ตอนที่1 หมอบิวตี้
นิยาย เรื่อง #หมอคนสวยของนายมาเฟีย by adtree
----Ep01----หมอบิวตี้
(&คือการสนทนาภาษาอังกฤษ)
ตี๊ด...ตี๊ด เสียงเครื่องช่วยหายใจดังถี่ๆ ไปทั้งห้องฉุกเฉิน
หมอเจวา : &หมอครีมช่วยปั๊มหัวใจทำ CPRด่วน//หมอผู้ดูแลพวกเราสั่งขึ้นด้วยเสียงเร่งเร้าและตื่นเต้น
หมอครีม : &ค่ะหมอเจวา//หมอครีมรีบทำการปั๊มหัวใจให้คนไข้ทันที เอามือประสานกันกดที่หน้าอกของคนไข้เป็นจังหวะ อึบ!! อึบ!!
หมอเจวา : &คนไข้มีภาวะหายใจไม่ออก เนื่ิองจากมีเลือดคลั่งในปอด หมอบิวตี้ทำการเจาะเลือดออกมาเดี๋ยวนี้//หมอเจวาหัวหน้าผู้ดูแลหันมาสั่งเรา
เรา : &ค่ะๆ //เราตอบด้วยเสียงเบื่อหน่าย เอื้อมมือช้าๆ หยิบเข็มปลายแหลมยาวเท่านิ้วชี้ที่เชื่อมต่อกับถุงใส่ของเหลวขึ้นมา
หมอเจวา : &ใช้เข็มทิ่มไประหว่างซี่โครงที่6กับ7//หมอเจดาพูดขึ้นเสียงดัง เราเอาอีกมือซ้ายจับซี่โครงด้านซ้ายของคนไช้ เอามือคลำซี่โครงที่ระหว่าง6กับ7ตามที่หมอเจวาสั่ง
หมอเจวา : &แทงไปตัวนั้นเร็วๆ ซิ๊ ชีพจรการเต้นของคนไข้ลดต่ำลงแล้ว//เสียงหมอเจวาตื่นเต้นมาก เราหันไปมอง หน้าผากหมอเต็มไปด้วยเหงื่อ
เรา : &ก็เร็วอยู่นี่ไงค่ะ//จริงๆ เราก็ทำแบบเอื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไร
หมอเจวา : &ช้าแบบนั้นคนไข้เสียชีวิตกันพอดี หมอครีมไปทำแทน ให้หมอบิวตี้มาปั๊มหัวใจแทน
หมอครีม : &ค่ะ//เราส่งเข็มให้หมอครีมทันที แล้วยืนดูสถานการณ์ต่อ
หมอเจวา : &หมอบิวตี้ปั๊มหัวใจต่อซิ//หมอเจวาหันมาดุเรา แต่เรายืนเฉยๆ ยกไหล่ทั้ง2ข้างขึ้น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หน้าหมอเจวาไม่พอใจอย่างมาก
หมอครีม : &เจอบริเวณที่ต้องการแล้วค่ะ//หมอครีมใช้เข็มในมือทิ่มเข้าไประหว่างซี่โครง6กับ7ทันที ฟี๊ด~~ลมถูกปล่อยเข้าไปในถุงบรรจุของเหลวทันที ตี๊ด..ตี๊ด เสียงเครื่องช่วยหายใจดังเป็นปกติ
หมอเจวา : &คนไข้หายใจได้อีกครั้ง เพราะหมอครีม//แปะ!! แปะ!! เสียงตบมือดังไปทั่วห้องฉุกเฉิน
หมอครีม : &ขอบคุณค่ะๆ //หมอครีมยิ้มออกมาอย่างดีใจ โค้งคำนับให้ทุกคน
หมอเจวา : &หมอครีมผ่านการทดสอบนี้ ได้คะแนนสูงสุดในคลาสนี้ ส่วนหมอบิวตี้ไม่ผ่าน//หมอเจวาพูดขึ้น
เรา : &อะไร ทำไมฉันไม่ผ่าน//เราจ้องหน้าหมอเจวา
หมอเจวา : &ข้อ1.คุณไม่กระตือรือร้นช่วยคนไข้
เรา : &คนไข้ซะที่ไหนล่ะ นี่มันหุ่น//เราเถียงออกไปทันที ชี้ไปที่หุ่นจำลองที่นอนอยู่บนเตียง ใช่เพราะเหตุการณ์ทั้งหมดคือการทดสอบของนักศึกษาแพทย์ ไม่มีคนไข้จริงๆ หรอก แค่หุ่นยางรูปคนที่นอนอยู่
หมอเจวา : &ข้อ2.ไม่ทำตามคำพูดของหมอใหญ่ ไม่ทำCPRกับคนไข้ตามที่ผมสั่ง
เรา : &จะทำได้ไงล่ะหมอ ก็คนไข้มีเลือดเต็มปอดแบบนั้น หายใจไม่ออกตามที่หมอบอก ปั๊มหัวใจไปคนไข้ตายอย่างเดียวเลยนะ//แซ่ด~แซ่ด~เสียงฮือฮาดังขึ้นทันที เพราะสิ่งที่เราพูดเป็นความจริง หมอเจวาหันไปมองรอบๆ ทุกคนเงียบทันที
หมอเจวา : &ชิ๊!! นี่เป็นการทดสอบ หมอสั่งให้ทำอะไรคุณก็ต้องทำ
เรา : &ไม่มีความสมเหตุสมผลแบบนั้น ฉันไม่ทำหรอกค่ะ//เรายืนกอดอกหันหน้าไปทางอื่น
หมอเจวา : &นี่!! //หมอเถียงเราไม่ออก เลยเปลี่ยนไปตะคอกเสียงดังข่มแทน แต่คนอย่างบิวตี้ไม่กลัวหรอก
หมอครีม : &หมอเจวาค่ะ ฉันขอโทษแทนหมอบิวตี้ด้วย ยังมีเพื่อนหมออีกหลายคนรอซ้อมอยู่นะคะ//หมอครีมกวาดสายตามองนักศึกษาแพทย์คนอื่นที่ยืนอยู่ด้านหลัง
หมอเจวา : &ก็ได้ๆ ผมจะหักคะแนนหมอบิวตี้แทน
เรา : &ตามสบายค่ะ//เราเดินกระแทกเท้าออกมาจากห้องฉุกเฉินทันที
หมอครีม : บิวตี้รอด้วยๆ //หมอครีมพูดตะโกนเป็นภาษาไทย รีบเดินตามหลังเรามา
หมอครีม : ทำไมบิวตี้ไม่ทำตามที่หมอเจวาสั่งล่ะ//เราหยุดเดินหันหน้าไปหาหมอครีมทันที
เรา : จะทำตามได้ไง สมองแบบนั้นเป็นอาจารย์หมอได้ไงวะ ถ้าเป็นคนไข้จริงๆ ป่านนี้ตายเพราะไอ้หมอเจวาไปแล้ว//เราพูดด้วยความหงุดหงิด
หมอครีม : มันก็จริง แต่ถ้าโดนหักคะแนนแบบนั้นไม่ดีเลยนะ
เรา : จะสนทำไม อีก3เดือนก็เรียนจบแล้ว ฉันไม่ทำงานที่นี่ต่อหรอก
หมอครีม : ตัดสินใจจะกลับไทยจริงๆ ซินะ
เรา : แน่นอน ฉันกลับห้องก่อนดีกว่า เมื่อคืนเข้าเวรแถมวันนี้ยังจะเหนื่อยทั้งวันขอโดดช่วงบ่ายดีกว่า//เราเอามือทุบไหล่ตัวเอง เพราะเมื่อยตัวเมื่อยไหล่ไปหมด
หมอครีม : ก็ได้ๆ //จากนั้นเราเดินไปเปลี่ยนชุด ถอดเสื้อกาวน์ เปลี่ยนเป็นใส่เสื้อยีนส์แทน สะพายกระเป๋าคู่ใจ แล้วออกจากรพ.ทันที
สวัสดี เราชื่อบิวตี้ ตอนนี้อายุ25ปี อีก3เดือนเราก็จบป.ตรีแพทย์แล้ว ตอนนี้เรียนอยู่ที่เมกา บอกเลยว่าเรียนหนักมาก เพราะมหาลัยนี้มีรพ.ในตัว นักศึกษาแพทย์ต้องเข้าเวรและเข้ามาศึกษาอาการจริงๆ ของคนไข้ตั้งแต่ปี1 ทำทุกอย่างเหมือนแพทย์ชำนาญการ 7ปีมานี่เราเลยแทบไม่มีเวลาส่วนตัว ไหนจะเรียน ไหนจะต้องเข้าเวร เหนื่อยจริงๆ ช่วงแรกๆ ที่มาก็ท้อเหมือนกันนะไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ แต่เราต้องอดทนเพราะความใฝ่ฝันของเราคือการเป็นหมอทางด้านสมอง ตอนเด็กเราอยากเป็นหมอหัวใจเหมือนม๊า แต่พอม๊าป่วยทางสมอง เราจึงตัดสินใจจะเป็นหมอชำนาญการทางด้านสมองทันที เราขอม๊ามาเรียนที่เมกาตั้งแต่ตอนปี1 ม๊าก็ยอมให้มาเรียน ตอนแรกเราคิดว่าจะต่อป.โทที่นี่เลย แต่คิดไปคิดมา ไม่ดีกว่า เพราะม๊าเคยเรียนและทำงานที่นี่จนยุ่งไม่มีเวลาให้ครอบครัว เราจะไม่เป็นแบบม๊าเด็ดขาด จึงตัดสินใจว่าจบป.ตรีแล้วจะกลับไทยไปต่อป.โทที่โน้น จะได้ไม่ห่างจากครอบครัว อยู่ห่างแค่7ปีก็เพียงพอแล้ว
นิสัยของเรา : กล้าต่อปากต่อคำ ไม่กลัวใคร ไม่ยอมให้ใครมาดูถูก (อันนี้ได้จากม๊าสโนว์) นิสัยกวนตีน ปากไว ในบางครั้งก็สุขุม (ได้จากป๊านที) มีแอบอ้อนกับครอบครัว เจอคนแปลกหน้าจะนิ่ง ไม่สนอะไร สวยน่ารัก (มั่นใจตั้งแต่เด็ก) รูปร่างผอม ขาว ตัวบางกินแต่อาหารมีประโยชน์ตามม๊า ชอบแต่งตัวแต่งหน้า รักสวยรักงาม สีผมของเราเปลี่ยนทุกๆ 4เดือน (มีแต่คนบอกว่าสงสารหนังศีรษะของเรา) เราชอบแต่งหน้าจัด ทาปากแดงทุกวัน เรื่องนี้น่าจะได้จากอาม๊าทีน่า หมอใหญ่ในรพ.ต่างพากันเอือมระอา ไม่มีความเป็นกุลสตรี ทำอาหารไม่เป็น เพราะที่บ้านรวยมีแม่บ้านทำให้ตลอด มาอยู่เมกาก็ซื้อกินเอา
เพื่อนสนิทคือ หมอครีมที่มาเรียนด้วยกันที่เมกานี่แหละ อายุเท่ากัน เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถม นิสัยหมอครีมจะเงียบ เรียบร้อย เรียนเก่ง อ่อนน้อม พูดเพาะ เอาใจใส่คนอื่นเกินไป บ้านรวยมีฐานะเพราะครอบครัวของหมอครีมเป็นหมอทั้งตระกูลแต่เป็นหมอที่รักษาส่วนพระองค์เจ้าคนนายคนโน้น ที่มหาลัยหมอครีมเป็นนักศึกษาแพทย์ที่คะแนนดีที่สุด ทุกคนต่างพากันชม ทางรพ.แทบจะจองตัวให้เป็นแพทย์ต่อ ผิดกับเราที่ทางรพ.แทบไม่สนใจรีบให้จบไปไวไวด้วยซ้ำ ก็แน่ล่ะดูทั้งภายนอกและภายในเราไม่สมกับเป็นหมอสักนิด เรื่องแฟนหรือคนรักหมอครีมไม่สนใจ ผิดกับเราที่มีแฟนมาหลายคน และที่คบอยู่ในปัจจุบันคือคนที่3 เรื่องความซิงไม่ต้องพูดถึง เสียซิงแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวตั้งแต่อายุ17กับใครนะเหรอ ไว้ค่อยเล่าให้ฟัง
วันนี้ทดสอบการช่วยชีวิตคนไข้ฉุกเฉิน เห็นๆ กันอยู่ว่าหมอครีมคะแนนนำชัวร์ ส่วนเราท้ายสุด เพราะทุนเดิมหมอพวกนั้นไม่ชอบขี้หน้าเราอยู่แล้ว และเราจะสนคะแนนทำไม ขอให้จบๆ ได้ใบประกาศฯ มาก็พอ เราจะได้กลับไทยสักที วันนี้เลิกเรียนเร็วกะจะไปเซอร์ไพร์สแฟนที่ห้องสักหน่อย แฟนของเราชื่อ คาล์ก อายุมากกว่า2ปี เป็นฝรั่งแท้ๆ ผมสีน้ำตาล หน้าตาหล่อในระดับหนึ่ง รูปร่างดี ผอมสูง ทำงานในบริษัทเอกชนเกี่ยวกับการขายอะไรสักอย่างนี่แหละ คบกับเราได้5เดือน เจอกันที่รพ.เพราะคาล์กบังเอิญช่วยคนเจ็บไว้ พวกเราจึงเจอกันในรพ. คาล์กเป็นฝ่ายมาจีบเราก่อน เราก็ตกลงเป็นแฟนทันที เราไม่ได้รักหรอก แค่รู้สึกอยากเปลี่ยนอารมณ์บ้าง ทำงานในรพ.เกือบ24ชม.มันน่าเบื่อจะตาย คาล์กเป็นคนสุภาพ พูดเพาะ เทคแคร์ทุกอย่าง พาไปดินเนอร์ร้านอาหารหรูๆ จูบกันบ่อย แต่ไม่เคยมีอะไรกันเพราะรู้ๆ กันอยู่ว่าเรามีเวลาน้อย ขนาดไปกินข้าว นั่งได้แค่ครึ่งชม.กินยังไม่ทันอิ่ม ทางรพ.ก็โทรมาตามทันที นี่แหละชีวิตนักศึกษาแพทย์
เรานั่งรถมาที่คอนโดของคาล์ก เดินขึ้นมาบนคอนโดอย่างรู้ทาง มาหยุดหน้าห้อง เราใช้กุญแจสำรองที่คาล์กให้ไว้ เปิดประตูเข้าไป ตรงทางเดินเห็นรองเท้าส้นสูงวางอยู่ อาจจะเป็นของน้องสาวคาล์กก็ได้ เพราะคาล์กเคยบอกว่ามีน้องสาวด้วย เราเดินตรงเข้ามาในห้อง ระหว่างทางเดินเห็นเสื้อผ้ากองเป็นทางยาว มีเสื้อเชิ้ตของผู้ชาย และตามด้วยเสื้อเดรสของผู้หญิง เราเริ่มหวั่นๆ ใจ เดินตรงไปที่หน้าห้องนอน ก็เห็นยกทรงกองอยู่ที่พื้นพร้อมกับแพ็ตตี้อันเซ็กซี่สีแดง ไอ้คาล์กเอาผู้หญิงมานอนด้วยแน่ เรากำลังจับลูกบิด ตั่บ!! ตั่บ!! ซี๊ดส์!! เยส!! โน้!! เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังออกมาจากในห้องนอน แอ๊ด!! เราเปิดประตูเข้าไปทันที บนเตียงเจอคาล์กกำลังเยอยู่กับชะนีฝรั่ง ตาคม ผมยาวดำ ร่างผอมผิวขาว ในท่าคร่อมหมาอย่างเมามันส์ มือนึงถือโทรศัพท์ถ่ายภาพตอนมีsex อีกมือจับสะโพกผู้หญิงคนนั้น เรายืนกำมือแน่น ก็โกรธอยู่นะที่โดนหักหลังแบบนี้ แต่ก็ไม่ถึงกับเสียใจ เพราะเราไม่รักคาล์ก และพวกเราก็ไม่ได้ผูกพันอะไรกันด้วย
เรา : &คาล์ก!! //เราเรียกคาล์กเสียงดัง คาล์กหันมามองเราด้วยความตกใจ โทรศัพท์ร่วงจากมือ คาล์กดึงท่อนเอ็นออกมาจากร่างของหล่อน ผลักตัวหล่อนกระเด็นออกไป แล้วรีบลุกมาหาเรา
คาล์ก : &บิวตี้ฟังผมก่อนนะ//คาล์กเดินมาหาเรา ในขณะที่ท่อนเอ็นกำลังตั้งโด่ เฮ้ย!! ครั้งแรกที่เห็นของคาล์ก รู้สึกว่าจะเล็กไปหน่อย เมื่อเทียบกับของคนไข้คนอื่น ฉันสลัดความคิดนั้นทิ้ง เพราะไม่ใช่เวลามาพิจารณาความเล็กใหญ่
เรา : &นอกใจฉันแบบนี้ได้ไง//เรามองหน้าคาล์ก
คาล์ก : &ผมไม่ได้ตั้งใจ//คาล์กหยุดเดิน ผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นจากเตียงในสภาพเปลือยเปล่ามาเกาะแขนคาล์กไว้อย่างไม่อาย อย่างว่าแหละฝรั่งพวกนี้ไม่อายหรอก จะเดินแก้ผ้าบนถนนยังได้เลย ดีไม่ดี2คนนี้อาจจะแอบกินลับหลังเราบ่อยก็ได้
เรา : &เราเลิกกัน//เราพูดด้วยความโกรธ สะบัดเดินออกจากห้อง
คาล์ก : &เดี๋ยวบิวตี้//คาล์กตะโกนตามหลังแต่เราไม่สนใจ เดินออกมาใกล้จะถึงประตูห้อง เพล้ง!! เราได้ยินเสียงแตกของอะไรสักอย่าง กรี๊ดดดดด!! จากนั้นก็ตามด้วยเสียงกรี๊ด เรารีบวิ่งกลับไปที่ห้องนอน ภาพตรงหน้าคือคาล์กนอนหงายชักกระตุกอยู่บนพื้น ที่ศีรษะมีเลือดไหลออกมา นอนอยู่บนกองเลือด เศษแจกันกระจายเต็มพื้น ข้างตัวคาล์ก ผู้หญิงคนนั้นยืนตัวสั่นด้วยความกลัว เราเดินไปนั่งข้างๆ คาล์กทันที
คาล์ก : กึก..กึก//คาล์กไม่ได้สติ ปิดตาปี๋ นอนชักปากสั่น เกร็งมือเท้าตัวเองไว้ ฟันกระทบกันไม่หยุด
ผู้หญิง : &ไม่..ฉันไม่ได้ตั้งใจ//ผู้หญิงคนนั้นได้แต่ยืนตัวสั่น ร้องไห้ดูมือของตัวเอง บ่นอะไรอยู่ได้น่ารำคาญ
เรา : &หุบปาก!! รีบมาจับตัวคาล์กเร็วๆ //เราตะคอกใส่หล่อน จนหล่อนเงียบทันที รีบเดินมานั่งข้างๆ อีกฝั่ง
เรา : &มาจับตัวคาล์กไว้//เราสั่งหล่อน
ผู้หญิง : &แค่ฉันไม่..
เรา : &พูดไร้สาระอยู่ได้ สั่งให้จับก็จับดิ//เราจิกตาใส่หล่อน พูดด้วยคามโมโห หล่อนยอมจับตัวคาล์กห้ามไว้เพื่อให้อยู่นิ่งๆ เราหันไปฉีกผ้าปูเตียงด้านข้าง แขวก!! เอาผ้าหนาๆ ยัดใส่ปากคาล์กเพื่อไม่ให้กัดลิ้นตัวเองในตอนชัก จากนั้นแหกเปลือกตาคาล์กขึ้นทั้ง2ข้าง รูม่านตาปิดสนิท เส้นเลือดแดงที่ตาขาวเห็นชัดทั้ง2ข้าง เราดูแผลที่หัวแตกของคาล์ก การถูกตีด้วยแจกันมีผลต่อสมอง จึงทำให้คาล์กชักแบบนี้ อาการของคาล์กแย่มาก
เรา : &ต้องส่งรพ.โดยด่วน//เรามองหน้าหล่อนคนนั้น
คาล์ก : เฮือก..เฮือก//คาล์กเริ่มมีอาการหายใจไม่ออก หยุดชักอาการแน่นิ่งไป แต่ข้อนิ้วยังหงิกงอเกร็งไปทั้งร่าง
เรา : &แย่แล้วดิ เธอรีบโทรไปรพ.supplyเดี๋ยวนี้ เรียกรถพย.มารับคาล์กโดยด่วน//เราหันไปสั่งผู้หญิงคนนั้นให้โทรไปรพ.ที่เราเรียนอยู่ เธอพยักหน้ารับลุกขึ้นออกไป เราเอามือจับที่หัวกะโหลกของคาล์ก บริเวณที่เป็นแผล เลือดหยุดไหลอย่างน่าแปลก แต่บริเวณนั้นกลับบวมใหญ่ขึ้นเหมือนลูกมะนาว แสดงว่ามีเลือดคั่งบริเวณนั่น ต้องรีบเอาเลือดตรงนั้นออกเพราะไม่งั้นจะเกิดการกดทับที่เส้นประสาทออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่ได้
เรา : จะบ้าตาย กูต้องมาช่วยชีวิตแฟนที่นอกใจกูหรอเนี่ย//เราบ่นไป มองซ้ายมองขวา หาอุปกรณ์ หันไปเห็นไฟแช็คที่วางคู่อยู่กับบุหรี่บนโต๊ะ เรารีบลุกขึ้นไปหยิบทันที หันซ้ายหันขวาอีกครั้งเพื่อหาอะไรก็ได้ที่มีขนาดเล็กยาวๆ แต่ก็ไม่เจอ ก้มลงมองที่กระเป๋าสะพายข้างของตัวเอง มันมีเหล็กอันเล็กคล้องที่สายกระเป๋าเหมือนเข็มกลัดอยู่ เราจึงถอดกระเป๋าออก ดึงเหล็กอันนั้นออกมา ง้างเหล็กให้เป็นเส้นยาว เดินไปข้างเตียง ฉีกผ้าปูสีขาวตรงปลายเตียงเป็นแนวยาว จากนั้นเดินกลับไปที่นั่งด้านหัวของคาล์ก เราจุดไฟแช็คเอาเหล็กในมือรนไฟ เหล็กกลายเป็นสีดำมีกลิ่นควันไฟ
เรา : สะอาดแล้วมั้ง//บ่นกับตัวเอง จากนั้นวางไฟแช็คลง เอามืออีกข้างช้อนหัวคาร์กขึ้นมา ใช้เหล็กในมือทิ่มลงไปที่แผลที่เป็นลูกมะนาวก้อนโต จึก!! ปลายเหล็กเข้าไปได้นิดหน่อย คาล์กสะดุ้งเล็กนัอย เราดันเหล็กในมือให้ทิ่มลึกเข้าไปอีก ฉู้ด!! เลือดตรงนั้นกระเด็นใส่ตัวเราทันที
ผู้หญิง : &ฉันเรียก...//ผู้หญิงคนนั้นเดินกลับเข้ามาในห้องพอดี เราเงยหน้ามองเธอที่ยืนทำหน้าตกใจ เธอสวมชุดคลุมตัวยาว นั่นเป็นของเราที่ลืมไว้ในห้องคาล์ก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาโกรธ เพราะชีวิตคนไข้สำคัญกว่า เลือดค่อยๆ ไหลออกมา เต็มพื้นห้อง เราสังเกตุว่าลูกมะนาวค่อยๆ เล็กลง จึงดึงเหล็กออก จากนั้นใช้ผ้าที่ฉีกมากดแผลห้ามเลือดตรงนั้นไว้แทน หน้าตาทรมานของคาล์กค่อยๆ ดีขึ้น เราวางคาร์กนอนราบกับพื้น เอามืออีกข้างจับที่ต้นคอของคาล์ก การเต้นของหัวใจดี ยังหายใจเองได้
เรา : เฮ้อ~~//เราถอนหายใจออกมา เพราะอย่างน้อยก็ปฐมพยาบาลเบื้องต้นไว้ได้
ผู้หญิง : &คาล์กไม่เป็นอะไรใช่ไหม//เธอถามด้วยเสียงเบา เราเงยหน้าไปมองเธอ
เรา : &เธอทำคาล์กทำไม//เราจิกตาใส่เธอ แล้วลุกขึ้นยืน
ผู้หญิง : &ฉัน..ฉันไม่ได้ตั้งใจ คาล์ก..คาล์กเขาจะเดินตามเธอไป ฉันห้ามไม่ฟัง ก็เลย...
เรา : &ทุบตัวเขาแบบนี้เหรอ//เราพูดแทรกขึ้น
ผู้หญิง : &ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ //หล่อนก้มหน้ามองพื้น
เรา : &นี่!! รู้ไหมว่าอันตรายขนาดไหน รู้ไหมหัวคนเราเป็นที่รวมของเส้นประสาท คิดว่าโดนนิดโดนหน่อยจะไม่เป็นอะไรเหรอ!! //เราตะคอกด้วยความโกรธ เอามืดพัดหน้าตัวเอง พยายามใจเย็นลง
ผู้หญิง : &ขอโทษ
เรา : &เออๆ ช่างเหอะ รักผู้ชายคนนี้มากก็เอาไปเลย ฉันไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว//ฉันพูดจบ ตึก!! ตึก!! เสียงฝึเท้าคนรีบวิ่งเข้ามาทันที พวกหน่วยช่วยเหลือเข้ามาในห้องนอน เป็นพนักงานหามเปล2คนและแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินประจำรถ
เรา : &ฉันปฐมพยาบาลเบื้องต้นเจาะเลือดคั่งตรงรอยแผลตรงนั้นไปให้//เราพูดกับแพทย์ที่มาด้วย
แพทย์ : &คุณคือ..//แพทย์หันมาถามเรา
เรา : &ฉันเป็นนักศึกษาแพทย์ของรพ.ค่ะ
แพทย์ : &เข้าใจแล้วครับ พวกเราจะพาคนไข้ไปส่งรพ.ทันที
เรา : &ขอบคุณค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อน
แพทย์ : &เดี่ยวครับ คนไข้โดนคุณหมอทำร้ายหรือเปล่าเรื่องนี้ทางรพ.ต้องรู้นะครับ//แพทย์หันมองเราสลับกับผู้หญิงคนนั้น
เรา : &คนที่ทำร้ายคนไข้คือคนโน้นค่ะ//เราชี้ไปที่หล่อน แพทย์หันไปมอง แต่หล่อนกลับก้มหน้าส่ายหัวปฏิเสธ
เรา : &อีนี่ มึงทำท่าทางแบบนั้นหมายความว่าไง//เราจะเดินเข้าไปหาหล่อน
แพทย์ : &ยังไงรบกวนคุณหมอตามพวกผมไปที่รพ
ด้วยครับ
เรา : &เออๆ ก็ได้//จากนั้นเราจำใจขึ้นรถพยาบาลมาด้วย ระหว่างทางก็เล่าเรื่องให้แพทย์ในรถฟัง แต่เหมือนพวกนั้นจะไม่ฟังเราสักนิด ก็แน่ล่ะเราผมดำเป็นคนเอเชียแบบนี้ มีเหรอที่พวกฝรั่งจะเชื่อในสิ่งที่เราพูด มาถึงรพ.คาล์กถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินทันที ส่วนเราถูกเรียกเข้าไปพบที่ห้องของผอ.เข้าไปในห้องอยู่กันพร้อมหน้าทั้งผอ. รองผอ. หัวหน้าวิชาการ เราเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้พวกนั้นฟัง แต่ละคนฟังอย่างหน้านิ่ง ไม่แสดงอาการอะไรออกมา
ผอ.: &คุณไม่มีหลักฐานว่าคุณไม่ได้ทำ
เรา : &ไม่มีหลักฐานว่าฉันทำคนไข้เหมือนกัน ฉันเป็นหมอนะ จะทำร้ายคนไข้ทำไม//เราพูดเถียงออกไป
รองผอ.: &ทดสอบวันนี้คุณยังไม่สนใจคนไข้ด้วยซ้ำ จะเป็นไปได้หรอที่มีจรรยาบรรณของหมอ//รองผอ.พูดสวนขึ้น เรื่องที่เราทดสอบวันนี้คงจะรู้กันทั้งรพ.แล้ว
เรา : &เรื่องทดสอบเมื่อเช้ากับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกัน อย่าเอามาปนกันซิ//เราจ้องหน้ารองผอ.เรื่องอะไรจะไปยอม มันหาข้ออ้างมาใส่ร้ายเราชัดๆ
ผอ.: วันนี้มีเข้าคลาสปฏิบัติจริงช่วงบ่าย แล้วทำไมคุณไปอยู่ข้างนอก//ผอ.พูดแทรกขึ้น งานเข้าแล้วบิวตี้
เรา : &ฉัน..ฉันก็แค่โดดเรียน//ฉันพูดออกไปเบาๆ ปั้ง!! เสียงตบโต๊ะดังขึ้นทันที ฉันเงยหน้าไปมอง ผอ.เป็นคนตบโต๊ะ
ผอ.: &ไม่ตั้งใจศึกษา ไม่มีคุณสมบัติของหมอสักนิด
เรา : &เอาอะไรมาวัด//เราเถียงทันควัน
หัวหน้าวิชาการ : &ฉันขอแทรกนิดนึงนะคะ//หัวหน้าวิชาการเป็นผู้หญิงสูงวัยพูดขึ้น ทั้งผอ.และเราก็ต่างเงียบหันไปมองเธอ
หัวหน้าวิชาการ : &ฉันเชื่อมั่นในตัวลูกศิษย์ทุกคนว่าไม่มีทางไปทำร้ายใครแน่ๆ แค่หมอบิวตี้ยอมรับและขอโทษ เรื่องก็จบใช่มั๊ยคะ//เธอพูดมองมาที่เรา แล้วหันไปมองผอ.
เรา : &ฉันไม่ผิดจะยอมรับหรือขอโทษทำไม//เรายืนกอดอกหันหน้าไปทางอื่น
ผอ. : &ดูๆ กิริยาของหมอซิ//ผอ.ชี้นิ้วมาทางเรา หัวหน้าวิชาการเดินมาใกล้ๆ เรา สะกิดให้เราขอโทษ
หัวหน้าวิชาการ : &หมอบิวตี้ขอโทษผอ.ซิ อีกแค่3เดือนจะจบแล้ว อย่ามีปัญหาอีก
เรา : &ฉันไม่ผิด ฉันไม่ขอโทษ
รองผอ.: ดูกิริยาท่าทางและการแต่งตัวแบบนี้ ไม่เหมาะเป็นหมอสักนิด ถ้าบอกใครว่าจบจากสถาบันของเราคงอายเค้าตาย ผมว่าไล่หมอบิวตี้ออกไปจะดีกว่านะครับ//รองผอ.พูดแทรกขึ้น
เรา : &ทำไมการแต่งตัวของฉันมันผิดตรงไหน มีใครห้ามหมอแต่งหน้าแต่งตัวแบบนี้บ้าง ชิ๊!! ทำอะไรฉันไม่ได้ ก็ขู่จะไล่ออกหรือไง//เราพูดสวนทันที เรื่องถูกดูถูกแบบนี้ บิวตี้ไม่ยอมอยู่แล้ว
ผอ. : &ผมจะทำยังไงกับคุณดี//ผอ.บ่นขึ้น กริ๊ง..กริ๊ง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทันที ผอ.ยกหูรับ ทุกคนต่างเงียบ มีแต่ผอ.พูดว่า "ครับ เข้าใจแล้ว" จากนั้นก็วางหูไป
รองผอ.: &มีอะไรหรือเปล่าครับผอ.//รองผอ.ถามขึ้น
ผอ.: &คนไข้ที่เข้ามาเมื่อกี้ ต้องเข้าผ่าตัดสมองด่วน แต่แพทย์สมองเข้าผ่าตัดคนไข้หมด ไม่มีใครไปผ่าตัดคนไข้คนนั้นได้//เราได้ยินแบบนั้นไม่คิดว่าอาการของคาล์กจะหนักขนาดนั้นได้ ไม่มีหมอด้วยแล้วจะทำยังไงล่ะ
หัวหน้าวิชาการ : &ฉันมีข้อเสนอค่ะ ในเมื่อคนไข้คนนั้นหมอบิวตี้เป็นคนทำร้าย งั้นให้หมอบิวตี้เป็นคนผ่าตัดจะดีไหมคะ//หัวหน้าวิชาการพูดแทรกขึ้น
ผอ.: &ไม่ได้เพราะผิดกฏ เป็นแค่นักศึกษาแพทย์จะเข้าผ่าตัดเป็นหมอใหญ่ได้ไง//ผอ.พูดแย้งขึ้นมา หันมามองหน้าเรา
เรา : &ไม่กล้าให้ผ่าซินะ
รองผอ.: &พูดงี้หมายความว่าไง หมอบิวตี้มั่นใจขนาดนั้นเลยหรอ เป็นแค่นักศึกษาแพทย์ก็เจียมตัวซะบ้าง//รองผอ.มองเราด้วยสายตาเหยียดหยาม
เรา : &กลัวว่าถ้าฉันผ่าตัดผิดพลาดทำให้เสียชื่อรพ.ซินะ เอาแบบนี้ไหม ให้ฉันเข้าผ่าตัดรักษาคนไข้เอง ถ้าฉันผ่าตัดผิดพลาด ฉันยอมโดนไล่ออก เรื่องคนไข้ฉันจะยอมถูกดำเนินคดีรับผิดชอบทุกอย่างเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับทางรพ.//เราพูดจบ พวกผอ.และรองผอ.หันไปมองหน้ากัน
เรา : &แต่ในทางกลับกัน ถ้าฉันชนะ ไม่สิ!! ถ้าฉันผ่าตัดช่วยคนไข้สำเร็จ พิสูจน์ตัวเองได้ว่าไม่ได้ทำร้ายคนไข้ พวกคุณต้องให้ฉันเรียนจบเหมือนเดิม และพวกคุณทั้ง2คนมาคุกเข่าขอโทษฉัน//เรายืนกอดอกชี้นิ้วไปที่ผอ.และรองผอ.สลับกัน
รองผอ.: &จะมากไปแล้ว พวกเราเป็นถึงผู้บริหารจะไปเอาชีวิตคนไข้มาพนันกับแค่นักศึกษาแพทย์ได้ไง//รองผอ.เถียงขึ้นทันที เราเดินเข้าไปใกล้หน้าโต๊ะทำงานของผอ.เอามือทั้ง2ข้างค้ำไว้บนโต๊ะ
เรา : &ไม่กล้าพนันซินะ//เราจิกตามองผอ.และรองผอ.อย่างจริงจัง เพราะบิวตี้ไม่เคยยอมใครอยู่แล้ว ผอ.ลุกขึ้นยืน จ้องเรากลับ
ผอ.: &ก็ได้ เอาตามที่คุณพูด//ผอ.มองเราด้วยสายตาจริงจัง
รองผอ.: &ผอ.ครับ แต่..//รองผอ.กำลังจะพูด แต่ผอ.ยกมือห้ามไว้
เรา : &ก็แค่เนี่ย//เราเอามือออก ปัดมือตัวเอง แล้วยกยิ้มมุมปากขึ้น
เรา : &ฉันจะผ่าตัดอย่างสุดความสามารถ ไม่ทำให้พวกคุณผิดหวังแน่ หึ!! หึ!! //เราส่งยิ้มให้ผอ.และรองผอ.สลับกัน จากนั้นเดินออกจากห้องทันที วิ่งไปที่แผนกสมอง ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราดีใจขนาดไหนในการผ่าตัดเองครั้งแรก เราไม่ลังเลในการพนันครั้งนี้เลย เป็นไงเป็นกัน เพราะเราจะได้แสดงความสามารถตัวเอง เปิดกระโหลกคนจริงๆ สนุกจะตาย เสียงไมค์จากผอ.ประกาศดังทั้งรพ.ให้เตรียมคนไข้ให้เราผ่าตัดที่ชั้น5 เรารีบวิ่งไปทันที