“ขึ้นรถได้แล้วเจ้าฮารัน ไม่ต้องทำหน้าเหมือนกำลังจะถูกเอาไปเชือด!”
ชีคฟาฮิดทรงอ่านใจองครักษ์เอกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จึงตรัสดักคออีกฝ่าย พอองครักษ์ฮารันก้าวขึ้นมานั่งในเบาะหลังคู่กับพระองค์แล้ว ก็ตรัสลอยๆ ให้อีกฝ่ายตกใจหน้าถอดสีซีดยิ่งกว่าเดิม
“ใจเย็นเจ้าฮารัน ยังไงๆ เจ้าก็ไม่โดนเชือดตอนนี้แน่ แต่ถ้าหากคืนนี้เราไม่ได้ดั่งใจต้องการ เจ้าคงไม่ต้องให้เราพูดในส่วนที่เหลือใช่ไหมเจ้าฮารัน!”
สุรเสียงซึ่งตรัสเน้นหนักในตอนท้าย กอปรกับดวงเนตรสีนิลซึ่งจ้องมองเขม็งวาววับดุดันไม่ต่างจากเสือดำสมกับความหมายชื่อของพระองค์ ทำเอาองครักษ์เอกถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง
“เอ่อ...อย่าเพิ่งเชือดกระหม่อมเลยพ่ะย่ะค่ะ ขอกระหม่อมได้มีโอกาสเที่ยวประเทศไทยให้จุใจก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ฮารันอุทธรณ์เสียงอ่อย
“นั่นก็ขึ้นอยู่กับการทำงานของเจ้า ว่าจะทำสำเร็จหรือเปล่า”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมรับทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ดี! ถ้าไม่สำเร็จก็เลือกเอาว่าอยากได้รับโทษสถานหนักแค่ไหน”
“ขอแบบเบาๆ ก็แล้วกันพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ฮารันต่อรองขอลดหย่อนโทษไว้ก่อน เผื่อถึงตอนนั้นเขาจะได้ไม่ถูกทำโทษมากนัก
“จะหนักหรือจะเบา คืนนี้ก็ได้รู้กันแล้วเจ้าฮารัน”
ชีคฟาฮิดตรัสขู่อีกครั้ง จากนั้นก็ทอดสายตาออกไปนอกตัวรถ มองทิวทัศน์อันสวยงามของประเทศไทย ซึ่งพระองค์เพิ่งเคยมาเยี่ยมเยือนเป็นครั้งแรก
ส่วนองครักษ์ฮารัน พอถูกเจ้าเหนือหัวขู่ถึงสองครั้งสองคราด้วยกัน ก็เริ่มนั่งไม่ติด เห็นทีว่าถึงโรงแรมแล้วต้องโทรหาเอเย่นต์ให้จัดหาสาวๆ มาส่งให้กับเสือดำแห่งท้องทะเลทรายในทันที
ในค่ำคืนของวันเดียวกัน ภายในคฤหาสน์ธดากรณ์ของหม่อมหลวงนิรินรดา หม่อมหลวงจิตรินถือกล่องกำมะหยี่ขนาดใหญ่ เดินตรงมายังห้องนอนของลูกสาว ก่อนจะเคาะประตูห้องเบาๆ เรียกให้ลูกสาวเปิดประตูให้
“ผิง แต่งตัวเสร็จหรือยังลูก เปิดประตูให้พ่อหน่อยลูก”
“คุณพ่อรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวผิงเปิดประตูให้ค่ะ”
หม่อมหลวงนิรินรดาตะโกนบอกบิดา พร้อมกับเดินเร็วๆ มาเปิดประตูให้ท่าน พอเปิดประตูออกกว้าง ก็แย้มยิ้มหวานให้กับบิดา
“ผิงแต่งตัวเสร็จแล้วค่ะ ไปกันเลยไหมคะคุณพ่อ”
หม่อมหลวงจิตรินทอดสายตามองลูกชายซึ่งอยู่ในชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนเปิดไหล่ให้เห็นข้างหนึ่ง ด้วยแววตาชื่นชมในความงดงามของลูกสาวสุดที่รัก จากนั้นก็ยื่นกล่องกำมะหยี่ในมือให้กับลูกสาว พร้อมกับเอ่ยบอกยิ้มๆ
“พ่อเอาชุดเครื่องเพชรมาให้ผิงใส่ไปงานคืนนี้ลูก”
หม่อมหลวงนิรินรดาก้มลงมองกล่องกำมะหยี่ในมือของบิดา พอยื่นมือรับมาถือไว้แล้วเปิดดูเครื่องเพชรงดงามราคาเกินครึ่งล้าน ก็เงยหน้าขึ้นเอ่ยถามบิดาด้วยความสงสัย
“เครื่องเพชรของคุณแม่หรือคะ ทำไมผิงไม่ค่อยคุ้นตาเลยคะ”
“เปล่าหรอกลูก ไม่ใช่ของคุณแม่ผิง”
ผู้เป็นบิดาปฏิเสธ ไม่กล้าบอกความจริงกับลูกว่าเครื่องเพชรพวกนั้น ท่านได้เอาออกมาขายจนหมดทุกชิ้นแล้ว
เมื่อได้ยินคำปฏิเสธของบิดา หม่อมหลวงนิรินรดาก็ยิ่งสงสัยหนัก ขมวดคิ้วโก่งงามเข้าหากันให้ยุ่งไปหมด
“ถ้าไม่ใช่เครื่องเพชรของคุณแม่ แล้วคุณพ่อเอาของใครมาให้ผิงคะ หรือว่าคุณพ่อเพิ่งซื้อมาใหม่คะ”
‘เงินที่จะใช้จ่ายทุกวันแทบจะไม่มีอยู่แล้ว พ่อจะเอาเงินจากไหนไปซื้อเครื่องเพชรชุดนี้’
ผู้เป็นบิดาเอ่ยตอบอยู่ในใจ ก่อนจะปฏิเสธลูกสาว “พ่อไม่ได้ซื้อมาหรอกลูก แต่คุณชายวัตรเป็นคนให้พ่อเอาเครื่องเพชรชุดนี้มาให้ลูก”
“คุณชายวัตรให้เอามาให้ผิงทำไมคะ”
หม่อมหลวงนิรินรดาขยับตัวอย่างอึดอัด เริ่มเห็นลางไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเองแล้ว เพราะเป็นที่รู้กันว่าคุณชายวัตรหรือ หม่อมราชวงศ์กรณวัตร นิยมแต่งงานกับเด็กสาวๆ และที่ผ่านมาคุณชายก็แต่งงานไปสามรอบแล้ว
หม่อมหลวงจิตรินไม่อยากปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อ จึงตอบคำถามของลูกสาวอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องอ้อมค้อมให้เสียเวลา
“คุณชายวัตรส่งชุดเครื่องเพชรมาให้เป็นของหมั้นล่วงหน้า หลังจากงานวันเกิดของท่านแล้ว ท่านจะส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอผิงนะลูก”
“อะ...อะไรนะคะ ผิงฟังผิดใช่ไหมคะคุณพ่อ”
หม่อมหลวงนิรินรดาร้องถามเสียงหลง ตกใจกับคำตอบของบิดาเป็นอย่างมาก
“ผิงฟังไม่ผิดหรอกลูก คุณชายวัตรชอบผิงมานานแล้ว ท่านชอบตั้งแต่ผิงเรียนยังไม่จบมหา’ลัยด้วยซ้ำไป ท่านอยากสู่ขอผิงตั้งแต่ตอนนั้น แต่พ่อขอไว้ว่าให้ผิงเรียนจบก่อน”
“สู่ขอผิงทั้งๆ ที่ตอนนั้นคุณชายก็มีเมียอยู่แล้วนี่นะคะ”
หม่อมหลวงนิรินรดาถามเสียงดังกว่าเดิม ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อได้รู้เรื่องของคุณชายผู้สูงศักดิ์ แต่ชอบทำตัวเป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อน
“ใช่ลูก แต่ตอนนั้นคุณชายก็กำลังจะหย่ากับเมียคนล่าสุดแล้วนะลูก”
“เมียคนล่าสุด อายุแค่ยี่สิบกว่า เพิ่งแต่งงานกันได้ไม่ถึงสองปีดี คุณชายก็จะหย่าอีกแล้วหรือคะ”
“เพราะคุณชายรักผิงยังไงล่ะลูก คุณชายถึงต้องการหย่า และสู่ขอผิงให้ไปเป็นภริยาของท่าน”
หม่อมหลวงจิตริน พยายามพูดให้ความดีกับเจ้าหนี้รายใหญ่ของตัวเอง หากลูกสาวยอมแต่งงานกับหม่อมราชวงศ์กรณวัตร เขาก็สบาย หนี้สินก้อนใหญ่ก็จะถูกล้างไปในทันที
หม่อมหลวงนิรินรดายื่นกล่องกำมะหยี่ให้กับบิดา พร้อมกับเอ่ยปฏิเสธเสียงแข็ง “ผิงไม่รับเครื่องเพชรของคุณชาย และไม่ต้องการแต่งงานกับคุณชายวัตรค่ะ”
“แต่ลูกต้องแต่งงานกับคุณชายวัตร ตามคำสั่งของพ่อ” หม่อมหลวงจิตรินสั่งลูกสาวเสียงห้วนจัด ใบหน้าแดงก่ำขณะตะคอกใส่ลูกสาวเสียงดังลั่น
“ไม่ค่ะ ผิงไม่แต่งงานกับคุณชายวัตร” หม่อมหลวงนิรินรดาปฏิเสธบิดาเสียงแข็ง
“คุณชายวัตรอายุหกสิบแล้วนะคะ เขาอายุมากกว่าคุณพ่อด้วยซ้ำไป ยังไงๆ ผิงก็ไม่แต่งงานกับเขาหรอกค่ะ”
“ผิงต้องแต่ง เข้าใจไหม!”
“ไม่ค่ะ ไม่แต่ง คุณพ่ออย่าบังคับผิงสิคะ ผิงมีคนรักแล้ว ผิงจะแต่งงานกับคุณชนนคนเดียวเท่านั้น”
“อย่าฝันว่าพ่อจะให้ผิงแต่งงานกับไอ้มาเฟียคนนั้น มันไม่คู่ควรกับลูกของพ่อแม้แต่นิดเดียว”
“ไม่คู่ควรยังไงคะคุณพ่อ ชนนเขาเป็นคนดีนะคะ ตั้งใจทำมาหากิน เก็บหอมรอมริบเพื่อมาสู่ขอผิงกับคุณพ่อให้ได้ และที่สำคัญคุณชนนรักผิงมากนะคะ”
หม่อมหลวงนิรินรดาแก้ต่างให้กับคนรัก เพราะความรักที่ต่อชนนมากเกินไป หญิงสาวจึงมองเห็นเหรียญแค่เพียงด้านเดียว ไม่เคยเห็นด้านมืดอีกด้านของชายคนรัก