หนีเสือปะจระเข้
ตึก
ตึก
ตึก
ร่างบางในชุดนักศึกษาทิ้งตัวลงนั่งที่ป้ายรถเมล์ด้วยความรู้สึกเมื่อยล้ามือเล็กยกขึ้นปาดเหงื่อที่หน้าผาก ยามนี้พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าเต็มที
มืดค่ำแล้วเหรอเนี่ย
หญิงสาวบ่นพึมพำกับตัวเองเพราะกว่าจะเคลียร์งานเสร็จก็กินเวลาจนเกือบจะมืดค่ำ มือเล็กยกขึ้นเกาะกุมตรงท้องบริเวณน้อยเป็นการบอกว่าหิว ในหัวเธอตอนนี้มีเพียงภาพพะโล้ขาหมูของโปรดฝีมือของผู้เป็นแม่
กลับไปถึงบ้านนี่ล่ะ จะฟาดให้เกลี้ยงหม้อเลย!
ปั่งๆๆ!!!
เอี๊ยดดด!!!
โครม!! ตู้ม!!
เสียงอึกทึกครึกโครมจากรถหรูสองคันที่วิ่งขนาบข้างกันมาด้วยความเร็วสูง กลุ่มชายฉกรรจ์ต่างสาดกระสุนปืนใส่กันหลายนัดติดๆ ก่อนที่รถคันที่ถูกไล่ล่าจะเสียหลักจากการถูกยิงเข้าขมับด้านซ้ายด้วยความแม่นยำจนรถเกิดพลิกคว่ำในทันที เปลวไฟโหมลุกทั่วทั้งคันเพราะการยิงซ้ำจากใครบางคน ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็ตื่นตระหนกตกใจไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งเธอด้วย
"heeแม่!!!" หญิงสาวที่กำลังนั่งกุมท้องด้วยความหิวอยู่นั้นตะเบ็งเสียงร้องออกมาด้วยความตกอกตกใจกับภาพเหตุการณ์สุดระทึกที่อยู่เบื้องหน้า หญิงสาวพยายามมองหาสถานที่เพื่อจะใช้หลบให้ห่างจากกลุ่มคนอันตรายและกองไฟที่กำลังลุกโชน! เธอรีบวิ่งเข้าไปหลบทันที...
พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ! สัมพเวสี ผีเรร่อน ผีบรรพบุรุษ โอ๊ย! ผีตัวไหนก็ได้ช่วยอิขนมด้วยเจ้าค่าาา
เธอนั่งตัวสั่นงันงกยกมือไหว้เป็นพัลวัน
นักเลงหัวไม้ที่ไหนมันมาฆ่ากันแถวนี้อ่าา จะฆ่ากันก็ไม่ว่าแต่ไปฆ่าที่อื่นไม่ได้รึไง
เธอบ่นพึมพำด้วยความหวาดกลัวในขณะหลบอยู่ในสำนักงานร้างเก่าๆหลังหนึ่ง ไม่ห่างจากป้ายรถเมล์เท่าไหร่นัก
อีกด้าน
"อย่าปล่อยให้มันรอดแม้แต่คนเดียว!" เสียงผู้ชายคนนึงที่ลงมาจากรถหรูอีกคัน เขายืนสั่งลูกน้องด้วยท่าทางนิ่งๆน้ำเสียงเยือกเย็นแต่แฝงด้วยความน่าเกรงขาม เขาคือรามสูร หนึ่งในแก๊งยมทูตสีเทา ฉายาอสูรร้ายหน้าตาย
"มันตายแล้วครับเสี่ย!" ชายร่างกำยำในชุดสูทสีดำ เดินมารายงานผู้เป็นนายว่าศัตรูได้หมดลมหายใจลงแล้ว
"ตายง่ายจังวะ! กุยังไม่หมดสนุกเลย!" รามสูรแสยะยิ้มออกมาทันที สายตาทอดมองไปยังคนในรถที่ตอนนี้เนื้อตัวไหม้เกรียมไม่เหลือเค้าโครงเดิม
" เอี๊ยดด!!!" เสียงเบรกรถหลายคันของคนอีกพวกที่ขับมาจอดเทียบข้างรถของพวกรามสูร เขาคือเสี่ยจอมพลหัวหน้าแก๊งคู่อริ!
รามสูรยืนแสยะยิ้มทันทีที่เห็นศัตรูหมายเลขหนึ่งอยู่ตรงหน้า
หึ...! จอมพล กุรอมึงอยู่พอดี!
เวลานี้แก๊งนักเลงขาใหญ่แห่งฮ่องกงกำลังเผชิญหน้ากันอย่างไม่มีใครกลัวใคร ปลายกระบองปืนพกแบบในหนังมาเฟียหันเข้าหาอีกฝ่ายทันที เป้ากระสุนเงินคู่ใจของทั้งคู่ก็คือมันสมอง...
"มึงดูคนของกุซะก่อนไอ้รามสูร" จอมพลตั้งใจพูดข่มให้อีกฝ่ายเกรงกลัวกับบรรดาสมุนที่แห่กันมาหลายสิบคนเมื่อเทียบกับรามสูรที่ตอนนี้เหลือเพียงเขากับลูกน้องแค่เพียงหยิบมือ
"คิดว่ากุกลัวมึงรึไง ไอ้กระจอก!" รามสูรตอบออกไปอย่างท้าทาย ตอนนี้ในใจของเขาความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเพราะเขายอมตายดีกว่าจะให้ศัตรูมาดูแคลนได้
ปั่ง!!
ทันใดนั้นเอง จอมพล...เหนี่ยวไกปืนด้วยความเร็วและแม่นยำ ร่างใหญ่ล้มลงพื้นถนนพร้อมกับเลือดที่ค่อยๆไหลออกมา
"เฉิน...! ไอ้หมาลอบกัด!! " รามสูรตะโกนออกไป เขาขบกรามแน่นด้วยความรู้สึกโกรธจนมองเห็นเส้นเลือดสีเขียวปูดบนใบหน้าคมเพราะจอมพลเล่นสกปรกด้วยการเปลี่ยนวิถีกระสุนจากตนไปเป็นลูกน้องคนสนิทแทน ตอนนี้เฉินนอนแน่นิ่งไปแล้ว
"ช่วยไม่ได้! มันอยากไปเป็นมือเป็นตีนให้มึงเองนิ!" จอมพลตอบด้วยท่าทางที่ไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย ทั้งที่คนที่เขาพึ่งจบชีวิตลงคืออดีตลูกน้องผู้จงรักภักดีที่หันไปแปรพรรคให้กับรามสูรในภายหลังด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่สำหรับจอมพลนั้นขอแค่เขาเป็นฝ่ายชนะ ไม่ว่าจะได้มาด้วยวิธีการใดเขาก็ไม่สนและคนต่อไปที่ต้องตายอย่างอนาจ ก็คือมึง...ไอ้รามสูร!
จอมพลยิ้มเยาะ
"กุจะเป็นคนลากคอมึงไปลงนรถเอง!
ปั่งๆๆๆ!!
จบประโยค ทั้งคู่หันปลายกระบองปืนคู่ใจเข้าหากันอีกครั้ง ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างก็สาดกระสุนปะทะกันอย่างไม่ยอมรามือ มือหนึ่งถือปืนอีกมือถือดาบ เสียงปืนก็ดังสนั่นหวั่นไหวจนสร้างความตื่นตระหนกตกใจแก่คนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นอย่างมาก พวกเขาต่างพากันวิ่งหนีเพื่อจะรักษาชีวิต
อีกด้าน
" นี่มันเรื่องบ้าอะไร มะ...ไม่อยู่แล้วโว๊ย!! ไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน!” หญิงสาวผู้โชคร้ายคือ นักศึกษาปีหนึ่งที่ชื่อ ขนม ขนมพึมพำออกมาอย่างด้วยความหวาดกลัวก่อนจะตัดสินใจหนีตายเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ข้างนอกเริ่มรุนแรง แต่แล้วเธอก็ต้องเดินถอยหลังกลับมายังที่เดิมเพราะทางที่เธอจะกลับออกไปมีแค่ทางเดียวแถมกลุ่มชายฉกรรจ์บ้าคลั่งพวกนั้นก็กำลังวิ่งไล่ล่ากันมาพร้อมกับอาวุธครบมือ
ปั่งๆๆ!
กุไม่เป็นไร!พวกมึงรีบหนีไป!" รามสูรตะโกนสั่งลูกน้องด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดราวกับคนไม่รักตัวกลัวตาย เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์มันเริ่มรุนแรงมากขึ้น ลูกน้องนับสิบก็รอดตายแค่ไม่กี่คน
ด้านขนมปังตอนนี้เธอกลับผวายิ่งกว่าเดิมและไม่กล้าแม้จะส่งเสียงใดๆ แม้ใจจริงอยากจะพูดออกไปว่า...........
มึงไม่เป็น...! แต่กุสิเป็น...!
หนึ่งในกลุ่มคนที่มีเรื่องกันนั้นไม่ได้หนีไปไหนไกลเลย ตอนนี้เขานั่งอยู่ข้างๆเธอ
ตะ...ตรงนี้ กะ...กุจองไว้แล้วน้าาา
"มึงเป็นใคร!" รามสูรเอ่ยน้ำเสียงไม่พอใจเมื่อเห็นคนตัวเล็กนั่งอยู่ด้วย ทำไมเขาต้องมาหลบอยู่กับอิเด็กขี้กลัวนี่ด้วยวะ
".........." คนถูกถามไม่กล้าแม้จะอ้าปากพูด
ผู้ชายอะไรน่ากลัวชิบหายเลย เธอจำได้ดีว่าคนที่พึ่งเป่าขมับคนอื่นอย่างไม่นึกปราณีชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็คือเขาคนนี้
แล้วฉันล่ะ? จะรอดมีชีวิตออกไปมั้ย
"กุถามว่ามึงเป็นใคร! หูหนวกหรือเป็นใบ้วะ! ถึงไม่ตอบ!" เสียงดุดันบวกกับท่าท่างดิบเถื่อน ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับสะดุ้งโหยง
จะคุยกับคนแปลกหน้าก็หัดเก็บปืนกับมีดยาวๆก่อนไม่ได้หรือไง
ถึงแม้เธออยากจะพูดออกไปใจจะขาดแต่ก็ทำได้แค่ต่อว่าเขาในใจ
"หาตัวไอ้รามสูรให้เจอ! กุจะคิดบัญชีกับมัน!" ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้สนทนากันต่อ เสียงของเสี่ยจอมพลที่ตะโกนสั่งลูกน้องอย่างร้อนรนก็ดังขึ้นใกล้ๆ วันนี้เขามาเพื่อจะเอาชีวิตรามสูร หนึ่งในแก๊งมังกรดำศัตรูหมายเลขหนึ่ง เพราะน้องชายสายเลือดเดียวกันพึ่งจะถูกรามสูรปริดชีวิตลงเมื่อไม่กี่วันมานี้
"โธ่เว้ย!!" รามสูรทำได้เพียงขบกรามไว้แน่นด้วยความเจ็บใจที่ครั้งนี้เขาทำลายแก๊งของจอมพลไม่สำเร็จ
ถ้ากุไม่ถูกลูกน้องชาติชั่วมันหักหลัง ป่านนี้กุดับลมหายใจมึงไปแล้ว ไอ้จอมพล!
เขาพึมพำออกมาด้วยความโมโห
ปั่งๆๆ!!
“มึงมุดหัวอยู่ไหนวะ!ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้สารเลว!" จอมพลยิงกระสุนขึ้นฟ้าพร้อมกับตะโกนอย่างคนบ้าคลั่ง เขาแน่ใจว่ารามสูรคงจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่
ปรี๊ดดด!!!
เสียงนกหวีดของเจ้าพนักงานดังขึ้น ตำรวจหน่วยปราบปรามนับสิบนายเข้าล้อมบริเวณดังกล่าวในทันที ฝ่ายจอมพลที่เห็นว่าตอนนี้มีตำรวจเขามาเกี่ยวข้องเขากับลูกน้องก็รีบสลายตัวเพราะตอนนี้เขาไม่ควรจะมีคดีเพิ่ม
"ขะ...แขนคุณ!" เธอเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าแขนขวาของรามสูรเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลโชกอย่างไม่ขาดสาย เสื้อที่ขาดแหว่งเป็นวงกว้างทำให้เลือดสีแดงคล้ำมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ตุ๊กแก จิ้งจก หนอน คางคก หมาแมวไม่เคยกลัวแต่กับเลือดสีแดงๆนี่ อิขนมยอมจ้า
"ละ...เลือด!" แผลของคนข้างๆที่เธอเห็น มันเป็นรอยยาวและค่อนข้างลึกเอาการ
"เออ!ก็เลือดน่ะสิ มึงคิดว่าเป็นน้ำแดงหรอ!" รามสูรตอบออกไปอย่างนึกรำคาญ
ทำไมกุต้องมาอยู่กับอิเด็กนี่ด้วยวะ!
เขานึกหงุดหงิดในใจเพราะเขาไม่ชอบเอาซะเลย...ผู้หญิงอ่อนแอแบบนี้!
"รีบไปโรงบาลดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหนูพาไป" ขนมปังพยายามพยุงรามสูรให้ลุกขึ้นยืน เธอจะได้พาเขาไปส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่รามสูรรู้ตัวเองดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้เขาไม่ควรมาห่วงตัวเองเขาควรจะรีบไปช่วยลูกน้องที่เหลืออยู่ ที่ตอนนี้อาจจะถูกจอมพลตามล่าอยู่ก็ได้
"แผลแค่นี้กุไม่ตายหรอก! หลีกไป!" รามสูรตวาดเสียงดังพร้อมกับผลักขนมปังจนล้มก้นจ้ำเบ้า ถึงแม้ว่าเขาจะเจ็บหนักแต่คนอย่างรามสูรเขาก็ไม่คิดจะให้ใครมาช่วยโดยเฉพาะผู้หญิงตัวเล็กๆแถมยังดูอ่อนแอแบบนี้
"ตามใจ!" เธอตอบออกไปแบบคนที่ปะชด
ชิส์! อุตส่าจะช่วย รู้งี้ตะโกนบวกพวกนักเลงนั่นซะก็ดีหรอก!
ขนมปังบ่นพึมพำ...
"อ๊าาส์!!" พอรามสูรใช้แขนข้างที่เจ็บยันพื้นเพื่อจะลุกขึ้นยืน เขาก็โอดครวญออกมาอย่างลืมตัว ก็เพราะแผลข้างที่โดนฟัน ตอนนี้มันเริ่มออกฤทธิ์ซะแล้ว เขาได้แต่เอามือกดแผลตัวเองไว้แรงๆเพื่อจะห้ามเลือด เธอเองก็นึกหมั่นไส้ในท่าทีหยิ่งผยองของเขา
โธ่ๆ...! พ่อนักเลงหัวไม้เอ้ย! จะตายอยู่แล้วยังปากดีอีก!
เธอเบะปาก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่อาจจะทนดูคนเจ็บหนักโดยไม่เข้าช่วย เธอล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าสีชมพูแปร๋นของตัวเองในกระโปรงนักเรียนแล้วส่งให้
"อ่ะ...เอาไปห้ามเลือดสิคะ! เดี๋ยวถ้าเลือดออกหมดตัวจะอดไปแก้แค้นไม่รู้ด้วยนะ" เธอพูดด้วยท่าทีที่ตั้งใจจะยียวนกวนประสาท รามสูรรับผ้าเช็ดหน้าจากมือเล็กไปด้วยความจำใจ
ใช่...! เขาจะยังตายตอนนี้ไม่ได้!
"ถ้ามึงอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ก็เหยียบเรื่องที่รู้ที่เห็นวันนี้ไว้ให้จมดิน! ไม่งั้น.......กุจะไปเอาชีวิตมึงกับครอบครัว!!" รามสูรพูดด้วยน้ำเสียงของคนที่เอาจริงซ้ำยังหันกระบอกปืนพกไปจ่อที่ขมับของอีกฝ่าย แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการจะให้ตำรวจเข้ามาวุ่นวาย เรื่องระหว่างเขากับจอมพล เขาจะต้องสะสางด้วยตัวของเขาเอง
"ค่ะ หนะ...หนูจะไม่บอกคะ...ใคร" ขนมปังก้มหน้าตอบออกไปแทบจะไม่เป็นคำ เธอไม่กล้าแม้จะมองหน้ารามสูรด้วยซ้ำ
"ดี...!" รามสูรตอบเพียงสั้นๆแล้วก็พยุงร่างที่บาดเจ็บสาหัสออกไปจนสุดสายตา เธอรีบทิ้งร่างลงกับพื้นทันที
เกือบตายแล้วมั้ยอิขนม! ชาตินี้ขออย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลยนะ ไอ้นักเลงหัวไม้! สาธุ๊...!