“อวบ”
“...”
“อวบจ๋า”
ชื่อเรียกอันแสนคุ้นเคยทำเอาโปรดปรานถึงกับต้องชะงักแล้วหันกลับไปมองด้านหลัง มือเรียวกำถุงสายไหมที่อยู่ในมือแน่น ง้างมันขึ้นเตรียมจะใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวอย่างเต็มที่
ก็แหงน่ะสิ คนที่เรียกเธอด้วยคำแบบนั้น ก็มีอยู่แค่คนเดียว
รอยยิ้มที่เหมือนดั่ง ‘ปีศาจร้าย’ สำหรับเธอยังคงตราตรึงประทับอยู่ในความทรงจำ โปรดปรานจ้องมองชายร่างสูงโปร่งในชุดนักเรียนกางเกงสีน้ำเงินอย่างไม่วางตา เธอจำสิรดนย์ได้เป็นอย่างดี
เรือนผมสีดำขลับที่มักจะถูกเซ็ตเป็นทรงแทบทุกครั้งที่พบเจอกันโดยไม่สนว่าคุณครูห้องปกครองจะดุด่าหรือไม่นั้นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เธอไม่เคยลืม รอยยิ้มที่ผู้คนทั่วไปไม่ได้เห็นนั้นทำให้เธอขนลุกซู่อย่างบอกไม่ถูก
หญิงสาวเบิกตากว้างทันทีเมื่อคนตรงหน้ายกนิ้วชี้ขึ้นกระดิกราวกับต้องการเรียกเธอให้เข้าไปหา แต่ด้านหลังกลับเป็นกองหนังสือ สมุด และโครงงานเล่มหนาเตอะที่กำลังขยับกรูเข้ามาจนเกิดเสียงดังสั่นสะเทือนไปหมด โปรดปรานรีบยัดถุงสายไหมเก็บใส่กระเป๋าก่อนจะโกยแนบหนีกองทัพการบ้านนั้นทันทีอย่างไม่คิดชีวิต หากแต่เสียงของสิรดนย์ก็ยังคงกระทบโสตประสาทเธอราวกับอยู่ข้าง ๆ ด้วยซ้ำ
“เธอไม่มีวันหนีฉันพ้นหรอก นางทาส”
อ๊าก! ให้ตายก็ไม่อยากกลับไปจุดนั้นแล้ว!!
ยังวิ่งได้ไม่ทันถึงไหน เงาทะมึนที่พาดมาจากด้านหลังก็ทำให้เธอใจหล่นวูบด้วยความหวาดกลัว พอหันกลับไปมองอีกครั้งก็พบว่าหนังสือคณิตศาสตร์ที่เธอรังเกียจเดียดฉันท์มันนัก เพราะเป็นคนเขียนให้แก่สิรดนย์เองทั้งเล่มก็จ่ออยู่ตรงหน้าเธอเสียแล้ว
พ่อจ๋าแม่จ๋า ขอให้หน้าหนูอย่าแหกด้วยเถอะ สาธุ!
จะกี่ปีชีวิตของโปรดปรานก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสินะ
.
.
.
เฮือก!
หญิงสาวกระเด้งตัวขึ้นนั่งบนเตียง เหงื่อเม็ดใสผุดเต็มกรอบหน้าไปหมด เธอหอบหายใจน้อย ๆ ราวกับไปวิ่งมาราธอนมาก็ไม่ปาน พอเริ่มได้สติสังเกตไปรอบกายก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเธอพบว่าที่นี่คือห้องของเธอที่กรุงเทพ ไม่ใช่ห้องของเธอสมัยมัธยมต้นที่โคราช
โปรดปรานลูบอกตนเองเบา ๆ เป็นการเรียกขวัญและสติ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาพร้อมทั้งเปิดปฏิทินเช็กตารางเวลางานแล้วจึงเริ่มต้นทำกิจวัตรประจำตัวเช่นทุก ๆ เช้า
เพิ่งจะตีห้าด้วยซ้ำ กองถ่ายนัดตั้งเจ็ดโมงแน่ะ
เธอคิดอย่างอารมณ์ดี หยิบโทรศัพท์ติดกายไปเปิดเพลงในห้องน้ำเธอล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนจะอาบน้ำอย่างมีความสุขแล้วจึงออกไปแต่งตัวในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์ที่ใส่สบายตัวหนึ่ง เมื่อจัดการเสื้อผ้าเสร็จแล้วเธอก็เลือกที่จะเดินออกไปยังโซนครัวเพื่อทำอาหารเช้าง่าย ๆ ให้ตนเองทานก่อน อย่างไรก็ตามกองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง! โปรดปรานเชื่ออย่างนี้เสมอน่ะนะ
เธอฮัมเพลงตามจังหวะเพลงชื่อดังในแอปพลิเคชั่นอย่างติ๊กต่อกด้วยความอารมณ์ดี ถึงแม้ว่าเมื่อคืนจะฝันร้ายขนาดไหนก็ตาม หากต้องการให้วันใหม่สดใสก็ต้องยิ้มแย้มเข้าไว้สิ ร่างโปร่งจัดการต้มน้ำร้อนในเครื่องต้มน้ำร้อนแล้วจึงหันมาตั้งเตา โปรดปรานตอกไข่ใส่กระทะเทฟล่อนที่เริ่มร้อนอย่างทะมัดทะแมง ใช้ตะหลิวกลับพลิกไข่ที่สุกแล้วให้เกรียมทั้งสองด้านก่อนจะตักมันใส่จานที่ว่าง แล้วจึงจัดการเอาไส้กรอกของโปรดตนเองลงไปจี่ไฟบนกระทะร้อนอีกครั้ง
พอเตรียมอาหารเช้าง่าย ๆ เสร็จเธอก็ไม่รีรอไปหยิบถ้วยกาแฟมาตักกาแฟดำใส่ลงไปแล้วกดน้ำร้อนตาม ก่อนจะเดินถือทั้งจานและแก้วกาแฟไปวางบนโต๊ะตัวเล็ก โทรศัพท์ถูกดึงกริปต่อกออกก่อนจะเปิดยูทูปดูข่าวบ้าง ดูรายการของชาแนลต่าง ๆ บ้างไปพลางอย่างไม่รีบร้อนนัก
กว่าจะทานข้าวเสร็จอะไรเสร็จก็เกือบจะหกโมงแล้ว เธอถึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าไลน์เป็นครั้งแรกของวัน พิมพ์ข้อความหาพี่ร้านอาหารที่เธอมักสั่งมาให้กองถ่ายเป็นประจำ เมื่ออีกฝ่ายถ่ายรูปข้าวกล่องวางเรียงรายพร้อมใบเสร็จดั่งเคยเธอก็หลุดยิ้มอย่างอุ่นใจ อย่างน้อยวันนี้อาหารมื้อแรกก็เป็นไปได้ด้วยดีแล้วน่ะสิ! พอวางใจได้ เธอถึงได้เดินกลับไปห้องนอนอีกครั้งเพื่อแต่งหน้า เก็บกระเป๋า แล้วเตรียมตัวไปทำงาน
อาชีพในกองถ่าย ดูแลอาหารการกินอย่างนี้หลาย ๆ คนก็มักจะคิดว่าเธอเป็นโปรดิวเซอร์บ้าง ผู้ช่วยผู้กำกับบ้าง แต่อันที่จริงแล้วโปรดปรานน่ะ ทำงานเป็นผู้จัดการกองถ่ายน่ะสิ อันที่จริงจะให้เรียกว่าคาเฟเทอเรียก็ยังได้ เพราะหลังจากจัดการเรื่องเอกสารต่าง ๆ เสร็จ หน้าที่หลัก ๆ ของเธอก็คือการดูแลเรื่องอาหารการกินของคนในกองถ่ายนี่ล่ะ
เธอน่ะได้รับการไว้วางใจให้ทำตำแหน่งนี้เป็นอย่างดี อาจด้วยความที่เป็นคนอัธยาศัยดี ชอบพูดคุย ชอบดูแลคนอื่น เธอถึงจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ของแต่ละบุคคลได้ค่อนข้างแม่นยำ (อันที่จริงก็มีลืมบ้างนั่นล่ะ เพียงแต่เธอแค่รอบคอบจดเอาไว้ตลอดเท่านั้น) ดังนั้นเรื่องอาหาร ใครแพ้อาหารอะไร คนไหนไม่ค่อยชอบทานผัก เธอจะดูแลได้เป็นอย่างดี พร้อมมีชื่อกำกับด้านบนเพื่อกันความสับสนอีกด้วย
ซึ่งตัวเธอเองค่อนข้างมีความสุขกับตำแหน่งหน้าที่นี้อยู่ไม่น้อย เธอเป็นคนชอบทาน ตระเวนไปทานอาหารอร่อย ๆ ทั่วทั้งกรุงเทพและอีกหลายจังหวัดที่เคยไปเยือน ไม่เกี่ยงแม้สักนิดว่าจะร้านเล็กหรือใหญ่ อีกทั้งยังมักจะชอบคุยกับเจ้าของร้านจนได้เบอร์โทรศัพท์ติดต่ออีก ดังนั้นไม่ว่าจะออกกองที่ไหนเธอก็จะจัดการติดต่อหาร้านอาหารที่สามารถทำข้าวกล่องรสชาติดีให้ได้เสมอเลย
อย่าเรียกว่าเธอเกิดมาเพื่อตำแหน่งนี้เลย เรียกว่าตำแหน่งนี้มีเพื่อเธอเถอะ
พอคิดอย่างมีความสุขว่าจะได้มอบรอยยิ้มหรือกำลังใจกับคนในกองถ่ายที่ทำงานหนักด้วยอาหารที่เธอเลือกสรรค์ เธอก็อารมณ์ดีขึ้นมาเสียแล้ว โปรดปรานจัดการเช็กข้าวของในกระเป๋าของตนเองให้เรียบร้อย ก่อนจะส่งข้อความไปคอนเฟิร์มกับพี่ดุจ พี่เจ้าของร้านอาหารตามสั่งร้านโปรดย่านอโศกของเธอ ก่อนจะพิมพ์ข้อความหาพี่นัท ที่เป็นโปรดิวเซอร์ของงานละครในวันนี้ว่าเธอจัดการเรื่องอาหารเรียบร้อยแล้ว รอเพียงแกร้บไปรับและเอามาส่งที่กองถ่ายเพียงเท่านั้น
เอาล่ะ การทำงานของวันนี้จะต้องสดใส และผ่านไปได้เหมือนทุกที!
โปรดปรานสู้เขา!