้นเป็นเพียงกระดาษสีขาวๆ และเขียนด้วยลายมือขยุกขยุยแทนที่จะเป็นสมุดฉีดพิมพ์ตัวอักษร และที่สำคัญมันเหลือเพียงแค่กระดาษแผ่นนั้นแผ่นเดียว
‘ หรือว่าเซียมซีที่พิมพ์จะหมด ’
หญิงสาวได้แต่คิดในใจจำใจหยิบกระดาษแผ่นนั้นติดมือมา แล้วเดินไปยังม้าหินอ่อนตัวหนึ่งที่ใต้ต้นลีลาวดี เมื่อคลี่กระดาษในมืออ่านรอยยิ้มน้อยๆ ก็หุบลงเรื่อยๆ กับเนื้อความของเซียมซีที่ได้
ใครจับได้ใบนี้ว่าดีนัก คนก็รัก หมาก็หลง ปลงไม่ไหว
ที่ว่าเหม็นก็เป็นหอมขึ้นทันใด แม้ทำการเอาแต่ใจก็ได้ดี
ถามของหายก็หายไปไม่ได้แน่ ถามหาแม่ตายไปแล้วก่อนหน้านี้
ถามหาพ่อถามทำไมยังอยู่ดี มีลูกน้องภักดีต้องแจกตังค์
ถามหาลาภใบนี้ว่าดีนัก จะพบรักได้คู่สมอารมณ์หมาย
เพราะคู่แท้เป็นคนข้างๆ กายอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลหาให้ดี
ถึงตกล่องปล่องชิ้นเป็นเมียผัว ไม่ต้องกลัวลาภยศจะหน่ายหนี
ทั้งขยันได้ลูกหญิงชายหัวท้ายปี ใครจับได้ใบนี้ดีจริงเอย
สำนวนแม่งๆ กับเนื้อความพิลึกพิลั่นบอกว่า เธอกำลังจะมีคู่ แถมยังเป็นคนใกล้ตัวอีกต่างหาก แม้ไม่เชื่อแต่ก็ไม่เคยลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ทำใจยอมรับคำทำนายของเซียมซีในนี้ไม่ได้จริงๆ
“ ได้เนื้อคู่หรือ ? ใครว่าฉันอยากจะมีเล่า ”
กุ้งนางพึมพำกับตัวเองกำลังคิดว่าไอ้เซียมซีประหลากแบบนี้สมควรจะเก็บไว้ดีไหม เมื่ออ่านทวนตรงท่อนที่ว่า ‘ คู่แท้เป็นคนข้างๆ กายอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลหาให้ดี ’ กุ้งนางก็อยากจะลองความแม่นของคำทำนาย หน้าหวานเงยขึ้นมองไปรอบตัว
” ไหนว่าจะเห็นเนื้อคู่ไงล่ะ มองจนตาเหล่ยังไม่เห็นผู้ชายสักคน ” กุ้งนางหัวเราะเบาๆ นึกขำกับความบ๊องของตัวเองที่หลงเชื่อคำทำนาย แต่พอร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า รอยยิ้มของหญิงสาวก็หุบลง อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาคือคนในคำทำนายแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
“ ชิ! ไม่มีทางเสียล่ะใครจะอยากได้ผู้ชายอย่างเขาไปทำพันธุ์ ” คิดแล้วกุ้งนางก็ขยำเซียมซีเป็นก้อนกลมแล้วปาทิ้งลงพื้นทันทีอย่างอารมณ์เสีย แต่ก้อนกระดาษเจ้ากรรมก้อนนั้นดันกลิ้งไปหยุดที่ปลายเท้าของปลัดหนุ่ม
ธนามองท่าทางของหญิงสาวก็เข้าใจอารมณ์ของหล่อนทันที จึงก้มลงเก็บกระดาษก้อนนั้น มือหนากำลังจะคลี่อ่าน แต่กุ้งนางก็ปรี่เข้าแย่งกระดาษจากมือของชายหนุ่มเมื่อนึกอะไรได้
‘ เรื่องอะไรจะให้เขาได้อ่าน แบบนี้ก็รู้นะสิว่าเราอธิฐานขออะไรกับพระ ’
มือเล็กไล่คว้ากระดาษในมือของปลัดหนุ่ม แต่ด้วยรูปร่างที่แตกต่างทำให้กุ้งนางไล่คว้าได้แต่อากาศธาตุ เพราะธนาไม่ยอมคืนแต่กลับชูกระดาษไว้เหนือหัว
“ เอาของฉันคืนมานะ ” หญิงสาวหยุดยืนท้าวเอวเพราะเริ่มเหนื่อยมองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง
“อะไรที่เป็นของเธอ ฉันไปเอาอะไรของเธอมามิทราบ ” คนที่ได้แกล้งคนอื่นย้อนถามอย่างอารมณ์ดี
“ ยังจะมีหน้ามาถาม ไอ้กระดาษในมือแผ่นนั้นมันเป็นของฉัน ” หญิงสาวท้าวเอวแบมือข้างหนึ่งยื่นไปตรงหน้าธนา
“ กระดาษอะไร ? อ้อ! ไอ้แผ่นนี้นะเหรอที่เป็นของเธอ ขี้ตู่หรือป่าว ? เห็นๆ กันอยู่ว่าฉันเก็บได้ ” ปลัดแกล้งทำหน้ามึน
“ ที่เก็บได้เพราะฉันทำมันตกไป เพราะฉะนั้นเอาของฉันคืนมาซะดีๆ ” กุ้งนางปลดหน้าตาย ไม่อยากให้เขาอ่านเซียมซีพิลึกนั้น
“ อยากได้ก็เข้ามาเอาไปสิ อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้เจ้ากระดาษแผ่นนี้มันมีอะไรนักหนานัก เธอถึงอยากได้มันนัก ไหนขอฉันดูหน่อยซิ ” มือหนาคลี่กระดาษที่ยับยู่ยี่ออก แกล้งอ่านออกเสียงดังๆ จนกุ้งนางต้องร้องห้ามเสียงหลง