มันไม่เหมือนโยนขยะลงในถัง...การเลิกเสพยา มันเหมือนโลกตรงหน้าถล่มทลาย เจ็บปวดเจียนตายกว่าจะผ่านห้วงความทรมานนั่น ขณะนี้เขามีความสุขดี จึงยังไม่อยากลด ละ สิ่งที่ตนเองโปรดปราน เมื่อยังมีสตางค์กว้านซื้อยามาเสพได้...ไม่ได้อัตคัตถึงขนาดต้องขาดยาดิ้นทุรนทุรายน่าอาย
“มันก็ไม่ยากหรอกนะอิฐ...ถ้าจะทำ...” แพรวนรีย้ำ สิ่งเดียวที่เธอปรารถนา คือการที่แฟนหนุ่มพ้นบ่วงกรรมนี่ มันยิ่งกว่าการตกนรกทั้งเป็น
“อือ...” หนุ่มขี้ยารับคำส่งๆ
“เอานี่...ระวังด้วยล่ะ” แพรวนรีสอดมือลงไปในกระเป๋าสะพาย ล้วงห่อผ้าเช็ดหน้าสีหม่นออกมาโยนให้แฟนหนุ่ม
มือผอมซีดตะครุบห่อผ้านั้นไว้ เขาคลี่ผ้าสีหม่นๆ ด้วยมือที่สั่นระริก
“บะ!!” ปากสีเข้มห่อเป็นรูปตัวโอ เมื่อคลี่ผ้าเช็ดหน้าสีหม่นในมือออก จนมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน
“ของจริง...รับประกันได้” แพรวนรียิ้มสำทับ เธอฉกมาจากห้องหรูของมหาเศรษฐีหนุ่ม มันจะเป็นของปลอมได้ยังไง เมื่อคน คนนั้นมีธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณี
“อาจจะปล่อยยากสักหน่อยนะนรี...ไม่มีใบรับประกัน แถมเม็ดเป้งขนาดนี้”
อิฐยกแหวนในมือขึ้นส่อง มือผมบางยกลูบปลายคางหลังคำนวณราคาค่างวดของในมือคร่าวๆ ด้วยสายตาคาดคะเนของตนเอง แหวนเพชรวงงามในอุ้งมือเขานี่ ราคาคงโขอยู่ เขากับแพรวนรีคงสบายไปอีกนาน หากหาที่ระบายสิ่งของชิ้นนี้ได้
“ยังไงก็รีบๆ หน่อยล่ะ” แพรวนรีรีบย้ำ ของร้อนแบบนี้เธอกลัว เพราะหากเจ้าของตามมาทวงคืน เธอกับอิฐอาจจะซวย
“เอามาจากไหนล่ะ?” แหวนเพชรวงสวยถูกพลิกไปมาซ้ายขวา เพื่อมองหารอยตำหนิ
“อย่ารู้เลย...” หญิงสาวตัดบท ผุดลุกขึ้นยืน เดินไปทิ้งตัวนอนบนฟูกเก่าๆ ที่อิฐเองก็เพิ่งจะผละลุกขึ้นมา
“ตามใจ...เธอนอนเถอะ...ฉันออกไปหาที่ปล่อยของก่อน”
หนุ่มขี้ยาผุดลุกขึ้นยืนอารมณ์ดีเสียจนอยากจะร้องเพลงให้ลั่นห้อง เมื่อเงินจำนวนมหาศาลลอยอยู่ตรงหน้า แค่หาที่ปล่อยได้ แค่นี้ก็จะได้เสวยสุข เขาคว้าเ**กเก็ตหนังขึ้นมาพาดไว้บนหัวไหล่ ตลบผ้าเช็ดหน้าสีหม่นกลับไปในรูปแบบเดิม ก่อนจะยัดแหวนราคาสูงลงไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์สีซีด
“อืม...ซื้อข้าวเข้ามาให้ด้วยนะ นรียังไม่ได้กินอะไรเลย แต่ขอนอนซักงีบก่อน” หล่อนซุกหน้าลงใต้หมอนเก่าๆ เปลือกตาหลุบลง และหลับสนิทในนาทีต่อมา อาจจะเพราะความเครียดผสมกับความอิดโรย
ปัง!! ประตูไม้เก่าๆ กระแทกปิด อิฐล็อกประตูให้ เขาเดินผิวปาก ฮัมเพลงเบาๆ ในลำคอ โดยไม่รู้ว่าทั้งตนเองและแพรวนรีกำลังถูกตามล่า...
บ่ายแก่ๆ... ทอปัดตื่นจากหลับใหล เธอบิดเนื้อตัวไปมาแก้ความเมื่อยล้า ดันตัวลุกขึ้นยืน ก้มลงเก็บเครื่องนอนไปไว้ในตู้ใบใหญ่ที่เดิม ก่อนจะลงมือทำความสะอาดห้องรกๆ... เริ่มต้นด้วยการเก็บเสื้อผ้าใช้แล้วของแพรวนรีโยนไว้ในตะกร้า กวาดพื้นห้องที่มีแต่กระดาษทิชชู และตามด้วยการเก็บเตียงนอนกลางห้อง
เกือบ1ชั่วโมงที่หญิงสาวสาละวนกับการทำความสะอาดห้องรกๆ ที่เจ้าตัวใช้สำหรับซุกหัวนอน เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อย เสียงท้องร้องโครกคราก ทำให้ทอปัดหัวเราะตนเอง เธอมัวแต่ยุ่งๆ จนลืมเรื่องการหาอะไรใส่ท้องตัวเอง
ยางเส้นเล็กๆ ถูกหยิบมาใช้ เพื่อรวบผมสีดำเป็นเงาไว้หลังท้ายทอย
ประตูตู้เย็นถูกเปิดออกด้วยมือเรียวเล็ก หญิงสาวก้มลงมองหาของสดที่อยู่ในชั้นวาง มุมปากอิ่มขยับบิดไป บิดมา เมื่อเจ้าตัวกำลังนึกถึงเมนูอาหารง่ายๆ ที่พอจะทำได้จากของสดที่เหลืออยู่
“ก็ยังดีกว่ากินมาม่าล่ะปัดเอ๋ย” หญิงสาวบ่นเบาๆ คว้าผักสีเขียวจากช่องผัก กับเนื้อหมูอีกนิดหน่อยในช่องพรีส
ก่อนจะเดินตรงไปยังครัวเล็กๆ มุมห้อง...
ผัดกะเพราหมูสับกับไข่ดาวเหลืองกร็อบส่งกลิ่นฟุ้งเต็มห้อง หญิงสาวเอียงคอมองฝีมือทำกับข้าวของตัวเอง ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“นายแม่จะรู้มั้ยเนี้ยะ...ปัดคิดถึงฝีมือทำกับข้าวของนายแม่ที่สุด” คำพูดกลั้วเสียงหัวเราะ เพราะหากเทียบฝีมือง่อยๆ ของตัวเองกับคุณนายจุไร มันเทียบกันไม่ติด แต่ก็ยังดีกว่าการต้มน้ำเทใส่ชามบะหมี่สำเร็จรูป เมื่อมันไร้สารอาหารอย่างที่ร่างกายต้องการ
“อาบน้ำก่อนดีกว่า...” หญิงสาวยกเรียวแขนขึ้นสูง สูดกลิ่นเหงื่อตนเอง ปีกจมูกพะเยิดพะยาบ ปากอิ่มเบ้บิดเบี้ยว สุดทนกับกลิ่นเหงื่ออับๆ ที่หมักหมมบนร่างกายตนเอง จนยอมหิ้วท้องรออีกหน่อย เพื่อไปจัดการทำความสะอาดร่างกาย
สายน้ำเย็นๆ ช่วยทำให้ความเหนื่อยล้าของทอปัดมลายหายไป เธออาบน้ำโดยใช้เวลาไม่ถึง10นาที ก่อนจะเดินฮัมเพลงออกมาจากห้องน้ำเย็นฉ่ำ ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆ คือสิ่งเดียวที่อยู่บนร่างกายอวบอิ่มตอนนี้...เมื่อคิดว่าตนเอง...อยู่ในห้องส่วนตัวเพียงลำพัง...
แต่...
ใครจะรู้ล่ะ...ว่าทอปัดจะได้ต้อนรับอาคันตุกะแปลกหน้าแบบที่ไม่ได้เชื้อเชิญ
ปลายเท้าสะดุดกึก!! เมื่อหางตาจับภาพบางอย่างได้ ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กในมือแทบจะหล่น
เมื่อหันไปสบนัยน์ตาคมดุ ของ ‘ผู้ชายแปลกหน้า’ ที่ดันทะลึ่งมานั่งหน้ามึน...อยู่ในห้องเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัว...
แพขนตางามงอนกะพริบถี่ๆ มือเรียวบางยกขึ้นขยี้เปลือกตาแรงๆ...ก่อนจะรีบวิ่งถลาไปซุกตัวอยู่หลังโซฟาตัวใหญ่ เยื้องๆ กับที่ ‘ใคร’ คนนั้นนั่งอยู่
“คุณเป็นใคร? เข้ามาในห้องฉันได้ยังไงหะ?” แม้จะกลัวจนตัวสั่น แต่ทอปัดก็ยังไม่วายตะเบ็งเสียงถาม ดวงตากลมโตวาววับดั่งดวงตาแม่เสือสาว
ธันน์ หรี่เปลือกตาลง มุมปากสีเข้มกระตุกยิ้มนิดๆ
เขาตามกลิ่น ‘โจร’ มาถึงจุดนี้ ไม่คิดว่ามือดีคนนั้น จะกลายเป็นสาวโสภา ที่ทำเอาเลือดในกายของเขาแทบเดือดระอุเมื่อหล่อนโผล่เข้ามาในสายตาในสภาพแสนหมิ่นแหม่
ผ้าเช็ดตัวผืนน้อยนิดแทบจะปกปิดความอวบอิ่มไว้ไม่หมด เนินทรวงล้นปริ่มจนธันน์แทบลืมหายใจตอนที่ลุ้นให้ผ้าเช็ดตัวผืนนั้นหลุดร่วง!!
เรียวขาหล่อนเหมือนดั่งลำเทียน เกลี้ยงเกลายาวเรียว จนเขาเผลอมโน หากเรียวขาคู่นั้นโอบรอบสะโพกพร้อมกับเสียงครางกระเส่าที่เป็นตัวกระตุ้น รสสวาทครั้งนี้คงทำให้เขาอยากหยุดโลก
“ฉันมาตาม ‘ของ’” ธันน์พูดเปรยๆ
“ของบ้าอะไรจะมาอยู่ในห้องฉัน!!”
ทอปัดตะโกนเสียงดังขึ้น เธอหวังให้ห้องข้างๆ ได้ยิน แต่...เหมือนจะไร้ผล...ห้องพักของเธอนั้น เพื่อนข้างห้องแทบจะไม่เคยใส่ใจกันเลย เธอพักอาศัยที่นี่มาเกือบ3ปี แต่เชื่อเถอะ...เพื่อนข้างห้องหน้าตาเป็นแบบไหนยังไม่รู้เลย
“ของที่เธอจิ๊กมันมายังไงล่ะ” มุมปากสีเข้มเหยียดยิ้มกึ่งแสยะ ธันน์ไม่คิดว่าคนหน้าตาใสซื่อจะซ่อนความร้ายกาจไว้มากถึงเพียงนี้ หล่อนแสดงละครตบตาเขา จนนึกอยากจะเชื่อ
“จิ๊ก! ฉันไปจิ๊กไอ้ของนั่นมาจากคุณตั้งแต่เมื่อไรคะ?” หญิงสาวยืดคอร้องถามเสียงแหลม เรียวคิ้วขมวดเป็นปมมันกังขาในใจ เมื่อนึกยังไงก็นึกไม่ออก เธอกับคนแปลกหน้านี่ เกี่ยวข้องกันตอนไหน?
‘แปะๆ’
ธันน์ยกมือขึ้นปรบมือแรงๆ เสียงปรบมือดังเปาะแปะ ทอปัดเลยยิ่งงงหนัก...ไอ้หมอนี่มาไม้ไหนกันแน่?
“ถ้าเธอเป็นนักแสดง ฉันคิดว่าเธอน่าจะได้เป็นตัวหลัก” ธันน์ชม เขาปรายตามองผู้หญิงที่โผล่ใบหน้ามาให้เห็นแค่คอด้วยสายตาว่างเปล่า พยายามไม่สนใจผิวขาวๆ ที่โผล่ออกมาให้เขาเห็นแพลมๆ ตอนที่หล่อนเผลอตัว
“แสดงบ้าบออะไรวะ!!” นักข่าวสาวเริ่มหัวเสียหล่อนบ่นงึมงำ ผู้ชายแปลกหน้าคนนี้บุกรุกเข้ามาในห้องของเธอโดยไม่บอกไม่กล่าว แถมเขายังพูดจากวนโทสะ คำพูดกระทบกระเทียบของเขาทำเหมือนกับว่าเธอเป็นผู้ร้าย
“อย่ามาหยาบคายกับฉัน” ธันน์ตวาด “เอาของที่เธอขโมยมา มาคืน ไม่อย่างนั้นเราได้เห็นดีกันแน่!!” ชายหนุ่มกล่าวต่อเสียงเหี้ยม
“จะให้พูดสักกี่ครั้ง...ฉันก็ตอบคุณไม่ได้หรอกค่ะ ฉันไม่ได้เอาอะไรของคุณมานี่นา...” หญิงสาวเริ่มอ่อนใจชี้แจงจนระอา แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง อีกอย่าง...เธออยู่ในสภาพที่ไม่สามารถปะทะคารมกับอีกฝ่ายได้ เมื่อมีผ้าบนตัวน้อยชิ้นเช่นนี้ มันอาจจะเผลอหลุดตอนไหนก็ได้... และเธอจะเสียเปรียบ