เถื่อนล้ำเส้น
(Cross the line)
EPISODE5 (R18+)
“อืม...แต่แปรงสีฟันไม่ต้องยืม นายเอาไปเถอะ มันคงใช้ซ้ำกันไม่ได้ อ่อ...ฉันแยกน้ำยาอนามัยวางไว้ที่อื่นแล้ว นายคงไม่หยิบผิดอีกนะ”
เธอบอกเขาโดยไม่ได้หันมามองกันสักนิด ทำให้พระพายได้แต่ถือผ้าขนหนูและเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำไปเงียบ ๆ หรือบางทีการอยู่ร่วมห้องกับยัยเฉิ่มแว่นมันก็อาจจะไม่ได้น่ารำคาญขนาดนั้นก็ได้
เมื่อผ่านเปิดเทอมไปราว ๆ หนึ่งสัปดาห์...การอยู่หอมหา’ลัยแบบมีรูมเมท มันก็ทำให้ทั้งพระพายและสายซอเริ่มคุ้นชินกันมากขึ้น เพราะคนทั้งคู่เลือกที่จะทำสิ่งต่าง ๆ คนละเวลา ทำให้เขาและเธอพูดคุยกันน้อยมาก ซึ่งพระพายคิดว่ามันก็ดีกว่าการมีผู้หญิงมาเจี๊ยวจ๊าวในห้องให้รำคาญหู เพราะยัยเฉิ่มแว่นมักจะเสียเวลาไปกับงานโมเดลของเธอ
“เธอไม่อยู่ห้องทั้งเสาร์อาทิตย์ กลับบ้านเหรอ” ช่วงค่ำของวันอาทิตย์ พระพายที่ไม่ได้ออกไปไหนเอ่ยทักคนที่เพิ่งกลับเข้ามา
“เปล่า” สายซอพึมพำตอบมาแค่นั้น ก่อนที่เธอจะวางกระเป๋าผ้าลง และจัดแจงหาผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไป ทำให้พระพายได้แต่มองตามเธออย่างคนที่ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อ เพราะเธอเล่นตอบมาสั้น ๆ แบบนั้น เขาเลยไปไม่ถูกจริง ๆ
ตืด...ตืด...ตืด!
[061-2231XXX…กำลังโทรเข้า]
ทว่าขณะที่รูมเมทสาวกำลังอาบน้ำ โทรศัพท์มือถือของเธอก็สว่างวาบขึ้นพร้อมกับหมายเลขที่ไม่ได้บันทึกไว้ นั่นทำให้พระพายได้แต่ชะเง้อมองคนที่ป่านนี้ยังไม่ออกมา
ตืด...ตืด...ตืด!
[061-2231XXX…กำลังโทรเข้า]
ตืด...ตืด...ตืด!
[061-2231XXX…กำลังโทรเข้า]
ชายหนุ่มมองดูมันจนสายตัดไป แต่แล้วปลายทางก็โทรเข้ามาอีก และยังคงโทรเข้ามาซ้ำ ๆ จนเขาที่กำลังเล่นเกมเริ่มรำคาญ
ก๊อก ๆ
“ทำไมเธออาบนาน” ชายหนุ่มส่งเสียงถาม เพราะเสียงของฝักบัวมันเงียบไปพักใหญ่แล้วนี่หว่า เมื่อได้ยินเสียงเขา สายซอซึ่งอยู่หลังบานประตูจึงค่อย ๆ แง้มเปิดมันออกมาเล็กน้อย แล้วยื่นแค่หน้ามาหาเขา
“ฉัน...ฉันรีบเลยลืมเอาเสื้อผ้าเข้ามาน่ะ” เธอบอกเขาเสียงเบา
“แล้วยังไง?” พระพายทำเสียงเซ็งจิตใส่
“รบกวนนายได้ไหมล่ะ หรือไม่นายก็ช่วยไปยืนหันหน้าเข้ากำแพงตอนที่ฉันไปเอาเสื้อผ้าก็ได้ ฉันจะรีบหยิบ รีบกลับมาเปลี่ยน” สายซอบอกเขา ทำให้พระพายผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ อย่างช่วยไม่ได้
“ฉันหันหากำแพงง่ายกว่า เธอหยิบของเองเหอะ”
“ได้...นายไปสิ”
เมื่อตกลงกันได้แล้วพระพายจึงเดินมาหันหน้าเข้ากับประตูตู้เสื้อผ้าฝั่งของเขา นั่นทำให้สายซอรีบเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อหาเสื้อผ้าในตู้ฝั่งของเธอ ทว่าคนที่ยืนรอจู่ ๆ หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นว่าบานประตูอีกบานมันเป็นกระจกเงานี่หว่า เพียงแค่เขาเอียงคอเล็กน้อย พระพายก็เห็นแล้วว่าเจ้าของตู้ฝั่งตรงข้ามกำลังทำอะไรอยู่ และสภาพของเธอนั้น...ก็ถึงกับทำให้เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอฝืด
นั่นมันอะไรวะ...ผ้าขนหนูเธอสั้นขนาดนั้นเลย?
เรือนร่างเล็กขาวเนียนที่ถูกผ้าขนหนูห่อหุ้มเป็นกระโจมอกไว้แบบพอดีตัว ทำให้พระพายรู้ว่าเธอมีสัดส่วนโค้งเว้าเข้ารูปแค่ไหน ที่สำคัญไอ้ส่วนที่มันซ่อนอยู่ใต้เสื้อสเวตเตอร์ตัวโคลงนั่น ทำไมมันถึงได้บึ้มขนาดนั้นวะ ทั้งช่วงไหล่ ท้ายทอยขาวที่ถูกเปิดเปลือยเพราะเธอรวบเส้นผมยาว ๆ ขึ้นด้านบนด้วยกิ๊บ มันทำให้เขาเผลอขยับตัวมองตามเธอไปเรื่อย กระทั่งเห็นว่าเธอทำท่าเหมือนจะหันมา พระพายถึงได้ขยับตัวยืนดี ๆ
“ฉันได้ของแล้ว จะเข้าไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้แหละ ขอบใจนายนะ” สายซอส่งเสียงบอกเขา ก่อนที่เธอจะรีบเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ทำให้พระพายได้แต่เดินมานั่งลงที่เตียงนอนตัวเอง
“อะ...อะไรวะ หรือว่าช่วงนี้ไม่ได้ปล่อย” ชายหนุ่มพึมพำ เมื่อหลุบสายตามองเป้ากางเกงตัวเองแล้วพบว่าส่วนที่ใช้เผด็จศึกมันดันตื่นตัวนี่สิ
จะว่าไปตั้งแต่เปิดเทอมมาพระพายก็ไม่ได้แวะไปที่เรดโซนเลย เขาไปที่คลับเพียงแค่ดื่มกินกับเพื่อน ๆ เท่านั้น เรื่องปลดปล่อยความงุ่นเ****นในกายช่วงนี้จึงห่างไปจนทำให้ ‘ของขาด’ รึเปล่าวะ
“ฉันใช้ห้องน้ำเสร็จแล้ว โทษทีที่ใช้นานไปหน่อย พอดีฉันสระผม”
สายซอที่เดินออกมาในชุดกางเกงนอนขายาวสีขาว และเสื้อสเวตเตอร์ตัวใหญ่สีฟ้าอ่อนเอ่ยบอกเขา เส้นผมยาว ๆ ถูกเธอปล่อยสยายลงแล้ว และมันทำให้พระพายรู้ว่าผมเธอยาวถึงเอวเลยล่ะ
“อือ ฉันเพิ่งเล่นเกมเสร็จ จะไปอาบเหมือนกัน” เขางึมงำบอกเธอ ทำไมพอมองไปที่เธอรอบนี้ ในหัวเขาถึงได้นึกเห็นสภาพตอนเธอนุ่งผ้าขนหนูได้วะ ท่าทางเขาจะของขาดจริง ๆ ถึงได้เพ้อเจ้อไม่หยุด
“อ่อ” สายซอรับคำเขาแค่นั้น ก่อนจะหยิบไดร์มาเป่าผม
“ฉันไปอาบล่ะ” พระพายพึมพำ แล้วคว้าข้าวของตัวเองเดินหายเข้าห้องน้ำไป
ซ่า...ทว่าเมื่อร่างกายกำยำเปลือยเปล่ายืนอยู่ใต้ฝักบัว พระพายก็พบว่าส่วนนั้นมันยังคงตื่นตัวไม่เลิกนี่สิ...ฉิบหาย!
“อาศัยหัตถ์เทวะไปก่อนนะไอ้ลูกชาย” ชายหนุ่มพึมพำ เมื่อหูยังคงได้ยินเสียงไดร์เป่าผม เขาจึงค่อย ๆ ใช้มือขยับรูดท่อนลำที่มันเอาแต่แข็งตัวราวอยากได้สนามรัก ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลา และเขาขี้เกียจออกไปข้างนอก จึงเลือกที่จะช่วยตัวเองไปก่อน
“อืม…อ่าส์...ซี๊ด!”
พระพายครางออกมาแผ่ว ๆ ขณะหลับตาลงขยับรูดมือไปตามความยาวใหญ่ไซส์ยุโรปของตัวเอง ยิ่งขยับชักรูด...ในหัวมันก็ยิ่งปรากฏเป็นภาพเจ้าของร่างขาวเนียนที่อยู่ในชุดกระโจมอกสีขาว ทรวงเต้าที่ถูกผ้าขนหนูรัดรึงไว้จนเต่งตูมใหญ่โตนั่น มันทำให้เขาอยากรู้ว่าถ้าร่างกายนั้นไร้ซึ่งผืนผ้าหุ้มห่อมันจะเป็นยังไง ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากรู้
“อ่าส์...แข็งจนปวดขนาดนี้เลย แม่งเอ๊ย” พระพายพึมพำเสียงเบา
มือใหญ่ที่รูดชักลำลึงค์ซึ่งแข็งขึงตึงเต็มลำไม่ปรึกษาพ่อมันสักคำ ได้แต่ขยับรัว ๆ หวังให้ความงุ่นง่านในกายได้ปลดปล่อยออกมา
ท่าทางช่วงนี้จะอัดอั้นจริง ๆ เขาถึงได้อ่อนไหวไปกับรูปร่างยัยแว่นเฉิ่ม แค่คิดพระพายก็เหมือนจะหงุดหงิดขึ้นมาจนได้ ในใจพยายามจะลบภาพของเธอออกไปให้พ้น ทว่าในหัวมันกลับฉายภาพของเธอชัดเป็นฉาก ๆ
ภาพที่ร่างกายเล็กซึ่งพันด้วยผ้าขนหนูสั้น ๆ ขยับไหวไปมารื้อหาของ ยิ่งตอนที่เธอย่อตัวลงนั่งไอ้ก้นที่มันตึงผืนผ้าแม่งก็ดูนุ่มเด้งชะมัด มันทำให้เขาอยากรู้อยากเห็นจนมองตามเธอทุกอิริยาบถ แม่งย้อนแย้งฉิบหาย และพระพายควรเลิกคิดเสียที
“อ่าส์...ซี๊ด...ทำไมวันนี้อยากจังวะ อ่าส์...จะแข็งไปไหนว้า ชักไม่ลงเลยเว้ย” ชายหนุ่มครางเครือเบา ๆ มือก็ชักรูดลำเลาไม่หยุด ปกติเขาไม่ค่อยได้ช่วยตัวเองสักเท่าไหร่ พอนาน ๆ ทำทีมันก็สร้างอารมณ์ไม่ขึ้นเลย
“อ๊ะ! อู้ย...อ่าส์...บ้าเอ๊ย” ทว่าขณะที่เขากำลังเร่งจังหวะเพื่อปลดปล่อยความเร่าร้อนในกาย เสียงร้องของคนที่น่าจะเป่าผมอยู่ก็ทำให้พระพายลืมตาขึ้น เสียงครางเมื่อกี้มันอะไรวะ ทำไมเธอส่งเสียงแบบนั้น
และเสียงครางหวาน ๆ นั้น ก็ราวกับกระแสไฟที่แล่นปราดเข้ามาในหูเขา มันสะท้อนก้องจนความอ่อนไหวของอารมณ์เร่าร้อนลุกโชนขึ้นมา
“ฉิบ...อ่าส์! แว่นเฉิ่มครางดีจังวะ อืม...อ่าส์!”
เมื่อได้ยินเสียงเร้าหวาน ๆ ของเธอ พระพายก็หลับตาลง มือขยับชักรูดไม่หยุดกระทั่งปลดปล่อยของเหลวขุ่นพวยพุ่งออกมาจนเลอะเทอะผนังกระเบื้อง ตอกย้ำความอัดอั้นในกายหนุ่ม นี่เขาต้องขอบใจเสียงเธอไหมวะ ที่ช่วยเร่งจังหวะเขาให้เสร็จได้
“ท่าทางพรุ่งนี้มึงต้องไปเรดโซนแล้วไอ้พาย” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง ขณะเริ่มอาบน้ำอย่างจริงจังเสียที
ผ่านไปพักใหญ่ ๆ พระพายก็ออกมาจากห้องน้ำ และพบว่ารูมเมทของเขาหรี่ไฟนอนไปแล้ว ซึ่งบนโต๊ะหนังสือของเธอมีเศษของซองพลาสเตอร์ยาวางทิ้งไว้ เมื่อมองไปยังเจ้าตัวเขาก็เห็นว่าที่นิ้วของเธอมีพลาสเตอร์ยาพันอยู่ ท่าทางเธอจะโดนอะไรบาดเข้าล่ะมั้ง แต่ไหงต้องร้องครางซะเร้าอารมณ์กันขนาดนั้นวะ
“เสียงดีนะแว่น” เขาพึมพำ ก่อนจะเดินกลับมาที่เตียงตัวเอง
อีกด้านหนึ่ง...ณ คลับแบล็คบีส
กลุ่มของชายหนุ่มหน้าตาดีที่ขึ้นมายังโต๊ะประจำทำให้ ‘เฟย’ ผู้เป็นหลานชายเจ้าของสถานที่ยกยิ้มน้อย ทว่าสีหน้าของใครบางคนที่นั่งลงเงียบ ๆ ก็ทำให้เขาต้องเอ่ยถาม
“เป็นไรวะ พอสาวไม่อยู่ทำหงอยกันเป็นแถว”
“ซอโทรหามึงไหม ช่วงนี้กูโทรไปเธอไม่รับ” นั่นทำให้ ‘พระลักษมณ์’ เอ่ยถามเพื่อน เพราะอย่างน้อยเฟยก็เป็นญาติกับสายซอ
“ไม่ว่ะ ดองแชทกูตั้งแต่เมื่อวาน” เฟยว่าเสียงเซ็ง
“เธอเรียนหนักไหมวะ ได้ยินว่าที่MDLตารางแน่นนี่หว่า แถมเธอยังทำฟรีแลนซ์ด้วย” เมื่อเห็นว่าเพื่อนกังวลถึงคนที่ไปเรียนต่างถิ่น ‘กวิน’ จึงเอ่ยปลอบ เพราะรู้ว่าพระลักษมณ์ค่อนข้างสนิทกับสายซอ และการที่เธอจากไปก็ทำให้พวกเขาเหงาฉิบหาย