เช้า
ฟ้ามณีตื่นขึ้นมา ไม่เจอตักของพี่แล้ว เธอลุกขึ้นพับผ้าห่ม แล้วไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายแล้วออกมาแต่งตัว
เมื่อเธอแต่งตัวเสร็จ ฟ้ามณีก็มองหาพี่ ไม่นานองค์นคราปรากฎตัวในชุดนักศึกษา พร้อมกับชามข้าวต้มหมูในมือ
"พี่มาแล้วครับ"องค์นคราบอกฟ้ามณีที่มองหาพี่
ฟ้ามณีหันมาส่งยิ้มกว้างให้พี่
"วันนี้ มีอะไรให้น้องกินคะ" ฟ้ามณีถามพี่ ทั้งๆที่เห็นอยู่แล้วว่าในมือพี่คือข้าวต้มหมู
"ข้าวต้มครับ มากินสิครับ"องค์นคราวางชามข้าวต้มลงบนโต๊ะ
ฟ้ามณี มาลงมือกินข้าวต้มโดยไม่มีคำพูดใดๆออกมา
เมื่อน้องกินเสร็จ องค์นคราก็เดินไปส่งฟ้ามณีที่มหาวิทยาลัย
"มีแต่คนมองพี่เต็มเลยค่ะ"ฟ้ามณีกระซิบบอกองค์นครา
"พี่เปล่าส่งสายตาให้ใครนะครับ"องค์นคราบอกฟ้ามณี
"น้องยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะคะ พบคนร้อนตัวหนึ่งอัตรา"ฟ้ามณีแซวพี่
"อ้าว นึกว่าจะงอลพี่เหมือนตอนนั้น"องค์นคราบอกเสียงอ่อย
"ใครเค้าจะขี้งอลขนาดนั้นกันละคะ" ฟ้ามณีตอบองค์นคราแล้วก็ขำ
ฟ้ามณีและองค์นคราเดินมาถึงตึกเรียน
"สวัสดีครับองค์นครา"น้ำมนต์กล่าวทักทายองค์นครา
"สวัสดีค่ะ มาทีไหรก็หล่อทุกทีเลย" เนยกรอบเอ่ยทักทายองค์นครา
"พี่มาส่งฟ้ามณีมาเรียนครับ"องค์นคราบอกกับเนยกรอบและน้ำมนต์
"องค์นคราครับ ช่วงเย็นพ่อครูมีพิธีบวงทรวงไหว้ครูที่บ้าน เชิญดวงมณีแล้วก็องค์นคราด้วยนะครับ พ่อครูฝากมาเชิญ"น้ำมนต์บอกเจตจำนงค์ แก่องค์นครา
"อืม ไปสิ ฟ้ามณีไปที่ไหน จิตญาณพี่อยู่ที่นั่นอยู่แล้ว"องค์นคราตอบน้ำมนต์แล้วยิ้มให้
"หูยยยยย รอยยิ้มสะกดจิตร หลงรักเลยอ่า ถ้าปู่จะหล่อเบอร์นี้นะ คนก็หลงรักเยอะนะปู่"เนยกรอบบอกองค์นคราเมื่อเธอเห็นรอยยิ้มของท่าน
"พวกเจ้าไปเรียนเถอะ"องค์นคราไม่ถือสาใดๆแถมยังบอกให้ขึ้นเรียนก่อนที่ท่านจะหายเข้าดวงแก้วที่คอฟ้ามณี
"เนยกรอบ นั่นนะของเพื่อน ให้มันเบาๆหน่อย"น้ำมนต์บอกเนยกรอบแล้วขำ
"ขอหวีดปู่ได้มั้ย ในฐานะลูกหลานก็ได้ 5555"เนยกรอบพูดอย่างอารมณ์ดี
ฟ้ามณีได้แต่ขำในอาการเพ้อของเพื่อน
แล้วทั้งสามก็พากันขึ้นเรียน
ช่วงเย็น
ฟ้ามาณีขอกลับหอก่อนแล้วค่อยตามไปบ้านน้ำมนต์ ตามคำเชื้อเชิญขอวพ่อครู
ตอนนี้เธออาบน้ำแล้วแต่งตัวเรียบร้อยในกางเกงขายาวสีดำและใส่เสื้อยืดสีขาว
"น้องจะไปยังไง"องค์นคราถามขึ้นมา
"แท๊กซี่ไงคะ"ฟ้ามณีตอบแล้วหันไปรวบเก็บผมโดยการมัดหางม้าไว้กลางหัว
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่พาไป"องค์นคราบอกฟ้ามณี
"ยังไงเหรอคะ"ฟ้ามณีถามงงๆ
"น้องหลับตาแล้วอย่าลืมตาจนกว่าพี่จะบอกว่าลืมได้"องค์นคราบอกฟ้ามณี ซึ้งเธอก็พยักหน้าตกลง
"ถ้าพร้อมแล้วก็ใส่รองเท้า เตรียมของที่จะเอาไปแล้วมาหาพี่"องค์นคราบอกฟ้ามณี
เธอทำตามแล้วเดินมาหาพี่
"หลับตาลง"องค์นคราบอกน้อง ฟ้ามณีทำตามโดยดี
ผ่านมาไม่ถึงสองนาที
"เอาละถึงแล้ว น้องลืมตาได้"องค์นคราบอกฟ้ามณี
ฟ้ามณีลืมตาอย่างที่พี่บอกปรากฎว่าอยู่หน้าบ้านของน้ำมนต์
"พี่ทำได้ยังไง"ฟ้ามณีถามอึ้ง ๆ
"รู้แค่ว่าพี่ทำได้ก็พอ"องค์นคราบอกน้องแล้วส่งยิ้มให้
ฟ้ามณีหลงไหลไปกับรอยยิ้มนี้ ก่อนที่เธอจะดึงสติ กดกริ่งหน้าบ้านของน้ำมนต์
ไม่นานพ่อครูก็เดินมาเปิดประตูให้ด้วยตนเอง
"สวัสดีจ๊ะพ่อครู เดินมาเปิดประตูเองเลยเหรอคะ"ฟ้ามณีถามอย่างแปลกใจ
"ไม่ได้หรอก แม่หนู เอ็งพาใครมา พ่อครูต้องมารับให้สมพระเกียรติสิ"พ่อครูพูดยิ้มๆ แล้วยกมื้อไหว้องค์นครา ก่อนจะพาทั้งคู่เข้าไปภายในบ้าน
มีบายศรีเรียงราย มีปรัมพธี มีเครื่องบวงทรวง จําพวกหัวหมู ไก่ต้ม เหล้า ผลไม้นานาชนิด มีขนมไทยต่างๆ ทุกอย่าง ละลานตา ม้วนบุหรี่หมากพูลวางเรียงราย พ้ามณีมองภาพเบื้องหน้าอย่างตื่นตา
"อ้าวดวงมณีมาเร็วมาก พวกเราเพิ่งถึงกันเมื่อกี้เอง" น้ำมนต์บอกเพื่อน
"เออ แกมาเร็วมากยัยฟ้า"เนยกรอบ พูดอย่างแปลกใจ
"ไม่เร็วไงไหว พื่นคราพามา บอกให้หลับตาไว้ แล้วฉันก็มาโผล่หน้าบ้านเนี่ย"ฟ้ามณีบอกเพื่อนทั้งสอง "เออ เริศอยู่นะแก" เนยกรอบบอกเพื่อนแล้วหัวเราะ ทุกคนที่มาร่วมพิธินั่งลง รอร่วมพิรี มีเพียงองค์นคราเท่านั้นที่ไม่นั่งเพราะท่านไม่ได้มาใหว้บวงทรวงครู แต่ท่านเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการบวงทรวงไหว้
" พ่อหนุ่ม ทํามัยไม่นั่งยื่นค้ำหัวพ่อครูทำมัยกัน" หนึ่งในผู้ร่วมพิธีต่อว่าองค์นคราอย่างไม่รู้ องค์นคราไม่ตอบ ท่านเพียงแค่ยิ้มให้ "ท่านผู้นี้ข้าเองยังนับถือ แล้วเอ็งเป็นใครมาต่อว่าเขากันละ" พ่อครูออทโรงปกป้อง "ขอโทษจ๊ะพ่อครู ฉันไม่รู้ ขอโทษจ๊ะ พ่อหนุ่ม" ผู้ร่วมพิธีคนเติมกล่าวขอโทษขึ้นอีกรอบ องค์นคราก็ทำเพียงแค่ยิ้มให้เพราะท่านไม่ถือสาใดๆ ผู้ไม่รู้ย่อมไมผิดท่านคิดเช่นนั้นไม่นานพิธีบวงทรวงไหว้ครูก็ได้เริ่มขึ้น มีนางรํามาทําการฟ้อนรายรําบูชา เพื่อเป็นศิริมงคล
พ่อครูรายบริกรรม อัญเชิญในการบวงทรวง ทวยเทพเทวดา ผู้ปกปักษ์ อารักษ์ ต่างรับรู้และอวยพร องค์นคราท่านเองก็รับรู้และ ประทานพร เฉกเช่นกัน มีหลายคนในพิธีบวงทรวง ต่างรับรู้และสัมผัสได้จึงแสดงอาการร้องไห้ หรือหัวเราะออกมา
มันคืออาการที่ทุกคนชอบเรียกว่าองค์ลง แต่ทว่า จริงๆแล้วมันคือการสัมผัสได้ว่าครูบาอาจารย์มีอยู่คุ้มครองอยู่เลยเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นมา บางคนหัวเราะบ้าง บางคนร้องไห้บ้าง บ้านคนอยากเต้นอยากรำบ้าง หากมีสติครองตน ก็จะรู้ได้ว่า ตัวเราก็คือตัวเรานี้แหละ บางคนถึงขั้นเห็นภาพในอดีตพุดเข้ามา เพราะการบวงทรวง พ่อครูทําการเปิดฌาณบารมีของทุก คนในพิธี ส่วนใครจะเห็นไม่เห็นนั้นขึ้นอยู่ว่ามีของเดิมติดตัวมามากหรือน้อย และหนี่งในคนที่เห็นภาพอดีต ก็คือฟ้ามณี คราวนี้พี่ไม่ได้ทำให้เธอเห็น แต่บารมีที่เธอมีท่ำให้เธอเห็นได้ด้วยตัวของเธอเอง เมื่อมาอยู่ในพธีเช่นนี้
ฟ้ามณีนั่งนิ่ง เธอเห็นแต่ภาพ ตัดมาเป็นฉากๆ ส่วนเสียงนั้นเธอไม่ได้ยิน
ฉากที่เธอเห็นคือเธอในตอนที่เป็นหยาดมณี
ภาพฉายมาในจิตเธอเรื่อยๆ
พรึบ!!
ภาพหยาดมณีและองค์นคราจับมือันวิ่งในสวนดอกไม้แล้วอากับกิริยาหัวเราะอย่างมีความสุขทั้งคู่
พรึบ!!!
ภาพหยาดมณีและองค์นครานั่งอยู่เบื้องหน้าพ่อของหยาดมณี แล้วเธอไหว้องค์นครา ฟ้ามณีเดาว่ามันคือการแต่งงาน
ยังไม่ทันที่เธอจะได้สังเกตเหตุการณ์ต่อภาพก็ตัดไป
พรึบ!!
ภาพหยาดมณีนอนหนุนตักองค์นคราแล้วหยอกล้อกัน
พรึบ!!!
ภาพองค์นคราพาหยาดมณีมาที่วังของตนเอง เป็นเมืองที่ไม่ได้สว่างด้วยไฟ แต่สว่างด้วยเพชรระยิบระยับมากมาย
พรึบ!!!
"โอ้ยยย ฟ้าเป็นอะไรคะ ฟ้ามณีมองหน้าน้ำมนต์เนยกรอบ และองค์นครา อย่างสงสัยเพราะเธอเองปวดหัวมากเหลือเกิน ตอนนี้
องค์นคราพาฟ้ามณีออกมานั่งตรงบ่อปลาคราฟในบ้านพ่อครู แล้วเอามือวางที่หัวของฟ้ามณี
สักพักอาการของเธอก็ทุเลาลง น้องเห็นอดีตของตัวเอง จากการเข้าพิธีกับพ่อครู เราแค่ั้วปรับตัวไม่ทัน และไม่เคยที่จะเปิดฌาณแบบนี้ ก็จะเหนื่อยแล้วก็ปวดหัวเป็นเรื่องธรรมดา สักพักน้องจะรู้สึกหิว เพราะใช้พลังงานไปเยอะ" องค์นคราบอกฟ้าอย่างละเอียด
ฟ้ามณีพยักหน้าให้พี่
ตกใจหมดเลย นีกว่าตัวเองเป็นอะไรเสียอีกค่ะ" ฟ้ามณีตอบพี่แล้วส่งยิ้มให้
องค์นครายื่นส้มให้น้อง 1 ลูก
พี่เอามาจากไหนคะ " ฟ้ามณีถามพี่อย่างแปลกใจ
"ก็ของในพิธี เขาก็ใหว้เราทั้งนั้นทำไมเราจะเอามาให้น้องไม่ได้ละ" องค์นคราบอกฟ้ามณีแล้วยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ