กร้วมม !!
เสียงความกรอบดังทะลุปากออกมา ความนุ่มเด้งของกุ้งที่ความสดเต็มลิมิตนั้นสู้ฟันเป็นอย่างมาก
ซู้ดดด !!!
" อื้มมม "
ซามูไรหนุ่มร้องออกมาด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก ร้านอาหารอิซากายะร้านนี้นั้น น่าสนใจเสียจริง
หลังจากนั้นเขาก็ไม่สนใจรอบข้างอีกต่อไป
แกร๊ก !!
เสียงวางตะเกียบดังขึ้น บ่งบอกว่าเขาได้เสร็จธุระกับอาหารมื้อนี้แล้ว แต่ในใจเขานั้น ยังคงไม่จบ ความคิดบรรเจิด ตะเลิดเปิดเปิงไปไกลแล้ว
" ไม่ใช่ท่านเทพีอุเคโมจิและก็ต้องไม่ใช่ท่านเทพีอินาริ เพราะทั้ง 2 ท่านเป็นผู้หญิง อืมม เพราะฉะนั้นเทพที่เกี่ยวกับอาหารหรือการเกษตรก็คงเหลือท่านเทพฮิจิมังเท่านั้น " ซามูไรหนุ่มคิดได้ดังนั้นก็ตาเบิกโพลง " เทพแห่งสงครามและยังเป็นเทพที่ปกป้องบ้านเมืองเสียด้วย " เขามองไปยังพ่อครัว อารมณ์หลากหลายผสมปนเปกันไปหมด ดีใจ ตื้นตัน ตื่นเต้น ยำเกรง หวาดกลัว ทุกอย่างกวนรวมกันและก็มาเป็นเขาในตอนนี้
" อร่อยยิ่งนักขอรับท่าน " ซามูไรหนุ่มพูดขึ้นพร้อมก้มหัวลงคำนับ แล้วกะเทาะเอาตรงด้ามจับเพื่อเอาเหรียญอะไรสักอย่างออกมาจากช่องลับของด้ามจับ " ผู้น้อยพอใจยิ่ง ไว้โอกาสหน้าผู้น้อยขอมาใหม่นะขอรับ " ซามูไรหนุ่มพูดขึ้นพร้อมวางเหรียญแวววาวส่องประกายสีทองออกมา
" เอ่อ ครับ " วราตอบกลับ
" ผู้น้อยคงต้องขอตัวลา พลังกายกลับมาแล้ว คงต้องฝึกซ้อมต่อ " เขาก้มหัวทำความเคารพวรา แต่ครั้งนี้เขาคุกเข่าด้วย แล้วลุกเดินออกประตูไป
วราก็เดินมาเคลียร์โต๊ะแบบงง ๆ เห้อ แต่ละมื้อแต่ละเดย์ ลูกค้าคนอื่น ๆ ก็ขอตัวกลับกันแล้วเช่นกัน เวลาประมาณตี 3 กว่านี่แหละ ที่เหล่าลูกค้าจะพากันกลับ เมื่อลูกค้าคนสุดท้ายในร้านเดินออกประตูไป วราก็ตัดสินใจว่าจะปิดร้านเลย
กริ้ง ๆ !!! เสียงกระดิ่งดังขึ้น วราจึงหันกลับไป ก็พบเจอผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวเป็นนินจาสาว เธอหันไปจ้องประตูตาไม่กระพริบ
" ถ่ายทำเรื่องเกี่ยวกับซามูไรกันอยู่ซินะ " วราคิดในใจ พร้อมกับเอ่ยทักลูกค้าคนใหม่
" สวัสดีครับ " วราเอ่ยทักทายขึ้น
" อ๊ะ " เธอตกใจพร้อมหันตัวมาชักอาวุธใส่วรา เมื่อเห็นว่าเขาดูไร้พิษภัยจึงนำดาบเล่มสั้นใส่กลับลงปลอกดาบ " สวัสดีตอนดึกเจ้าค่ะ ขอประทานอภัยด้วย เอ่อ ที่นี่คือสถานที่ใดหรือเจ้าคะ "
" ร้านอาหารครับ " วราตอบ แต่ในใจนี่เกิดคำถามขึ้นมากมาย ทำไมถึงเอาอุปกรณ์ประกอบฉากออกมากันแบบนี้วะเนี่ย ดูแล้วคล้ายของจริงมากเลยนะ แต่ก็อย่างว่าแหละ วงการมายายิ่งเข้าถึงบทบาท ยิ่งทัชใจฝูงด้อมและเหล่าพีเพิ้ล
" ร้าน อา หาร ? " เธอค่อย ๆ พูดขึ้นทีละคำ
" เชิญเลือกที่นั่งเลยครับ " วราพูดอย่างเคย ๆ เมื่อมีคนใหม่ ๆ เข้ามา คำนี้ได้ออกจากปากเขาแน่นอน
นินจาสาวเลือกที่นั่งไกลจากประตูที่สุดและหันหน้าเข้ามาหาประตู
วราพิจารณาจากสภาพของเธอคนนี้ คงต้องการผ้าเย็น พร้อมกับน้ำเย็น ๆ สักแก้วให้ชื่นใจ
วรายืนมองลูกค้าคนใหม่เหมือนทุกทีที่เขาทำ คนพวกนี้แสดงได้ดีมาก ท่าทางที่ตื่นตกใจเมื่อเจอน้ำเย็นหรือแก้วนั้น ชวนให้เขาทึ่งได้ทุกครั้งจริง ๆ
" พักเหนื่อยก่อนก็ได้นะครับ ถ้าพร้อมสั่งแล้วก็เรียกเด็ก ๆ พวกนั้นได้เลยนะครับ " วราเอ่ยขึ้น " หรือจะพักเหนื่อยอย่างเดียวก็ได้ครับ "
" ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ ทำเช่นนั้น เสียมารยาทยิ่งนัก เป็นการทำให้ตระกูลโคงะเสียชื่อด้วยเจ้าค่ะ " นินจาสาวพูดขึ้นอย่างหนักแน่น
เธอที่กำลังโดนตามล่าจากนินจาที่เป็นข้ารับใช้ของเป้าหมายมาทั้งวันทั้งคืน ข้าวสักเม็ด หรือน้ำสักหยด ก็ไม่ได้ตกถึงท้องเลย เธอแทบจะสิ้นหวังอยู่แล้ว ในขณะที่เธอซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ และศัตรูก็เหมือนจะตามเข้ามาแล้ว อยู่ ๆ เธอก็เห็นประตูที่ดูอบอุ่นและให้ความรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูกขึ้น เธอลังเลอยู่ว่าจะเปิดหรือไม่ จนกระทั้งนินจาฝั่งศัตรูกำลังเข้ามาจนถึงตัวเธอ เธอจึงตัดสินใจเปิดประตูบานนี้ขึ้น และรีบเข้ามาทันที ที่เธอเลือกที่นั่งไกล ๆ และหันไปที่ประตูเพราะคิดว่าเธอจะโดนตามเข้ามา แต่ไม่เลย ไม่มีใครเข้ามาจนแม้กระทั้งตอนนี้ที่เธอนั่งและคอยมองมาตลอด
" นามสกุลดังเสียด้วย " วราคิดในใจ
" เอ่อ ท่านช่วยทำอาหารจากไก่ได้หรือไม่ ข้าขอแบบกินเล่นนะเจ้าคะ ไม่อยากหนักท้องจนเกินไป " ก็เธอเพิ่งเหนื่อยรากเลือดมานี่หน่า
" ได้ครับ " วรารับคำ
เขาเข้าครัวนำไก่ส่วนสะโพกทำความสะอาดและหั่นชิ้นหมักกับ โชยุ ขิงบด สาเก คลุกให้เข้ากัน หมักไว้ให้พอเข้าเนื้อ ใส่ไข่ลงไป คลุกให้เข้ากัน ตามด้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์และแป้งมันฮ่องกง
ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ท่วม พอร้อนแล้วนำไก่ลงทอด ใช้ไฟกลาง พอไก่เริ่มเหลือง เอาขึ้นมาพัก แล้วเอามาทอดต่อด้วยไฟแรงประมาณ 30 วินาที ตักขึ้นพัก
ซอยกะหล่ำปลี ฝานเลมอน แถมน้ำจิ้มไก่ใส่ถ้ายน้อย ๆ ให้ด้วย
" ได้แล้วครับ คาราอาเกะ " วราวางจานลงโต๊ะ
เธอหยิบตะเกียบคีบแล้วจ้อง ดมนิดหน่อย ค่อย ๆ เป่าแล้วเอาเข้าปาก
หงับ !!
" อื้ม !! " เธออุทานด้วยความพึงพอใจ
" ทำเอาข้าอยากดื่มยิ่งนักเจ้าค่ะ " เธอพูดขึ้นด้วยความลืมตัว
" งั้นลองกินกับเบียร์ดูไหมครับ " วราเอ่ยพร้อมกับยิ้มให้นินจาสาว