Chapter 5 ทาสหัวใจซาตาน (2)

1160 คำ
Chapter 5 ทาสหัวใจซาตาน (2) 'ไหม จริงๆ เธอไม่น่า...’ ชายหนุ่มสลัดมันทิ้งไป กับภาพติดตาในอดีต ม่านไหมกับภูริชอยู่ในที่ลับตาแล้วบังเอิญเขาไปเห็น...วัยรุ่นวัยอยากรู้อยากลองที่ฮอร์โมนกำลังแรงอยู่ด้วยกันสองต่อสองแล้วมันจะไปเหลืออะไร ตอกย้ำถ้อยคำที่หล่อนเคยโพล่งใส่หน้าเขา นอกจากจะมีความลับเรื่องหล่อนกับภูริชแล้ว หล่อนเคยลองเรียนรู้เซ็กส์แบบภาคปฏิบัติกับเพื่อนชายเพราะความอยากรู้อยากลอง เขาได้รับรู้แล้วถึงกับโกรธผู้หญิงใจแตกจนความรู้สึกดีๆ ที่มีให้นั้นถูกลบเลือนไปจากใจที่เจ็บปวด เจ็บเพราะความเสียดายดอกไม้แรกแย้มที่เขาเองยังไม่คิดจะรีบเด็ดมาดอมดม "เดี๋ยวเธอช่วยไปทำความสะอาดห้องนอนให้ด้วย วันนี้ฉันมีแขกจะมานอนค้างที่นี่" สิ้นคำพูด ลดาภาถึงกับชะงักมือที่กำลังเตรียมจะหั่นผักสำหรับมื้อเย็น...การที่เขาบอกว่ามีคนจะมานอนค้าง หล่อนอยากรู้ยิ่งนัก แขกของเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แล้วเป็นอะไรกันจนต้องถึงขั้นนอนค้างอ้างแรม ลออที่ยืนอยู่แถวนั้นถึงกับหูผึ่ง...ในความร้อนใจเรื่องผู้หญิงคนใหม่ของเจ้านาย หล่อนรีบทักท้วงเพื่อเตือนสติให้เขาคิดให้ดี "ยังไม่ทันไร ก็จะพาผู้หญิงเข้าบ้านแล้วเหรอคะคุณเต ลูกก็ยังเล็กอยู่เลยนะคะ" เขาไม่ชอบคนรู้ดีชอบคิดแทน มันคือความต้องการที่เขาจะใช้บีบม่านไหมให้ไปจากตรงนี้ ให้หล่อนเกลียดเขาจนสุดหัวใจ นับจากนี้ไป หล่อนจะได้เห็นเขาแต่ในมุมเลวๆ จนลืมความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีกับเขาไปอย่างแน่นอน "ให้ทำอะไรก็ทำไปเถอะป้าแมว ทำอาหารเผื่อแขกของผมด้วยนะ" ชายหนุ่มหันหลังเดินกลับ ปล่อยให้สองแม่ลูกได้แต่มองหน้ากันชนิดพูดอะไรไม่ออกไปพักใหญ่...ต้องแข่งขันกับม่านไหมก็แทบจะทำอะไรฝ่ายนั้นไม่ได้ ยังต้องมาแข่งกับผู้หญิงคนใหม่ที่เขาจะพาเข้าบ้าน นั่นคือความคิดของลดาภา หล่อนรู้แล้วว่าการจะก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในหัวใจของผู้ชายอย่างเตชินทร์ มันไม่ง่ายเหมือนที่คิดเอาไว้เสียแล้ว ที่หน้ารั้วบ้านหลังใหญ่ ม่านไหมจ่ายค่าแท็กซี่แล้วรีบลงจากรถ หล่อนกลับมาถึงก็เป็นเวลาพลบค่ำพอดี...ป่านนี้คนที่เลี้ยงลูกคนเดียวมาทั้งวันคงจะหงุดหงิดที่หล่อนกลับช้า คิดพลางรีบไขประตูรั้วเล็ก เดินเข้าไปในบ้านอย่างรีบเร่งด้วยความคิดถึง ป่านนี้ลูกคงกำลังรอให้หล่อนกลับมาอุ้มอย่างแน่นอน เพียงเดินเข้ามาในตัวบ้านแล้วต้องชะงัก เมื่อหูคล้ายได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกดังแว่วมาจากมุมรับรองแขก...เสียงผู้หญิงที่ทำให้ต้องเอียงหน้าฟังอย่างสงสัย เธอคนนั้นกำลังหยอกล้อคุยเล่นอยู่กับเจ้าของเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างอารมณ์ดี และเมื่อสาวเท้าเข้าไปใกล้...เขานั่งอยู่ตรงนั้น กับผู้หญิงที่เขากำลังคบหาดูใจ หล่อนจำได้ดีเพราะมีคนส่งมาให้ดูอยู่บ่อยๆ แววตาเจือความเจ็บปวดจับจ้องมองภาพความสุขตรงนั้น ยืนนิ่งอยู่นานเพราะกำลังช็อกไม่คิดว่าเขาจะเปิดตัวกันเร็วเหลือเกิน มีสิทธิ์อะไรมาอุ้มลูกของเธอที่เกิดกับเขา...ความหึงหวงทำให้สัญชาตญาณของม่านไหมร้องสั่ง เขาจะนอนกับใครสักกี่คนก็ทำไป แต่ใครก็ห้ามมาแตะต้องลูกสาวที่ตนเป็นคนอุ้มท้องมาตลอดเก้าเดือนเต็ม เลี้ยงเขามาตั้งแต่วันแรกที่ได้ลืมตาดูโลก จะไม่ยอมให้ใครต้องเป็นแม่ใหม่ของแก้วตาดวงใจอย่างแน่นอน...หล่อนฝืนกลืนก้อนที่จุกอกกลับลงไป เมื่อถูกเขาเหยียบย่ำใจจนปวดแปลบด้วยการพาผู้หญิงคนอื่นมาเย้ยหยันกันถึงบ้าน โดยไม่คิดแคร์ความรู้สึกกันเลยสักนิดเดียว "เป็นยังไงบ้างคะวันนี้ ถึงเวลาที่อาเตจะได้พักแล้ว ฉะนั้น ส่งน้องมาให้ไหมดูแลต่อเถอะค่ะ" เสียงที่ดังแทรกช่วงเวลาของคนสองคน เรียกสายตาสองคู่ให้หันมาจับจ้องมอง...ม่านไหมสาวเท้าเข้าไปใกล้พลางขบกรามแน่น หล่อนแค่อยากให้เขาส่งลูกคืนกลับสู่อ้อมอก นั่นคือสิ่งที่พยายามสื่อให้เขารู้จากแววตาสั่นระริกที่จับจ้องมองกลับไปอย่างขอความเห็นใจ แต่ไม่รู้เลยว่าคนใจร้ายจะเล่นแง่อะไร หล่อนกลัวใจเขาเหลือเกิน รอยยิ้มบนใบหน้าคมคร้ามค่อยๆ จางลงไปเมื่อยามสบตา ม่านไหมยืนนิ่งเพราะเขายังคงเงียบไม่พูดอะไรคล้ายครุ่นคิด...แล้วเขาก็ทำให้หล่อนหน้าชา ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าทำแบบนั้นจริงๆ "ไม่เป็นไรหรอกไหม วันนี้เธอนอนพักผ่อนให้สบายเถอะนะ ไม่ต้องห่วงน้อง เพราะ...อามี...คุณปรางคอยช่วยดูแลอยู่แล้วทั้งคน" "แต่...เขาต้องกินนม เลี้ยงเด็กไม่ใช่ง่ายๆ นะคะ อาเต..." "ไม่เป็นไรจ้ะ พี่เคยเลี้ยงเด็กเล็กๆ มาก่อน แล้วพี่ก็รักเด็ก ยังไงแล้ว ขอน้องไปนอนด้วยสักคืนนะจ๊ะ" นั่นคือสิ่งที่กวินตราแทรกขึ้นโดยที่ม่านไหมยังไม่ทันพูดจบ เจ้าตัวโปรยยิ้มหวานมาให้ รอยยิ้มที่สื่อถึงความเป็นมิตร ไม่อาจรู้ได้ว่าซ่อนอะไรเอาไว้ภายใต้รอยยิ้มนั้น "อารู้ว่าไหมคงคิดถึงแก แต่...แค่คืนเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอกใช่มั้ย" คืนนี้เขาคงนอนด้วยกัน ความหมายบอกหล่อนให้รู้จากคำพูดเหล่านั้น...ม่านไหมคิดด้วยใจที่สั่นแรง สูดลมหายใจให้ลึกเพื่อทำเข้มแข็งเข้าไว้ ไม่แสดงถึงท่าทีใดๆ ให้เขาจับได้ การแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของจนออกนอกหน้า จะยิ่งทำให้เขารู้ว่าความจริงแล้วรักเขาซึ่งเป็นพ่อของลูก รัก...ที่ทำให้ไม่อาจตัดใจไปจากตรงนี้ได้เลย "ถ้าอาเตยืนยันว่าจะให้น้องนอนกับคนอื่น...ไหมก็คงจะทำอะไรไม่ได้ จะทำอะไร...ก็...ตามสบายเลยค่ะ" พูดจบแล้วก็เดินหนีเพื่อซ่อนความรู้สึกแท้จริงเอาไว้ว่ากำลังเจ็บแค่ไหน...ภายใต้ท่าทีหมางเมินเย็นชา เตชินทร์มองตามหลังม่านไหมแล้วรีบเมินหน้าหนี เขาเกือบใจอ่อนเดินตามไป ทว่า...ถ้าเขาทำแบบนั้น เรื่องราวก็จะคาราคาซังอยู่แบบนี้ไม่จบสิ้น ยอมเจ็บเพื่อปล่อยหล่อนไปสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่า นั่นคือความหวังดีที่อยู่ในส่วนลึกหาใช่แกล้งทำ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม