บทที่ 4 (2)

1035 คำ
ภ “คืนนี้ผมต้องกลับอังกฤษแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็จะบินไปด้วยกัน ผมเพิ่งเรียนจบปริญญาโท” “ยินดีด้วยนะคะ” แววตาดรุณีมีความชื่นชม ทำคนมองเขินไปสองม้วน ยังเสียดายไม่หายเลยที่คนตรงหน้าเป็นเมียพี่ชาย ถ้าเจอกันเร็วกว่านี้ เขาคงไม่ลังเลที่จะทำความรู้จัก “ผมชินกับการอยู่ต่างประเทศซะแล้ว อยู่มาเป็นสิบๆ ปี ไม่รู้ว่ากลับมาอยู่ไทยคราวนี้จะปรับตัวได้มากแค่ไหน” “อยู่ไปสักพักคงชินเองค่ะ” “ครับ ถ้าหากถึงวันนั้นผมขอแวะมาที่นี่บ่อยๆ นะครับ” “ได้ค่ะ แล้วแต่คุณมีนเลย” “ผม… อยากชดเชยช่วงเวลาที่ผ่านมาให้หลาน อยากให้หลานรู้จักอามีนให้มากขึ้น อยากให้แกรักผม” จริงใจ มั่นคง ดรุณีรู้สึกเหมือนเห็นคุณภูธเนศในร่างของผู้ชายคนนี้ เขาคงจะถอดแบบมาจากท่านอย่างแน่นอน คุณปู่ของหนูขวัญใจดี อ่อนโยน ทุกคืนก่อนนอนท่านจะวิดีโอคอลมาคุยกับหลานประจำ วันหยุดก็มานั่งเล่นที่ร้าน ช่วยหล่อนขายของ เสิร์ฟขนมอย่างไม่ถือตัว ดรุณีซาบซึ้งมาก “แค่ได้ยินคุณมีนพูดแบบนี้ ฉันกับลูกก็ดีใจมากแล้วค่ะ” “ผมดีใจที่คุณดาไม่เกลียดผมนะครับ” “ฉันก็บอกแล้วไงคะว่าเข้าใจดีทุกอย่าง ความจริงแม้แต่ตัวคุณหมอกเองก็ไม่ค่อยแวะมาที่นี่หรอกค่ะ อยากเจอลูกครั้งไหน เขาก็จะให้คุณแก้วมารับไปที่บ้านใหญ่ เป็นแบบนี้ได้สองปีแล้วค่ะ” ใบหน้านวลก้มลงต่ำ กลัวจะแสดงความน้อยใจออกมาให้ภูมินทร์เห็น “คุณหมอกงานยุ่งมาก เราไม่ค่อยได้คุยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ อีกไม่นานเราก็จะหย่ากันแล้วค่ะ แต่… คุณมีนยังมาหาหลานได้เรื่อยๆ เลยนะคะ ดาไม่ว่าอะไร” “ผมขอโทษแทนพี่หมอกด้วยนะครับ ที่จริงเขาน่าจะดูแลคุณดากับลูกมากกว่านี้” ดรุณีส่งยิ้มไปให้ ส่ายหน้าไปมา “ฉันไม่ได้โกรธคุณหมอกหรอกค่ะ เราไม่ได้รักกันตั้งแต่แรกอยู่แล้วจะจบแบบนี้ก็ไม่แปลก คุณหมอกเป็นพ่อที่ดีมากค่ะหนูขวัญติดคุณหมอกมาก ถ้าหากหย่ากันฉันเองก็ไม่รู้ว่าคุณแก้วจะอยากได้หลานไปเลี้ยงเองหรือเปล่า ถ้าใช่ ฉันฝากคุณมีนช่วยดูแลหนูขวัญด้วยนะคะ” สงสารจัง แต่ไม่รู้จะพูดปลอบยังไงดี ภูมินทร์มองใบหน้าหวานที่พยายามฝืนยิ้มตลอดเวลา จ้องเสียจนดรุณีต้องเปลี่ยนเรื่องคุย “ขอโทษนะคะ เล่าอะไรให้ฟังก็ไม่รู้ เอ่อ… ตอนนี้หนูขวัญกำลังหลับอยู่ค่ะ ถ้าคุณมีนอยากเจอฉันจะนำทางไปที่บ้าน อยู่หลังร้านนี้เองค่ะเดินไม่ไกล” เสนออย่างนั้นหนุ่มนักเรียนนอกก็ตอบรับทันที “ไปครับ ถือเป็นเกียรติของผมมาก” ดรุณีฝากน้องพนักงานดูแลร้าน ก่อนจะผายมือเชิญ “เชิญค่ะ” “ครับ” ดรุณีนำทางออกมายังประตูหลัง เดินตัดสวนหญ้าเล็ก ข้างหลังเป็นบ้านหลังกะทัดรัดชั้นเดียวที่ร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้ ภูมินทร์คลุกคลีกับวงการออกแบบและก่อสร้างมานาน แอบชมในใจว่าบ้านน่ารักมาก เดินเข้ามาข้างในก็ร่มรื่น ลมพัดโกรกเย็นสบาย รอบนอกล้อมไปด้วยกำแพงสูงใหญ่ มีลวดเหล็กด้านบนป้องกันขโมย ในบ้านค่อนข้างโล่ง เฟอร์นิเจอร์มีไม่เยอะ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่โล่งเป็นสไตล์ลอฟ “บ้านฉันหลังเล็กมาก หวังว่าคุณมีนคงไม่รังเกียจนะคะ” พูดขึ้นมาเมื่อเห็นภูมินทร์ใช้เวลานานกับการมองรอบบ้าน เขามองหมดทุกอย่าง พื้น กำแพง เพดาน “ไม่รังเกียจเลยครับ ออกจะชอบซะอีก ร่มรื่นมาก” ทั้งสองเข้ามาในห้องนอนของเจ้าบ้าน “ฉันปลุกหนูขวัญให้นะคะ” “ไม่เป็นไรครับ อย่ากวนเลย ให้แกนอนเถอะ” ห้องนอนใหญ่ดูเล็กลงทันทีเมื่อภูมินทร์ก้าวเข้ามา ดาริกาเล่นคอมพ์อยู่มุมห้องสะบัดหน้าใส่พี่สาวและผู้มาใหม่ “ค่ะ เชิญคุณมีนตามสบายเลยนะคะ” “ขอบคุณครับ” เข้าเข้ามาใกล้เตียงเด็กของหนูน้อยร่างอวบ ได้นั่งลงมองใกล้ๆ แบบนี้เห็นชัดว่าแก้มหลานเขาเหมือนซาลาเปามาก น่าจับ ภูมินทร์ตื้นตันใจน้ำตาแทบไหลจ้องหน้าหลานนานมาก หนูขวัญน่ารักขนาดนี้ ดรุณีก็สวยมากขนาดนี้ ทำไมพี่ชายถึงใจร้ายทอดทิ้งสองแม่ลูก มือใหญ่ของคุณอาหนุ่มเอื้อมไปจับมือเล็กมาบีบเบาๆ “หนูขวัญน่ารักจังเลยครับคุณดา” แม้ตาจะหลับแต่ปากเล็กยังขยับจุ๊บจิ๊บเหมือนหิวนม กินเก่งใช่ไหมหลานอา แก้มถึงได้ป่องน่าหอมน่าฟัดมากขนาดนี้ “สวัสดีค่ะ อามีนมาหาหนูขวัญแล้วนะคะ” ตาหนูน้อยขยับขยุกขยิกขึ้นมามอง แต่ก็ทนความง่วงไม่ไหวหลับกลางอากาศไปอีกรอบ ภูมินทร์ซึ้ง เห็นแค่นั้นก็ตื้นตันใจ โน้มใบหน้าลงไปจุ๊บแก้มหลานราวสองสามครั้ง มือป้อมเล็กดันใบหน้าคมคายออกห่าง ไม่อยากให้กวนตอนนอน ดรุณีเข้ามาจับมือลูกวางลงข้างกาย ลูบหัวแกให้นอนหลับต่อ “เพิ่งฟื้นจากไข้ก็ไปวิ่งเล่นถึงหลับง่ายขนาดนี้ ความจริงวันนี้เปิดเทอมวันแรกค่ะ แต่ไม่ได้ไป” “ไว้ถ้าผมกลับมาอยู่ไทย ผมจะไปส่งหลานที่โรงเรียนแทนพี่หมอกทุกวันเลยนะ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงและสายตาที่อบอุ่น เลื่อนกลับมามองหน้าหลาน หยิบซองสีแดงเล็กๆ ในกระเป๋าเสื้อออกมาของข้างในคือสร้อยข้อมือสำหรับเด็ก เขาบรรจงใส่ให้แม้เด็กหญิงจะไม่ตื่น สร้อยเล็กมากกว่าจะติดตะขอได้ก็ใช้เวลาหลายวินาที หนูขวัญ… อาจะดูแลหนูแทนคุณพ่อเองนะลูก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม