“ก็ถามตรงๆ... ถ้าอยากทำอย่างที่ได้เห็นมาเมื่อกี้แล้วละก็... คืนนี้ฉันจะสงเคราะห์ให้หนักๆ... ดึกๆ ไม่ต้องล็อคประตูห้องนะ รับรองว่าเธอจะเสียวไปจนถึงเช้าเลยทีเดียว”
ไม่เพียงแทะโลมด้วยคำพูดหยาบคาย หากแต่แววตากระหายของพ่อเลี้ยงหื่นยังแลสำรวจเรือนร่างรัดรึงของเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยท่าทางหื่นหิวอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งที่ฟางข้าวอยากจะตอบโต้ใจคนหยาบคายใจจะขาด ทว่าในสถานการณ์เยี่ยงนั้นเธอก็ทำได้เพียงแค่กำมือแน่น ริมฝีปากเม้มสนิทเป็นเส้นตรงด้วยความรู้สึกต่อต้านเขาที่แสดงออกมาด้วยความลืมตัว ถ้าไม่ติดว่าเธอกับมารดาเพิ่งเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับเขาในฐานะ ‘ผู้อาศัย’ เธอคงตบหน้าเขาสักฉาด
“ขอตัวนะคะ... ฟางไม่อยากพูดกับคนหาเรื่อง”
หญิงสาวรู้ว่าคนพรรค์นี้ถ้าหลีกเลี่ยงเสียได้เป็นดีที่สุด
“เดี๋ยวสิ... จะรีบไหน”
เขตต์ตะวันรีบคว้าข้อมือของเธอเอาไว้
“ปล่อยนะคะ”
ฟางข้าวสะบัดเบาๆ
“ทำไม... เนื้อตัวเป็นทองคำหรือยังไงถึงแตะต้องไม่ได้ อย่าลืมว่าฐานะของเธอกับแม่ก็แค่ ‘คนขออาศัย’ บ้านฉันอยู่ ถ้าพูดแบบไม่อ้อมแม่เธอก็แค่ ‘นางบำเรอ’ ของพ่อฉันเท่านั้นเอง เอางี้... เรามาตกลงกันดีๆ เอาเป็นว่าฉันชอบเธอนะ คืนนี้เธอบริการฉันให้เต็มที่ บางทีฉันอาจจะเลี้ยงเธอไว้เป็นนางบำเรออีกคน เวลามีอารมณ์ขึ้นมาจะได้ไม่ต้องออกไปปลดปล่อยนอกบ้าน”
ฟางข้าวกัดฟันกรอดกับคำพูดดูแคลนของเขา คิดไม่ถึงว่าเขตต์ตะวันจะเสนอเงื่อนไขอำมหิตโดยไม่นึกถึงจิตใจของเธอเลยสักนิด และมันทำให้ความอดทนของสาวน้อยขาดสะบั้นลงในที่สุด
เพียะ...
ฝ่ามือน้อยๆ ฟาดเข้าที่ใบหน้าของพ่อเลี้ยงอย่างจัง
“มือหนักดีเหมือนกันนะ”
เขตต์ตะวันยกมือขึ้นลูบใบหน้าข้างที่โดนตบ สายตาเหี้ยมเกรียมจ้องหน้าฟางข้าวอย่างนึกคาดโทษราวจะฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ
“รู้หรือเปล่าว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าตบหน้าฉัน”
“คุณก็เป็นผู้ชายคนแรกที่ดูหมิ่นฉันกับแม่อย่างหยามเกียรติ”
“ก็ฉันพูดจริงนี่นา... แม่เธอก็นักร้องกลางคืนที่ร้องเพลงบ้างขายตัวกับแขกบ้าง และเธอเองก็คงขายมาแล้วเหมือนกันสินะ”
ฟางข้าวกัดฟันกรอด ครั้นแล้วก็ทำท่าว่าจะเดินหนีออกมาจากคนพาล แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์คงไม่จบลงง่ายๆ เหมือนที่เธอคิดเอาไว้
“เดี๋ยวสิ... ตบแล้วจะหนีไปเฉยๆ ได้ยังไง”
เขตต์ตะวันคว้าข้อมือของหญิงสาวเอาไว้ เขาผลักแรงจนร่างบอบบางของเธอกระแทกเข้ากับผนังแล้วโผเข้าสอดสองมือโอบใบหน้านวล จากนั้นก็บดเคล้าริมฝีปากเข้าหากลีบปากเย้ายวนของเธออย่างบ้าคลั่ง
“อื๊อ... ”
ด้วยริมฝีปากที่ผนึกแน่นเข้าหากัน ฟางข้าวทัดทานได้เพียงสั้นๆ เพราะเสียงร้องถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ พร้อมๆ กับเรียวลิ้นร้อนๆ ของพ่อเลี้ยงเขตต์ตะวันที่สอดเข้ามาในร่องปาก กวาดต้อนเอาเรียวลิ้นน้อยๆ ของเธอออกมารัดเลียกันจนได้ในที่สุด
สาวน้อยไม่เคยจูบมาก่อน ไม่เคยมีใครกระทำกับร่างกายของเธอเยี่ยงนี้มาก่อน เมื่อเจอลีลาจูบแสนเร่าร้อนของพ่อเลี้ยงมากลีลา ก็ทำเอาหัวใจกระตุกวูบ มือไม้อ่อนระทวย สองขาอ่อนเปลี้ยวราวกับว่าจะยืนไม่อยู่
“ปล่อยนะ... ฮือๆ”
ฟางข้าวรีบกระชากริมฝีปากหนีจูบดูดดื่ม เมื่อสติคืนกลับมาในช่วงสั้นๆ หลังจากเผลอจูบตอบโต้ด้วยเรียวลิ้นที่รัดเลียกันพัลวันอยู่นานเป็นครู่ ดวงตาแดงเหมือนจะร้องไห้เพราะไม่คิดว่าจะโดนเจ้าของบ้านรังแกด้วยวิธีการที่คาดไม่ถึง
กำปั้นน้อยๆ รัวตีไปที่แผงอกกว้างของเขาพัลวัน แต่ก็มิได้สร้างความสะทกสะท้านให้กับคนตัวโตเลยสักนิด ดูเหมือนว่าเขายิ่งชอบที่เธอตอบโต้เขา การได้ออกแรงยื้อยุดเล็กๆ น้อยๆ กับสาวน้อยซึ่งเนื้อตัวหอมกรุ่นไปด้วยสาบสาวคนนี้ยิ่งทำให้เลือดในกายของเขตต์ตะวันพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างประหลาดล้ำ
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะพ่อเลี้ยง... ไม่งั้นฟางจะร้องให้คนช่วยจริงๆ ด้วย”
เธอขู่เสียงเข้ม แต่นึกหรือว่าคนอย่างพ่อเลี้ยงเขตต์ตะวันจะกลัว เมื่อเห็นว่าคำขู่ไม่ได้ผลฟางข้าวจึงต้องสะบัดแรงๆ จนเป็นอิสระจากเงื้อมมือแข็งแรงที่ยื้อยุดเอาร่างน้อยๆ ของเธอเข้าไปกอดเอาไว้อย่างถือวิสาสะ
“ทำเป็นขัดขืน... เมื่อกี้ยังจูบตอบฉันอยู่เลยนี่นา”
เขารู้ทันอาการหวามไหวของเธอ
“บ้า... ไม่ได้จูบตอบสักหน่อย... ”
ฟางข้าวรู้สึกละอายเกินกว่าจะยอมรับความจริงว่าเธอเคลิบเคลิ้มไปกับจูบเร่าร้อนของเขา
“แล้วที่จูบกันดูดดื่มปานจะแลกลิ้นกินน้ำลายเมื่อครู่นี้ล่ะ... อย่าบอกนะว่าไม่ชอบ”
สายตาของเขามองมาอย่างรู้เท่าทันอารมณ์หวามไหวของเธอ
“ไม่ชอบเลยสักนิด”
ฟางข้าวส่ายหน้า ยกหลังมือขึ้นเช็ดริมฝีปากแสดงให้เห็นว่าเธอรังเกียจการกระทำของเขาเมื่อครู่ จากนั้นก็ ก้าวยาวๆ หนีคนพาลออกมาทันทีที่ได้โอกาส
“คืนนี้ไม่ต้องล็อคห้องนอนนะ”
พ่อเลี้ยงตะโกนตามหลัง จู่ๆ ก็รู้สึกสนุกที่ได้แกล้งฟางข้าว
ที่ห้องครัว
“ป้าช้อยจ๋า... ”
พ่อเลี้ยงตรงเข้ามาสวมกอดเอวป้าช้อยจากทางด้านหลังด้วยความสนิทสนม เพราะว่าป้าช้อยคือแม่นมที่เลี้ยงดูเขตต์ตะวันมาตั้งแต่ตอนที่เขายังเล็กๆ จึงไม่แปลกที่เขตต์ตะวันแสดงออกถึงความรักและความผูกพันที่มีต่อป้าช้อยอย่างเปิดเผย
“อุ๊ย... พรวดพราดเข้ามากอดป้าแบบนี้ตกใจหมดเลย มีอะไรหรือคะพ่อเลี้ยงสุดหล่อของป้า”
ป้าช้อยถามพลางหยิบชามกระเบื้องสีขาวขึ้นมาเช็ดทำความสะอาด
“ผมอยากรู้อะไรบางอย่าง”
พ่อเลี้ยงเปรยให้ป้าช้อยอยากรู้
“เรื่องอะไรคะ?”
แม่นมแหงนมองใบหน้าคมคร้ามของเขตต์ตะวันด้วยความอยากรู้ว่าเรื่องด่วนอันใดที่ทำให้เขาเดินเข้ามาหาหล่อนถึงก้นครัว ทั้งที่ปกติก็ไม่ค่อยเฉียดกรายเข้ามาใกล้บริเวณนี้
“ก็เรื่องเมียใหม่ของคุณพ่อน่ะสิ... เป็นใครมาจากไหนครับ? แถมยังมีลูกติดมาด้วย”
เขตต์ตะวันต้องการความแน่ใจในเรื่องที่ได้รู้มา จึงตัดสินใจถามนมช้อยอีกครั้ง