ณ โกดังเก็บสินค้า
เวลา 02.45 น.
“ทางนั้นเรียบร้อยไหม”
“เรียบร้อยครับนาย”
“แล้วหนอนบ่อนไส้ที่คิดจะวางเพลิงโกดังกูล่ะ”
“จัดการตามที่นายสั่งเรียบร้อยแล้วครับ”
“อืม”
“มีอีกเรื่องที่ผมต้องรายงานนายครับ”
“ว่ามา”
“ผู้หญิงคนนั้นที่มาเห็นตอนนายฆ่าคนของฮันเตอร์ เธอชื่อมีนา หรือมีนาลินทร์ พิธาตรัยกิจสกุลครับ”
“…” เขาหันไปมอง ธารา ลูกน้องคนสนิทที่เพิ่งบอกชื่อของผู้หญิงคนนั้น ตอนแรกตั้งใจกลับไปคิดบัญชีด้วย พอได้ยินแบบนี้ มันกลับทำให้เขาเริ่มคิดไม่ตก
มีนาเป็นผู้หญิงที่ครอบครัวของเขาจะให้แต่งงานด้วย…
เขาและเธอไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน ไม่เคยนัดเจอกัน เพราะไม่ได้สนใจเรื่องของเธอเลยไม่ได้ให้คนตามสืบประวัติ
ไม่คิดว่าโชคชะตาจะนำพาให้มาเจอกัน มิหนำซ้ำเขายังเกือบฆ่า ‘ว่าที่เจ้าสาว’ หากเรื่องนี้ถึงหูคนเป็นพ่อคงโดนตำหนิหนักอย่างแน่นอน
เดาว่ามีนาก็คงไม่รู้ว่าเขาคือคนที่ตัวเองต้องแต่งงานด้วย เพราะไม่เคยเปิดเผยอะไรให้อีกฝ่ายรับรู้เลยแม้กระทั่งชื่อ เราสองคนหมั้นกันผ่านวาจาของครอบครัว เขายอมตกลงแต่งงานกับมีนาโดยขอคนเป็นพ่อ ไม่เปิดเผยตัวตนจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน และมีนาเองก็เช่นกัน ทำให้กลายเป็นว่าไม่เคยรู้จักกันทั้งที่กำลังจะแต่งงาน
“ผมไม่ได้ตั้งใจละลาบละล้วงข้อมูลส่วนตัวของผู้หญิงคนนั้น พนักงานที่ไนต์คลับนำบัตรประชาชนของเธอมาให้ผมเก็บไว้ เลยได้รู้ว่าเธอเป็นคนของตระกูลพิธาตรัยกิจสกุล”
“อืม” เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร โลกมันช่างกลมดี คนที่คิดจะฆ่ากลับกลายเป็นว่าที่เจ้าสาวของตัวเอง
ตลกสิ้นดี…
“นายจะยังฆ่าเธออยู่ไหมครับ?” ผู้หญิงคนนั้นเป็นว่าที่นายหญิงของพวกเขา อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้านายคิดจะฆ่าเธออยู่ไหม
“ก็อยากฆ่าให้ตายเหมือนกัน” หากไม่ใช่ว่าที่เจ้าสาวของเขา มีนาคงได้บอกลาโลกนี้ไปแล้วจริงๆ
“เดี๋ยวกูขับรถกลับเอง”
“ได้ครับนาย”
เขารับกุญแจรถจากคนสนิทมาแล้วเดินออกไป คืนนี้คงสะสางเรื่องมีนาก่อนเป็นอันดับแรก เดาว่าตอนนี้เธอคงกำลังหาทางหนี ใครจะปล่อยให้ความตายคืบคลานเข้ามาหาตัวเองกัน
รอดจากความตายในวันนี้ ใช่ว่าจะอยู่อย่างสงบสุข ตราบใดที่ต้องแต่งงานกับเขา
เขาให้โอกาสมีนาหายใจต่อ เท่ากับว่าเธอติดค้างหนี้บุญคุณกับเขาอยู่…
หลายวันต่อมา
ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูแผดร้องปลุกให้คนที่กำลังนอนหลับตื่นจากห้วงนิทรา มีนาพยายามควานหาเสียงรบกวนน่ารำคาญทั้งที่เปลือกตายังแนบสนิท
“ฮัลโหล…” น้ำเสียงงัวเงียกรอกทักทายปลายสายโดยไม่มองเบอร์ว่าเป็นใคร
รบกวนเวลานอนคนอื่นถือเป็นบาปขั้นสุด คนกำลังนอนหลับสบายได้ที่อยู่แล้วเชียว ใครกันที่ริอ่านโทรมาในเวลานี้!
(ตื่นรึยังจ้ะ แต่ฟังจากเสียงก็น่าจะรู้แล้วว่าเพิ่งตื่นตอนฉันโทรไป)
“ใครเนี่ย” เพราะความง่วงนอนบังตา เลยทำให้ไม่รู้เลยว่าใครคือเจ้าของน้ำเสียงนี้ ไม่ได้ตั้งใจฟังเพราะมัวแต่ห่วงนอน
เมื่อคืนเธอนอนเกือบตีห้าเพราะว่านอนไม่หลับ บวกกับมีเรื่องราวมากมายให้ต้องคิดจนเกิดเป็นความเครียด
(โอ้ยย นี่เมานอนจนจำเสียงเพื่อนไม่ได้แล้วเหรอ)
“น้ำขิงเหรอ?”
(เยส)
“อ๋อ… มีอะไรอะ”
(บ่ายโมงครึ่งเรามีนัดถ่ายแบบ แกคงไม่ได้ลืมไปแล้วใช่ไหม?)
“ตอนนี้กี่โมงแล้ว”
(จะเที่ยงแล้วค่าแม่นาง)
พรึ่บ!
เปลือกตาที่แนบสนิทเปิดกว้าง อาการง่วงนอนหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อ น้ำขิง เพื่อนสนิทของเธอบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว
จากง่วงนอนอยู่กลายเป็นตื่นเต็มสองตา…
“ทำไมเพิ่งโทรมาเนี่ย!”
(เอ้า! ก็คิดว่าแกตื่นแล้ว ปกติแกนอนตื่นเช้าจะตาย)
“แล้วคิดยังไงถึงโทรมา”
(ปกติแกจะไลน์มาถามว่าฉันตื่นยัง วันนี้เห็นเงียบผิดปกติเลยโทรมาหาแกเนี่ย)
“ขอบใจแกมากนะน้ำขิงงง ถ้าไม่ได้แกฉันสายแน่ๆ”
(เออๆ อย่ามัวแต่ขอบคุณ รีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว)
“โอเค เจอกันนะ” เธอวางสายจากน้ำขิง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ไปชาร์ตแบตแล้วผลุนผลันเดินเข้าห้องน้ำด้วยความเร่งรีบ
เพราะมัวแต่เครียดเรื่องแต่งงานจนทำให้นอนไม่หลับ เธอเพิ่งอายุยี่สิบเอ็ดปีแต่กลับต้องมาแต่งงานกับมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล ที่ไม่เคยหน้าค่าตา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เธอยังอายุน้อยแถมยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย อยากรู้ว่าครอบครัวเธอและเขาคิดอะไรกันอยู่
ถ้าขอเลื่อนงานแต่งออกไปตอนเรียนจบมหาวิทยาลัย พวกเขาจะยอมไหมนะ
เธอยังไม่พร้อมแต่งงานตอนนี้…
แต่งงานตอนอายุยังน้อยมีหวังตกเป็นขี้ปากชาวบ้านพอดี ที่แน่ๆ พวกเขาอาจจะคิดว่าเธอ ‘ท้องก่อนแต่ง’
“เห้อ~” เธอถอนหายใจออกมาระหว่างกำลังยืนอาบน้ำ
จู่ๆ สมองก็พาย้อนกลับไปในอดีตตอนที่เธอเกือบตายด้วยเงื้อมมือมัจจุราชหน้าหล่อคนนั้น แค่คิดยังขนลุกและหวาดกลัวไม่หาย ภาพตอนถูกเอาปืนจ่อหัวยังติดตา
วินาทีนั้นคือถ้าตายก็ดี ถ้ารอดก็ถือว่าโชคดี…
“ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงรู้จักชื่อเรา…” ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทว่าเขากลับรู้จักชื่อและนามสกุลของเธออย่างแม่นยำ แบบนี้ก็แอบเป็นเรื่องความปลอดภัยคนรอบข้างของตัวเองเหมือนกันว่าจะเป็นอันตรายไหม
“ช่างมันเถอะ ขอแค่อย่ายุ่งกับคนรอบตัวก็พอ” เธอรีบอาบน้ำให้เสร็จเพื่อออกไปถ่ายแบบ
หลังจากทำอะไรเสร็จแล้วมีนาก็รีบลงยังรถของตัวเองทันที เธอสตาร์ตรถแล้วขับออกไป หารู้ไม่ว่ามีคนในรถกำลังเฝ้ามอง
“เธอออกไปแล้วครับนาย” คนในรถต่อสายหาเจ้านายเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวของมีนา
วิคเตอร์ไม่ไว้วางใจว่ามีนาจะทำตามที่รับปากได้
(ที่สั่งทำแล้วใช่ไหม)
“เรียบร้อยครับ ผมติดเครื่องติดตามไว้ที่รถของเธอแล้ว”
(จับตาดูให้ดี ถ้ามีนาเล่นตุกติก บอกกู)
“ครับนาย”