บท 1 เด็กนรก

1337 คำ
บท 1 เด็กนรก กำแก้วกัดฟันด้วยความแค้น เงยหน้ามองคนที่เอาแต่กุมท้องขำเธออย่างไม่รู้สำนึก และนั่นมันยิ่งทำให้เธอโมโห เสื้อสีขาวสะอาดที่ใส่มาเปื้อนไปด้วยโคลนตม กำแก้วอาศัยจังหวะฉลามเผลอกำโคลนมาเต็มมือแล้ววิ่งขึ้นจากทุ่งนาขึ้นไปบนถนนก่อนจะกระโดดกอดคอฉลามเอาไว้ เรียวขาสวยเลอะโคลนพันรอบเอวสอบแน่นหนึบ “เด็กนรก ลงไป!” ฉลามพยายามดันหน้ากำแก้วออกแต่ไม่เป็นผลเมื่อยัยเด็กนี่เกาะเขาแน่นราวกับปลาหมึก “บ่ลง!” (ไม่ลง!) กำแก้วกอดคอฉลามแน่นก่อนจะนำโคลนที่แอบกำมาจากทุ่งนาป้ายไปบนใบหน้าหล่อ ๆ นั่น ริมฝีปากสวยคว่ำใส่ด้วยความสะใจ สมน้ำหน้า! “หืมมมม เอาแท้ติ?” (หืมมมม เอาจริงเหรอ?) เห็นกำแก้วไม่ยอมปล่อย ฉลามก็ช้อนคนตัวเล็กเบาหวิวเดินตรงไปยังจักรยานของตัวเอง ตาข้างหนึ่งของเขาถูกบดบังด้วยโคลนหนา ต้องอาศัยตาด้านซ้ายในการมองไปข้างหน้า ยัยเด็กแสบคนนี้กับเขา เรียกได้ว่าเป็นคู่ปรับกันมาตั้งแต่เด็ก เห็นเมื่อก่อนตัวอ้วนกลมเลยอยากแกล้ง ใครจะรู้ว่าปัจจุบันยัยเด็กนี่รับตำแหน่งนางขี้ฟ้อง คอยฟ้องแม่เขาอยู่ตลอดทุกครั้งที่มีเรื่องชกต่อยที่มหาวิทยาลัย อยู่บ้านใกล้คุณตาของเขาไม่พอ ยัยเด็กนี่ยังไปเรียนที่มหาลัยเดียวกันกับเขาอีก! นอกจากปลานิลน้องสาวของเขา ที่เรียกได้ว่าเป็นเด็กนรก ก็มีกำแก้วนี่แหละที่เป็นนรกสาขาสอง วันนี้ยัยเด็กเวรนี่ต้องไม่ตายดี กล้าดีมาทำให้กางเกงสุดที่รักแปดปีไม่ซักของเขาเปื้อนขี้ควาย แค้นนี้ต้องชำระ! กำแก้วมองเห็นของขี้ควายที่อยู่ไม่ไกลก็รู้ความคิดฉลาดทันที “อ้ายหลาม ปล่อยกำแก้วลงเลยนะ” (พี่หลาม ปล่อยกำแก้วลงเลยนะ) “หวั่งได๋นี่คือว่าบ่ลง?” (เมื่อกี้ทำไมบอกว่าไม่ลง?) คิ้วเข้มเลิกขึ้น ใบหน้าคมเข้มยกยิ้มมุมปากด้วยสีหน้ายียวน รู้ชะตากรรมตัวเองสินะ หึ ๆ “ยะ…อยากลงแล้ว” กำแก้วมองกองขี้ควายด้วยสีหน้าหวาดระแวง เฮ้ พี่ฉลามจะกล้าจุ่มเธอลงกองขี้ควายจริงเหรอ? แหมะ!! พูดไม่ขาดคำ ฉลามก็ย่อตัวลงแล้วกดใบหน้าสวย ๆ ระดับดาวมหา’ลัยของกำแก้วจุ่มลงไปยังกองขี้ควายอย่างไม่ลังเล ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ จะกรีดร้องก็ไม่กล้า จะตะโกนด่าก็กลัวขี้ควายกระเด็นเข้าปาก ด้วยความว่องไวจากการสู้รบกับพี่ฉลามคนนี้บ่อย มือเรียวขาวคว้าขี้ควายละเลงบนหัวสีดำขลับของฉลามก่อนจะป้ายลงมาเห็นหน้าหล่อ ๆ ของเขาอีกข้างที่ไม่โดนโคลนจากทุ่งนาปิดเอาไว้ ฉลามหุบยิ้มแทบไม่ทัน กัดฟันสู้กับกำแก้วอยู่นาน ยัยเด็กนี่ไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาจริง ๆ ขี้ควายเขียวปี๋เปื้อนทั้งคู่ “เฮ้! พวกยูทำอะไรกัน?” “เกอร์?” ทั้งฉลามและกำแก้วหันหน้าขวับไปมองไทเกอร์ที่พึ่งจูงควายมาอย่างพร้อมเพรียง “มาส์กหน้าเหรอ?” ไทเกอร์ขยับหูฟังของเขาลงมาห้อยไว้ที่คอ คิ้วเข้มเลิกขึ้นมองทั้งคู่สลับไปมา ในมือของเขาถือหญ้าอ่อนคอยยื่นให้ควายที่อยู่ด้านหลังกินทีละนิด เขาไม่ได้กลับไทยหลายปีไม่ยักจะรู้ว่านวัตกรรมความงามไปถึงขั้นนี้แล้ว “อ่า~ natural beauty (ความงามแบบธรรมชาติ) สินะ?” ไทเกอร์พยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่นั่นกลับทำให้สีหน้าของฉลามมืดดำขึ้นไปอีก ส่วนกำแก้วก็ไม่ต่างกัน ไอ้พี่ไทเกอร์คนนี้ได้ข่าวว่าจบดอกเตอร์ที่อเมริกาเลยไม่ใช่เหรอ? คนกำลังตีกันบอกว่ากำลังมาส์กหน้าเนี่ยนะ สายตายังดีอยู่ไหม? “บักห่านี้เรียนหลายจนตาบอดบ้อ?” (ไอ้ห่านี่เรียนมากจนตาบอดเหรอ?) “ฮันนี่ โอ้ว ยูมีแฟนแล้วสินะฉลาม ยินดีด้วยนะเพื่อน” ไทเกอร์เบิกตากว้างไม่คิดว่ากลับมารอบนี้เพื่อนจะมีแฟนแล้ว คิดแล้วก็กุมขมับเพราะปู่ของเขาพึ่งออกคำสั่งบังคับให้รีบมีแฟนทันทีหลังเรียนจบ ให้ตายสิ! แฟนหาง่ายขนาดนั้นคงมีไปนานแล้ว “ห่านี่ บ่แม่นฮันนี่โว๊ยยย!” (ห่านี่ ไม่ใช่ฮันนี่โว๊ยยย!) ฉลามรู้สึกว่าเขาปวดหัวกับไทเกอร์มากกว่า ก็วางกำแก้วลงกับพื้นไม่สนใจจะสู้รบตบมือกับเด็กนี่อีก “อ่า~ แม่โทรตามแล้ว see you guy (แล้วเจอกันเพื่อน)” ไทเกอร์เห็นว่าแม่โทรตามอีกรอบก็เร่งฝีเท้าพาควายสีดำตัวใหญ่เดินกลับบ้านทันที ฉลามมองตามหลังเพื่อนรัก ก่อนจะหันมามองคู่กรณีที่ทำตาแป๋วหนึ่งข้าง ตาปิดด้วยขี้ควายหนึ่งข้าง “พู่ววววว~” จมูกของฉลามบานขึ้นเมื่อเขาพยายามกลั้นขำเต็มที่ “อยากหัวกะหัวโลด บ่เบิ่งสภาพเจ้าของเลยเนาะ” (อยากขำก็ขำเถอะ ไม่ดูสภาพตัวเองเลยเนอะ!) เสียงใสแขวะด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะขำออกมาเสียงดังลั่น ขี้ควายกับโคลนเต็มหน้าขนาดนั้นยังกล้าหาญขำเธอได้ มั่นเบ้า! “เหอะ!” สุดท้ายฉลามก็ต้องเปลี่ยนสีหน้า เขาลืมไปได้ยังไงว่าใบหน้าของเขามีโคลนเปื้อนด้านหนึ่งไม่พอ ยังมีขี้ควายอีกด้านหนึ่ง ขณะที่ยัยเด็กนี่ยังเปื้อนแค่ฝั่งเดียว “ฝากไว้ก่อนเถาะ!” (ฝากไว้ก่อนเถอะ!) “คือกัน!” (เช่นกัน!) กำแก้วยันตัวลุกขึ้นด้วยสภาพเปื้อนขี้ควายและโคลนไปทั้งตัว เธอจำต้องลงทุ่งนาแล้วไปล้างตัวในน้ำโคลน ซึ่งดีกว่าจะเปื้อนขี้ควายกลับบ้านแบบนี้ ส่วนฉลามก็เช่นกัน สภาพของเขาคงไม่มีหน้ากลับบ้านไปทั้งแบบนี้ มีหวังโดนแม่ด่าจนหูชาอีก “ย้อนอ้ายคนเดียวเลย คอยเบิ่งเถาะ ถ้าหน้ากำแก้วแพ้ขี้ควาย สิฟ้องน้าปลาส้มให้คัก ๆ” (เพราะพี่คนเดียวเลย คอยดูนะ ถ้าหน้ากำแก้วแพ้ขี้ควาย จะฟ้องน้าปลาส้มให้หนัก ๆ เลย) ใบหน้าสวยเบะปากด้วยความขุ่นเคือง เธอต้องใช้ใบหน้านี้ในการหาเงิน แล้วดูไอ้พี่คนนี้เล่นสิ เล่นแรงเกินไปไหม!? “หึ” ฉลามเพียงหัวเราะในลำคอขณะล้างหน้าของตัวเอง คิดว่าใบหน้าหล่อเหลาของเขามันด้านจนทนขี้วัวขี้ควายได้รึไง? ตลก! “แพ้กะดี สิได้บ่ต้องเอาหน้าไปอวดชาวบ้าน ฮกหน้าฟีดอ้าย” (แพ้ก็ดี จะได้ไม่ต้องเอาหน้าไปอวดชาวบ้าน รกหน้าฟีดพี่) “กะบล็อกติ๊สิยากหยัง?” (ก็บล็อกสิจะยากอะไร?) “บล็อกกะบ่เห็นตั๊วะ” (บล็อกก็ไม่เห็นสิ) ฉลามพึมพำโดยไม่ให้กำแก้วได้ยิน พลางล้างตัวไปแอบมองคนข้างๆ ไป “ล้างยากอีหลี!” (ล้างยากจริงๆ) ดูเหมือนว่าล้างหลายรอบแล้ว แต่ขี้ควายยังไหลลงมาติดเสื้อเธออีก กำแก้วตัดสินใจจุ่มทั้งร่างลงไปในน้ำที่ขังในทุ่งนาทันที หลังจากล้างเสร็จก็เงยหน้าไปมองค้อนใส่คนตัวสูงข้างกายที่พึ่งล้างเสร็จเช่นเดียวกัน “อึก!” สายตาคมกริบเหลือบเห็นเนินอวบอิ่มแนบลู่ไปกับเนื้อผ้าก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น หัวใจดวงโตเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ จู่ ๆ ก็รู้สึกส่วนกลางกายกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง จากการวิเคราะห์ด้วยสายตาซาลาเปาสองลูกนั้นน่าจะล้นมือเขาไปสักเล็กน้อย เฮ้ยยยย! คิดอะไรอยู่วะ? ฉลามรีบดึงสติตัวเองเบือนหน้าหนีทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม