บทที่ 1 ภรรยาไร้ตัวตน (4) จบ

1370 คำ
วันเดียวกัน ณ บ้านศรันย์เวชกุล คุณแก้วกัลยากลับมาถึงบ้านด้วยอารมณ์ขุ่นหมอง รับประทานอาหารได้ไม่กี่คำก็อิ่มขึ้นมาดื้อๆ ผิดสังเกตสามีกับลูกๆ ดังนั้นเมื่อมีคนเปิดปากถาม ท่านจึงไม่คิดเก็บไว้ในใจ เล่าให้ฟังโดยหันหน้าไปทางภูดิศ ภูมินทร์ น้องชายคนเล็กของบ้านหยิบแก้วน้ำมาจิบ รู้สึกเสียวสันหลังแทน ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าต่อปากต่อคำกับมารดาด้วยประโยคที่ท้าทายมากขนาดนั้น “ปากดี อวดเก่งทั้งพี่ทั้งน้อง ทั้งที่ก็ไม่ได้วิเศษมาจากไหน เกาะเรากินทั้งนั้น!” ดารินทร์ พี่สาวคนโตของบ้านแต่งงานกับสามีชาวต่างชาติ ทำธุรกิจด้วยกันที่นั่นและเพิ่งกลับมาเยี่ยมบ้านพร้อมสามี ไบรอันฟังภาษาไทยไม่ค่อยเข้าใจ จึงนั่งเฉยเช่นเดียวกับภูดิศและคุณภูธเนศ “สองพี่น้องพวกนั้นเขาแบมือขอเงินพี่รินใช้เหรอครับ” “ถามแบบนี้จะหาเรื่องกันเหรอตามีน” “เปล่านะ ผมแค่ถาม ก็เห็นพี่รินบอกเขามาเกาะเรากิน” “ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละ แกไปอยู่อังกฤษหลายปีจะรู้อะไร บ้านของยัยพวกนั้นก็ได้เรานี่แหละช่วยจ่ายธนาคารให้ ไหนจะค่าใช้จ่าย เงินหมุนในร้าน ทุนการศึกษาเด็กนั่นก็เราจ่าย” ดารินทร์กล่าวหยิ่งๆ ถอดแบบอากัปกิริยามาจากคุณแก้วกัลยาเกือบร้อยเปอร์เซ็น มั่นใจเกินเหตุจนไม่สนใจใคร “ไม่รู้แหละ อยากหย่าก็หย่า แต่เราต้องได้เลี้ยงหลาน” คุณแก้วกัลยาดื้อเพ่งจะเอาชนะให้ได้ ยังไม่หายโกรธเด็กดื้ออย่างดาริกา ทว่าผู้เป็นสามีกลับไม่เห็นด้วย ท่านเป็นคนกลางมาตั้งแต่ตอนเริ่มต้น คนที่บังคับให้ภูดิศจดทะเบียนสมรสกับดรุณีก็คือท่านเอง “แล้วคุณจะไปอยากได้ลูกเขาทำไมล่ะคุณแก้ว ถึงเลิกรากันไปก็ยังไปมาหาสู่กันได้ จะไปพรากลูกมาจากแม่เขาทำไม” “ฉันเลี้ยงหลานมาตั้งแต่ยังเล็ก ก็รักหลานมากนะคะคุณภู ไม่ใช่ไม่รักไม่เอ็นดูอะไรเลย ฉันเชื่อ ว่าเราเลี้ยงหลานได้ดีกว่า” นักธุรกิจสาวและเป็นพี่สาวคนโตของบ้านรีบแย้ง “แต่รินเห็นด้วยกับคุณพ่อนะคะคุณแม่ เราไม่ได้เอ็นดูเด็กคนนั้น รับมาเลี้ยงเด็กอาจเกลียดเรา ที่สำคัญเด็กคนนั้นก็แค่ลูกแม่ค้าธรรมดา” “เฮ้! ลูกแม่ค้าแต่ก็เป็นหลานของเรานะครับพี่ริน หลานแท้ๆ ลูกพี่หมอกทั้งคน ไม่รักหลานบ้างเหรอ” ภูมินทร์ปกป้อง รู้สึกสงสารสองแม่ลูกทั้งที่ตนเองก็เป็นอาที่ไม่ได้เรื่อง ไม่เคยเห็นหน้าหลานเลยสักครั้งแบบเจอกันตัวจริง มีแค่เห็นผ่านรูป ผ่านวิดีโอที่มารดาเพียรส่งมาให้เวลารับแกมาเล่นด้วย หนูขวัญน่ารักจะตาย ตัวเล็ก จ้ำม่ำ น่าเอ็นดูจะตาย ดารินทร์ตวัดสายตามามองน้องชายคนเล็ก “อย่าทำตัวเป็นคนดีไปหน่อยเลย แกไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนั้นร้ายแค่ไหน ถึงขั้นปล่อยให้ท้องเพื่อจับพี่ชายแก!” ยังคงจีบปากจีบคำพูดตามประสาคนชอบเอาชนะ แม้ว่าจะได้รับสายตาตำหนิจากบิดาก็ตาม ท่านก็แบบนี้ ใจดีเกินไป ยัยเด็กสองคนนั้นเหลิงหาว่ามีผู้ใหญ่หนุนหลัง ก็เลยไม่เห็นหัวใคร ไม่ให้ความเคารพกระทั่งมารดาตน มีอย่างที่ไหนมาเถียงฉอดๆ แล้วอวดดีว่าจะหย่ากับตาหมอก และขอเลี้ยงลูกเอง “แล้วถ้าพี่หมอกไม่เริ่มก่อนแล้วเขาจะท้องไหมล่ะพี่ริน จะโทษก็โทษคนของตัวเองก่อนดีไหม ไม่รู้แหละ ผมคนกลาง ไม่ขอเข้าข้างใครทั้งนั้น” “แม้กระทั่งพี่ชายหรือครอบครัวตัวเองเหรอตามีน!” “Baby, don’t be angry!” “Stop! I need to talk with my brother.” “พอได้แล้ว เชื่อไบรอันเถอะ” “คุณพ่อ!” ดารินทร์อารมณ์เสีย “พอได้แล้ว เถียงกันทำไมแม่ปวดหัว ถ้าไม่อยากให้แม่เอาเด็กคนนั้นมาเลี้ยง แกก็รีบมีหลานให้แม่สิยัยริน หรือแกจะมีก่อนฮะตามีน” “…” ไม่จำเป็นต้องนัดหมายใดๆ สองพี่น้องรีบเมินหน้าหนี “แล้วยังจะมีหน้ามาบอกให้แม่ไม่เอาหลานมาเลี้ยงอีก แกสองคนหยุดพูดไปเลย!” คุณแก้วกัลยาแขวะลูกทั้งสอง สุดท้ายทุกสายตาก็จับจ้องมองมายังภูดิศ “ดากับดรีมพูดมาแบบนี้แล้วหมอกจะว่ายังไง ยังจะอยากหย่าอยู่ไหม” “อย่าเลยนะพี่หมอก ผมสงสารหลาน” “ใช่ ตามีนพูดถูก หย่าเลยเถอะหมอก” ดารินทร์สมทบ “ผมหมายถึงอย่าทำต่างหากเล่าพี่ริน!” เถียงพี่สาวเสียงดีง และเมื่อมีแววจะไม่จบแค่นั้นคุณภูธเนศจึงปรามลูกด้วยสายตา ภูดิศอึดอัด “เรื่องนี้เป็นปัญหาของผม ขอผมตัดสินใจเองนะครับ” “แก้ปัญหานี่คือจะหย่าหรือปรับความเข้าใจกันอ่ะ พี่หมอก” ยังจะถามต่อ ภูมินทร์อยากเจอหน้าพี่สะใภ้กับหลานสาวจริงๆ จึงรบเร้า “พี่หมอกพาพี่สะใภ้มาเจอผมบ้างสิ หรือไม่ก็พาผมไปเที่ยวบ้านเขาก็ได้ ผมอยากเจอหลาน นี่ อีกเดี๋ยวผมก็ต้องกลับอังกฤษอีกแล้ว กว่าจะได้กลับมาก็อีกตั้งหลายเดือนเลยนะ” “ตามีน แกน่ะเงียบไปเลย!” ดารินทร์วีนอีกครั้ง ฝ่ายภูดิศนั้นโคตรจะรำคาญเสียงพี่สาว ร้องวี้ดๆ อยู่ได้ อีกทั้งเขายังขี้เกียจตอบคำถามน้องชาย “ผมไม่รับของหวานนะครับ ขอตัวไปพักผ่อนก่อน” “หมอก! จะรีบไปไหนกลับมาคุยกันก่อนสิ ตกลงว่าจะหย่าใช่ไหม!” เสียงพี่สาวร้องถามตามหลังจะเอาชนะจะให้เขาหย่าให้ได้ ภูดิศมีสีหน้าเคร่งเครียดกลับขึ้นห้อง หยิบเบียร์สองกระป๋องมาจิบบนเตียง นึกย้อนไปถึงค่ำคืนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนที่เขาอกหักจากแฟนสาว กินเหล้าเมามายเข้าห้องผิดไปขืนใจดรุณี เมื่อสร่างเมาก็ใช้เงินฟาดหัวหล่อนให้ไปพ้นหน้า แต่หล่อนกลับเนื้อเต้นอย่างจับเขาจึงไม่กินยาคุมและปล่อยให้ท้อง เขาไม่ยอมรับผิดชอบ จะจ่ายแค่เงินให้แต่เรื่องกลับแดงไปถึงหูบิดา ในที่สุดก็ต้องจดทะเบียนสมรสด้วย ดีกว่าต้องจัดงานแต่งแล้วให้คนทั้งกรุงเทพรู้ ว่าเขาได้พนักงานของตัวเองเป็นเมีย เขาในตอนนั้นโกรธ เกลียด และต่อว่าดรุณีไว้มาก เจ็บใจที่ต้องมารับผิดชอบผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้า หลังจากนั้นไม่กี่เดือนเขาไปเรียนต่อที่เมืองนอก เพื่อหลบหนีเรื่องราววุ่นๆ รวมทั้งไปพักใจหลังเลิกรากับแฟนสาวที่คบหาดูใจกันมาร่วมสิบปี เขากลับมาเมืองไทยหนึ่งปีเศษๆ ให้หลัง และรู้ข่าวจากมารดาว่าดรุณีคลอดลูก เป็นเด็กผู้หญิงและตั้งชื่อให้ว่า ‘ขวัญชีวา’ แม้อยากเห็นหน้าลูกมากแค่ไหนก็ไม่กล้าไปใกล้ เพราะเขาไม่เคยดูดำดูดีสองแม่ลูกเลยแม้แต่น้อย นั่นก็แค่ช่วงแรกเท่านั้น เมื่อลูกอายุราวห้าเดือนเขาถึงมีโอกาสได้เจอ ภูดิศรักลูก แต่ไม่ไยดีแม่ของลูกเท่าไหร่นัก ภูดิศกำกระป๋องเบียร์แน่นเพราะโกรธ ไม่คิดว่าดรุณีจะเป็นฝ่ายพูดเรื่องหย่าก่อน ทั้งที่เขาต่างหากล่ะควรจะพูดคำนั้น เหตุที่ยังไม่หย่ากันก็เพราะเขายังไม่เจอผู้หญิงที่อยากแต่งงานด้วย จึงคิดว่าทะเบียนสมรสหลอกๆ นั่น จะไปหย่าตอนไหนก็ได้ แต่ตอนนี้ภูดิศต้องคิดใหม่ซะแล้ว เพราะดรุณีกำลังเปิดเกมสู้ และหวังจะชนะเขา! .................. ติดตามบท 2 ได้ในหน้าถัดไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม