บ้านไร่สิงห์ราช ศิลามาเยี่ยมสิงห์ราชเพื่อนรัก
“หนูอัญไม่อยู่เหรอวะ บ้านเงียบเชียว แล้วแกกับหนูอัญสบายดีไหม” ศิลาถามเพื่อนรัก มองในบ้านเงียบเหงาไร้เงาหญิงสาว
“ฉันกับหนูอัญสบายดีมากๆ เลย ว่าแต่นายถามหาหนูอัญทำไม มีอะไรในกอไผ่หรือเปล่าวะ “สิงห์ราชมองศิลาด้วยสายตาเอาเรื่อง เพราะหึงเมีย
“เปล่า ไม่มีอะไร แค่ถามหาเฉยๆ ไม่ได้หรือไง”หินปฏิเสธเสียงสูง
“แต่ฉันว่ามีนะ นายอย่ามาปิดบังฉันเลย” สิงห์ยังคงเสาะหาความจริงต่อไป
“ไม่มีอะไรก็คือไม่มี เข้าใจตามนั้นนะเพื่อน” ศิลาตอบอย่างไม่สบอารมณ์
“วันนี้หนูอัญไปทำงานที่โรงเรียน นายสนใจไปโรงเรียนหนูอัญไหม”
สิงห์ราชมองหน้าเพื่อนรักเพื่อค้นหาพิรุธ และแหย่เพื่อน
“ว่าแต่นายไม่ไปหาครูนาเหรอ”สิงห์ราชหยอกเพื่อนเบาๆ
“ว่าจะไปเหมือนกัน” ศิลาตอบเสียงแผ่วเบาๆ
“ไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวครูนาก็มาที่นี่แล้ว”
ศิลาแอบยิ้มมุมปากก่อนปรับสีหน้าให้กลับมาปกติ
“ใครอยากรู้วะ นายมันชอบเสือกรู้เรื่องชาวบ้านจริงๆเลยนะ”
ศิลาแกล้งทำเป็นด่าเพื่อนเพื่อกลบเกลื่อน แต่อยู่ๆ สิงห์ราชก็ถาม
“นายได้ข่าวชมจันทร์บ้างไหมวะ”
หินได้ยินก็แทบสำลักน้ำดื่ม ก่อนจะถามออกไป
“ไม่เจอเลย มีอะไรหรือเปล่า อยู่ๆ ก็ถามถึงเขา”
“ไม่มีอะไร แค่เห็นหายหน้าไป ก็อดเป็นห่วงไม่ได้”
“นายสิงห์ อย่าบอกว่านายคิดอะไรกับยัยจันทร์นะ”
กลายเป็นศิลามองสิงห์ราชอย่างไม่ไว้วางใจ
“บ้าไปแล้ว ใครจะไปคิดบ้าๆ แบบนั้น ฉันคิดกับเธอเหมือนน้องสาวเท่านั้น”
“จริงๆอ่ะ” มันทำให้ศิลาหายใจทั่วท้องมากขึ้น เมื่อได้ยินคำตอบ
“ใช่ ยัยจันทร์เป็นน้องสาวของฉัน ถ้าใครมันบังอาจทำร้ายเธอ ฉันจะจัดการมันเหมือนกัน” ศิลาหน้าชา รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าแรงๆ
“คนอย่างชมจันทร์ ใครจะกล้าทำร้ายเธอ หล่อนร้ายกาจขนาดนั้น”
ศิลาแกล้งพูดเหมือนไม่สนใจชมจันทร์
บ้านเจ้าสัววิชัย สองแม่ลูกคุยกันริมสระน้ำ
“เย็นนี้แม่กับเจ้าสัวจะไปงานเลี้ยง หนูอยู่บ้านคนเดียวได้ไหมจ๊ะ.”
ชมดาวเป็นห่วงความรู้สึกลูกสาว ว่าถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว
“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ หนูอยู่ได้”
“คุณน้ำไปเยี่ยมเพื่อนที่ต่างจังหวัด แถมคุณหินไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้วด้วย”
ชมจันทร์ยิ้มอย่างโล่งใจ มันเป็นสิ่งที่เธอต้องการมาก
“นายหิน...ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย”
แค่คิดถึงชื่อเท่านั้น ใบหน้ากวนอารมณ์มันลอยเด่นให้เห็นแล้ว
“บ้าไปแล้วยายจันทร์ คิดถึงคนแบบนั้นได้ไง”
ชมจันทร์บ่นพึมพำคนเดียวเบาๆ พร้อมกับทำหน้าเหม่อลอย
“จันทร์ หนูเป็นอะไรหรือเปล่าลูก” คนเป็นแม่เขย่าตัวเบาๆ
“ไม่ๆ เป็นอะไรคะคุณแม่ แค่จันทร์คิดอะไรเพลินไปหน่อยเท่านั้น ไม่เป็นอะไรจริงๆค่ะ” แม่มองลูกสาวอย่างไม่วางใจ
“มีอะไร จันทร์บอกแม่ได้นะจ๊ะ แม่รักลูกมากๆนะ”
ศิลาขับรถด้วยความเร็วสูง เพื่อเข้ากรุงเทพ เขาคุยโทรศัพท์กับ น้าสาวไปด้วย
“วันนี้น้าไปเยี่ยมเพื่อนที่ปทุมธานี ว่าจะไปนอนค้างสักสองวันนะ “น้ำทิพย์โทรบอกหลานชาย
“คุณน้าไปพักตามสบายเลยครับ ไม่ต้องห่วงผมเลย”
“หินไม่อยู่ น้าเลยกล้าไปพักบ้านเพื่อนได้” หญิงสาวพูดออกมาอย่างสบายใจ
ชายหนุ่มกดปิดการสนทนา “ถ้าน้าน้ำรู้ว่าผมกำลังกลับกรุงเทพ คงอกแตกตายแน่เลย”ศิลายิ้มกับตัวเองภายในใจ อดคิดถึงสาวสวยเจ้าอารมณ์ จอมสร้างเรื่องวุ่นวายอยู่ที่บ้านไม่ได้
“ป่านนี้คุณจะทำอะไรอยู่นะ คุณจันทร์”
หลังจากชมดาวและเจ้าสัววิชัยออกไปข้างนอก ชมจันทร์ขึ้นห้องนอน และเปลี่ยนชุดว่ายน้ำลงเล่นน้ำในสระใหญ่
“สบายดีจังเลย จันทร์ต้องหาทางช่วยคุณพ่อให้ได้ค่ะ”
หญิงสาวดำดิ่งสู่ก้นสระ ให้ความเย็นของสายน้ำชำระล้างใจที่เศร้าหมองร้อนรนเรื่องบิดา หญิงสาวโผล่มาจากน้ำ มือลูบหน้าอกใหญ่แอ่นมันขึ้นมา หยาดน้ำเกาะตามแขน ส่วนเว้าส่วนโค้งที่เห็นในเงาสะท้อน มันช่างเย้ายวนใจ ทันใดนั้น..
“นายหิน นายมาได้ยังไง มาตั้งแต่เมื่อไร” เธอตะโกนถาม
“นานพอที่จะเห็นเงือกสาวลงสระ ผมลงเล่นน้ำด้วยคนนะ ร้อนหรือเกิน” ชายหนุ่มถอดเสื้อยืด กล้ามใหญ่เป็นมัด หน้าท้องบึกบึน มองต่ำลงไป ขนอ่อนเต็มท้องน้อย เขากระโดดลงไปอย่างไม่รออีกฝ่ายหนึ่งพูดอะไร
“เพี๊ยะ!!”
ฝ่ามือชมจันทร์ปะทะใบหน้าหล่อเข้ม ชายหนุ่มก้าวเท้าเข้าหาอย่างไม่หวั่นเกรงหญิงสาว
“นายอย่าทำบ้าๆนะ” ชมจันทร์หน้าตาตื่น เธอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แต่อีกเสียงหนึ่งในหัว “อย่าสมยอมเขานะชมจันทร์”
ชมจันทร์รู้สึกเหมือนสมองไม่สั่งการ มารู้ตัวอีกครั้ง กลายเป็นมือร้ายๆ ลูบไล้โคนขา ทำให้หญิงสาวขนลุก กายไหวสะท้านจากการรุกเร้า แขนเลื่อนมากอดเหมือนงูที่รัด หวังให้เหยื่อหายใจไม่ได้
“คุณสวยมากเลยรู้ไหม ผมอดใจไม่ไหวแล้ว”
ชายหนุ่มกระซิบข้างหู พร้อมขบติ่งหูเบาๆ ทำให้หญิงสาวขนลุกซู่ เลือดในกายร้อนวูบวาบขึ้นมา อารมณ์เร่าร้อนมันเกิดขึ้นกับเธอ
“นาย..อย่า..ฮื่อ..”กลายเป็นเธอครางพูดจาไม่รู้เรื่อง
ริมฝีปากร้ายสะบัดลิ้นหาความหวานจากโพรงปากเล็กที่เริ่มโต้ตอบอย่างรู้งาน เขาใช้มือข้างลูบไล้ ทำให้ปทุมทั้งสองตื่นตัวพร้อมรับการสัมผัส ชายหนุ่มเคล้าคลึงอย่างต้องการเป็นเจ้าของมัน
“ผมรู้ คุณต้องการมันเหมือนกัน” ชายหนุ่มประคองร่างนั้น เข้ามาแตะขอบสระ หญิงสาวไม่มีโอกาสขัดขืนเลย
“นาย...”กลายเป็นหญิงสาวสมยอมและร่วมมือกับชายหนุ่ม อยากให้ชายหนุ่มได้เป็นเจ้าของกายนี้
“คุณเริ่มรู้งานแล้ว” หญิงสาวลูบไล้เนื้อตัวตอบโต้ชายหนุ่มอย่างเริ่มรู้งาน เจ้างูยักษ์มันต้องการออกมาสู่โลกภายนอก
“นาย...” หญิงสาวรับรู้ถึงสิ่งที่ผิวกายสัมผัสได้ ชายหนุ่มบีบขยำเต้าใหญ่อย่างเมามัน
“พี่หิน อยู่ไหนคะ” ลูกหยีส่งเสียงมาแต่ไกล ทำให้สองหนุ่มสาวจำเป็นต้องแยกจากกัน
“นายหลบไปเลย” ขณะที่ฝ่ายชายไม่อยากจากไปไหน
“ชมจันทร์ ผมต้องมอบรสสวาทให้คุณได้สัมผัสมันให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”ศิลาว่ายน้ำรีบร้อนขึ้นขอบสระไปอย่างร้อนรน
“ลูกหยี หนอ ลูกหยี มาทำไมตอนนี้วะ”เขาลูบหน้าตนเอง สะบัดน้ำที่เกาะกล้ามแขนที่เป็นมัด หยิบเสื้อเดินจากไป
ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวที่ใส่ชุดว่ายน้ำสีดำแนบเนื้อ เปียกชุ่ม ขาสั่นไหวระริกจากรสสวาทที่ชายหนุ่มมอบให้ เธอเดินขึ้นจากขอบสระอย่างช้าๆ ทำให้เขาลอบมองอย่างอดเสียดายไม่ได้
“ตายแล้ว เป็นคุณจันทร์หรือคะที่เล่นน้ำ ลูกหยีคิดว่าเป็นพี่หินเสียอีก ขอโทษนะคะที่มาขัดจังหวะการว่ายน้ำของคุณจันทร์”เพื่อนบ้านสาวขอโทษ
“ไม่เป็นไรค่ะ จันทร์กำลังจะขึ้นจากสระพอดีเลย” หญิงสาวหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับ กระชับมันกับตัว
“งั้นลูกหยีขอตัวก่อนนะคะ..”เธอรีบเดินตามหาชายหนุ่มต่อทันที
“พี่หินไปไหนของเขานะ รถยนต์ก็จอดอยู่”
หนุ่มชายซุ่มอยู่หลังต้นไม้ดัดใหญ่ รอลุ้นว่าเมื่อไรลูกหยีจะไปสักที แต่ชมจันทร์ยิ้ม เมื่อรู้แล้วว่าจะหนีศิลายังไง เธอหันไปทางลูกหยี
“เฮ่อ..เราเดินไปพร้อมกันเลยดีกว่าไหม จันทร์ว่ายน้ำเสร็จพอดี”
ชมจันทร์หันมายิ้มให้ชายหนุ่มที่แอบอยู่ สะบัดก้นงอนงามเดินไปพร้อมลูกหยีอย่างผู้ชนะ แต่อีกฝ่ายมองอย่างเสียดาย อย่างต้องการบดขยี้กายเธอให้แหลกคามือ
“ฝากไว้ก่อนเถอะชมจันทร์ คนอย่างนายหินไม่ยอมให้ผู้หญิงตบหน้าฟรีหรอกนะ โดยเฉพาะเธอ..ชมจันทร์”
เช้าวันรุ่งขึ้น
ศิลาลงมาทานข้าวแต่เช้า ส่วนชมจันทร์ไม่ยอมลงมา อ้างว่าไม่สบาย
“หนูจันทร์เป็นอะไรมากหรือเปล่า”ประมุขของบ้านถามอย่างเป็นห่วง ศิลาเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ แต่ทำท่าทางไม่สนใจ
“เมื่อเช้าขึ้นไปตาม เธอบอกว่าปวดหัวนิดหน่อยค่ะ ดาวเอายาแก้ไข้ ให้กินแล้ว สักพักคงดีขึ้น”
“นายหิน มาครั้งนี้อยู่บ้านนานๆนะ”คนเป็นพ่ออยากอยู่ใกล้ชิด ลูกชาย
“คุณหินมาอยู่บ้าน ทำให้บ้านมีชีวิตชีวาขึ้นมากๆ เลยนะคะ คุณน้ำก็อารมณ์ดีขึ้นมากๆ เลย”ชมดาวพูดจากสิ่งที่มองเห็น
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ชมดาวขึ้นไปดูลูกสาวบนห้องนอน
“ตัวยังร้อนๆ อยู่เลย ปวดหัวไหม” คนเป็นแม่จับตัวลูกสาว เธอเห็นรอยแดงเป็นปื้นๆ
“จันทร์ ลูก ไปถูกตัวอะไรกัดมา เนื้อตัวแดงเป็นจ้ำๆ เลย ไหนแม่ดูหน่อย” นางจับไปตามเนื้อตัวลูกสาว
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณแม่ แค่มดกัดเท่านั้น จันทร์แพ้ มันเลยทิ้งแผลเป็นไว้ให้เท่านั้น” หญิงสาวโกรธเจ้ามดตัวร้ายที่มันเป็นเหตุให้แม่เธอสงสัยในตัวเธอ และที่สำคัญ ศิลาเป็นคนจับกำนันทิวเข้าคุกด้วย
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่มีวันให้อภัยนายแน่นอน นายหิน”
หญิงสาวบอกกับตนเองในใจ ชมดาวลุกจากที่นั่งขอบเตียง ลูบผม ลูกสาวเบาๆ
“ลูกจันทร์นอนพักเถอะ แม่จะออกไปข้างนอกสักหน่อย”
กลางวันแยมส้มนัดชมจันทร์ไปเดินเล่นซื้อของในห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางเมือง
“ยายจันทร์ หน้าตาเหมือนคนป่วย เป็นอะไรไปหรือเปล่าไหนเล่าเรื่องแกกับพี่หินให้ฟังหน่อยสิ เขาช่วยแกมาจากคุณเพชรแล้วเป็นไงต่อ”
แยมส้มถามสิ่งที่คาใจในเรื่องคืนนั้น
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น หล่อนอย่ามามองฉันอย่างจับผิด นายนั้นก็พาฉันไปส่งบ้านเท่านั้น” ชมจันทร์ตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจทั้งตัวคนถามและคนที่ถูกพาดพิง
“ฉันไม่อยากคิดเลยว่าคุณเพชรจะเป็นคนอย่างนี้ได้ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ” เพื่อนรักส่ายหน้า
“คุณเพชรอาจจะเข้าใจผิด คิดว่าฉันเป็นผู้หญิงใจง่ายก็ได้มั้ง เลยทำแบบนั้น”
หญิงสาวพยายามมองโลกในมุมบวก อย่างน้อยเขาเป็นความหวังเดียวในการช่วยกำนันทิว โดยใช้อำนาจของนายพลเข็มทิศ แม้มันจะเป็นความหวังที่ริบหรี่และฝืนความรู้สึกเธอก็ตาม
“จ้า แม่คนโลกสวย..”
ร้านอาหารญี่ปุ่น
“นั่นมันคุณเพชรใช่ไหม” ชมจันทร์เบี่ยงตัวหลบแต่ไม่ทันเสียแล้ว แยมส้มตาโตตกใจกับการเข้าประชิดตัวของเพชร
“ว้าว..คุณจันทร์ผมดีใจมากๆเลยที่เจอคุณอีก ผมอยากขอโทษกับเรื่องเมื่อคืนนั้น คุณจันทร์ยกโทษให้ผมได้ไหมครับ” ชายหนุ่มถือวิสาสะนั่งข้างชมจันทร์
“เอ้อ..จันทร์..” หญิงสาวไม่รู้จะพูดอย่างไร รู้สึกหวาดกลัวขยะแขยง แต่ความต้องการที่จะช่วยเหลือกำนันทิวมีมากกว่า
“จันทร์ก็ผิดด้วยเมาขาดสติเหมือนกันค่ะ”
“ยายจันทร์...” แยมส้มได้แต่อุทานชื่อเพื่อนรัก
“ผมรู้เรื่องคุณพ่อคุณจันทร์ถูกจับ คุณจันทร์มีอะไรให้ผมช่วยเหลือ ขอให้บอกนะครับ ถึงผมช่วยไม่ได้ แต่คุณพ่อผมคงช่วยได้นะครับ”
เพชรเข้ามาขอโทษหญิงสาว พร้อมบอกว่ายินดีให้ความช่วยเหลือกำนันทิว
“ขอบคุณคุณเพชรมากๆ เลยค่ะ จันทร์ไม่รู้จะไปพึ่งพาใครเหมือนกัน” หญิงสาวเสียงสั่งเครือหวาดหวั่น
“อย่างไงผมโทรหานะครับ” เสือร้ายจำเป็นต้องถอยห่างเหยื่อ ให้เหยื่อตายใจก่อน
ร้านอาหารกลางคืน
พลอยแสงลูกสาวคนเดียวของนายพลเข็มทิศ หล่อนเป็นสาวเปรี้ยว เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทุกคน นอกจากหน้าตาดีสวยรวย พ่อมีอำนาจวาสนา การศึกษาดี แต่ไม่ทำงาน แต่งตัวสวยๆ ไปวันๆหนึ่ง
“ดีใจจังเลยที่พี่หินยอมเข้าเมือง พลอยรอพี่หินทุกวันเลย เมื่อไรหนอพี่หินจะย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพ มีอะไรติดขัดบอกพ่อพลอยได้นะคะ”
หญิงสาวอ่อยเปิดทางให้ชายหนุ่ม มือเล็กซุกซนทำปูไต่แขนชายหนุ่ม
“ไม่เป็นไร พี่ชอบเป็นตำรวจอยู่ต่างจังหวัดมากกว่า” ชายหนุ่มแย้งเสียงอ่อยๆ
“แต่พลอยอยากให้พี่หินมาอยู่ที่นี่ ใกล้ๆ พลอยแบบนี้มากกว่า”
หน้าอกใหญ่แนบชิดกล้ามเนื้อแน่น โคนขาเบียดชายหนุ่มอย่างแสดงความเป็นเจ้าของกายนั้น
“พี่ว่าพลอยอย่าทำแบบนี้” ส่งสายตาห้ามปราม
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ของมันเคยๆ กันอยู่ พลอยไม่คิดมากเสียอย่าง พี่หินจะสนใจอะไร” หญิงสาวไม่สนใจ
ท้องถนนรถยนต์แล่นพลุกพล่าน
“ตายแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน” หญิงสาวพยายามประคองพวงมาลัยจอดลงข้างทาง ผู้ชายชุดดำสามคนไม่รู้มาจากไหน เธอคิดหาทางออก ทันใดนั้น
“นายหินนายต้องช่วยฉัน” หญิงสาวกดโทรศัพท์มือสั่น “รับซิ..”
“นายหินรถยนต์ ฉันมีอุบัติเหตุตรงทางเข้าหมู่บ้าน นายรีบมาดูฉันด่วนเลย”
“โครม” พวกมันเขย่ารถยนต์
“ออกมาซะดีๆ อย่าให้ต้องใช้กำลัง” พวกมันข่มขู่
“คุณจันทร์เกิดอะไรขึ้น” ศิลาตะโกนถามแต่ไม่มีเสียงตอบรับเสียแล้ว
ลานจอดรถยนต์
“พลอย คุณกลับบ้านไปก่อนแล้วกัน พอดีผมมีคดีด่วนต้องไปทำ คุณขับรถกลับบ้านเองนะครับ” ศิลาออกรถไปอย่างเร็ว
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้น” พลอยแสงอารมณ์เสียอย่างมาก “ไม่มีผู้ชายคนไหนทิ้งฉันแบบนี้นะ” เธอตะโกน ทุกคนหันมามองเธออย่างสงสัย “มองอะไร ไม่เคยเห็นคนอารมณ์เสียหรือไง”
ชายชุดดำใช้ค้อนปอนทับกระจกรถยนต์
เพล็ง!! กระจกร้าวและแตก
“พวกนายรู้ไหม ว่าฉันเป็นใคร” เธอพยายามหาทางข่มขู่ ทำใจดีสู้เสือ แต่พวกมันต่อยกระจกแตก ปลดล็อกประตูรถยนต์ ดึงลากฉุดตัว ชมจันทร์
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยฉันที่ ” หญิงสาวอาละวาด
ตุ๊บๆ
มือหนักปะทะที่หน้าท้อง ทำให้หญิงสาวเจ็บปวดจุกที่ท้องน้อย
“ไปกับพวกเราดีๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
“พวกนายจะทำอะไร” หญิงสาวพยายามต่อสู้ดิ้นรนแต่ไม่มีผลอะไรทั้งสิ้น พวกมันพาเดินหญิงสาวไปขึ้นรถยนต์ที่จอดรอ
ปัง.ๆ ตูมๆ
ยางหลังรถยนต์ระเบิด พวกมันพยายามดึงตัวหญิงสาวออกมา
“ดูแลเธอ อย่าให้เป็นอะไร ไม่งั้นพวกเราตายแน่ๆ”
“ปล่อยฉัน” หญิงสาวสะบัดแขนวิ่งหนี
“คุณจันทร์ทางนี้” ศิลายกปืนที่ยิงล้อรถยนต์ขึ้นเก็บ วิ่งมาหา หญิงสาวและพาขึ้นรถยนต์ไป
“พวกเรา ตามล่าเอาตัวผู้หญิงมาผู้ ชายฆ่าทิ้งก็ได้” คนเป็นหัวหน้าชุดสั่งการ เสียงเฉียบขาด
ศิลาขับรถยนต์ด้วยความเร็ว หลบซ้ายหลบขวา มันไล่ล่าอย่างไม่ลดละ ทำให้หินต้องเปลี่ยนเลนวิ่ง ปาดหน้าปาดหลังคนที่ใช้รถบนท้องถนน ชมจันทร์มองอย่างหวาดเสียว ตัวเกร็ง ทันใดนั้น เสียงล้อหลังระเบิด
ตูมๆ
หินลดความเร็วลงอย่างฉับพลัน “ทำใจดีๆไว้ดีนะ”
“ช่วยด้วย ฉันยังไม่อยากตายพร้อมนาย” หญิงสาวตะโกนเสียงดัง
“ผมไม่ตายง่ายๆ หรอกคุณ” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงห้วน สายตามองตรงไปข้างหน้า มือขวาบังคับพวงมาลัย มือซ้ายเปลี่ยนเกียร์อย่างชำนาญ
“เสาไฟ...” หญิงสาวตาลุกวาว
การไล่ล่าชายหนุ่มและหญิงสาวเป็นไปอย่างดุเดือด ศิลาใช้ความสามารถความช่ำชองในการต่อสู้ ผลักหญิงสาวให้กลิ้งลงจากรถยนต์และตนเองกระโดดตามไป
“ไฟไหม้รถยนต์” ผู้คนที่ใช้ถนนพากันแตกตื่น
พวกเหล่าร้ายพากันแยกตัว ทำตามหัวหน้าใหญ่สั่งการ
“ไปตามจับตัวมันมาให้ได้”
สายฝนกระหน่ำตกอย่างหนัก ศิลาพาหญิงสาวฝ่าความหนาวเหน็บ ยามค่ำคืน
“เราจะทำอย่างไรกันดี” ชมจันทร์ถามขึ้นอย่างวิตกกังวล ลืมความเป็นอริกันชั่วคราว
“กลับบ้านดีไหม แต่ว่าจะกลับอย่างไร” มองหน้าชายหนุ่มเป็นเชิงปรึกษา
ทันใดนั้น มอเตอร์ไซค์คนร้ายขับวนเวียนหาสองหนุ่มสาว ศิลาต้องพาชมจันทร์ไปซ่อนตัว ถ้าเป็นเขาคนเดียวพวกมันไม่รอดหรอก หญิงสาวเนื้อตัวหนาวสั่น เสื้อผ้าแนบเนื้อแทบเปล่าเปลือย
“ตามล่าพวกมัน”
ศิลามองเห็นแสงไฟร่ำไร มันเป็นโรงแรมเล็กๆ
“คืนนี้พวกเราไปพักกันที่นั่นก่อนแล้วกันนะ”
ชมจันทร์พยักหน้ารับ ปากสั่นหน้าซีด “ได้ ฉันหนาว”
ศิลาถอดเสื้อแจ๊ตเก๊ตให้หญิงสาวสวมทับเสื้อผ้า กลิ่นกายหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มหวั่นไหว
ศิลาเดินเข้าไปหาห้องพัก ห้องพักเหลือห้องเดียว ทำให้เขากับชมจันทร์จำเป็นต้องพักห้องเดียวกัน
“ไม่เป็นไร ดีกว่าหนาวอยู่ข้างนอก” มองสายฝนที่ตกหนักอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“งั้นคุณนอนบนเตียง ผมนอนที่โซฟาแล้วกัน” ชายหนุ่มให้หญิงสาวเข้าห้องน้ำ ใส่เสื้อคลุมอาบน้ำนอน
“นายนอนได้นะ” หญิงสาวถามอีกครั้งก่อนปิดไฟนอน
กลางดึกอากาศหนาวเย็น
ชมจันทร์กลัวชายหนุ่มหนาว เธอลุกขึ้นเอาผ้าห่ม ไปคลุมร่างชายหนุ่ม เแต่สะดุดขาตนเอง ล้มใส่ชายหนุ่มที่นอนจ้องตาเป็นมัน
“คุณสวยมากเลย” เลือดในกายหนุ่มสูบฉีดอย่างแรง
โครม.
“อุ๊ยฉันขอโทษ”
ชายหนุ่มตั้งท่ารับ มือใหญ่แตะเนื้อนุ่มนิ่ม อกใหญ่ปะทะกายชายหนุ่ม กลิ่นกายสาวทำให้ชายหนุ่มหวั่นไหว มือร้อนๆ จับตรงไหนเหมือนไฟติดแนบเนื้อ
“นายอย่าทำอะไรบ้าๆนะ”เธอห้ามเสียงหลง แต่มันช้าไปแล้ว ปากที่ช่ำชองประกบปากเล็กเรียว ชอนไชหาความหวาน แถมหญิงสาวตอบโต้ เธอเรียนรู้อย่างรวดเร็ว
“ฮื่อ คุณหวานมากเลย”
หญิงสาวสมองขาวโพลน พยายามผลักไส แต่กายดันตอบสนองเขาอย่างเต็มใจ
“อ่าๆๆ..” เสียงครางรับเบาๆ
มือศิลาจับสองเต้าที่ใหญ่บดขยี้มันอย่างเมามัน หญิงสาวแอ่นกายยอมรับมัน เขาอุ้มร่างบางเปลือยหญิงสาวไปวางที่เตียงนอน เธอเอนกาย รองรับทุกสัมผัสจากชายหนุ่ม เขาประทับรอยจุมพิต และกัดเบาๆ ที่หัวไหล่อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ
“ฮื่อ..ฮ่า..”เสียงครางจากหญิงสาว เขาเลื่อนมาที่กลีบกลางใจสาว น้ำรักไหลออกมาเป็นทาง เขาใช้นิ้วมือหยอกล้อเพิ่มความสุขสม น้องชายของเขาเริ่มพองตัว
“คุณจันทร์เป็นของผมนะครับ”
หญิงสาวส่ายหน้า แต่กายเธอตอบสนองเขาและมีความต้องการ
“ถ้าคุณไม่ตอบรับ ผมคงต้องหยุดเท่านี้”
ชายหนุ่มตั้งท่าจะจากไป แต่กลายเป็นหญิงสาวกอดรัด และปลุกเร้าชายหนุ่มแทน ศิลายิ้มที่มุมปาก เขารู้ว่าอย่างไรหญิงสาวต้องการมัน เพราะอารมณ์มันมาไกลแล้ว
“นายหินอย่าทิ้งฉันไป ” หญิงสาวครวญครางขอร้อง
“คุณต้องการมันเองนะ ผมไม่ได้ขื่นใจ”
หญิงสาวที่ไม่เคยต้องมือชายพยักหน้ารับอย่างเอียงอาย
ศิลาถอดเสื้อผ้า ทำให้เห็นความเป็นชายที่ใหญ่โต..
“ฮื่อ..” หญิงสาวตาโต ตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
“ผมจะทำให้คุณไม่เจ็บหรอก ”
ชายหนุ่มเร่งบรรเลงเพลงรักอย่างชำนาญ เขารู้สึกมีความสุขมากกว่าทุกครั้งที่มีอะไรกับหญิงสาวทุกคนที่ผ่านมา
“คุณจันทร์คุณเป็นสาวบริสุทธิ์”
เลือดแดงออกมาผสมกับน้ำหล่อเลี้ยง ชายหนุ่มจะหยุดก็หยุดไม่ได้แล้ว
“คุณไม่น่าเริ่มก่อนเลย”
หลังจากนั้น ศิลากอดชมจันทร์ที่นอนหลับอย่างสบายภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ชายหนุ่มลืมตาโพลง
“คุณจันทร์ไม่เคยผ่านมือชายมาเลยกลาย เป็นเราคนแรกด้วย งานนี้จะบอกแม่เธอว่าไง เรากลายเป็นคนพรากพรหมจรรย์เธอไปแล้ว”
ชายหนุ่มจุมพิตหน้าผากหญิงสาว ที่นอนหลับเพราะความอ่อนเพลีย
“ผมคิดว่าคุณผ่านเรื่องพวกนี้มาแล้ว” มองหน้าหญิงสาวอีกครั้ง
“ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่างเลย คุณจันทร์”
ตอนเช้า
ชมจันทร์ลืมตามองหน้าศิลาที่อยู่ห่างกันแค่คืบ เธอผลักชายหนุ่มออกห่างตัวและเตรียมลุกขึ้น
“นายทำอะไรฉัน” หญิงสาวเอามือกอดอกใหญ่ ท้องแบนราบ เอวคอดกิ่ว
เพี๊ยะๆ มือหญิงสาวตบใบหน้า ทำให้ศิลาหน้าชา
“ใจเย็นคุณจันทร์”
หญิงสาวตรงเข้าทำร้ายชายหนุ่ม โดยลืมตัวว่าตนเองไม่สวมใส่อะไรเลย “นายปล่อยฉัน”
กลายเป็นศิลากอดรัดหญิงสาว อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ
“คุณจันทร์คนเก่ง ลืมเรื่องเมื่อคืนไปแล้วหรือ” ศิลาส่งสายตาล้อเลียน
“เรื่องอะไร”
“เรื่องที่เราสองคน..”
หญิงสาวเอามือปิดปากชายหนุ่ม แต่กลับถูกชายหนุ่มรวบมาจับไว้
“เรื่องที่เราเล่นจ้ำจี้จ้ำไชกันไง”
“ฉันจะกลับบ้าน” หญิงสาวสะบัดหน้าหนี วิ่งเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดเก่า
“เรื่องของเราให้มันจบเท่านี้” หญิงสาวพูดอย่างมีอารมณ์โกรธ
“แล้วแต่คุณแล้วกัน” ศิลายักไหล่ เดินตามหลังหญิงสาวออกจากห้องพัก
ศิลาเดินออกมาพร้อมชมจันทร์เสื้อผ้ายับยู่ยี่ เธอเดินก้มหน้า ผ่าน ล๊อบบี้โรงแรมเล็กๆ
แซะๆ แสงไฟเข้าตาสองหนุ่มสาว
“ข่าวใหญ่แน่งานนี้ ลูกชายกับลูกเลี้ยงสาวของเจ้าสัววิชัยออกมาจากโรงแรมสภาพ...อย่าให้พูดเลย”
ศิลาจ้องหน้าคนถ่ายรูป พร้อมเดินเข้าไปดึงโทรศัพท์ที่กำลังถ่ายรูป แต่มันสะบัดตัว พร้อมต่อยหน้าชายหนุ่ม
“นายลบรูปพวกนั้นออกเดี๋ยวนี้” เขาสั่งการเสียงเฉียบขาด แต่มันช้าไปแล้วสำหรับโลกยุคปัจจุบัน
“ข่าวใหญ่ขนาดนี้ ใครจะลบให้โง่” มันวิ่งออกไปอย่างเร็ว ชายหนุ่มลุกขึ้นพยายามวิ่งตาม
“นายไม่ต้องตามแล้ว มันหนีไปไกลแล้วล่ะ” ชมจันทร์เอ่ยอย่าง ปลงตก
“คุณเป็นอย่างไรบ้าง” หญิงสาวยืนตัวเกร็งอย่างใช้ความคิดอย่างหนัก หาทางออกกับปัญหานี้
“เราจะทำอย่างไงกันดี” ชมจันทร์อายผู้คนที่หันมามองศิลากับตนเป็นตาเดียวกัน
“ไม่เป็นไรผมยินดี รับผิดชอบทุกอย่าง”
ศิลาถือโอกาสจูงมือหญิงสาวฝ่าวงล้อมออกมา
“นายจะรับผิดชอบยังไง”