รถมินิคันเล็กจอดอยู่ในที่ห่างไกลผู้คน คนที่ขับรถหันมามองคนที่นั่งข้าง แล้วบอกอีกที
“คุณรู้ ว่าระหว่างเรา มันมีอะไรบางอย่าง “
“อะไรคะ “ คนที่ไม่แน่ใจนัก ย้อนถามกลับไป
“พราวรุ้ง “ เค้าเรียกชื่อเธอ มองใบหน้าที่กำลังเขินเต็มที่ แล้วจับที่ผมเบาๆ
“ผมยังเรียนอยู่ อีกไม่กี่เดือน ก็จะเรียนจบ จนกว่าจะถึงวันนั้น รอผมได้ไหม “
เธอไม่คิดเลยว่า เค้าจะพูดแบบนี้ออกมา จนกว่าจะถึงวันนั้น หมายความว่า เค้ากำลังจะจีบเธอหรอ
“หมายความว่า คุณจะให้ฉันรอคุณเรียนจบก่อนใช่ไหมคะ แล้ว “
“รอผมสอบให้เสร็จก่อน รอให้ผมไม่ได้เป็นนักศึกษาแล้วคุณกับผม เราลองมาคบกัน “
พราวรุ้งเหมือนว่าตัวเองตัวลอย สติสตังหายไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ เพราะเค้าเพียงคนเดียว
ใบหน้าหล่อเหลากระชากใจคนอื่น ยิ้มอ่อนโยนกับเธอ มือที่สัมผัสที่เส้นผม ไล่มาที่แก้ม และริมฝีปากบาง ทำให้เธอร้อนรุ่มเหลือเกิน
“จนกว่าจะถึงวันนั้น อย่าเพิ่งไปชอบใคร คุณอยู่ในสายตาผมเสมอนะ “ เค้าบอกย้ำอีกครั้ง ก่อนจะมาส่งเธอที่หน้าอพาร์ตเมนต์ พราวรุ้งอยากจะหยิกตัวเอง ว่าเธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม
อาจารย์สุนทรยิ้มกว้าง เมื่อเห็นรายงานและใบงานที่นายอิทธิพัทธ์ทำมาส่งอย่างเรียบร้อย สม่ำเสมอ ใครจะคิดว่า คนเจ้าปัญหาแบบนั้น จะยอมทำทุกอย่าง อย่างดีมาตลอดทั้งเทอม
“อีก2คาบก็จะหมดเวลาเรียนแล้วใช่ไหม พราวรุ้ง “ หัวหน้างานถามออกมา
“ค่ะ อีก2คาบ เท่านั้น “ คนที่ตื่นเต้นรอคอยตอบเสียงสั่น พ่อกับแม่ดีใจมาก ที่ลูกสาวได้ต่อสัญญาอีก1ปี และ เธอก็จะได้เจอคนที่อยากเจอด้วยเช่นกัน
คนที่มาเรียนสม่ำเสมอ ยิ้มอย่างร้ายกาจทุกครั้งที่เจอกัน นิ้วชี้เจ้าปัญหาที่สัมผัสริมฝีปากของเธอ จะลูบที่ริมฝีปากของตัวเองทุกครั้ง ที่เค้าต้องการจะแกล้งยั่ว
ทุกครั้งที่มาเรียน นายตัวปัญหาจะส่งงานคนสุดท้าย และจะจีบเธอในห้องเรียน ตลอดเวลา
“อีกกี่คาบ จะได้มีแฟน “ คนพูด พูดพร้อมรอยยิ้มยั่วยวน มองคนที่รับกระดาษคืนไป ด้วยรอยยิ้ม แล้วแอบลูบมือของเธออีกต่างหาก
“ดิฉันยังไม่ตกลงอะไรเลยนะคะ “ พราวรุ้งตอบเสียงเข้ม เพื่อจะปรามเค้า
“ครับ ไม่ต้องตกลงหรอก แต่ถ้าผมเห็นคุณไปใกล้ใคร แล้วใครมาใกล้คุณ คุณจะโดนดี “ คนเอาแต่ใจบอกเสียงเข้มดุ แล้วเดินออกไปข้างนอกห้อง หันกลับมายิ้มให้เธออีกครั้ง
“รอนะครับ ผมไม่ดื้อกับคุณ คุณก็อย่าผิดคำพูดกับผมนะครับ พราวรุ้ง “
เธอหุบยิ้มไม่ได้เลย คนที่วางเฉยกับทุกคน คนที่ไม่ยอมให้เข้าใกล้ กลับมาวนเวียนอยู่กับเธอ ไม่ห่าง แม้จะไม้ได้พบหน้ากัน แต่เค้าก็ยังโทรมาหาอยู่เสมอ ไม่ขาดหายไป แม้แต่วันเดียว
“กลับบ้านหรอ “ เค้าโทรมาหาเธอในช่วงเย็นของวันศุกร์สุดสัปดาห์
”ค่ะ กลับบ้าน “ เธอตอบเสียงเบา เพราะอยู่บนรถทัวร์ที่ขับออกชานเมือง จะสะดวกกว่าขึ้นรถเมล์หรือรถตู้
“ถึงไหนแล้ว “ คนที่เป็นห่วงถามขึ้นมา
“อีกนิดนึงก็จะถึงแล้วค่ะ พ่อกับแม่ออกมารับ “ เพราะการได้คุยกันในช่วงเย็น ทำให้ทราบว่า พราวรุ้งเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว
“ไม่เจอกันวันหยุด ผมจะคอลหาได้ไหม “ คนที่อยากเห็นหน้า ถามออกมา ด้วยความไม่มั่นใจนัก ต่างจากการพูดคุยกับคนอื่นที่ดูจะสบายๆมากกว่า
“คอลได้ แต่จะรับหรือเปล่า อีกเรื่องนึงนะคะ “ คนอยากแกล้งตอบกลับไป ทำให้คนที่คิดเยอะ เงียบลงไปทันที
“หยอกเล่นค่ะ ถ้าอยากคอลก็คอลมาได้เลย รุ้งอาจจะช่วยที่บ้านทำงานบ้านบ้าง บางเวลา แต่จะรับสายคุณด้วยค่ะ “
”ถึงบ้านแล้ว บอกผมด้วยนะครับ เดินทางปลอดภัยนะ “ เธอเก็บโทรศัพท์ลงใส่กระเป๋า หัวใจที่เคยเงียบสงบมาตลอด กลับรู้สึกคันยิบยับในหัวใจ เพียงเพราะได้คุยกับเค้า สงสัยว่าเธอกำลังชอบเค้ามากขึ้น มากขึ้นแล้วใช่ไหม
ผู้เป็นแม่มองลูกสาวที่ยิ้มกับโทรศัพท์หลายต่อหลายครั้ง จนต้องสะกิดให้พ่อดู ลูกสาวกำลังจะมีแฟนแน่นอน
“มีหนุ่มมาจีบแล้วมั้ง ยิ้มแบบนี้ “ แม่เปรยออกมา แล้วล้างผักในมือต่อแบบไม่สนใจ ต่างกับพ่อ ที่มองลูกสาวทันที
“ถ้ามีละแม่ จะว่าไง “ คนร้อนตัวรีบเปิดเผยทันที แล้วมองหน้าพ่อแม่สลับกันไปมา
“ก็ไม่ว่าอะไร แต่ก็อดห่วงไม่ได้ กลัวจะโดนเค้าหลอก “ เพราะลูกสาวคนเดียวที่เลี้ยงมาดั่งไข่ในหิน กำลังจะมีแฟน ทำให้อดห่วงไม่ได้จริงๆ
“ก็ไม่รู้หรอกแม่ ว่าจะยังไง เพิ่งคุยกันได้ไม่นานเอง “ ลูกสาวบอกออกมา
“แล้วไปเที่ยวไปมาหาสู่กันบ่อยไหม “ ผู้เป็นพ่อถามขึ้น
“ไม่ได้ไปไหนเลย ไม่ค่อยมีเวลา แค่โทรคุยกันอย่างเดียว “ คำตอบทำให้คนฟังยิ้มได้
“ระมัดระวังตัวนะลูก พ่อไม่ใช่คนหัวเก่าอะไร จะคบหากันดูใจกัน ก็ต้องระวังตัว อะไรที่มันป้องกันได้ก็ต้องป้องกัน “
ลูกสาวหันไปมองพ่อ ด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะเห็นแม่ที่ยิ้มหน้าแดงออกมา
“โอ้ยยยเรื่องแบบนั้นมันไม่เกิดขึ้นหรอก “ ลูกสาวประท้วงเสียงดัง เพราะไม่อยากให้เข้าใจผิดไปไกล
“ตอนนี้มันยังไม่เกิด แต่สักวันมันต้องเกิด ถ้าไม่ใช่เพราะเค้าข่มเหงน้ำใจ ก็แสดงว่าทุกอย่าง มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติ “
ผู้เป็นแม่ บอกลูกอย่างคนรู้เท่าทัน
“พ่อแกเอง ยังเทียวไล้เทียวขื่อแม่ตั้งแต่ยังไม่จบมอหกดีด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้น ลูกโตแล้ว เรียนจบแล้ว มีงานมีการทำแล้ว ต้องระมัดระวังตัวเองนะลูก “ คำพูดของแม่ ทำเอาคนฟังยิ้มทั้งน้ำตา แม่กับพ่อของเธอ น่ารักที่สุดในโลกเลย
“คิดถึงผมไหม “ คนที่โทรมาอ้อนช่วงบ่ายวันเสาร์ ในสภาพเพิ่งตื่นนอน หลังจากที่เล่นเกมส์จนเกือบเช้ากว่าจะนอน
”เพิ่งตื่นหรอคะ “ คนเฉไฉ บอกเสียงเรียบ แอบยิ้มกับสภาพเพิ่งตื่นนอนของเค้า
“ครับ เพิ่งตื่น เล่นเกมส์”
“รุ้งกำลังทำกับข้าวค่ะ “ เธอหันกล้องไปทางด้านหน้า ที่มีอาหารสดวางไว้หลายชนิด ก่อนจะหันกลับมา
“อยากกินบ้าง มาทำให้กินหน่อยได้ไหม “
คนที่มีครัวเอาไว้ประดับในคอนโดอ้อนออกมา อยากจะได้เจอเธอมากกว่า ก็เท่านั้นเอง
“วันหลังนะคะ จะทำให้ทาน “ พราวรุ้งตอบ พร้อมรอยยิ้ม
“จะรอนะครับ สัญญาแล้วนะ ห้ามให้ผมรอเก้อนะครับ “
“ค่ะ สัญญา “
พ่อกับแม่ยิ้มออกมา เมื่อลูกสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์ บางที อาจจะต้องปล่อยลูกสาวให้ใช้เวลากับคนที่จะเข้ามาบ้างแล้ว