กึ๊บ กึ๊บ กึ๊บ
เสียงฝีท้าวของม้าสองตัววิ่งตามทางมายังหมู่บ้านหมู่บ้านหนึ่ง ที่เขาสืบหาแล้วว่าเคยเห็นแปลกหน้าหน้าตาดีสองคนผ่านมาแถวนี้ไหม ซึ่งก็ได้เรื่องว่าคนหมู่บ้านไม่ไกลจากที่นี้บอกว่าเคยเห็นเศษฐีสองคน คนหนึ่งเป็นหญิงหน้าตาดี แต่อีกคนเป็นผู็ชายตอนแรกขุนเดชกำลังจะถอดใจแต่ว่าอยู่ๆเขามีรางสังหรว่าสองคนที่ชาวบ้านกำลังพูดถึงอยู่นี้เป็นแม่กลอยกับชื่นบ่าวของนาง ด้วยความสงสัยขุนเดชก็ต้องตามมาดูให้กระจ่างถ้าไม่อย่างวนั้นขุนเดชก็ไม่รู้จะนอนหลับได้เยื่องใด
" ท่านขุนขอรับ ท่านขุนมาที่นี้ด้วยเหตุอันใดทำไมท่านขุนไม่ไปที่หมู่บ้านเขาจะวาปีละขอรับ หมู่บ้านนี้ชาวบ้านปาดี ก็บอกแล้วว่้ามีแค่ผู้ชายกับผู้หญิงที่เป็นคนแปลกหน้า มิใช่รึขอรับ" ด้วยควมซื่อของไอ้มั้นเลยไม่รู้ว่าเจ้านายของมันกำลังคิดอันใดอยู่ ขุนเดชไม่พูดอะไรนอกจากหันมายิ้มให้บ่าวแล้วก็ควบม้าออกไปหาที่พักในหมู่
บ้านพักรายวัน
สมัยอยุทธยาไม่ได้มีหรอกนะคะบ้านพักรายวันอะไรเนี่ย แต่ด้วยความที่เป็นนิยายไรท์ก็เลยแต่งให้มีอรรถรส เท่านั้นเองคะ ผิดพลาดประการใดต้องกราบของอภัยด้วยนะคะ ขอบคุณคะ
" พี่ชื่นพาแขกไปที่ห้อง 109จ๊ะ นี้ที่ไข" กลอยเอาความสามารถที่๋ดลกของเธอเอามาสร้างรายได้ให้เกิดประโยชน์ เพราะเงินและทองที่เธอหามาได้ด้วยวนำพักน้ำแรงมันทำให้ชื่นกับกลอยอยู่ได้อย่างสบาย สบายเลยละดดยที่พักรายวันของเธอมีอาหารเช้าให้โดยค่าเช่านั้นก็แสนจะเป็นมิตร แค่คืนละ 10ตำลึงเท่านั้น และนี้ก็เป็นธุรกิจที่ทำรายได้ให้กลอยกับชื่นเป็นกอบเป็นกำ ถึงแม้ว่าเจ้าเมืองที่นี้จะไม่เห็นด้วยแต่ด้วยความที่เธอฉลาดและก็มีคอรัปชั่นเข้ามาเกี่ยวเลยทำให้เธอสามารถ ทำต่อไปได้อย่างที่ไม่มีใครขัดขา ไหนเธอจะหารายได้ให้กับแม่บ้านที่สามีตายอีก โดยการเปิดสปานวดผ่อนคลาย นวดก้เส้น โดยมีค่าแรงให้วันละ1สลึ่ง ทำให้แม่บ้านสามีตายในสงครามมีงานทำโดยที่ไม่ต้องไปพึ่งผู้ชายเลย ด้วยความที่เธอเป็นคนดีและก็หัวสมัยใหม่ทำให้ความโดงดังของกลอยแม่ม่ายผัวตายอย่างเธอกับชื่นเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากจนมีผู้ชายมากหน้าหลายตามาตามจีบเธฮเป็นแถวแทบทุกวัน
" นี่แหละขอรับท่านขุน บ้านะพักที่ชาวบ้านบอกว่ามีชื่อเสียงมาก ข้าว่าเราพักที่นี้เถอะนะขอรับ" มั้นที่ไปตามหาที่พักให้เจ้านายจนมาได้รู้ว่ามีบ้านพักของแม่ม่ายสามีตายที่กำลังเป้นที่โด่งดังและเป็นที่นิยมในตอนนี้ในหมู่ชายหนุ่มที่โสดและไม่โสดต่างก็พูดถึงบ้านพักรายวันแห่งนี้อย่างหนาหู แต่ก็ไม่มีแม่หญิงคนใดหึงหรือว่าหวงสามีของตนเองเลย แถมยังพูดปกป้งอบ้านผ่าสุขเรือนแห่งนี้อีกด้วย
" อื้ม นำข้าไปเถอะ " ขุนเดชที่เดินทางมาไกลและก็หลายวันทั้งเหนื่อยและอยากพักมาก ก็เลยไม่มีเวลาคิดอีกต่อไปแล้วว่าที่นี้ใครเป็นเจ้าของแล้วราคาที่พักเท่าใด นอกจากคำว่าเหนื่อยและก็หิวเท่านั้น
" นี่จ๊ะพี่จ๋า ค่าแรงของวันนี้ขอบคุณมากๆเลยนะจ๊ะที่มาช่วยข้ากลับพี่สาวตั้งแต่เปิดร้าน " กลอยเธอเอาอัตให้กับแม่บ้านที่ทำความสะอาดแบบนี้ทุกวันหลังจากที่เธอทำความสะอาดบังกะดลแต่ละหลังเสร็จ ระหว่างที่เธอกำลังจ่ายอัดให้กับคนงานอยู่นั้น ขุนเดชและมั้นก็เปิดประตูเข้ามา
กรุ๊งกริ๊ง
เสียงกระดิ่งที่หน้เาประตูถูกเปิดออกทำให้ทุกคนที่กำลังยืนรอรับอัดอยู่ถึงกับหันไปมองรวมทั้งกลอยและชื่นที่นั่งอยู่หน้าเคาเตอร์อยู่ แต่ทั้งคู่ก็ต้องตกใจเพราะคนที่เข้ามาใหม่เป็นคนที่เธอสองคนต่างหนีหน้ามานานเกือบเดืนอแล้ว ขุนเดชที่เห็นเมียที่เขาตามหามานานถึงกับอดตกตะลึงกับความแปลกตาของนางเป็นอย่างมาก นางแต่งตัวเหมือนไม่ใช่หญิงสาวชาวอยุทธยา นางเอาผ้าโผกหัวปล่อยผมยาวสลวยไปจนถึงเอวคลอด เสื้อที่นางใส่ ก็เป็นเสื้อคอกระเช่าตัวน้อยครึ่งตัวแต่มีเสื้อนอกแขนยาวทับเอาไว้ สวนจงกระเบนขุนเดชยังไม่เห็นเพราะเธอนั่งหน้าขาวปากอมชมพูอย่างกับนางฟ้า เมื่อชื่นเห็นแบบนั้นนางถึงกับตกใจหน้าเสีย แต่เป็นกลอยที่ดึงแขนของชื่นไว้ไม่ให้เธอกลัวเพราะทั้งคู่สัญญากันแล้วว่าจะไม่ทิ้งกัน และอีกอย่างที่ผู้หญิงไม่หึงสามีและก็ออกมาปกป้องบ้านบุพผาของเธอนั้น เป็นเพราะมันมีสตอร์รี่มาว่า ไม่ว่าชายใดแตะต้องคนของบุพผ่า หรือว่าเจ้าของบุพผ่ามันผู้นั้นต้องตาย และก็เป็นจริงเมื่ออยู่ๆมีคนต่างเมืองคิดจะมาข่มเหงหมอนวดอายุ19ปีที่สามีหย่าขาดจากนาง กลอยเลยได้รับนางมาทำงานด้วย ด้วยความที่หญิงสาวหน้าตาดีเลยทำให้ถูกชายคนนั้นลวนลาม แต่ไม่นานอยู่ๆก็มีคนมาพบศพของชายคนนั้นเข้าที่ข้างแม่น้ำกลางป่า โดยสภาพศพเหมือนโดนอะไรดูดเลือดที่คอเป็นรอยฟัน และนั้นก็คือสตอร์รี่ และเรื่องเล่าขานกันมา ถ้ามันผู้ใดำไม่อยากตายก็อย่าได้มาแตะต้องผู้หญิงที่หอบุพผ่า