ตอนที่ 9 ลูกคลื่น

1886 คำ
“เดี๋ยวนี้ไม่ห้าทุ่ม ไม่โผล่หัวนะมึง” เชนพูดกับหุ้นส่วนรายใหญ่ของ Blackwell Club ส่วนตนกับกริชนั้นถือคนละสิบเปอร์เซ็นต์ “งานที่ Thales Group ยุ่งเหรอวะ หน้าเครียดเชียว” กริชถามพร้อมชงเหล้าให้คราม “งานไม่เคยทำให้กูเครียด” ครามนั่งเอนหลังไปกับพนักโซฟาคล้ายคนเหนื่อยล้า รับแก้วเครื่องดื่มสีอำพันมาถือไว้ “อย่าบอกนะว่าเครียดเรื่องยัยคุณหนูคู่หมั้น” เชนรู้กิตติศัพท์ความร้ายกาจของพลอย เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่มีมาตั้งแต่สมัยเรียนปีสาม ตั้งแต่ผู้หญิงคนนี้เข้ามาในชีวิตคราม ความสุขก็ถูกบั่นทอนไป “มึงนี่วอนปากแตก รู้ ๆ อยู่ว่าไอ้ครามมันไม่เคยยอมรับว่าพลอยเป็นคู่หมั้น” “กูขอโทษที่ปากเสียว่ะ” เชนขอโทษที่พลั้งปากพูดถึงผู้หญิงที่เพื่อนรังเกียจ “กูชินแล้ว” ครามกระตุกยิ้ม ชินในความปากเสียของเพื่อน “อ้าวไอ้นี่” “มึงไปทำอะไรที่บ้านระรินอีก” ครามไม่แปลกใจที่กริชรู้เรื่องนี้ บอดีการ์ดก็คงจะบอกว่าเขาไปที่บ้านสีน้ำเงินคราม ไปเฝ้ามองทุกวัน เขาอยากเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น มีคำถามมากมายที่อยากจะถาม แต่ก็กลัว กลัวว่าระรินจะอยู่กับใคร เพราะแค่รู้ว่าเธอมีลูก หัวใจของเขาก็เหมือนจะแตกสลายลงเสียให้ได้ “หรือว่าระรินกลับมาแล้ว” เชนถาม “กลับมาแล้ว” “จริงเหรอวะ แล้วมึงได้เจอระรินหรือยัง แล้วได้ถามไหมว่าระรินหายไปไหนตั้งสี่ปี แล้วทำไม...” “ไอ้เชน มึงจะให้ไอ้ครามมันตอบคำไหนของมึงก่อน” “ก็กูดีใจที่ระรินกลับมา พรุ่งนี้เราไปหาระรินกัน” “ระรินมีลูกแล้ว” “ระรินแต่งงานแล้วเหรอวะ” สิ่งที่ได้ยินจากปากครามทำให้เชนกับกริชตกตะลึง ถามเป็นคำถามเดียวกัน “กูก็อยากรู้เหมือนกัน” ครามมองน้ำแข็งก้อนกลมที่อยู่ในแก้วเครื่องดื่มสีอำพันในมือด้วยแววตาครุ่นคิด ก่อนจะส่งเข้าปาก ในขณะที่กระดกน้ำสีอำพันลงคอสมองก็ไม่เคยได้หยุดใช้ความคิดเลยแม้แต่เสี้ยวนาที ครามห้ามให้เชนกับกริชไปหาระรินที่บ้าน ก่อนที่เขาจะรู้ความจริงปากของเธอ พรุ่งนี้แล้วที่เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าสี่ปีที่ผ่านมาเธอหนีเขาไปทำไม “ว้าว ๆ คุงยายฮับ มาดูนางฟ้าฉิฮับ” คลื่นยืนมองคนเป็นแม่ก้าวเดินลงบันได แววตาเป็นประกายด้วยรอยยิ้ม วันนี้แม่ของตนแต่งแต้มสีสันบนใบหน้าได้ละมุนสวย อยู่ในชุดทำงานเสื้อแขนยาวสีเบจ คอจีบ กระโปรงทำงานเข้ารูปทรงเอลายดอกกุหลาบ เข็มขัดเก๋ ๆ เข้าชุด ดูสวยแปลกตากว่าทุกวัน “ไม่ต้องแซวแม่เลย” มือเรียววางทาบแก้มลูกชาย แล้วก้มลงหอมแก้มนุ่มอีกข้างอย่างรักใคร่เอ็นดู “คลื่นไม่แชวเยย คุงแม่ฉวยเหมือนนางฟ้าจริง ๆ นะฮับ ใช่ไหมฮับคุงยาย วังนี้คุงแม่ฉวยเหมืองนางฟ้า” “ยายเห็นเห็นด้วยกับคลื่นค่ะ วันนี้ลูกสาวแม่สวยจริง ๆ แต่กระโปรงตัวนี้คุ้น ๆ อยู่นะ” พรจดจำกระโปรงที่อยู่บนตัวลูกสาวได้ เป็นกระโปรงเมื่อสมัยที่เธอเพิ่งสอบบรรจุครูใหม่ ๆ “ตอนจัดตู้เสื้อผ้า ระรินบังเอิญเจอกระโปรงตัวนี้ค่ะ เห็นว่าสวยดี แล้วแมตช์กับเสื้อตัวนี้ด้วยค่ะ” ระรินบังเอิญเจอกระโปรงตัวสวยของแม่ตอนที่รื้อตู้เสื้อผ้าเพื่อจัดใหม่ เห็นว่าสวยดี ดูเข้ากันกับเสื้อที่เธอเพิ่งซื้อมาใหม่ จึงนำมาลอง ใส่ได้พอดี และเข้าชุดกัน “ระรินมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ลงตัวมากลูก ไม่ดูล้าสมัยเลย สวยหรู ดูดี เป็นทางการ ได้ลุกสาวเกาหลีมากเลย” ตั้งแต่เกษียณอายุราชการ ยามว่างจากเลี้ยงหลานชาย พรก็มักดูซีรีส์เกาหลีหรือไม่ก็ซีรีส์จีน จึงจดจำสไตล์การแต่งตัวของเหล่านักแสดงหญิงในลุกสาวทำงานได้ “ตองคุงยายอายุเท่าคุงแม่ คุงยายก็ฉวยเหมืองนางฟ้าฉิฮับ” เพราะแม่ใส่กระโปรงของยายได้ ทำให้คลื่นคิดเองว่าตอนที่ยายอายุเท่าแม่ตอนนี้ ก็ต้องสวยเหมือนนางฟ้า “คุณตาก็บอกกับยายแบบนี้ค่ะ เมื่อก่อนยายเคยเป็นเทพีสงกรานต์ประจำตำบลด้วยนะ สวยจนคุณตาตะลึงเลยล่ะ” พรได้โอกาสคุยโวเรื่องความสวยของตนเมื่อสมัยสาว ๆ ความสวยของเธอก็ไม่เป็นรองใคร ระดับเทพีสงกรานต์ประจำตำบล “คุงแม่ฉวยเหมืองคุงยายนี่เอง” “สวยเชื้อไม่ทิ้งแถวค่ะ ไปค่ะ ไปทานอาหารเช้ากัน คุณแม่จะได้ไปส่งเราที่โรงพยาบาลก่อน ถ้าออกจากบ้านช้าเดี๋ยวคุณแม่ไปรายงานตัวสาย ระรินมาลูก” พรยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จูงมือหลานชายไปที่โต๊ะอาหาร ระรินมองตามยายหลานด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข สี่ปีแล้วกับการมีกันอยู่สามคนแบบนี้ ระรินขับรถมาส่งคนเป็นแม่กับลูกชายที่โรงพยาบาล เพื่อรับแฟกเตอร์ตามที่หมอนัด ก่อนตัวเธอจะตรงไปยังสำนักงานใหญ่ Thales Group เพื่อรายงานตัวเข้าทำงานในตำแหน่งเลขานุการของท่านประธาน “คลื่นอยู่กับพี่พยาบาลก่อนนะลูก ยายปวดท้องไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง” พรรู้สึกปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ น้ำพริกค้างคืนที่กินไปด้วยความเสียดายในมื้อเช้าคงเล่นงานเข้าให้แล้ว ใจหนึ่งก็เป็นห่วงหลาน แต่ก็เริ่มปวดหนักขึ้นเรื่อย ๆ “ฮับคุงยาย คลื่นอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนฮับ คุงยายบายใจได้เยย” “ฝากด้วยนะคะคุณพยาบาล” “ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะคุณยาย” เมื่อพยาบาลรับปากหนักแน่น พรก็รีบไปเข้าห้องน้ำ พรกลับออกมาจากห้องน้ำ คลื่นก็ถูกพาตัวเข้ารับแฟกเตอร์แล้ว แต่อาการปวดท้องยังคงมาเป็นระยะ ทำให้เข้าออกห้องน้ำอยู่หลายรอบด้วยอาการท้องเสีย แต่ก็ไม่ลืมฝากฝังหลานชายไว้กับพยาบาลหน้าห้องตรวจ หากออกมาก่อนที่ตนจะออกจากห้องน้ำ “คุงยุงฉุดหย่อ เจอกังอีกแย้วนะฮับ” คลื่นเข้าไปทักทายคนตัวสูงที่ตนจำได้แม่น ระหว่างรอคนเป็นยายเข้าห้องน้ำ “สวัสดีครับสุดหล่อ” ครามทักทายเด็กชายตัวน้อยตรงหน้า ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกผูกพันกันเด็กคนนี้นัก “หย่อเจอหย่อ ก็เป็งหย่อฉุด ๆ” “ครับหล่อสุด ๆ ว่าแต่ เราเจอกันเป็นครั้งที่สองแล้ว แต่เรายังไม่รู้จักกันอย่างเป็นทางการเลยนะ ลุงชื่อครามครับ” “คลื่นฮับ ยุงครามจะเยียกยูกคลื่นก็ได้นะฮับ ถ้ายุงครามมาเป็งคุงพ่อของคลื่น ยุงครามเป็งคุงพ่อของคลื่นเหอะ คลื่นอยากมีพ่อหย่อ ๆ เหมืองยุงคราม” คลื่นยังคงความตั้งใจที่จะให้ครามมาเป็นพ่อ เพราะชอบในความหล่อเหลา “จะให้ลุงเป็นคุณพ่อ เดี๋ยวคุณพ่อจริง ๆ ของคลื่นก็น้อยใจแย่หรอกครับ” “คลื่น...” พูดได้เพียงเท่านั้น เสียงของคนเป็นยายก็ดังขึ้น “คลื่น คุยกับใครลูก” “คุยกับคุงยุงฉุดหย่อฮับ ยุงคราม” “คราม...” เมื่อชายหนุ่มที่กำลังคุยกับหลานชายหันมา พรก็มีสีหน้าตกใจเป็นอย่างมาก “น้าพร...” ครามแน่ชัดแล้วว่าเมื่อครั้งก่อนเขาไม่ได้คิดไปเองว่าคนที่ขึ้นรถแท็กซี่ไปกับเด็กชายตัวน้อยมีใบหน้าคล้ายกับแม่ของระริน หรือที่ตนเรียกน้าพร เหมือนกับเพื่อนคนอื่น ๆ แม้ความรู้สึกสับสนจะตีรวน แต่ก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้หญิงสูงวัยตรงหน้า “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคราม” พรปรับสีหน้าให้เป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ทักทายอย่างเป็นกันเอง “ครับ สี่ปีที่ผมกับน้าพรไม่ได้เจอกัน น้าพรเป็นอะไรหรือเปล่าครับ หน้าซีด ๆ” แม้จะมีคำถามมากมายที่อยากถาม แต่จากสีหน้าที่ซีดเซียวของคนตรงหน้าก็ทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้ “คุงยายปวดท้องจะเข้าห้องน้ำอีกแย้วหยอฮับ” “ยายท้องเสียน่ะ น้าขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคราม คลื่นรอยายตรงนี้ไม่ไปไหนนะลูก” “ฮับ คลื่นไม่ไปไหน ยอคุง...คลื่นยังพูดไม่เฉดเยย” คลื่นยังพูดไม่ทันจบ คนเป็นยายก็เดินละลิ่วไปทางห้องน้ำ สุดท้ายแล้วพรก็ต้องนอนโรงพยาบาลให้น้ำเกลือด้วยอาการอาหารเป็นพิษ ขณะนี้ได้หลับไปเพราะความอ่อนเพลีย โดยมีครามคอยจัดการทุกอย่างให้ “คลื่นเป็นหลานของยายพรเหรอครับ” ครามนั่งอยู่กับเด็กชายตัวน้อยบนโซฟาในห้องพักฟื้น VIP ของโรงพยาบาล สิ่งที่ได้รับรู้ในวันนี้ ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ และเขาต้องรู้ความจริงให้ได้ “ใช่ฮับ” “แม่ของคลื่นชื่อระรินใช่ไหมครับ” ครามถามด้วยความมั่นใจ เพราะระรินเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของพร “ใช่ฮับ คุงยุงยู้จักคุงแม่ของคลื่นด้วยหยอฮับ” “ลุงเคยเป็นเพื่อนกับแม่ของคลื่นครับ” ครามไม่พูดเปล่า เขามีหลักฐานยืนยันในสิ่งที่พูดให้กับเด็กน้อยดู เป็นรูปของเขาที่ถ่ายกับระริน รวมทั้งเชนกับกริช ที่ถ่ายกันเมื่อครั้งไปเที่ยวบ้านพักตากอากาศของเขาที่ปราณบุรี “คุงยุงเป็งเพื่องกับคุงแม่จริงด้วย คุงแม่ไปทะเย คุงแม่ฉวยจัง” คลื่นตื่นเต้นที่ได้เห็นรูปของแม่ “คลื่นครับ คุณพ่อของคลื่นล่ะครับ” ครามไม่อ้อมค้อมถามในสิ่งที่อยากรู้ “คลื่นไม่มีคุงพ่อฮับ คลื่นอยู่กับคุงแม่กับคุงยายฉามคง คุงตาอยู่บงฉะหวัง” คลื่นตอบ ทั้งที่ยังเพลิดเพลินกับการดูรูปของคนเป็นแม่ คำตอบของเด็กชายตัวน้อยทำให้หัวใจแกร่งเต้นไม่เป็นจังหวะ หลายสิ่งหลายอย่างทำให้ครามคิดว่า เด็กคนนี้เป็นลูกของเขากับระริน เพราะโรคประจำตัวของคลื่นเป็นโรคทางพันธุกรรมที่จะถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปสู่ลูก โดยเฉพาะลูกผู้ชาย “ลุงขอโทรศัพท์โทรหาเพื่อนก่อนนะครับ ลุงโทรเสร็จจะให้คลื่นดูรูปคุณแม่ต่อ” “นี่ฮับ” คลื่นยื่นโทรศัพท์คืนคราม นั่งรออย่างใจจดใจจ่อที่จะดูรูปของแม่อีกครั้ง ในโทรศัพท์ของลุงคราม มีรูปของแม่เยอะมาก เป็นร้อย ๆ รูปเลยก็ว่าได้ “ไอ้กริช มึงกับไอ้เชนมาหากูที่โรงพยาบาล...” ครามโทรหาเพื่อน และให้มายังโรงพยาบาลทันที เมื่อเชนกับกริชมาถึงโรงพยาบาล ครามเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งคู่ฟัง รวมถึงบอกว่าคลื่นเป็นใคร และฝากฝังทั้งสองคนให้ดูแลทางนี้จนกว่าเขาจะกลับมา ก่อนที่เขาจะกลับไปที่ Thales Group
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม