ลักพาตัว

817 คำ
ตอน ลักพาตัว หญิงสาวทรุดกายลงนั่ง มือเล็กกำแน่นปากสวยเม้มเข้าหากันขณะที่สายตาจ้องคนที่นอนอยู่ตาไม่กะพริบ คนดีๆ ที่ไหนกันจะมานอนหลับสบายอยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่ถูกขังอยู่ในกรงอย่างน่าสงสารแบบนี้ นอกจากจะเป็นเขานั่นเองที่จับตัวของเธอมา แต่เหตุผลของเขาล่ะมันคืออะไร ความสงสัยทั้งหมดทั้งมวลก่อตัวขึ้นเป็นคำถามมากมายที่รอคอยคำตอบ ป่านนี้ทั้งบิดาและมารดาของเธอคงกำลังเป็นห่วงอย่างกระวนกระวายใจแล้วกระมัง โดยเฉพาะรายหลัง เพราะเธอสนิทกับมารดาที่สุด เพียงแค่คิดถึงหน้าของมารดาม่านน้ำบางๆ ก็ก่อตัวขึ้นในดวงตา แม้จะกะพริบตาถี่ๆ ขับไล่สัญลักษณ์แห่งความอ่อนแอที่กำลังกัดกินใจแต่ก็ไร้ผล หญิงสาวปาดน้ำที่ไหลผ่านแก้มเนียนออกด้วยชายแขนเสื้อผ้าฝ้ายเนื้อดีที่สวมใส่อยู่ เสียงกรนของศัตรูลึกลับของเธอดังกวนประสาทกระตุ้นให้หงุดหงิดรำคาญใจอย่างที่สุด หากเวลานี้การประคองสติและวางแผนสำหรับการหลบหนีคือสิ่งที่หญิงสาวกำลังขบคิด ทว่าความอ่อนล้าของร่างกายบวกกับอาการปวดมึนในหัวทำให้เปลือกตาของเธอหนักอึ้ง หญิงสาวเอนกายลงนอนด้วยกำลังพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนล้า แล้วความรู้สึกตัวก็ค่อยๆ เลือนหายไปช้าๆ พร้อมกับสติสัมปชัญญะดับวูบลง… คฤหาสน์ดำรงค์เทวะ “ตอนนี้ผมว่าคุณอาทั้งสองทำใจดีๆ ไว้ก่อนนะครับ ผมได้ให้เพื่อนที่เป็นตำรวจช่วยสืบดูอีกทางแล้วคาดว่าไม่นานก็คงจะได้เรื่องอะไรคืบหน้าบ้าง” “อาอดเป็นห่วงน้องณัจไม่ได้หรอกลูกโมไนย ไม่รู้ว่าป่านนี้น้องจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง” นางเก็จแก้วกล่าวทั้งน้ำตานองหน้า ดวงตาแดงช้ำบ่งบอกว่าผ่านการร้องห่มร้องไห้อย่างหนักมา หลังจากที่ลูกสาวเพียงคนเดียวหายไปหนึ่งคืน ป่านนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาจากเจ้าตัว อีกทั้งนางกับสามีพยายามโทรหาเพื่อนสนิททุกคนของบุตรสาวแล้วแต่ก็ยังไร้วี่แวว ทั้งที่โดยปกติแล้วลูกสาวของนางเป็นเด็กดีเรียบร้อยมาตลอด จนอดที่จะคิดไปไม่ได้ว่าลูกสาวของนางอาจถูกลักพาตัวไปหรือไม่ก็อาจกำลังตกอยู่ในอันตราย… “ใจเย็นๆ ก่อนเถอะคุณ อย่าเพิ่งกระโตกกระตากไปนัก บางทีเรื่องมันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่เราคิดก็ได้ ยัยหนูอาจมีเหตุจำเป็นหรือไปทำธุระที่ไหนแล้วกลับไม่ทัน จนต้องค้างคืนก็ได้” นายเวทิศ ดำรงค์เทวะ มหาเศรษฐีติดอันดับหนึ่งในสิบของประเทศไทยปลอบภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก หวังจะให้นางมีกำลังใจดีขึ้น ทั้งที่รู้ว่าเหตุผลของเขาแทบไม่มีความเป็นได้เลยก็ตาม “ถ้าเป็นอย่างที่คุณพี่ว่าแล้วทำไมลูกต้องปิดโทรศัพท์มือถือด้วยล่ะคะ ปกติแล้วเนี่ยเวลาจะไปไหนมาไหนน้องณัจก็จะบอกให้เรารู้ตลอด ไม่เคยมีสักครั้งที่จะเงียบหายไปเฉยๆ แบบนี้ นี่คุณพี่ไม่เป็นห่วงลูกบ้างเลยเหรอ” ประโยคท้ายภรรยาพูดตัดพ้อสามี “ทำไมผมจะไม่ห่วงลูกล่ะคุณ ยัยณัจก็ลูกสาวผมเหมือนกันนะ” สามีจับมือภรรยาบีบเบาๆ อย่างพยายามให้กำลังใจ เพราะรู้ว่าคุณหญิงเก็จแก้วจิตใจอ่อนไหวเพียงใด บวกกับที่นางรักและเป็นห่วงลูกสาวเป็นอย่างมาก เลี้ยงดูในแบบที่คนทั่วไปเรียกกันว่าไข่ในหินเลยทีเดียว “คุณอาทั้งสองไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เป็นตายยังไงผมก็จะพาคู่หมั้นของผมกลับมาให้ได้” โมไนยกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ดวงตาส่องประกายมุ่งมั่น ขณะที่มองมายังผู้สูงวัยทั้งสอง “โมไนยต้องหาทางช่วยพาน้องณัจกลับมาให้ได้นะลูก ช่วยน้องกลับมาให้ได้นะ ฮือๆ ๆ” นางเก็จแก้วสะกดกลั้นความเสียใจเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป นางปล่อยโฮออกมาราวกับคนจะขาดใจ ซบหน้าลงกับอกสามี ใครจะเข้าใจหัวอกหัวใจของคนเป็นแม่ดีเท่าตัวนางเอง นายเวทิศเข้ามาโอบไหล่ห่อที่กำลังไหวสะท้านเพราะแรงสะอื้นไห้ของภรรยาด้วยความรัก เกือบสามสิบปีที่อยู่กินด้วยกันมาฉันท์สามีภรรยาทั้งสองล้วนผ่านเรื่องราวสุขทุกข์มาด้วยกันอย่างมากมาย และตลอดเวลาที่มักผ่านเรื่องร้ายๆ มาได้ก็เนื่องด้วยกำลังใจที่ต่างฝ่ายต่างส่งให้กันและกัน ทว่าครั้งนี้มันดูจะหนักหนาสาหัสเอาการทีเดียวกับการมาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของบุตรสาวแบบนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม