EPISODE1 INTRO
แวะคุยกับนักเขียน
นิยาย “เถื่อนล้ำเส้น” ได้พูดถึงเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญ บังเอิญให้เขาและเธอต้องมาเป็นรูมเมทกัน เพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาเนิ่นนาน จุดจบมันจะสวยงามหรือไม่ฝากติดตามเรื่องราวของพวกเขาด้วยนะงับ ซึ่งตัวละครและสังคมทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้ เป็นเพียงเหตุการณ์ที่ผู้เขียนสร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เนื้อหาบางส่วนบางตอนมีถ้อยคำหยาบคาย การกระทำของตัวละครบางฉากมีความรุนแรงทางอารมณ์และกายภาพ มีฉากร่วมรักแบบผู้ใหญ่ ผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน
#คลั่งรัก #เถื่อน #เด็กวิศวะ #MDLstory
#ตัวตึงดึงปฐพี #DarlingRome
ขอขอบคุณทุกกำลังใจและการสนับสนุน
เถื่อนล้ำเส้น
(Cross the line)
EPISODE1 INTRO
ณ ตึกรวมหอพักใน มหาวิทยาลัยเอกชนMDL
ตืด...ตืด...ตืด!
[ป๊าปืน...กำลังโทรเข้า]
ขณะที่เจ้าของร่างเล็กกำลังหอบหิ้วสัมภาระเข้าไปในลิฟต์ โทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมก็ดังขึ้นมาเสียก่อน เธอจึงต้องหยุดเดินและรับสาย
“ทำไมป๊ายังโทรมาอีกคะ” เสียงหวานติดเย็นชาหน่อย ๆ เอ่ยถาม
[“ถึงห้องรึยัง สองทุ่มแล้วหนูขนของเสร็จรึยัง ห้องเป็นยังไงบ้าง”]
ยังคงเป็นคำถามเดิมเหมือนเมื่อยี่สิบนาทีก่อน แต่จะให้เธอวีนใส่ปลายสายที่เป็นคุณป๊าก็คงจะไม่ได้ เข้าใจแหละว่าท่านเป็นห่วงเป็นใย แต่ท่านก็ไม่จำเป็นต้องโทรหาเธอถี่ขนาดนี้นี่นา
“หนูเพิ่งมาถึงหอ กำลังจะไปเอากุญแจห้องค่ะ”
[“อ่อ ห้องเป็นยังไงบ้าง ป๊าว่าอยู่คอนโดใกล้ ๆ มอก็ได้นี่ เดี๋ยวป๊าให้อาปันเอารถไปให้หนูดีไหม ป๊าว่าสะดวกกว่าอยู่หอ”]
“ป๊า! เรื่องนี้เราคุยกันไปแล้วนี่คะ ปีหนึ่งต้องอยู่หอใน อีกอย่างหนูก็กำลังใช้ชีวิตตามการเลี้ยงดูของป๊าอยู่นะ” เธอเตือนบิดาที่ดูเหมือนจะไม่ยอมให้เธอได้เติบโตเองเช่นที่ท่านพร่ำสอนกรอกหูอยู่ทุกวัน
เพราะแรกเริ่มคุณปู่คุณย่าของเธอเลี้ยงดูคุณป๊า ‘ปืนใหญ่’ และคุณอา ‘ไป๋เฟิ่ง’ มาแบบเด็กฝรั่ง เมื่อถึงวัยมัธยมปลายป๊าของเธอจึงต้องออกมาใช้ชีวิตวัยรุ่นนอกบ้าน ทำงานหาเงินส่งเสียตัวเองเรียน ซึ่งเธอก็ถูกสอนให้ช่วยเหลือตัวเองเป็นหลักมาตั้งแต่เล็ก ๆ
ทว่าพอขึ้นมัธยมปลาย ป๊าปืนกลับตัดใจให้เธอออกมาอยู่นอกบ้านไม่ได้ ซึ่งทางคุณม๊า ‘สายขิม’ ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน ทำให้เธอเพิ่งจะมีโอกาสได้ออกมาอยู่เองเอาตอนขึ้นมหาวิทยาลัย และทั้ง ๆ ที่บอกว่าเธอจองหอในไว้แล้ว ท่านก็ยังโทรตามให้เธอไปอยู่คอนโดยิก ๆ อยู่ดี
“วันนี้หนูจะรับสายป๊าแค่รอบนี้นะคะ ถ้าเบอร์ป๊ายังโชว์อีก หนูจะบล็อกป๊าเป็นเวลาสามวันค่ะ” เธอบอกบิดาให้เข้าใจเป็นครั้งสุดท้าย
[“ทำไมยิ่งโตหนูยิ่งใจร้ายเหมือนม๊าล่ะ นี่ป๊าคนดีของหนูนะ”]
ปืนใหญ่โอดครวญใส่ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขา ผ่านไปไม่ทันไรยัยหนู ‘สายซอ’ ก็ขึ้นมหา’ลัยเสียแล้ว แถมเธอยังเลือกสอบเข้าต่างสถาบันต่างเขตกับที่เขาเรียนอีก ลูกสาวของเขาต้องเข้าไปเรียนในเมืองใหญ่ห่างไกลอกคนเป็นพ่อเลยนะ แบบนี้จะให้เขาทำใจให้สบายได้ยังไง
“พูดแบบนั้นเดี๋ยวม๊าไล่ไปคุยกับถังขยะ หนูช่วยอะไรไม่ได้นะ”
[“หนูอย่าพูดเป็นลางสิ”]
[“ขิมได้ยินค่ะ แล้วพี่ก็ควรวางสายลูกได้แล้ว”] นั่นไงล่ะ ไม่ทันไรป๊าก็โดนม๊าเขม่นจนได้ นั่นทำให้สายซอชิงตัดสายป๊าเธอทิ้งทันที
เวลาต่อมา...ณ ชั้น 9 ห้อง 906
“อะไรนะครับ! / อะไรนะคะ!”
เสียงของนิสิตชายหญิงที่ต่างฝ่ายต่างก็หอบหิ้วสัมภาระส่วนตัวมายังห้องพักที่จองมัดจำไว้ ทำให้ผู้ดูแลหอพักถึงกับยิ้มเจื่อน จากรายชื่อที่เห็น นักศึกษาชายที่ทำผมสีน้ำเงินท้าทายฝ่ายปกครองคนนี้ คงจะเป็นหนุ่มฮอตที่ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของทำเนียบหนุ่มหล่อMDLในปีการศึกษานี้
‘พระพาย หรือ ภาริช ลินน์’ เพียงแค่นามสกุลที่ต่อท้ายชื่อก็ทำให้ไม่มีใครอยากต่อกรกับเขาแล้ว เพราะในสี่เขตใคร ๆ ก็รู้ดีว่านามสกุลนี้เป็นนามสกุลของมาเฟียคุมเขตMDL และอีกรายชื่อที่ดันลงทะเบียนซ้อนกับคนที่มีเบื้องหลังใหญ่โตก็คือ ‘สายซอ หรือ ศิรตา อนันตศิลา’ แม้จะเป็นเด็กนอกเขตพื้นที่ แต่เธอก็ผ่านการสอบเข้ามาอย่างถูกต้องทุกอย่าง และนามสกุลนี้ก็ถือว่าเป็นนามสกุลของตระกูลมั่งคั่งตระกูลหนึ่งในระดับภูมิภาคของประเทศเลยก็ว่าได้
“มหา’ลัยใหญ่โตระบบไอทีเป็นแบบนี้ได้ไง” สายซอว่าเสียงเซ็ง
“ระบบมันน่าจะรวนเลยทำให้การลงทะเบียนผิดพลาดน่ะ” ผู้ดูแลหออธิบาย ซึ่งมันไม่ได้ช่วยให้ทั้งสองคนรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
“งั้นพี่ช่วยดูเวลาได้ไหมคะ ว่าชื่อใครลงทะเบียนจ่ายค่ามัดจำห้องก่อน” น้ำเสียงหวานของสายซอที่ยกมือขยับกรอบแว่นตาเอ่ย ทำให้เจ้าของร่างสูงหลุบสายตามองเธอเล็กน้อย แน่นอนว่าแค่ดูจากเสื้อผ้าหน้าผมของเธอ พระพายก็รู้แล้วว่าเป็นพวกทุนน้อย ไม่มีรสนิยมการแต่งตัว
“พี่ก็อยากดูให้น้องนะคะ แต่มันดูไม่ได้นี่สิ พอดีระบบลงทะเบียนขัดข้อง ทางทีมไอทีกำลังแก้ไขอยู่ค่ะ อีกอย่างคือจำนวนห้องกับจำนวนนักศึกษาที่จองไว้มันพอดีเลยนี่สิ แถมทุกคนก็มารับกุญแจไปหมดแล้ว เหลือแค่ห้องนี้ห้องเดียว” ผู้ดูแลหอพักอธิบาย ยิ่งทำให้ทั้งสองทำหน้าซังกะตายออกมาชัดเจน
“งั้นถ้าผมจ่ายเพิ่มอีกครึ่ง ถือว่าผมได้ห้องใช่ไหม” พระพายเอ่ย
“ทำไมนายพูดแบบนี้ล่ะ ถ้านายจะจ่าย ฉันก็จะจ่าย” สายซอหันไปบอกเขา นั่นทำให้เจ้าของเส้นผมสีน้ำเงินโน้มหน้าหล่อเหลาลงมาจนอยู่ในระดับเดียวกับหน้าเธอ
“ฟังนะเฉิ่ม...ฉันต้องการห้องนี้ และฉันจะไม่ไปไหนไง” พระพายบอกย้ำ ทำไมเขาต้องออกไปเตร็ดเตร่หาห้องใหม่ตอนสองทุ่มด้วยวะ เขาเหนื่อยและต้องการเข้านอนไง
“ฉันก็จะไม่ไปไหน เพราะฉันจ่ายมัดจำแล้ว” เธอเองก็ไม่ยอม
“แล้วแต่” พระพายว่า แถมยังไหวไหล่ใส่เธออีกต่างหาก
“ใจเย็น ๆ กันก่อนนะ เรื่องจ่ายเงินมันไม่ใช่ปัญหาค่ะ ปัญหาคือน้องสองคนต้องตกลงกันว่าใครจะยกเลิกลงทะเบียน พี่จะได้แก้ไขชื่อหลังจากที่ระบบใช้งานได้” ผู้ดูแลหออธิบาย เพราะทั้งคู่ลงทะเบียนไว้ว่าจองห้องแบบพักคนเดียว นั่นทำให้ต้องมีคนใดคนหนึ่งยกเลิกไป
“คนที่ยกเลิกก็ต้องเธออยู่แล้ว เพราะผมไม่มีทางไปหาหอใหม่แน่ ผมไม่ว่างขนาดนั้น” ถ้อยคำสรุปของคนข้าง ๆ ทำให้คนฟังถึงกับเงยหน้ามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ แค่คำพูดคำจาก็รู้แล้วว่าเป็นพวกเอาแต่ใจ
“เป็นผู้ชายควรเสียสละ เพราะนี่มันสองทุ่มแล้ว” สายซอเอ่ยเสียงเรียบ และได้ยินเขาแค่นเสียงหยันใส่ ทำราวกับว่านั่นมันปัญหาของเธอ
“ชั่วโมงเรียกร้องสิทธิสตรีรึไง” อีกฝ่ายยอกย้อนกวนติ่ง
“ไม่ได้เรียกร้อง แต่ฉันจะไม่ไปหาหอใหม่ไง” เธอบอกเขา ต่างฝ่ายต่างมองจ้องกันตาเขม็งราวกับจะใช้มันฟาดฟันใส่กัน
“เฮ้อ...อย่าเพิ่งทะเลาะกันค่ะ เอาแบบนี้ไหม ถ้าไม่มีใครยอมยกเลิก พี่มีทางเลือกให้อีกอย่าง คือทั้งสองคนต้องลงทะเบียนเป็นรูมเมทกันเท่านั้น ถึงจะขนของเข้าไปในห้องได้ ซึ่งถ้าลงเป็นรูมเมท ทางหอจะมีชุดเตียงและอุปกรณ์ให้อีกชุด” ผู้ดูแลหอพักเสนอ ทำให้ชายหนุ่มยิ่งเซ็งจิตเข้าไปใหญ่ บอกว่าให้เขาเป็นรูมเมทกับยัยเฉิ่มนี่เหรอ จะบ้าจะบอ!
“ไม่มีห้องเหลือเลยเหรอครับ พี่เช็คดีแล้วเหรอ” พระพายถามย้ำ
“ไม่มีค่ะ กุญแจห้องเหลือแค่ห้องนี้ห้องเดียวแล้ว พี่ไม่โกหกหรอก”
เมื่อผู้ดูแลหอพักยืนยันมาขนาดนั้น สายซอจึงได้แต่คิดหนัก ถ้าเธอไม่ได้อยู่หอใน บิดาจะต้องให้เธอไปอยู่ที่คอนโด ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ไม่ต่างกับการกลับไปถูกท่านติดตามดูแลเช่นที่ผ่านมา เธอจะขาดอิสระและรสชาติชีวิตวัยรุ่นในรั้วมหา’ลัยไปแน่นอน แต่การเป็นรูมเมทกับผู้ชายที่เพิ่งเจอหน้ากัน แถมเขาก็ดูเยอะและเอาแต่ใจขนาดนั้น เธออาจจะเป็นโรคประสาทก่อนเรียนจบก็ได้ เลือกทางไหนก็ฟังดูห่อเหี่ยวใจไปหมด
“ยกเลิกไปเถอะน่า เธอกำลังทำให้เราเสียเวลาไง” เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่จมอยู่กับความคิด พระพายจึงรบเร้า เขายืนรอจนเมื่อยแล้ว
“ฉันจะพักห้องนี้ ถ้านายอยากพักเราคงต้องเป็นรูมเมทกัน” สุดท้ายสายซอก็เอ่ยบอกเขา ทำให้พระพายถึงกับพูดไม่ออก ทำไมเขาต้องอยู่ห้องเดียวกับเธอด้วยวะ เซ็งฉิบหาย!
“หญิงชายไม่ร่วมห้องไง เธอไม่เคยได้ยินเหรอ”
“งั้นนายก็ยกเลิกไปสิ” เธอว่า แล้วยกยิ้มน้อยบนมุมปาก ทำให้เจ้าของร่างสูงแค่นหัวเราะ ก่อนจะยกนิ้วมาดีดที่เลนส์แว่นเธอ
“ฝัน! เอาดิ...ถ้าเธออยากเป็นรูมเมทฉันก็เอาเลย ผู้ชายไม่เสียหายอยู่แล้ว อ้อ! หวังว่าเธอจะไม่เรื่องมาก อยากเปลี่ยนใจทีหลังล่ะ” สุดท้ายพระพายก็คิดว่ายอมลงทะเบียนเป็นรูมเมทเธอไปก่อน เมื่อเข้าพักแล้ว และเธอทนเขาไม่ไหว เธอก็คงร้องงอแงย้ายข้าวของออกไปเองนั่นแหละ