เมื่อเห็นว่าทุกอย่างได้เตรียมเอาไว้หมดแล้วหัวหน้าหมู่บ้านจึงเขียนหนังสือตัดขาดให้กับเยว่เทียน โดยมีหัวหน้าหน่วยผลิตเป็นพยาน
“ เสร็จแล้วฉบับนี้บ้านเยว่เก็บไว้ ส่วนนี่ของเยว่เทียน ส่วนฉบับนี้ฉันจะเก็บไว้ไปยื่นกับทางการแล้วเก็บสำรองเอาไว้เอง หมดหน้าที่แล้วฉันขอตัวก่อน “
“ ขอบคุณครับ “ เยว่เทียนเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกไปส่งหัวหน้าหมู่บ้านและหัวหน้าหน่วยผลิต จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้ามาบอกกับแม่และพี่ๆว่าเขาจะย้ายออกภายในสามวัน เพราะเขาต้องหาที่อยู่เสียก่อน ทั้งที่ความจริงแล้วตอนนี้ฟางหรูมีเงินมากพอที่จะซื้อบ้านในเมืองแล้ว
เมื่อกลับเข้าห้องเขาก็ยื่นหนังสือตัดขาดให้ฟางหรูเก็บเอาไว้ในมิติ พร้อมกับเงิน50 หยวนที่ได้รับมาด้วย
“ โอ้ 150 หยวนที่เหลือนั้นแลกกับหนังสือตัดขาดสินะ “
“ หึหึ “
“ เอาเถอะค่ะมานับเงินที่หาได้ในวันนี้กันดีกว่า “ ทั้งสองช่วยกันนับเงินที่หามาได้ในวันนี้ รวมแล้วทั้งสิ้น 4,690 หยวน เยว่เทียนถึงกับมือไม้สั่นเพราะไม่เคยจับเงินมากกว่า500หยวนมาก่อน นี่เป็นเงินก้อนแรกที่เขาช่วยภรรยาหาแค่สามชั่วโมงเท่านั้นเองนะ
“ ฉันบอกคุณแล้วไงคะว่าภายใน1เดือนเราจะมีเงินหมื่นหยวน “ ฟางหรูเอ่ยบอกกับสามีก่อนจะเอนตัวลงนอนเล่นกับลูกชายที่กำลังนอนมองพ่อแม่คุยกันอยู่
“ ไหนเล่าสิว่าวันนี้ลูกทำอะไรกับเสี่ยวไป๋บ้าง “
“ อ่านหนังสือครับ “
“ หนังสือ ? เสี่ยวไป๋สอนงั้นหรอจ้ะ “
“ ครับ พรุ่งนี้อาเหอจะไปเรียนหนังสืออีกครับ สนุกดี เสี่ยวไป๋สอนแล้วเข้าใจง่ายครับ “
“ จ้ะงั้นพรุ่งนี้แม่จะส่งลูกเข้าไปหาเสี่ยวไป๋แต่เช้านะ “
หลังจากนั้นทุกคนก็ไปอาบน้ำแล้วกลับมานอน พรุ่งนี้จึงจะเริ่มเก็บข้าวของที่มีอยู่น้อยนิดเอาไว้ก่อนที่จะออกจากบ้านเยว่หลังนี้ไปสู่บ้านใหม่ที่ดีกว่า
วันนี้ที่ฟางหรูเดินทัวร์รอบเมืองนั้นเธอก็สอดส่องสายตามองหาบ้านใหม่ไปด้วย จนเจอบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ในเขตบ้านพักอาศัยของคนรวย ซึ่งอยู่ถัดจากโรงพยาบาลแค่ซอยเดียว
บ้านหลังนั้นมีพื้นที่มากพอที่จะให้เยว่เหอวิ่งเล่น นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับโรงเรียนประถม และมัธยมด้วย จึงสะดวกที่จะอยู่ที่ตรงนั้น และเธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะไปซื้อบ้านหลังที่ประกาศขายอยู่ในวันพรุ่งนี้ นอกจากนั้นเธอยังวางแผนเอาไว้ว่าจะซื้อที่ดินที่อยู่บริเวณนั้นเมื่อทางการประกาศขายอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าที่ดินแปลงนั้นเธอจะใช้ตั้งโรงงานในอนาคต เพื่อเป็นรากฐานของลูกๆของเธอกับเขาในวันหน้า
ทุกคนตื่นเช้าด้วยความรู้สึกสดชื่นแจ่มใส ฟางหรูนำอาหารเข้าออกมาจากมิติ แล้วกินอาหารด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก จากนั้นจึงช่วยกันเก็บข้าวของในห้องกองเอาไว้ สิ่งไหนที่เธอมองดูแล้วว่าไม่จำเป็น เธอก็จะไม่ขนไปให้เสียเวลา ซึ่งเมื่อมองดูแล้ว ข้าวของที่มีในห้องไม่มีอะไรที่เธออยากได้เลย แม้แต่เสื้อผ้าชุดเก่าๆที่เคยสวมใส่ เพราะเธอมีโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ในมิติ เพียงแค่หยิบออกมาก็มีชุดใหม่ๆสวมใส่แล้ว
" คุณคะของบางอย่างถ้ามันเก่าเกินกว่าที่จะใช้ได้ก็ทิ้งไปเถอะค่ะไม่ต้องขนอะไรไปให้เหนื่อยหรอกค่ะ "
" ครับ ผมเข้าใจแล้ว " สองสามีภรรยาจึงไม่คิดที่จะเก็บสิ่งของใดๆจากห้องนี้ติดตัวไปด้วย พวกเขาตัดสินใจว่าจะซื้อใหม่ทั้งหมด และตอนนี้ทั้งสามก็เดินออกจากบ้านเยว่มุ่งหน้าไปในเมือง โดยนั่งเกวียนเข้าไปเสียค่าโดยสารคนละ 3 เหมาเท่านั้น
( 1 เหมาสามารถซื้อไข่ไก่ได้ 1 ฟอง ไข่เป็ดได้ 2ฟอง )
เมื่อมาถึงในเมืองแล้วฟางหรูก็หาที่ลับตาพาลูกชายเข้าไปในมิติ ส่วนเธอกับสามีก็เข้าไปขายสินค้าในตลาดมืดอีกครั้ง
ทั้งสองช่วยกันขายสินค้านานกว่าสองชั่วโมงก็เลิกขายแล้วไปเดินดูบ้านตามซอกซอยต่างๆ
ฟางหรูเดินมาถึงตรอกซอยข้างโรงพยาบาลเธอรีบเดินไปยังบ้านหลังที่หมายตาเอาไว้ในทันที โชคดีที่เธอมาเจอเจ้าของบ้านในวันนี้ จึงได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมภายในตัวบ้าน
บ้านหลังนี้มี3ห้องนอน 2ห้องน้ำ ห้องครัวมีห้องเก็บของเล็กๆอยู่ด้วย เจ้าของบ้านเดิมใช้เป็นห้องเก็บเสบียงอาหาร ส่วนด้านนอกมีพื้นที่กว้างสามารถปลูกผักหรือผลไม้ไว้กินเองได้ ติดกำแพงมีศาลาไม้เล็กๆที่เจ้าของบ้านทำเอาไว้ให้เป็นที่พักผ่อนด้วย ฟางหรูถูกใจบ้านหลังนี้อย่างมาก เธอตัดสินใจซื้อในทันทีที่ได้ยินราคาบ้านหลังนี้ ซึ่งไม่แพงอย่างที่คิด ราคาเพียงแค่ 1,000หยวนเท่านั้นเอง เพราะอยู่ในหมู่บ้านคนรวย เธอไม่คิดอะไรมากกับเงินพันหยวนที่เสียไป
เมื่อตกลงซื้อบ้านเจ้าของคนเก่าก็พาเธอไปจัดการเปลี่ยนชื่อเจ้าของบ้านทันทีพร้อมกับรับเงินกลับไปด้วย
หลังจากที่แยกกันแล้วฟางหรูก็นำของใช้มาเติมเต็มห้องเก็บเสบียงเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนห้องนอนทั้งหมดเธอก็นำที่นอนในโรงงานออกมาจัดเรียงเอาไว้พร้อมที่จะเข้าอยู่แล้ว
ห้องนอนของลูกชายเธอก็จัดการตกแต่งให้หน้าอยู่ ด้วยสีฟ้าและสีขาว มีโต๊ะตัวเล็กติดหน้าต่างให้เขาเอาไว้ใช้อ่านหนังสือ ที่นอนปิกนิกขนาดเล็กวางอยู่มุมห้องพร้อมกับตู้เสื้อผ้าขนาดกลาง ที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ของลูกชาย