เยว่เทียนมองภาพสองแม่ลูกอย่างรักใคร่ เขาอยากจะให้ภาพนี้คงอยู่ตลอดไป เขานึกไม่ออกเลยว่าหากเขาไม่ได้แต่งงานกับเธอ เขาจะมีลูกที่น่ารักและภรรยาที่ดีแบบนี้ไหม
“ ไม่มีใครรักพ่อบ้างหรอ “ เยว่เทียนแกล้งเอ่ยขึ้นพลางทำหน้าเศร้า เยว่เหอเห็นว่าพ่อของเขาเศร้าจึงผละออกจากออ้มกอดของแม่เดินเข้าไปหาพ่อ
“ อาเหอะก็รักพ่อครับ แต่ว่า … “ เขากำลังจะเอ่ยแต่สุดท้ายก็หันกลับไปมองหน้าแม่ของเขา ฟางหรูมองลูกชายอย่างสงสัย แต่สุดท้ายที่ลูกชายเอ่ยมานั้นทำให้เธอหัวเราะออกมาลั่นบ้าน จะอะไรเสียอีกล่ะก็ลูกชายตัวดีบอกว่า ‘รักพ่อแต่ก็รักแม่มากกว่า ‘ แล้วเขาก็วิ่งหนี้เข้าบ้านไป
เจว่เทียนได้แต่อ้าปากค้างกับคำพูดของลูกชาย ก่อนที่จะยิ้มออกมา ช่วยไม่ได้นะถ้าเป็นเธอเขายอมทุกอย่างถึงแม้ว่าลูกจะรักเธอมากกว่าก็ไม่เป็นไร เพราะเขาเองก็รักเธอมากเช่นกัน
“ กลางวันนี้จะกินอะไรดีคะ คุณมีอะไรที่อยากกินไหมคะ “
“ เป็ดครับ ปมอยากกินเป็ด “
“งั้นเดี๋ยวฉันจะทำแกงเป็ดอีกแบบให้คุณลองกินนะคะ แต่ว่ามันอาจจะเผ็ดร้อนไปสักหน่อย ”
“ ไม่เป็นไรครับผมกินได้ ผมอยากลองดู “
“ งั้นฉันขอเข้าครัวก่อนนะคะ “ ฟางหรูเข้ามาในครัวก่อนจะล้างมือให้สะอาดแล้วนำเป็ดออกมาเลาะกระดูกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีกินเตรียมเอาไว้ เธอเข้าไปในมิติแล้วไปยังโรงงานอาหารเพื่อหาส่วนประกอบที่จะทำแกงเผ็ด
ส่วนประกอบก็มี เนื้อเป็ด 1ตัว ใบยี่หร่า 20ใบ น้ำมันพืช พริกแกงเผ็ด 4ช้อน ใบกระเพรา และเครื่องปรุงรส
วิธีทำ ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไปรอให้น้ำมันร้อนใส่พริกแกงลงไปผัดจนหอม จากนั้นใส่เนื้อเป็ดลงไปผัดจนสุก เติมน้ำเปล่าให้ท่วมเนื้อเป็ด เคี่ยวต่อไปจนกว่าน้ำจะแห้ง แล้วปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา ซอส ผงปรุงรส น้ำตาลทราย ได้รสชาติที่ต้องการก็ใส่ใบยี่หร่าและใบกระเพราลงไปผัดต่อจนเข้ากันก็เป็นอันเสร็จ แกงเผ็ดเนื้อเป็ดของฟางหรูส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งบ้าน แม้กระทั่งบ้านใกล้เคียงยังได้กลิ่นหอมของอาหารจานนี้ไปด้วย และเธอยังทอดไข่ดาวคนละฟองให้ตนเองกับสามีเพิ่มอีกด้วย
ในส่วนของลูกชายนั้นเธอนำต้มจืดเต้าหู้หมูสับออกมาจากโรงงานในมิติและไก่ทอดเตรียมเอาไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้ว
“ เยว่เทียน อาเหอ มากินข้าวได้แล้วจ้ะ “ เมื่อได้ยินเสียงเรียกสองพ่อลูกก็เข้ามาที่โต๊ะอาหารในทันที
” นี่คือแกงเป็ดที่คุบอกหรอครับ มันดูน่ากินดีนะ “ เขามองจานแกงเป็ดด้วยตาที่เป็นประกาย แม้ไม่รู้ว่ารสชาติจะเผ็ดร้อนแค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็อยากจะกินมัน เขาคีบเนื้อเป็ดขึ้นมาใส่ปาก ความนุ่มและความเผ็ดร้อนทำให้เขาต้องห่อปาก ร้องซี๊ดออกมา
“ เผ็ดไปไหมคะคุณ กินได้แน่นนะ “
“ ได้ๆๆ อร่อยมาก ถึงแม้ว่าจะเผ็ดไปสักหน่อย แต่ผมคิดว่าแบบนี้ก็อร่อยดี ไม่มีกลิ่นสาปของเป็ดด้วย คุณเก่งจริงๆภรรยา “ เพราะได้รับคำชมจากสามีทำให้เธอรู้สึกอยากจะทำอาหารอื่นๆให้เขาได้กินทุกมื้อ ไม่ใช่ว่าเธอบ้ายอหรอกนะ แค่อยากให้เขาได้กินของอร่อยก็เท่านั้นเอง ^^
“ อาเหอล่ะลูกอร่อยไหม “
“ อร่อยครับ แม่ครับ อาเหออยากไปหาเสี่ยวไป๋อีกแล้ว ”
” จ้ะ ได้ เดี๋ยวกินเสร็จแม่จะพาเข้าไปนะ”
“ แม่ใจดีที่สุด อาเหอรักแม่ครับ “
“ ครับลูก แม่ก็อาเหอที่สุด คุณด้วยนะคะ “ เธอเอ่ยบอกรักเขาทำให้เขาสำลักแกงเป็ดที่กำลังกินอยู่ เขาไอออกมาหน้าดำหน้าแดง ฟางหรูรีบเอาน้ำมาให้เขากินทันทีด้วยความเป็นห่วง
“ น้ำค่ะ ค่อยๆดื่มนะ ตกใจที่ฉันบอกรักหรือคะ… สามี “ เยว่เทียนที่ถูกภรรยารักแกล้งก็หน้าแดงไปจนถึงใบหูเลยทีเดียว
“ ผม่ไม่ทันตั้งใจนี่ครับ ปกติคุณก็ไม่เคยพูดนี่น่า “
“ คิกคิก “
“ ภรรยาคุณตั้งใจแกล้งผมใช่ไหม “ ฟางหรูไม่ตอบเขาแต่ยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี
ช่วงนี้อากาศหนาวเย็นมากขึ้นสามคนพ่อแม่ลูกจึงไม่คิดที่จะออกไปไหน พวกเขาอยู่ในบ้านอย่างอบอุ่นไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกิน หรือแม้แต่ของใช้ ต่างจากบ้านเยว่ที่หมู่บ้านชุน ที่ตอนนี้พวกเขาต้องทนหนาวมีเพียงผ้าห่มผืนบางห่อคลุมร่างกายและใช้ความอบอุ่นจากกองไฟที่ก่อขึ้นเท่านั้น
“ หนาวจริงๆนะปีนี้ ดีที่ไม่มีหิมะไม่อย่างนั้นไม่อยากจะคิดว่าหลังคาบ้านจะถล่มลงมาหรือเปล่า “ เยว่ชงเอ่ยขึ้น กลางมองไปรอบๆบ้านของตนเอง
“ นั่นสิ “
“ แม่ครับ จิ้นเอ๋อหนาว “ เยว่จิ้นเอ่ยออกมาพลางขยับตัวเข้าหาแม่ของเขาเพราะต้องการความอบอุ่น ส่วนหนอนหนังสืออย่างเยว่จื่อเขาไม่ได้แสดงออกว่าหนาวหรือคิดอะไรอยู่ จึงไม่มีใครสนใจอะไรเขามากนัก
ส่วนเรื่องที่ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่นั้นก็คือ เขากำลังคิดถึงอาสามของเขาอย่างเป็นห่วงเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้อาสามจะไปอยู่ที่ไหน ลำบากหรือเปล่า เยว่เหอตัวน้อยจะหนาวไหม เขานึกโทษตนเองที่ผ่านมาไม่เคยสนใจญาติผู้น้องคนนี้เลย เพราะเอาแต่สนใจหนังสือเรียนมากกว่าสิ่งอื่นใด
” สามีอาหารเช้าได้แล้วค่ะ “
หลังจากที่กินอิ่มแล้วทั้งคู่ตั้งใจจะออกไปหาหมอตามนัด เพราะตอนนี้ครบกำหนด1เดือนแล้ว แม้ว่าอากาศจะหนาวเย็นแค่ไหน ก็ต้องไปตามนัดไม่อย่างนั้นอาจถูกคุณหมอตำหนิได้
ซึ่งหลังจากที่เข้าตรวจแล้ว แขนของเยว่เทียนก็ไม่ต้องดามแขนอีกแล้ว เขายิ้มกว้างอย่างยินดี เพราะการดามแขนของเขานั้นทำให้เขาไม่สะดวกในหลายๆเรื่อง
ระหว่างทางที่เดินกลับบ้านนั้นฟางหนูเห็นป้ายติดประกาศขายบ้านหลังแรกที่อยู่ติดกับโรงเรียนประถมเข้าพอดี เธอจึงชวนสามีไปดูบ้านหลังนั้นสักหน่อย
" คุณคะ ฉันอยากไปดูบ้านหลังนั้น "
" ครับ ลองไปดูก็ได้ "
เมื่อมาถึงบ้านหลังที่ขายเธอก็ถามกับบ้านข้างๆ เผื่อว่าเขาจะรู้ว่าเจ้าของบ้านคือใคร
" คุณป้าคะ "
" หืม มีอะไรหรอ "
" คือว่า ฉันเห็นว่าบ้านนี้จะขายค่ะ คุณป้าทราบไหมคะว่าใครเป็นเจ้าของ แล้วฉันจะติดต่อเขายังไง "
" อ๋อ เธอไปที่โรงพยาบาลนะ ถามหาคุณหมอเซี่ยเฟิง ก็เจอแล้ว "
" ขอบคุณค่ะ "
ฟางหรูกับสามีเดินกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เยว่เทียนอาสาไปถามข้อมูลกับพยาบาลที่กำลังจะเดินผ่านไปพอดี และพยาบาลคนนั้นก็อาสาพาทั้งคู่ไปพบคุณหมอเซี่ยเฟิงอีกด้วย