บท 9 อย่าท้า

1829 คำ
บท 9 อย่าท้า “หึ” ดวงตาดั่งหมาป่าตวัดหางตามองกำแก้วอย่างท้าทาย ริมฝีปากได้รูปกระตุกที่มุมหนึ่งข้าง “อย่าเด้อ ๆ อย่ามาล่อแล่กับกำแก้วเด้อ ถืกหยุมไข่ไปมื้อก่อนนี้จำบ่ได้ติ” (อย่านะ ๆ อย่ามาลองดีกับกำแก้วนะ โดนหยุมไข่ไปวันก่อนจำไม่ได้เหรอ?) “มาติ๊ล่ะ สิได้รู้ว่าแปลงเพศหรือบ่แปลง” (ก็มาสิ จะได้รู้ว่าแปลงเพศหรือไม่แปลง) ฉลามหัวเราะในลำคอเย้ยหยัน นิ้วเรียวยาวค่อย ๆ ปลดกระดุมกางเกงตัวเองออก “เว้าเล่น ๆ หึ่มมม! กำแก้วรู้แล้วน่า แค่เว้าเล่นซื่อ ๆ ดอก ขึ้นครูอีหยังผู้บ่าวทันเคยมีอยู่” (ล้อเล่น ๆ หึ่มมม! กำแก้วรู้แล้วน่า แค่พูดเล่นเฉย ๆ หรอก ขึ้นครูอะไรแฟนยังไม่เคยมีเลย) กำแก้วรีบปราบฉลามไว้ทันที เธอรู้ว่าพี่คนนี้กำลังสั่งสอนเธออยู่ ทุกครั้งที่เธอพูดจาแก่แดดทีไรเขามักจะสั่งสอนเธอให้กลัวแบบนี้ทุกที แต่ว่าเธอยี่สิบสองปีแล้วนะ ยังแก่แดดอยู่อีกเหรอ? “อย่าหัดเว้าจาแบบนั้นอีก แล้วกะห้ามชวนผู้ชายเข้าห้องสุ่มสี่สุ่มห้า” (อย่าหัดพูดจาแบบนั้นอีก แล้วก็ห้ามชวนผู้ชายเข้าห้องสุ่มสี่สุ่มห้า) เสียงทุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เห็นสีหน้าหงอยเป็นลูกหมาก็รู้แล้วว่าเด็กนี่ไม่กล้าอีก ฉลามเลยไม่ได้ดุว่าให้มากความ... “กำแก้วยี่สิบสองปีแล้วเด๊ะ ถ้าบ่รุกก่อนชาตินี้สิได้บ่ผัวน่ะ?” (กำแก้วยี่สิบสองปีแล้วนะ ถ้าไม่รุกก่อนแล้วชาตินี้จะได้ผัวไหม?) “กะแค่ผัว ถ้าชาตินี้หาบ่ได้อ้ายเป็นให้กะได้” (ก็แค่ผัว ถ้าชาตินี้หาไม่ได้พี่เป็นให้ก็ได้) ดวงตาคมเข้มสบเข้าดวงตากลมใสด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ทว่ากำแก้วกลับเบ้หน้า “เหอะ! หน้าตาดีขนาดนี้เป็นหยังสิหาบ่ได้คะ อย่าลืมที่อ้ายท้ากำแก้วไว้ล่ะ งามปานนี้บ่จำเป็นต้องรุกกะได้ จั่งได้ผู้บ่าวกะแล่นหัวสักหัวคว่ำมาจีบฮอดหม่อง” (เหอะ! หน้าตาดีขนาดนี้ทำไมจะหาไม่ได้คะ อย่าลืมที่พี่ท้ากำแก้วไว้ล่ะ สวยขนาดนี้ไม่จำเป็นต้องรุกก็ได้ ยังไงผู้ชายก็วิ่งหัวซุกหัวซุนมาจีบถึงที่) กำแก้วเชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจ ระดับตัวท็อปสาวสวยอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยสี่ปีซ้อน ทำไมเธอต้องจีบผู้ชายก่อนด้วย... แต่น่าแปลก! ตลอดสี่ปีที่ผ่านมาทำไมไม่มีใครมาจีบเธอสักคน เธอสวยจนกลัวจีบไม่ติดเหรอ ทำไมไม่มีใครจีบเธอเลย? “หึ” ฉลามหัวเราะก่อนจะส่ายหน้าแล้วทิ้งตัวนอนหนุนตักกำแก้ว ขายาวเหยียดออกเต็มที่จนเลยโซฟาไป “อ้ายเมื่อยขับรถ ขอนอนก่อน” (พี่เหนื่อยขับรถ ขอนอนก่อน) “เอ้า! อ้ายกะนอนดี ๆ ติ๊ล่ะ สิมาหมุนขากำแก้วเฮ็ดหยัง” (อ้าว พี่ก็นอนดี ๆ สิ จะมาหนุนขากำแก้วทำไม) “เงียบ ๆ” สิ้นคำสั่งฉลามก็ปิดตาลง ส่วนกำแก้วได้แต่นั่งเกร็งอยู่กับที่ “...” หมอนก็มี ทำไมต้องเป็นเธอ... จะเอาคืนที่เธอหลับตลอดทางเหรอ? จะเอ่ยปากปลุกฉลามก็เกรงใจ คนตัวโตผ่อนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ มือเรียวขาวค่อย ๆ ยกขึ้นก่อนจะสางกลุ่มผมนุ่มสีน้ำตาลราวกับกล่อมเขาไปในตัว ใบหน้าหล่อเหลาหลับพริ้มเข้าสู้ห้วงแห่งความฝัน คิ้วดกดำเชิดขึ้นทำให้เขาดูดุดัน น่าเกรงขาม จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากได้รูปยิ่งเพิ่มให้เขาคมเข้ม กำแก้วมองใบหน้าหล่อ ๆ นี้ก็รู้สึกหมั่นไส้ คนอะไรเกิดมาต้นทุนสูงเกิน ฐานะดี หน้าตาดี แต่ดันทำตัวเสเพล ดวงตาคู่สวยพลันเหลือบเห็นแก้วใส่ปากกาวางอยู่บนโต๊ะกลางโซฟา กำแก้วออกแรงใช้นิ้วเท้าคีบปากกาเมจิกขึ้นมา รอยยิ้มร้ายผุดบนใบหน้า หลังจากใช้ความสามารถคีบปากกาเมจิกด้วยเท้าขึ้นมาได้ กำแก้วไม่รอช้าเปิดฝาออกก่อนจะละเลงวาดงานศิลป์ชั้นยอดลงบนใบหน้าหล่อเหลา “หึ ๆ” เอียงคอมองซ้ายมองขวาจากนั้นก็พยักหน้าด้วยความพอใจ เสร็จสิ้นภารกิจกำแก้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมฆ่าเวลา ฉลามนอนเต็มตื่นก็ค่อย ๆ เปิดเปลือกตา ดวงตาคมกริบคู่นั้นเจือปนด้วยรอยแดงเล็กน้อย กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของเด็กนรกคนนี้ทำให้เขาหลับสบายจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่านอนไปนานแค่ไหน “อ๊ะ!” ทันทีที่ฉลามลุกขึ้นความชาเล่นงานขาของกำแก้วทันที ใบหน้าสวยนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ “เหน็บ?” “กะสิแม่นตั๊วะ อ้ายนอนทับเป็นชั่วโมง” (ก็แหงล่ะ พี่นอนทับเป็นชั่วโมง) กำแก้วชักสีหน้าตวัดสายตาไปตำหนิและตอนนั้นเองที่เห็นรอยศิลปะบนใบหน้าของฉลามอย่างชัดเจน ใบหน้าสวยจากที่เคยบึ้งตึงก็เบือนหน้าหนีทันที กำแก้วกลั้นขำจนไหลสั่นพลอยทำให้ฉลามเข้าใจผิดว่าเธอร้องไห้ “ซ่ำนี่กะไห้บ่?” (แค่นี้ก็ร้องเหรอ?) เห็นยัยเด็กนรกร้องไห้ฉลามใจอ่อนยวบ คนอะไรขี้แยกว่าไอ้ฮักอีก มือหนาดึงร่างเล็กมาเข้าอ้อมกอดแล้วตบหลังเบา ๆ นั่นยิ่งทำให้กำแก้วขำหนักกว่าเดิม ขำจนน้ำตาเล็ด เธอจึงกลบเกลื่อนด้วยการแกล้งร้องไห้ออกเสียง “ฮืออออ~” “โอ๋ ๆ อ้ายขอโทษ อ้ายหลับเพลิน” (โอ๋ ๆ พี่ขอโทษ พี่หลับเพลิน) โทนเสียงนุ่มลึกปลอบประโลมเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน แม้จะแอบแข็งกระด้างอยู่บ้างแต่ทุกการกระทำของคนตัวโตกลับแผ่กระจายความอบอุ่นเข้ามาถึงหัวใจ... “ฮึก!” กำแก้วเองก็เริ่มรู้สึกผิดที่โกหก นาน ๆ จะเห็นฉลามในมุมอบอุ่นแบบนี้ เธอจำได้ว่าพี่ฉลามเคยโอ๋เธอตอนสอนขับมอเตอร์แล้วเธอพลาดบิดคันเร่งลงทุ่งนา ทั้งที่เขาเจ็บจนได้แผลแต่พี่ฉลามกลับโอ๋เธอไม่ให้ร้องไห้ หลังจากเขาทำแผลเสร็จยังมาสอนเธอใหม่อีกต่างหาก “อื้อ บ่เป็นหยังแล้ว” (อื้อ ไม่เป็นอะไรแล้ว) กำแก้วรีบผละคนตัวสูงออกแล้วปาดน้ำตาที่ได้มาจากการหัวเราะ “มาอ้ายเบิ่งให้” (มาพี่ดูให้) ฉลามรู้สึกผิดจนต้องยกเรียวขาสวยของกำแก้วขึ้นมาวางบนตัก ใบหน้าดุดันอ่อนโยนขึ้นถึงครึ่งส่วน เพียงแต่กำแก้วมองไม่เห็นมัน... “อ้ายสิเฮ็ดหยัง?” (พี่จะทำอะไร?) “อยู่ซื่อ ๆ สินวดให้” (อยู่เฉย ๆ จะนวดให้) “หา?” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง ไอ้พี่คนนี้กินอะไรผิดมารึเปล่า หรือว่าลืมเขย่ายาก่อนกิน? ขณะกำลังแปลกใจมือหนาสากก็ค่อย ๆ นวดคลึงให้กำแก้วอย่างตั้งใจ ความรู้สึกอุ่นสากบริเวณหน้าขามันทำให้เธอคันยุบยิบในใจอย่างบอกไม่ถูก จู่ ๆ ก็รู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะ... “อึก” ฉลามกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากเย็น ยัยเด็กนี่เล่นใส่ขาสั้นพอนั่งก็ยิ่งสั้นกว่าเดิม แล้วไอ้ผิวเนียน ๆ นุ่ม ๆ นี่อะไร ยิ่งนวดก็ยิ่งอยากนวดขึ้นเรื่อย ๆ ทำไมลูบเพลินมือแบบนี้นะ... ฉลามหลับตาพริ้มจินตนาการ… ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูเรียกสติ ทั้งคู่หันไปที่ประตูอย่างพร้อมเพรียงด้วยสีหน้าต่างกันออกไป กำแก้วรู้สึกโล่งใจแต่ฉลามกลับถูกขัดใจจนหงุดหงิด “อ้ายหลามไปเปิดให้แหน่ ขากำแก้วยังบ่เซาเจ็บเลย” (พี่หลามไปเปิดให้หน่อย ขากำแก้วยังไปหายเจ็บเลย) ฉลามพยักหน้ารับก่อนจะรับหน้าที่ไปเปิดประตู “มึงมาทำไม?” ทันทีที่เจอหน้าแขกผู้มาใหม่ฉลามก็ชักสีหน้าบอกบุญไม่รับทันที ซึ่งบุคคลตรงหน้าเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือไอ้อาจารย์ภูมิ “กูก็มากินข้าวตามคำเชิญของกำแก้วน่ะสิ ว่าแต่มึงเหอะ ทำไมยังไม่กลับอีก?” ยิ่งได้เห็นสีหน้ามืดดำของเพื่อน ภูมิก็ยิ่งอยากกระตุ้นให้ฉลามได้รู้ใจตัวเองเร็ว ๆ ปากดีไปเถอะจะปั่นประสาทให้หนัก! “ไม่มีอะไรให้มึงกินหรอก กูจะกลับตอนไหนก็ได้ไหม? เสือกไรด้วย” “หึ! มึงเป็นอะไรกับน้องเขา ถึงมาอยู่ห้องเขานานขนาดนี้” “เป็น...” ฉลามแน่นิ่งไปชั่วครู่ นั่นสิเขาเป็นอะไร “ก็เป็นพี่ไง” “ว๊ายยย แค่พี่ว่ะ งั้นกูจีบ ‘น้องมึง’ นะ” ใบหน้าหล่อสะอาดยักคิ้วยียวน ฉลามเห็นดังนั้นออกแรงดันประตูปิดใส่หน้าภูมิทันทีก่อนจะกดล็อก... “ไผอ่ะอ้ายหลาม?” (ใครอ่ะพี่หลาม?) กำแก้วกำลังคลึงขาบริเวณที่ชาหันไปถาม ปกติเธอไม่มีใครมาหาอยู่แล้วนอกจากยัยตูนเพื่อนสนิทที่นาน ๆ จะมาหาทีหนึ่ง “ผีบ้าเคาะผิด” (คนบ้าเคาะผิด) เสียงทุ้มตอบเสียงแข็ง “คนบ้า?” คนบ้าที่ไหนจะขึ้นคอนโดมาได้ถ้าไม่มีคีย์การ์ด ยังไม่ทันจะถามเสียงเคาะประตูห้องก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ก๊อก ก๊อก ก๊อก! “ไปผุดไปเกิดที่ไหนก็ไปเถอะ อย่าตามมาหลอกมาหลอนคนดี ๆ แบบกูเลย” ฉลามเปิดประตูออกไปแล้วพล่ามยาว กำแก้วได้ยินก็เริ่มระแวงจึงพยายามยืดคอไปมองแต่ไม่เห็นอะไร “มึงแช่งกูเลยเหรอไอ้นี่!” ภูมิเอนตัวพิงกำแพงด้วยสีหน้าทะเล้น เห็นภาพศิลปะบนหน้าผากเพื่อนรักก็กลั้นขำ ตั้งแต่เจอทั้งคู่ กำแก้วนับว่าเป็นคู่สร้างคู่สมกับฉลามจริง ๆ ทันกันทุกเหลี่ยม ไล่ทันทุกดอก “มึงไปไกล ๆ เลย กลับห้องมึงไป” ใบหน้าคมเข้มมองตาขวางเล่นเอาภูมิแอบหวั่นใจจริง ๆ ว่าฉลามจะปล่อยหมัดใส่หน้าเขาเพียงเพราะหึง น้องสาว ที่มหาวิทยาลัยเขาต่างรู้กันทั่วว่ากำแก้วสาวสวยท็อปหนึ่งเป็นสมบัติของใคร แล้วจะผู้ชายที่ไหนกล้าหาญไปจีบ ในเมื่อฉลามมันเล่นเป็นเงาดำทะมึนคอยตาขวางผู้ชายทุกตัวที่เฉียดเข้าใกล้กำแก้วขนาดนั้น ภูมิส่ายหน้าระอาก่อนจะยกธงขาวยอมแพ้ในที่สุด แต่ก็ไม่วายทิ้งระเบิดไว้ให้คนขี้หวง โกรธจนหน้าสั่นเสียหน่อย “เออ ๆ กูกลับก็ได้ ไว้มึงไม่อยู่กูค่อยมาหา ‘น้องสาว’ มึงแล้วกัน” สิ้นเสียงเขาก็เดินจากไปพร้อมกับรอยโค้งที่มุมปาก ส่วนคนโดนปั่นหน้านิ่วคิ้วขมวด “ไอ้!!!” ฉลามกัดฟันกรอด...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม