ผมชะงักไปนิดหน่อยกับสิ่งที่เยลลี่ถามออกมาเพราะผมไม่คิดว่าเธอจะเก่งขนาดนี้ ขนาดรู้เรื่องของผู้หญิงที่ผมเคยคบแค่สองวัน... ใช่ครับ ผมเคยมีแฟนคนหนึ่งผมตกลงคบกับเธอเพราะว่าเธอมีหน้าตาและท่าทางที่น่าสนใจดีคล้าย ๆ กับเยลลี่นี่แหละ แต่พอตกลงคบกันได้สองวันก็ต้องเลิกกันเพราะว่าเธอขี้หึงและหวงผมจนเกิดเหตุทั้งยังไปทำร้ายร่างกายเพื่อนผู้หญิงบางคนที่เข้ามาหาผมเรื่องเรียนอีก เพราะแบบนั้นผมเลยบอกเลิกไปและเธอก็ย้ายมหาวิทยาลัยไปเรียนต่อที่เมืองนอกแทน
“ว่ายังไงนายยังฝังใจกับแฟนเก่าและมองว่า...”
“ไม่ใช่สักหน่อย” ผมบอกออกไปทันที เมื่อกี้นี้แค่ตกใจเท่านั้นแหละที่เธอไปสืบเรื่องเก่าของผมมาด้วย อยากรู้จังว่าเธอจะรู้เรื่องอะไรมาบ้างงั้นก็หมายความว่าเธอต้องนิสัยสันดานของไอ้อาโปด้วยน่ะสิ แต่ก็ยังพยายามเข้าหามันงั้นเหรอ???
“แล้วอะไรล่ะจะบอกว่านายชอบฉันจริง ๆ เหรอ?” เธอมองผมอย่างไม่เชื่อก็นะมันก็น่าแปลกอยู่เหมือนกันที่อยู่ ๆ ผมก็ชอบเธอ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะในเมื่อผมชอบเธอจริง ส่วนเธอเหตุผลไม่ใช่เพราะเธอหน้าเหมือนสเตร่าแน่นอนเพราะว่าเยลลี่สวยกว่าตั้งเยอะ แม้ว่าบางมุมจะคล้าย ๆ ไปบ้างก็เถอะ เอาจริงผมแทบจะจำหน้าของสเตร่าไม่ได้แล้วด้วยซ้ำถ้าเยลลี่ไม่พูดขึ้นมา
“ใช่...ส่วนเหตุผลไม่ใช่เพราะเธอหน้าเหมือนแฟนเก่าแต่เพราะเธอทำให้ใจฉันเต้นแรงต่างหาก” ผมกระชับมือของเธอที่จับแนบอก
“....” แต่สีหน้าของเธอไม่เปลี่ยนไปเลยอะไรทำให้เธอเย็นชาได้ขนาดนี้นะ?
แม้ว่าเธอจะพูดดีและแสดงท่าทางแปลก ๆ ออกมาต่อหน้าไอ้อาโปแต่ผมก็ยังรู้สึกได้ว่าเธอไม่ได้ทำมันด้วยความตั้งใจและจริงใจ ถ้าไอ้อาโปสังเกตดี ๆ ก็อาจจะรู้ได้ว่าเยลลี่เข้าหามันเพราะอะไรบางอย่างแน่นอน
“ว่าไงจะใช้ฉันไหม?” ผมยอมเป็นเครื่องมือของเธอเพราะผมจะได้ใกล้ชิดเธอมากขึ้นและดูแลเธอได้มากขึ้นด้วย ลำพังแต่ไอ้หยินมันจะไปจัดการอะไรได้
“ก็ได้แต่เมื่อนายหมดประโยชน์ก็รีบไสหัวไปซะ” เธอบอกแบบนั้นก่อนจะเดินหนีไป
“ฉันไม่ไปไหนง่าย ๆ หรอกนะเยลลี่....”
หลายชั่วโมงต่อมา...
บ้านของเซย์
เอี๊ยดดด!!
ผมกลับมาที่บ้านหลังจากที่ส่งเยลลี่เสร็จแล้ว หลังจากขึ้นรถจนไปส่งเธอไม่ได้พูดอะไรกับผมเลยทั้งนั้นไม่รู้ว่าภายในหัวนั้นกำลังคิดอะไรอยู่
“สวัสดีครับคุณเซย์” พ่อบ้านที่รับตำแหน่งเลขาและผู้คุมกันผมทักทายเหมือนทุกวัน
“ครับพี่เติร์ด อ่อ เรื่องที่ผมให้ไปสืบ...” ผมถามถึงความคืบหน้าของงานที่สั่งไป
“เอกสารทั้งหมดวางไว้ที่ห้องนอนของคุณเซย์แล้วครับ”
“ขอบคุณครับ” ผมเดินเข้าบ้านเมื่อส่งกุญแจรถให้พี่เติร์ดเอารถไปเก็บผมขอแด๊ดดี้กับแม่ซื้อบ้านเพราะไม่ชอบอยู่คอนโดหรือหอมันอึดอัดและก็เอาไว้ให้ครอบครัวผมมาพักผ่อนเวลามาเที่ยทะเลกันด้วย ผมชอบอยู่ที่ ๆ มีพื้นที่และบริเวณบ้านมากกว่าไม่เหมือนบรรดาพี่น้องของผมที่ชอบอยู่คอนโดกันไม่รู้ว่าพวกมันไม่อึดอัดบ้างหรือไงแต่ก็ช่างเถอะตอนนี้งานที่ผมสั่งพี่เติร์ดไปทำสำคัญกว่า
อ่อ บ้านนี้มีแค่ผมและพี่เติร์ดที่แด๊ดดี้ส่งมาดูแลเท่านั้นพี่เขาทำหน้าทุกอย่างให้ผมทั้งทำความสะอาด ทำอาหาร และเป็นการ์ดคุมกัน รวมทั้งเลขาเกี่ยวกับเรื่องงานต่าง ๆ อีกด้วย
ห้องนอนเซย์
ปัง!
ผมปิดประตูห้องนอนก่อนจะเดินตรงที่เตียงนอนเพราะมันมีเอกสารวางอยู่นั่นเอง ผมหยิบมันขึ้นมาก่อนจะเปิดอ่านซึ่งมันเป็นประวัติเกี่ยวกับเยลลี่นั่นเอง เธอทำตัวน่าสงสัยไปหมดตั้งแต่ย้ายเข้ามาเรียนในชั้นปีสามแล้วทั้งที่คณะแพทย์ไม่ว่าสาขาไหนก็ยากมากในการจะย้ายทั้งที่แต่เธอก็อาจจะเก่งจริง ๆ นั่นแหละ
“เก่งจริงด้วยแหละ” เพราะว่าเธอเรียนจบแล้วด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งและยังมีใบรองรับการเป็นสัตวแพทน์เรียบร้อยแล้วด้วย
หลังจากนั้นผมก็อ่านประวัติของเธอที่ไปให้พี่เติร์ดมาหาซึ่งมันยากมากเพราะว่าเธอปกติตัวตนของตัวเองและแน่นอนว่าระดับผมต้องหาได้อยู่แล้วแม้ว่าเธอจะมีไอ้หยางที่คอยปกปิดข้อมูลต่าง ๆ ของเธอก็ตาม
บางคนอาจจะคิดว่าทำไมผมถึงสืบเรื่องของเธอโดยภาระการเพราะว่าถ้ารอให้เธอบอกผมก็ได้ตายห่าก่อนแน่และอีกอย่างผมได้ให้คนช่วยปกปิดระดับความปลอดภัยของข้อมูลเยลลี่ด้วย
ผมรู้จักไอ้หยินไอ้หยางสองพี่น้องนี้ดีและแน่นอนว่าถ้าเธอสนิทกับพวกมันก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันผมถึงได้สงสัยยังไงละ งั้นเริ่มจากลูกแฝดหยินหยางพวกมันเกิดไล่ ๆ กับพวกผมนั่นแหละมันเป็นลูกชายของผู้บังคับบัญชาการตำตรวจแห่งชาตินั่นเอง พวกมันทั้งฉลาดและเก่งไม่ต่างจากครอบครัวเท่าไหร่นัก หลายครั้งที่แด็ดผมและพ่อของมันต้องร่วงงานกัน แต่ผมไม่เคยเยลลี่เลย เรื่องของไอ้แฝดนั่นช่างเถอะรู้แค่นี้พอแล้วเพราะสิ่งที่น่าสนใจกว่าเรื่องของเยลลี่ต่างหาก....
พ่อของเธอโดนเพื่อนรักหักหลังและใส่ร้าย รวมทั้งอาจจะเป็นคนฆ่าพ่อของเธอและจัดการว่าฆ่าตัวตายก็ได้สินะ
“งั้นหมายความว่าเธออาจจะเห็นเหตุการ์ทุกอย่างน่ะสิ?” เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่แปลกที่เธอจะเย็นชาแบบนั้น
ร่องรอยบนร่างกายมีรอยกระสุนและบาดแผลจากการตกจากที่สูงคาดหวังจะเป็นบันได จากการสันนิฐานน่าจะพยายามหนีด้วยความกลัวและพลัดขึ้นลงมา
“แยม...?”
“ชื่อเก่าสินะแต่ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ก็น่ารักเหมือนกันนั่นแหละ หึ” ผมอ่านไปเรื่อย ๆ เกี่ยวกับเธอก็พบว่าผู้การได้รับเธอไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมอย่างลับ ๆ และปล่อยข่าวว่าเธอตายไปแล้วพร้อมกับพ่อของเธอ
และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเธอมีภาวะความเครียดทำให้กินมากกว่าคนปกติและอาจจะส่งผลต่อร่างกายได้ถ้ากินเยอะจนไม่ระวังตัว
“เพราะงั้นเลยกินอาหารได้เยอะขนาดนั้นสินะ เฮ้ออออ”
ส่วนเพื่อนสนิทของพ่อเธอก็คือ...นายไพรัตน์ พ่อของไอ้อาโปสินะ
เพราะงั้นที่เธอพยายามเข้าหามันก็เพราะว่าอยากแก้แค้นพ่อของมันผ่านตัวไอ้อาโปนั่นเอง ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันเป็นลูกรักของพ่อมันแค่ไหน ตามใจมันจนมันเคยตัวและเลวได้ขนาดนั้นไง
“เฮ้ออออ” ปึก!! ผมถอนหายใจก่อนจะปิดเอกสารที่เกี่ยวกับเยลลี่ลง ก่อนจะลุกขึ้นและเผาทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอทิ้ง เพราะจะใครรู้เรื่องตัวตนของเธอไม่ได้เด็ดขาด
ไอ้อาโป...
ผู้ชายแสนตอแหลที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอจะมองไม่ออกก็ช่างแต่ผมมองออกหมดนั่นแหละแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของผมเหมือนกัน แม้มันจะทำตัวแบบนั้นแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องเข้าไปวุ่นวายนิแต่ถ้ามันทำให้ผมวุ่นวายเมื่อไหร่ เมื่อนั้นคือวันจบชีวิตของมันไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่ามันพยายามแข่งเรื่องต่าง ๆ กับผม แต่มันไม่จำเป็นต้องไปแข่งกับมันนิ ส่วนเหตุผลที่ผมช่วยเยลลี่นั้นก็เพราะเธอทั้งหมดจริง ๆ ไม่มีอะไรแอบแฝงนอกจากอยากทำคะแนนกับเธออยากใกล้ชิดและพยายามแทรกตัวเองเข้าไปในชีวิตของเธอเท่านั้นเอง แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องดีที่ผมจะสามารถทำได้ แต่เหตุผลอีกอย่างที่สำคัญคือ...ผมเป็นห่วงเธอ
แม้จะพึ่งเจอและพึ่งชอบแต่ผมก็เป็นห่วงเธอจริง ๆ กลัวว่าแผนของเธอที่วางไว้มันจะไม่สวยเท่าไหร่เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบยังไง ไม่ว่าอะไรก็สามารถเปลี่ยนไปได้ทั้งนั้นแหละ เพราะงั้นเพื่อให้เธอเดินตามแผนสำเร็จผมจึงจะต้องช่วยเธอ
ช่วยให้แผนของเธอสำเร็จเพื่อพิชิตใจเธอ หึหึหึ