ย้อนไปเมื่อสมัยที่เขายังเรียนอยู่มัธยม สิรดนย์จำภาพนี้ได้ไม่เคยลืมแม้แต่น้อย
เด็กผู้หญิงผมสั้น หน้าม้าเต่อ แก้มกลม ๆ ขาวจั๊วะราวกับซาลาเปา ยืนกอดกระเป๋ามองไปรอบ ๆ ห้องอย่างไม่มั่นใจนัก จนกระทั่งหันมาสบตากับเขา
เพียงแค่วูบเดียวเท่านั้น
“สวัสดีค่ะ เราชื่อโปรดปราน นฤภูมิ เรียกโปรดก็ได้นะ มาจากโรงเรียนเพชราวุธค่ะ”
เสียงของเธอสั่นน้อย ๆ แขนสองข้างประสานเข้าหากันแน่นกว่าเดิม เมื่อทั้งห้องยังคงเงียบกริบ จนกระทั่งคุณครูที่ปรึกษาเรียกให้คนถัดไปออกมาแนะนำตัวแทนต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ไม่เป็นการเสียเวลา
วันแรกของการเปิดเทอมชั้นมัธยมปีที่หนึ่ง กับสิรดนย์ในวัย 12 ปี ที่ไม่เข้าใจเท่าไหร่ ว่าทำไมเด็กผู้หญิงตัวอวบขี้อายถึงได้ทำให้เขารู้สึกสนใจได้มากมายขนาดนี้
“เธอไปนั่งข้างคนนั้น ที่นั่งริมหน้าต่างแถวแรกน่ะ” คุณครูบอก พลางชี้ไปยังที่ข้างกายของสิรดนย์ที่สะดุ้งน้อย ๆ เมื่อถูกกล่าวถึง อีกฝ่ายเดินมาวางกระเป๋าตรงเก้าอี้ก่อนจะนั่งตัวตรงพลางถอนหายใจราวกับว่าโล่งอกเสียเหลือเกินที่ไม่ต้องอยู่ข้างหน้าห้องนั่น
“เธอก็ออกมาแนะนำตัวต่อ แล้วเรียงไปเรื่อย ๆ แล้วกัน” คุณครูว่า เมื่อมองไปรอบ ๆ แล้วไม่มีเด็กคนไหนที่ไม่กล้าหาที่นั่งด้วยตนเองเหมือนกับโปรดปรานอีก สิรดนย์พยักหน้ารับก่อนจะเดินไปยังหน้าห้องด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเฉกเช่นทุกครั้ง
อันที่จริง เขาไม่ใช่คนช่างพูดนักหรอก แต่ก็ไม่ใช่คนขี้อายสักเท่าไหร่
“สิรดนย์ อัศวธาดาครับ ชื่อเล่นดนย์” เขาแนะนำตัวสั้น ๆ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิม โปรดปรานยังคงไม่หันมามองหน้าเขาสักนิด
อะไรกัน เขาและเธอต้องนั่งข้างกันไปตลอดทั้งเทอมนะ ไม่คิดจะหันมาทำความรู้จักกันหน่อยหรือ
“นี่โปรด”
“…”
“โปรด”
“…” ยังคงเงียบ
“อวบจ๋า”
และแน่นอน ว่าได้ผลทันตาเห็น
โปรดปรานหันกลับไปมองคนข้างกายที่เรียกเธอด้วยสมญานามใหม่ที่ทำเอาเธอขนลุกอยู่ไม่น้อย อีกฝ่ายกลั้นหัวเราะเสียจนหน้าแดงไปหมดจนเธอชักอยากจะตีหมอนี่สักที แต่ก็ทำเพียงแค่มองค้อนน้อย ๆ เท่านั้น
“ว่าไงดนย์”
“ไม่มีอะไร ก็เห็นเรียกแล้วไม่หัน”
“ตั้งใจฟังเพื่อนอยู่”
“แล้วไม่ทำความรู้จักคนที่นั่งข้าง ๆ หน่อยหรือไง” สิรดนย์ว่า “นี่อวบ”
“อย่าเรียกอวบ”
“อวบเก่งวิชาไรบ้างอะ?”
“…”
“คือนิ้วเจ็บ โยโย่มันกระแทกนิ้ว” สิรดนย์ชูนิ้วชี้ที่ม่วงช้ำขึ้นมาให้เด็กหญิงข้างกายดูโดยไม่คิดจะสะทกสะท้านสักนิด “ทำการบ้านให้หน่อยดิ เดี๋ยวเลี้ยงหนมนะอวบ”
วันแรกของชีวิตมัธยมของโปรดปรานก็โดนรุกรานเสียแล้ว
โดยไอ้เจ้าปีศาจที่ชื่อว่าสิรดนย์นี่ล่ะ!
. . . . .
เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่ตั้งแต่ทำงานกองนี้มาแล้วโปรดมีความรู้สึกว่าโหยหาเวลาเลิกงานเสียเหลือเกิน
เธอถูกสิรดนย์ดึงไว้ติดกายแจโดยอ้างกับพี่นัทว่าโปรดปรานน่ะอธิบายงานแล้วเข้าใจ ขอให้เขามาอธิบายให้ผมฟังตลอดเลยได้ไหม จะได้ไม่รบกวนการทำงานของคุณนัทด้วย
และใช่ พอพี่นัทเห็นอย่างนั้น มีหรือจะปฏิเสธ? ในเมื่อเธออยากให้โปรดปรานทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยโปรดิวเซอร์มาตั้งแต่แรกแล้ว
วันนี้ทั้งวันโปรดเลยโดนโยกหน้าที่มารับตำแหน่ง ‘ผู้ดูแลลูกค้าจำเป็น’ คอยอธิบายและเล่าให้กับสิรดนย์ฟังจนปากเปียกปากแฉะ พอเธอเริ่มจะเงียบสักหน่อยก็เหมือนว่าชายหนุ่มจะหาเรื่องมาให้เธอได้พูดอยู่ร่ำไป จนเธอหิวน้ำคอแห้งไปหมด ตรงนั้นพิเศษนิดสิรดนย์ก็ถาม ตรงนั้นแปลกหน่อยสิรดนย์ก็ถาม แม้จะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ อย่างการที่คุณเนยทานน้ำจากแก้วด้วยหลอด ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะสงสัยแม้แต่น้อย
“ผมว่าหากมีแก้วแล้ว เราควรลดเรื่องการใช้หลอดด้วยนะครับ บริษัทเราค่อนข้าง concern เรื่องสิ่งแวดล้อม”
โปรดปรานน่ะ อยากจะบอกอีกฝ่ายเหลือเกิน ว่าตัวเธอก็ concern ไม่น้อยเหมือนกัน ที่ต้องมารับบทโปรดิวเซอร์จำเป็นนี่ล่ะ
พอถึงเวลาเลิกงาน เธอไม่รอที่จะให้สิรดนย์พูดอะไรแม้แต่น้อย รีบกล่าวสวัสดีแล้วบอกกับเจ้าปีศาจร่างยักษ์นั่นว่าเธอน่ะอยากไปเข้าห้องน้ำมาก ๆ ขอตัวกลับก่อน ก่อนจะรีบบอกลาคนอื่น ๆ แล้วบึ่งไปเรียกรถกลับห้องในทันที สิรดนย์เองก็ทวงทักอะไรไม่ทัน ได้แต่มองแผ่นหลังเล็ก ๆ ที่วิ่งจู๊ดออกจากกองไป
“คุณดนย์ต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมคะ? เดี๋ยวนัทจะจดแล้วเอาไปแจ้งผู้กำกับให้ค่ะ”
“อ่อ ไม่มีเลยครับคุณนัท ผมค่อนข้างโอเคกับการลำดับความสำคัญของพวกคุณนะครับ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีด้วย” สิรดนย์พูดไปตามจริง ตอนแรกเขาก็กังขาไม่น้อยเพราะไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับการถ่ายทำ เพียงแต่เจ้าเคนกับกวินมันไม่ยอมมาสักคน ก็เลยกลายเป็นเขาเสียอย่างนั้นที่ต้องมาตรวจเช็กความเรียบร้อย ถึงแม้จะค่อนข้างเต็มใจตั้งแต่เห็นรายชื่อทีมงานว่ามีคนชื่อโปรดปรานก็ตามแต่
ที่นี่จัดการงานเป็นระบบและว่องไวจนเขายังแอบทึ่ง นัทธาทำงานได้ดีมาก คุยกับผู้กำกับเรื่องการแก้ปัญหาได้ไว อีกทั้งนักแสดงก็ยังปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดีจนเขาต้องเอ่ยชมอยู่ในใจเลยล่ะ ไหนจะโปรดปรานที่ได้รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการกองแต่กลับเข้าใจในงานทั้งหมดอย่างทะลุปรุโปร่ง จนสามารถเล่าและอธิบายให้เขาฟังได้ ต้องบอกว่าที่นี่ทำงานกันอย่างมีคุณภาพจริง ๆ และสิรดนย์รู้สึกวางใจไม่น้อยเลย
“ขอบคุณค่ะคุณดนย์ หากจะมาอีกติดต่อนัทเข้ามาได้เลยนะคะ นัทจะได้เตรียมของว่างเอาไว้ให้”
“ได้ครับ ไว้ผมจะติดต่อไปนะครับ” สิรดนย์ว่า หญิงสาววัย 35 ปียิ้มรับก่อนจะโค้งหัวน้อย ๆ เป็นการขอบคุณ แล้วตั้งท่าจะเดินกลับไปจัดการดูแลเรื่องการเก็บของต่อ “เดี๋ยวก่อนครับคุณนัท ผมรบกวนคุณนัทนิดหน่อยได้ไหมครับ?”
“ได้ค่ะคุณดนย์ บอกนัทได้เลยค่ะ”
“คือผมอยากขอไลน์คุณโปรด”
“…”
“รบกวนคุณนัทด้วยนะครับ”
มัดมือชกกันอย่างนี้ มีหรือนัทธาจะปฏิเสธได้ทัน เธอมีสีหน้าเลิ่กลั่กมองซ้ายขวาทันที แต่ก็ไม่เห็นตัวช่วยใด ๆ จนสุดท้ายก็ต้องส่งคอนแทคให้กับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแล้วได้แต่ไลน์ไปขอโทษโปรดปราน
17.40 pm. Nattha: โปรด พี่ขอโทษเรื่องที่ให้ไลน์แกกับคุณดนย์ไปนะ
17.41 pm. Nattha: หากเขามีปัญหาอะไรพิเศษ บอกให้เขาทักหาพี่ได้ตลอดนะ ถ้าแกไม่สะดวกคุย พี่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงจริง ๆ เขาน่าจะคิดว่าแกเป็นผู้ช่วยพี่ว่ะ
17.42 pm. Nattha: ยังไงหาโอกาสเหมาะ ๆ ค่อยบอกเขาก็ได้ เขาดูชอบแกอยู่เหมือนกัน
17.43 pm. Nattha: sent a sticker.
ส่วนตัวโปรดเองที่ได้รับข้อความนั้นก็ได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ มองข้อความของรุ่นพี่ที่ส่งสติ๊กเกอร์มาขอโทษเธอยกใหญ่ อันที่จริงมันไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่ลูกค้าขอไลน์ติดต่อกับเธอด้วยเรื่องคอนเนคชั่น สอบถาม หรือแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวใด ๆ โปรดปรานเองก็ไม่ได้รังเกียจที่ต้องประชุมหรือคุยงานกับลูกค้า เพียงแต่บางเรื่องเธอเองก็ไม่ได้รู้ดีเท่านัทธาเท่านั้น
แต่มันต้องไม่ใช่กับนายสิรดนย์ที่เธอไม่อยากให้สิ!
ยังไงเธอก็หนีฉันไม่พ้นหรอกโปรดปราน
ประโยคที่สิรดนย์กล่าวเมื่อคืนวนเวียนในหัวของเธอจนเธอได้แต่ตบหน้าผากตนเองพลางเอนกายลงบนเบาะที่นั่งของรถอย่างหมดอาลัยตายอยาก
โอเค…ยังไงก็ไม่รอดแน่นอนว่ะโปรด
ต้องสู้สักตั้งแหละ
ติ๊ง!
ยังไม่ทันจะได้ให้กำลังใจตนเองไปมากกว่านั้น โปรดก็ต้องเบิกตากว้างอีกครั้งชนิดที่ว่าลืมความง่วงที่ประสบมาตลอดทั้งวันไปเสียสนิท
18.26 pm. Siradon added you by contact.
18.27 pm. Siradon: โปรดปราน
18.29 pm. Siradon: ไม่สิ ต้องแม่อวบจ๋า
18.30 pm. Siradon: เจอกันอีกแล้วนะ ดีใจไหมครับ?
ว๊าก เธออยากจะร้องออกมาดัง ๆ จนลืมภาพลักษณ์ไปให้หมดเลยจริง ๆ!
ซวยขนาดนี้ทำบุญเก้าวัดคงไม่พอ สงสัยเธอต้องไปทำมันให้หมดสัก 99 วัดเลยกระมังถึงจะหนีเจ้ากรรมนายเวร (ที่ออกจะหล่อไปหน่อย) อย่างสิรดนย์พ้น
คิดแล้วก็ต้องหาเวลาพักร้อนไปทำบุญแล้วล่ะ…