ตอนที่ 2
“จะไปไหนอีกล่ะขวัญนี่มันเย็นแล้วนะ” แทนที่สิมิลันจะให้เงินตามคำขอกลับ หญิงสาวกลับเอ่ยถามเสียงเรียบปะปนด้วยความเป็นห่วงเป็นใยในสุขภาพและสวัสดิภาพของผู้เป็นน้อง ที่ไม่ได้แข็งแรงเหมือนคนอื่นเขา ดวงตากลมโตกวาดดูน้องสาวการแต่งตัวน้องสาวอยู่สองสามรอบ ก่อนจะส่ายศีรษะอย่างไม่ชอบใจ
เสื้อเกาะอกลายเสือดาวยาวพ้นฐานอกเพียงแค่เล็กน้อย อวดผิวเนียนนุ่มตั้งแต่ลำคอ แขนเรียวยาว และหน้าท้องเนียนเรียบ ล่างลงไปเป็นกางเกงขาสั้นสีเดียวกับเสื้อ แต่ว่าสั้นจนเกือบจะเห็นแก้มก้นเผยให้เห็นขาเรียวยาว ซึ่งแม้จะซูบซีดไปบ้าง แต่มันก็เนียนนุ่มและขาวผ่องเป็นยองใยยั่วใจยั่วตาคนที่เห็นให้เกิดอาการหื่นได้ไม่ยากเลย
“หนูนัดกับเพื่อนไว้จะไปดูหนังรอบดึกนะพี่ลัน ขอเงินหน่อยซิ” มือขาวยังคงยื่นมาเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ พร้อมหันหน้าหนีอีกทั้งยังเบ้ปากให้ น่ารำคาญจริง บ่นอยู่ได้ บ่นยิ่งกว่าคนแก่อีก ไม่รู้เมื่อไหร่จะตายๆ ไปได้สักที
“จะเอาเท่าไหร่” สิมิลันถาม ใบหน้าสวยก้มยิ้มกับโซดาที่ส่งยิ้มไปให้กับน้องสาวต่างแม่ที่ยืนยิ้มกริ่ม ดวงตาเป็นประกายอยู่ไม่ไกล มือเรียวยังคงยื่นมาพร้อมกระดิกไม่ยอมหยุด คิ้วคมเข้มได้รูปข้างหนึ่งเลิกขึ้นสูง ริมฝีปากขยับไปมาอย่างคนอยู่ไม่สุข ดวงตากลมโตมองเด็กหญิงตัวน้อยอย่างจงเกลียดจงชัง
“หนูเข้าไปรอคุณแม่ในห้องก่อนนะคะโซดา คุณแม่ขอคุยธุระกับแม่ขวัญก่อน” เพียงแค่พูดจบทั้งสิมิลันและโซดาต่างก็สะดุ้งกับน้ำเสียงอันเกรี้ยวกราวและดังราวกับฟ้าผ่าของขวัญชนก
“เอ๊ะ!! พี่ลันนี่ยังไงน่ะ บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าไม่ให้เรียกคุณแม่ คุณแม่ให้เรียกพี่ขวัญ เรียกพี่ขวัญ เข้าใจไหมพี่ลัน” หญิงสาวตวาดแว๊ดๆ เสียงดังลั่นบ้านจนโซดาตกใจผวากอดขาสิมิลันแน่น ปากอวบอิ่มเบะออกพร้อมกับเสียงสะอื้นเบาๆ น้ำตาคล้อเบ้า ยิ่งดวงตาหวานสวยของขวัญชนกจ้องมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อนั่นด้วย ทำเอาเด็กหญิงถึงกับกลัวจนตัวสั่น
สิมิลันรีบดึงตัวโซดาขึ้นจากพื้นกอดไว้แนบอก มือลูบหลับเล็กเบาๆ พูดปลอบข้างหูเสียงนุ่มนวลและอ่อนโยน “ไม่เป็นนะจ๊ะคนเก่ง แม่ลันอยู่นี่แล้ว ไม่ต้องตกใจนะคะ ไม่มีใครทำอันตรายลูกของแม่ได้นะจ๊ะคนดี โอ๋ๆ เงียบนะคะคนเก่งของแม่ลัน”
แขนเล็กป้อมโอบรอบคอสิมิลันไว้แน่น ใบหน้าซบกับซอกคอเนียน แม้จะอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นแม่ แต่อาการสั่นเทาและหวาดกลัวยังมีให้เห็น
“แม่กลัว พี่ขวัญน่ากลัว” เด็กน้อยบอกเสียงสั่นปนสะอื้นชี้มือที่สั่นเทาไปยังขวัญชนก
คุณพรทิพย์รีบวิ่งมาตามเสียงมาด้วยความเร็วเท่าร่างอวบอ้วนของเธอจะพามาได้ “เกิดอะไรขึ้นยายขวัญ หนูเป็นอะไร ใครทำอะไรหนูหรือเปล่าลูก” คุณพรทิพย์หายใจเข้าและออกอย่างเร็ว สองมือลูบคลำแขนและลำตัวผู้เป็นลูก ใบหน้าตื่นตระหนก
“เปล่าค่ะแม่ หนูเพียงแค่ไม่พอใจพี่ลันนิดหน่อยเท่านั้นเอง แค่ขอเงินพันสองพันไปดูหนังกับเพื่อนแค่นี่ ทำเป็นเรื่องมากไปได้” ขวัญชนกฟ้องมารดาแบะปากสีแดงสดตาแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนมองแทบไม่เห็นดวงตาที่แท้จริง ยังคงจ้องจิกกัดโซดาด้วยความเจ็บแค้น
“นี่แม่ลัน น้องมันขอก็ให้ๆ ไปเถอะ แกจะขี้เหนียวอะไรนักหนากับเงินแค่พันสองพัน ฉันเห็นเธอซื้อของเล่นไร้ค่าให้นังโซดานะหมดไปทีสี่ซ้าห้าพันไม่เคยบ่น พอน้องมันขอแค่นี้ทำเป็นเรื่องมาก” คุณพรทิพย์บ่น ปรายตามองสิมิลันซึ่งกำลังรีบควานหากระเป๋าเงินจากกระเป๋าสะพายใบใหญ่ตัดความรำคาญ ด้วยลืมคิดไปว่านั่นเป็นเงินเป็นที่หญิงสาวหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง จะให้ใครหรือทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจ
“หนูเปล่าขี้เหนียวหรอกค่ะป้า หนูเพียงแค่...” สิมิลันอ้าปากจะแก้ตัว แต่พอเห็นหน้าคุณพรทิพย์กับขวัญชนกบูดเบี้ยวบึ้งตึงเลยเปลี่ยนใจยื่นเงินแบงค์พันหนึ่งใบให้น้องสาวแทน
“จะแค่อะไรก็ช่างเถอะพี่ลัน หนูขอห้าพันนะ” ขวัญชนกบอกรีบฉกเงินจากมือสิมิลันอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะทันได้ตั้งตัว “ขอบใจนะพี่ลัน” ขวัญชนกกรีดนิ้วนับเงินในมือ ดวงตาเป็นประกายสุขสม ยกเงินในมือประทับกับปากสวยอย่างพอใจ ก่อนจะรีบเดินออกจากบ้านใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“มันก็แค่นี้เองง่ายจะตาย ทำเป็นเรื่องมากไปได้” ขวัญชนกพูดยิ้มๆ
“เดี๋ยวซิขวัญ แล้วจะกลับตอนไหน” สิมิลันไม่วายร้องถามไปอย่างเป็นห่วง เป็นผู้หญิงกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ มันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก อีกอย่างสุขภาพขวัญชนกเองก็ไม่ค่อยจะดีอยู่ ถ้าเกิดไปเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาแล้วใครจะช่วยละ
“ถามทำไมพี่ลัน แม่ยังไม่เคยถามเลยนะ แล้วพี่ลันเป็นแค่พี่ อย่ามาสะเออะ” ขวัญชนกว่าพี่สาว สองมือยกขึ้นเท้าสะเอว มองพี่สาวใบหน้าหงิกงอและเกรี้ยวกราด
ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้เด็กเปรตที่ผู้เป็นพี่สาวกอดแนบอกอยู่นั่น เธอคงไม่ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ เรียนก็ไม่จบ ร่างกายที่เคยขาวผ่องเป็นยองใย ใบหน้าหวานสวย ตาโต แก้มป่องก็ต้องกลายมาเป็นคนสามวันดีสี่วันไข้ ต้องกินยาสมุนไพรบำรุงเลือดทุกวันถ้าไม่ใช่เพราะตั้งท้องและคลอดโซดาในวัยเพียง 17 ปีกว่าๆ
“ขวัญ!” สิมิลันร้องเรียกเสียงเรียบและเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งขั้วโลก ส่งสายตาที่ทั้งดุและเกรี้ยวกราดไปมองขวัญชนกอย่างห้ามปรามอยู่ในที
ขวัญชนกหยุดชะงักทันควันเมื่อได้ยินน้ำเสียงเข้มดุของพี่สาว แต่ใช่ว่าเธอจะกลัวหรอกน่ะ ก็เพียงแค่ไม่อยากสูญเสียบ่อเงินบ่อทองและตัดความรำคาญเท่านั้นเอง จะให้อยู่แต่ในบ้านนะหรือไม่เอาหรอก น่าเบื่อจะตายมันต้องออกไปหาอะไรสนุกสนุกทำข้างนอกซิถึงจะดี ได้เต้นโยกซ้ายย้ายขวา ปรายตาให้กับหนุ่มคนนั้นทีคนโน้นที ดีกว่าเสียอีก
“พี่ให้เวลาแค่สี่ทุ่ม เธอต้องกลับถึงบ้าน” สิมิลันพูดหวานก็จริงแต่น้ำเสียงเด็ดขาด แต่นั่นก็ไม่ทำให้น้องสาวกลัวเกรงเลยแม้แต่นิดและยังส่งยิ้มกลับมาให้เสียอีก เรียวปากนุ่มเบะออกเล็กน้อย โธ่เอ้ย!! ยัยป้า เที่ยวดึกหน่อยก็ไม่ได้ จะเป็นแม่ครูแก่ๆ เฝ้าห้องเหมือนอย่างแกนะหรือ เชอะ...เรื่องอะไรจะทำให้โง่ ข้างนอกนั่นมีอะไรให้เรียนรู้อีกตั้งเยอะ
“อืม...ขอเป็นห้าทุ่มนะพี่ลัน” ปากบอกว่าขอกลับห้าทุ่มแต่สมองกลับหมุนวนคิดว่าจะหาคำตอบอะไรให้พี่สาว เมื่อต้องการกลับบ้านเลยเที่ยงคืนไปแล้ว ไม่มีคนมาส่งรถเสียหรืออะไรก็ได้ยังไงเสียพี่สาวก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้ว คนโง่อย่างสิมิลันก็ตามไม่ทันอยู่แล้ว ขนาดเธอแอบขโมยเงินในห้องไปตั้งครั้ง พี่สาวหน้าดง่ยังไม่รู้เรื่องเลยด้วย ชินังโง่!
“ได้...ห้าทุ่มก็ได้ แต่ถ้าเลยเวลาที่เธอขอไว้เมื่อไหร่ ถ้าพี่ยังไม่เห็นเธอกลับบ้าน เมื่อนั้นเธอก็อดไปเที่ยวทะเลกับพี่ โซดา และคุณป้าตกลงไหม” สิมิลันบอกเสียงเรียบจนผู้เป็นน้องสาวตาโต ยิ้มอย่างดีใจ
ทำไมจะไม่ได้ล่ะพี่ลัน ในเมื่อไปเที่ยวกลางคืนหนูจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่การได้ไปเที่ยวชายทะเลกับพี่โดยไม่ต้องออกเงินสักบาทนะ นานปีถึงจะมีสักครั้งเท่านั้นเอง