หลังจากที่ไทน์รวบรวมความกล้าที่จะเดินหน้าทำตามกฎของลุงเวย์ที่บอกมา และวันนี้ก็เป็นวันที่กฎข้อแรกของไทน์ได้ใช้สักทีหลังจากที่อ้อยอิ่งจนไอ้พี่แชมป์มันเดินหน้าไปหนึ่งก้าวแล้ว
“ไทน์วันนี้งานของอาจารย์ญาดาเราได้อยู่ด้วยกันนะ” เอิงสาวสวยประจำคณะเดินเข้ามาหาไทน์ เพื่อนๆในกลุ่มของเธอก็ต่างรับรู้ว่าเอิงมีความสนใจในตัวของไทน์เป็นพิเศษจึงพยายามที่จะจับคู่ทำงานด้วยกันบ่อยๆ
“อื้อ แล้วไอ้เสือล่ะมันจับคู่กับใคร” ไทน์ผู้รู้ทันว่าเพื่อนสาวนั้นคิดอะไรกับตนแต่ก็ไม่อยากขัดเพราะเอิงเองก็มีความรู้มากพอๆกับตนแถมงานที่ทำด้วยกันก็ออกมาดีได้คะแนนเต็มตลอด
“เสือทำกับไอรินเหมือนเดิม สงสัยสองคนนี้น่าจะได้ลงเอยกันนะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเลย”
“เหรอ”
เอิงหยิบงานขึ้นมาเพื่อช่วยกันทำกับไทน์ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆเธอที่ส่งแรงเชียร์มาให้ ขนมและน้ำถูกหยิบยื่นมาให้ไทน์ไม่หยุดจนกระทั้งเสียงแจ้งเตือนที่ไทน์ตั้งไว้ดังขึ้น ตอนนี้เป็นเวลาพักทานข้าวของปลาวาฬไทน์จึงรีบขอตัวเพื่อไปให้ทันก่อนที่ปลาวาฬจะออกไปกับไอ้พี่แชมป์
โรงอาหาร
ผมรีบวิ่งมาจนเห็นอีเจ้กำลังเลือกมื้อกลางวันที่แสนมีความสุข อีเจ้มันมีความสุขทุกครั้งเวลาเห็นของกิน ขาตอนนี้ตันพอๆกับโต๊ะสนุ๊กเลยจะรู้บ้างไหม แต่หุ่นหนุบหนับของอีเจ๊มันก็น่ารักดีนะ
“เจ้!”
“อ้าว ไทน์มาไงเนี่ย” ปลาวาฬหันมาถามน้องชายที่วิ่งหน้าตั้งมาหาแถมยังดูเหนื่อยๆจึงยื่นน้ำสตอเบอรี่ปั่นให้แต่กลับกลายเป็นว่าไทน์ยื่นหน้ามาดูดหลอดแทนที่จะหยิบไป สายตาหวานๆที่ส่งมาหาปลาวาฬเล่นเอาหัวใจที่นิ่งสงบกลับมาเต้นตึกตักอีกครั้ง
ตึกตัก!! ตึกตัก!! ตึกตัก!!!
“หวานอะ” ไม่รู้ว่าน้ำสตอเบอรี่ปั่นที่หวานหรือแววตาของปลาวาฬกันแน่ ปลาวาฬรีบดึงน้ำคืนก่อนจะหันไปสั่งข้าวกับคุณป้าที่ยืนยิ้มอยู่
“ป้าคะเอาแกงจืดเต้าหู้ 1 ข้าวเปล่า1 ค่ะ” ปลาวาฬรีบสั่งเพื่อที่จะได้ละสายตาจากแววตาเจ้าเล่ห์ของน้องชายต่างสายเลือด
“ข้าวเปล่า2 เลยครับป้า ผมขอเพิ่มผัดผักรวม 1 ด้วยครับ” เมนูที่ถูกเพิ่มเข้ามาทำให้ปลาวาฬรู้ทันทีว่ามื้อนี้น้องชายต่างสายเลือดต้องมานั่งร่วมโต๊ะแน่ ๆ และก็เป็นดังนั้นเมื่ออาหารถูกจัดใส่ถาดโดยที่ไทน์เป็นคนจ่ายเงินและยกถาดนำมาที่โต๊ะ
“มาเร็วๆสิเจ้”
“เออออ รู้แล้วววว” ปลาวาฬลากเสียงยาวๆแต่ก็แวะร้านข้างๆเพื่อซื้อผลไม้ไว้ทานล้างปากหลังทานข้าวเสร็จ
การทานอาหารมื้อนี้ปลาวาฬต้องรีบทานเพราะเธอมีนัดกับน้อง ๆที่ชมรมทำกิจกรรมในช่วงเย็น ไทน์ที่มองเห็นว่าพี่สาวต่างสายเลือดกำลังเร่งก็เลยตีมือไปหนึ่งทีเพื่อเตือนให้เธอค่อยๆเคี้ยวข้าวให้ละเอียดก่อนกลืน
“ว่าที่คุณหมอในอนาคตพี่รีบอยู่นะรู้ไหม อย่าเอาแต่ใจนักสิ”
“รู้ว่ารีบแต่การที่เคี้ยวข้าวไม่ละเอียดมันจะทำให้กระเพาะทำงานหนักอาจจะท้องอืด ท้องเฟ้อที่สำคัญมันทำให้เป็นโรคอ้วนด้วยนะ ค่อย ๆ เคี้ยวจะรีบยังไงก็อย่าให้ตัวเองต้องมาเดือดร้อนทีหลัง”
“ค่ะคุณหมอออ” น้ำเสียงล้อเลียนมันทำให้ไทน์หุบยิ้มไม่ได้ ปลาวาฬค่อยๆเคี้ยวข้าวแล้วกลืนลงคอพร้อมทำหน้าตาล้อเลียนจนไทน์ทนไม่ไหวอยากจะเข้าไปขย่ำให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
หลังจากทานข้าวเสร็จไทน์ก็เดินมาส่งพี่สาวต่างสายเลือดที่ตึกจากนั้นก็รีบกลับไปตึกของตัวเองเพื่อช่วยเอิงทำงานต่อ รอยยิ้มที่ยังเปื้อนอยู่บนใบหน้าของไทน์ทำให้เอิงจินตนาการไปไกล แต่พอไทน์เห็นความเขินอายของเอิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ต้องหุบยิ้มทันที
“ไทน์นี่ยิ้มทีโลกละลายเหมือนกันนะ” คำชมจากเอิงทำให้ไทน์ยักไหล่เบาๆแต่สายตาก็ยังคงจดงานต่อ
กิจกรรมตอนเย็นของปลาวาฬ มีน้อง ๆ ให้ความสนใจเป็นจำนวนมากรวมถึงหนุ่มๆต่างคณะที่เดินมาดูความน่ารักสดใสของปลาวาฬด้วย หุ่นที่ไม่ผอมจนเกินไปมีเนื้อ นม ไข่ มันดูหนุบหนับน่าสัมผัสไปทุกส่วนเลย
“ปลาวาฬแม่งน่ารักว่ะ” เสียงนักศึกษาปี4ที่เดินมาดูเอ่ยชมอยู่ข้างๆไทน์ที่มาเฝ้าพี่สาวต่างสายเลือด ตอนนี้พี่สาวต่างสายเลือดของตนกำลังเต้นเพราะถูกน้อง ๆ ทำโทษ โทษฐานที่เธอมาคนสุดท้าย
“ลูกสาวอธิการบดี แต้มบุญโคตรสูงเลยบ้านรวย สวย เก่งไปหมดทั้งการเรียนและกิจกรรม” เพื่อนร่วมรุ่นของปลาวาฬพูดคุยกับนักศึกษาต่างคณะ ยิ่งชายอื่นเอ่ยชมไทน์ก็เริ่มมีอาหารหวงพี่สาวต่างสายเลือดขึ้นมาเสียดื้อๆ
“ได้ข่าวว่าโสดนะ พ่อเธอหวงมากกก”
“แต่ได้ข่าวว่าไอ้แชมป์มันตามจีบอยู่นะมึง”
การสนทนาของรุ่นพี่ทำให้ไทน์ต้องเดินออกมานั่งอยู่ที่โต๊ะของปลาวาฬหลังจากที่ปลาวาฬเต้นจนเหนื่อยไทน์ก็เปิดน้ำเย็น ๆ ให้ปลาวาฬแต่ไม่ทันที่ปลาวาฬจะเดินมาถึงก็ถูกไอ้พี่แชมป์มันปาดหน้าเค้กไปเสียก่อน
“น้ำหวานเย็นๆของปลาวาฬมาแล้วค่ะ” แชมป์ยื่นน้ำหวานที่ยืนชงอยู่นานให้ปลาวาฬทำเอาไทน์ต้องกระดกน้ำเย็นในมือจนหมดขวด
“ขอบคุณนะแชมป์แต่เราขอน้ำเปล่าเย็นๆได้ไหมวันนี้กินน้ำปั่นไปแล้วเดี๋ยวน้ำตาลขึ้นอะ”
“ได้สิรอแป๊บนะ”
อืมมมม คายออกจากปากก็คงไม่ทันแล้วสินะ ไทน์หันไปเห็นนักศึกษาปีหนึ่งที่เดินถือขวดน้ำเย็นมาก็รีบหันไปหยิบแล้วส่งแบงค์สีเขียวยัดลงถุงจากนั้นก็รีบเดินจ้ำเอามาให้ปลาวาฬพร้อมกับเปิดขวดให้
“ขอบใจนะ แล้วนี่ไม่มีเรียนแล้วใช่ไหม”
“อื้ออ รอกลับบ้านเนี่ย”
“รอไปก่อนไอ้เวลมันยังมีเรียนอีกน่าจะ6โมงเย็นเลยกว่าจะได้กลับ”
“ไม่เป็นไรรอได้” แม้ว่าคุณย่าผมจะซื้อรถให้เอาไว้ใช้แต่ผมก็เลือกที่จะมากับเจ้เพราะอยากเจอหน้าอีเจ้ทั้งเช้าและเย็น อย่างน้อยแค่ได้เห็นหน้าก็มีกำลังใจที่จะเรียนแล้ว