“ให้ตายเถอะ ใหญ่กว่าแขนช่อแบบนี้แล้วช่อจะรับได้ยังไงพี่หมอฤทธิ์” เธอถามโวยวายเขาทันที
“ไม่ลองไม่รู้นะ มัวแต่สงสัยและตื่นกลัวแบบนี้มันได้อะไรฮึ ไม่สู้มาทำกันเลยดีไหม ถอดเสื้อผ้าออกเถอะ พี่คร้านจะต่อปากต่อคำกับเราแล้ว พี่ต้องไปดูแลคนป่วยที่เพิ่งผ่าตัดไปอีกนะ บ่ายมีประชุมด้วยนะ” เขาบอกเร่งเธอ
“อือ...ใจร้อน”
“รอมาห้าปีเนี่ยนะเรียกใจร้อน”
“ก็ใครให้รอ”
“ก็อยากรอ”
“รอแต่ก็ไม่เคยขาดไม่ใช่เหรอคะ ทำไมถึงต้องอยากได้ช่อด้วยก็ไม่รู้ ผู้หญิงตัวเองก็มีเยอะแยะ”
“มันไม่เหมือนกัน พวกเธอก็แค่ของชั่วคราว แต่เราน่ะของผูกขาดและของที่พี่ยกไว้บนหิ้งด้วย” เขาบอกเธอแล้วจัดการถลกดึงรั้งเสื้อนอนของเธอออกทางหัวทันที ตอนนี้สายตาของเขาจดจ้องไปยังสองเต้าที่ยังมียกทรงปกปิดอยู่แล้วพูดให้ทางเลือกชนัญกันย์
“จะถอดเสื้อในเองหรือให้พี่ถอด และกางเกงกับกางเกงในด้วยถอดด้วย ถ้าไม่ถอดจะรู้ได้ยังไงว่าพี่เข้าไปในตัวเราได้ยังไง และจะเข้าไปท่าไหน”
“คนทะลึ่ง ลามก”
“พูดไปเถอะ อยากพูดอะไรก็พูดไป ถอดเดี๋ยวนี้!”
“ถอดก็ได้ค่ะ หันไปก่อนสิคะ” เธอต่อรอง
“จะให้พี่หันไปทำไม ก็ในเมื่อยังไงพี่ก็ต้องจูบ ดูดอยู่แล้วน้องช่อ”
“ก็ช่ออาย อยู่ๆ ให้มาถอดเสื้อผ้าให้ผู้ชายดู มันไม่แปลกเหรอคะ”
“แล้วผู้ชายที่ถอดให้ดูเป็นใครที่ไหน นี่พี่หมอฤทธิ์ สามีเรานะน้องช่อ” เขาไม่เข้าใจเธอ ทำไมต้องมาเหนียมอายเขาด้วย
“ก็นั่นแหละค่ะ เราไม่ได้สนิทกันสักหน่อย ที่ผ่านมาเราก็แต่งงานกันแค่ในนาม และพูดคุยกันแทบนับคำได้ แล้ววันนี้ให้มาถอดเสื้อผ้ากระโดดขึ้นเตียงด้วยกัน มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอคะ”
“ก็ทำบ่อยๆ สิจะได้ชิน ถอดได้แล้ว พี่จะไม่หันไปไหนทั้งนั้น ถ้าช้าพี่ถอดนะ” เขาพูดพร้อมยืดมือไปดึงยกทรงของเธอและเธอก็รีบสั่งห้ามไว้ทันที
“หยุดๆ พี่หมอฤทธิ์ ช่อถอดแล้วค่ะ ยอมแล้ว ใบหย่านะ”
“อือ...ถอดได้แล้ว พี่ปวดไปหมดแล้วตอนนี้” ตอนนี้เขาอดทนไม่ไหวแล้ว อยากกระแทกโยกคลึงบดเอวใจแทบขาด แต่น้องน้อยช่างไม่เข้าใจเอาเสียเลย
“ปวดเมื่อยตรงไหนคะ พักก่อนไหมคะ” เธอถามอย่างใสซื่อ
“น้องช่อ!” เขาเรียกชื่อเธอเสียงดัง
“ทำไมต้องเสียงดังด้วย ก็บอกว่าปวด ช่อก็เป็นห่วงพี่หมอฤทธิ์กลัวจะเป็นอะไรไป”
“พี่จะตายเพราะเราเนี่ยแหละ ถอดได้แล้ว ไม่ไหวแล้วนะ พี่ไม่ไหวแล้ว จะตายแล้ว ชักช้าพี่ถอดให้แล้วนะ” แล้วเขาก็เคลื่อนตัวคร่อมทิ้งน้ำหนักไปยังคนตัวเล็กใต้ร่างเกือบหมดทันที
“อือ...หนักนะพี่หมอฤทธิ์ ขยับสิคะ ช่อจะได้ถอดเสื้อในและกางเกงกับกางเกงในออก ก็คนเขาอายให้เวลาหน่อยไม่ได้รึไง”
“ห้าปีมันมากพอแล้วนะกับการต้องเข้าหอกัน ถอดได้แล้ว” หมอหนุ่มยกร่างขึ้น แต่สองแขนยังคงเท้ายันกักร่างเล็กไว้ใต้ร่าง ใบหน้าหล่อขาวตี๋เครียดขึงคิ้วเข้มก็ขมวดเป็นปม ยิ่งทำให้เธอสงสัยว่าเขาจะเครียดอะไรหนักหนา
“แล้วเนี่ยเครียดอะไรหนักหนาคะ คิ้วชนกันแล้วเนี่ย”
เธอถามพร้อมกับถอดกางเกงและกางเกงในออกและตามด้วยยกทรง กว่าจะถอดได้ก็ลำบากเหมือนกัน มือไม้มันสั่นไปหมด ก็มีอย่างที่ไหนถอดเสื้อผ้าเพื่อให้เขาเชยชม และยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ใช่สเปคเธอเลยสักนิด แต่ทำไมหัวใจบ้าถึงเต้นแรงแบบนี้ และก็พยายามหลอกตัวเองว่าแค่ตื่นเต้นกับสิ่งที่ไม่เคยเท่านั้นเอง หารู้ไม่ว่าหัวใจตัวเองน่ะทรยศคำสั่งของสมองไปเรียบร้อยแล้ว
“อ๊ะ...ว้าย!” ตกใจทันทีเมื่อเธอถอดเสื้อผ้าออกไปยังไม่ทันโยนไปพ้นมือ เขาก็โน้มหน้าลงมาซุกหว่างอกของเธอราวกับอดอยากมาแรมปีก็มิปาน
“อือ...พะ...พี่หมอฤทธิ์ ยะ...หยุดก่อนค่ะ อ่ะ...อ่อย” เธอพยายามดิ้นเบี่ยงตัวหนีและดันหน้าที่คลุกเคล้ากับหน้าอกของตัวเองออก แต่ยิ่งพยายามยิ่งเหมือนตอบสนองเขามากกว่า มือใหญ่เคลื่อนมากอบกุมสองเต้าอวบอูมพอดีมือของเขาและบีบเคล้นคลึงขยำหนักหน่วงจนเธอเจ็บหน้าอก
“อ่ะ...เจ็บนะคะ อย่าขยำแรง อ่ะ...พี่หมอฤทธิ์ อ่อย...” ตอนนี้เขาเหมือนเสือหิวและอะไรจะขนาดนี้ ไม่ปล่อยให้เธอได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย เสื้อผ้าหลุดก็จู่โจม หมอบ้าคนนี้หื่นไปแล้ว หื่นแบบนี้ดีแล้วที่ตัดสินใจขอหย่ากับหมอฤทธิ์ เอาเถอะ ไหนๆ ก็เป็นการเสียตัวแลกใบหย่าแล้ว เธอจะยอมให้เขาทำตามใจ
“อือ...ไม่ไหวแล้ว พี่อยากได้น้องช่อมาก อยากได้ตั้งนานแล้ว แต่พี่ต้องอดทนรอ ตอนนี้พี่จะไม่ปล่อยเราไปอีกแล้ว จะไม่ให้เสียไปแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว”
เขาผละจากหน้าอกของเธอมาเอ่ยเร็วๆ ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า พร้อมมือใหญ่ที่กอบกุมสองเต้าทำหน้าที่บีบเคล้นคลึงขยำจังหวะไปด้วย ฤทธิ์รู้ดีว่าน้องน้อยยังใหม่ ยังคงบริสุทธิ์ แต่เขาจะพยายามเบามือที่สุด เพื่อให้เธอไม่เจ็บตัวมากยามที่สอดใส่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน