เซดี้ลืมตาขึ้นมาก็พบว่า สตรีที่นั่งรถม้ามากับเธอยังคงอ่านหนังสืออยู่ นางอ่านหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่รถม้าพึ่งจะออกเดินทางจนตอนนี้จวนจะถึงค่ายทหารอยู่แล้วนางก็ยังคงอ่านมันอยู่
"เหตุใดเจ้าถึงไม่นอนล่ะอลิซ"
"ข้าเป็นคนที่เวลาตั้งใจทำอะไรแล้วมันจะต้องออกมาดี"
"ตำรา สมุนไพรและการรักษาโรคเนี่ยนะ"
อลิซมองไปด้านนอกที่ตอนนี้มีหิมะตกลงมาจนขาวโพลน
"ก็เพราะว่าข้ามิได้มีพลังสักดิ์สิทธิ์ จึงต้องพยายามให้มากหน่อย"
เซดี้ส่งยิ้มให้อลิซพร้อมกับกระชับผ้าคลุมไหล่เพราะเธอสัมผัสได้ถึงอากาศด้านนอกที่แสนจะหนาวเย็น
"นักบุญชั้นต่ำเช่นพวกเรา ไม่มีใครที่มีพลังศักด์สิทธิ์หรอกนะ ผู้มีพลังคือนักบุญระดับสูงเท่านั้น และที่กองทัพต้องการให้นักบุญเช่นเรามาที่นี่ก็เพราะว่าพวกเขาอยากได้สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ในสนามรบที่ไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ หากว่ามีนักบุญที่รอส่งพวกเขาให้ถึงหัตถ์ของพระเจ้า อย่างน้อยความหวาดกลัวในจิตใจของพวกเขาก็จะน้อยลง"
"แต่ถ้าเรารักษาพวกเขาได้..."
เซดี้ส่งเสื้อคลุมสีขาวให้อลิซ
"ข้าไม่ห้ามเจ้าหรอกนะ ทำสิ่งที่เจ้าคิดว่าจะช่วยพวกทหารให้ได้มากที่สุดก็พอ เราเป็นนักบุญที่อาสามาเพื่อช่วยอยู่แล้ว"
ที่จริง...อลิซมิได้อยากจะมาช่วย เธออ่านหนังสือพวกนี้ก็เผื่อจะมีความรู้เท่านั้น และเพื่อไม่ให้คนสงสัยเธอก็พอ
"เมืองนอห์ร่าตั้งอยู่บนภูเขา อีกทั้งสภาพอากาศยังเลวร้ายถึงขั้นสุด"
"แล้วเหตุใดพวกเขาถึงได้รบกันไม่จบไม่สิ้นเพื่อแย่งดินแดนนี้ล่ะ ทำการเกษตรก็ไม่ได้ อยู่อาศัยก็ลำบาก"
อลิซกล่าวถามอย่างสงสัย
"ก็เพราะว่าเมืองนอห์ร่ามีความลับนะสิ ในตำนานกล่าวเอาไว้ว่าที่ใต้ปราสาทมีปีศาจร่างยักษ์ถูกแช่แข็งเอาไว้ รอเพียงผู้ที่จะมาปลดผนึกมัน อีกทั้งที่ภูเขาด้านหลังกำแพงเมืองขุดเจอเพชรจำนวนมาก ผู้คนก็เลยคาดคะเนว่าในเมืองนี้จะต้องเต็มไปด้วยเพชร...."
อ่า เหตุใดหัวใจถึงเต้นแรงกับคำว่าในเมืองเต็มไปด้วยเพชรกันนะ...
บางทีที่นอห์ร่าอาจจะมีขุมทรัพย์มหาศาลก็เป็นได้
"มีคนเคยกล่าวหรือไม่ว่าใบหน้าของเจ้าช่างงดงาม"
อลิซตกใจเล็กน้อยกับคำชมของเซดี้
"ไม่มีหรอก หน้าตาของข้าก็ธรรมดา ทั่วๆ ไป พี่สาวของข้างดงามกว่านี้อีก"
เซดี้ถึงกับเลิกคิ้วมองอลิซ หากใบหน้าเช่นนั้นเรียกว่าธรรมดา แล้วใบหน้าของเธอจะเรียกว่าอย่างไร เธอไม่เคยเจอใครน่ารักอย่างอลิซมาก่อนเลย ดวงตากลมโตนั่นรับกับแพรขนตาที่งอนยาว ผิวขาวราวกับหิมะ จมูกโด่งเป็นสันรับริมฝีปากอมชมพู ใบหน้าที่ขาวนวลของนางกำลังเป็นสีแดงระเรื่อเพราะอากาศที่หนาวเย็น
อลิซมองเห็นกำแพงเมืองสูงชันที่ล้อมรอบเมืองเอาไว้ มันสูงจนเธอมองไม่เห็นยอดของกำแพงด้วยซ้ำ
"พี่ชายข้าเคยเขียนในจดหมายว่าเขาไม่เคยเห็นกำแพงเมืองที่สูงชันขนาดกำแพงเมืองของนอห์ร่ามาก่อน ในตอนที่ข้าอ่านจดหมายข้าก็ยังเดาไม่ออก แต่พอได้มาเห็นด้วยตาตัวเองเช่นนี้มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ"
"นั่นนะสิ สาบานเลยว่าข้าก็พึ่งเคยเห็นสิ่งปลูกสร้างที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้"
เธอเคยอ่านประวัติคร่าวๆ ของเมืองนอห์ร่า ที่กำแพงเมืองต้องสูงชันเช่นนี้ก็เพราะว่าเพื่อป้องกันทั้งข้าศึกและปีศาจ....
อ่า เธอจะมีชีวิตรอดไปหาไดน่าอยู่ใช่ไหม?
หิมะโปรยปรายลงมาจางๆ อลิซและเซดี้ลงจากรถม้ามา ก็พบกับทหารที่ยืนรอต้อนรับพวกเราอยู่ พวกเขายืนตากหิมะเพื่อรอคอยขบวนของนักบุญ
เหตุใดไม่ไปนั่งรอในบ้านก่อน มายืนตากหิมะรอทำไมกัน?
ท่าทางว่าแม่ทัพของทหารพวกนี้คงจะเป็นพวกบ้าอำนาจสินะ
"ยินดีต้อนรับนักบุญทุกท่าน ที่นี่จะเป็นเมืองร้างก็ไม่เชิง ในเมืองมิได้มีชาวบ้านมากมายนัก อีกทั้งที่โบสถ์ก็อยู่สภาพทรุดโทรม ข้าอยากให้ทุกท่านไปพักที่ค่ายทหารก่อน ถึงจะเรียกว่าค่ายทหารแค่ที่นั่นคือคฤหาสน์ของท่านดยุคคริสเตียน รีบมากันเถิด เรามีงานเลี้ยงต้อนรับเล็กๆ ให้พวกท่านด้วย"
มีทหารผู้หนึ่งกล่าวพร้อมทั้งเดินนำขบวนไป เซดี้กำลังสวมผ้าคลุมผมให้เธอ
"เราจะต้องเข้าพบท่านดยุคแอรอนและท่านดยุคคริสเตียน พยายามอย่าไปสบตาพวกเขานะ เท่าที่ข้ามองที่เมืองนี้ไม่มีสตรีเลย ยิ่งใบหน้าของเจ้าโดดเด่นเช่นนี้คลุมผ้านี่เอาไว้ น่าจะเป็นการดีที่สุด"
อลิซส่งยิ้มให้เซดี้ ที่จริงมองจากภายนอกดูเหมือนเซดี้จะอายุน้อยกว่าเธอ แต่จริงๆ แล้วเซดี้อายุยี่สิบแล้ว นี่ราวกับว่าเธอมีพี่สาวอีกคนเลยแฮะ
พวกเราเดินมาไม่นานก็ถึงหน้าคฤหาสน์สีดำที่ดูน่ากลัวเล็กน้อย พอเดินลัดเลาะมาเรื่อยๆ ก็พบห้องโถงจัดเลี่ยงขนาดใหญ่ มีทหารนั่งอยู่หลายร้อยชีวิตและสายตาของทุกคู่ก็มองมาที่เธอและเซดี้
อาจจะเป็นเพราะในห้องนี้ไม่มีสตรีอยู่เลย และเธอกับเซดี้เดินเข้ามาทีหลังสุด ก็เลยกลายเป็นจุดเด่น
"อ่า นักบุญหญิงที่งดงามทั้งสองเชิญมานั่งด้านหน้าได้เลยครับ"
ทำไม จะต้องไปนั่งโต๊ะด้านหน้าด้วยนะ...
"เกรงใจเกินไปแล้วค่ะ ให้เราทั้งสองนั่นรวมกับนักบุญตรงนี้ก็ได้..."
เซดี้กล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้นายทหารที่เดินนำหน้า
"ไม่ได้หรอกครับ นานๆ จะมีนักบุญหญิงมาที่นอห์ร่าสักที เชิญด้านหน้าดีกว่า..."
"แค่เสียงพูดยังไพเราะเลยครับ หันมามองทางข้าหน่อยเถิด ท่านนักบุญหญิง!!"
หลังจากนั้นก็มีเสียงของทหารที่ทั้งผิวปากและถามชื่อเธอ เซดี้ก็เลยตัดปัญหาด้วยการพาอลิซไปนั่งโต๊ะหน้าสุด หลังจากที่เรานั่งลงก็มีทหารลุกจากโต๊ะมาถามชื่อของเธอกับเซดี้
เกิดเป็นความวุ่นวายเล็กๆ ขึ้นมา
"เซดี้ ข้าปวดฉี่"
อลิซกล่าวพร้อมทั้งมองตาของเซดี้อย่างน่าสงสาร
"ขอโทษนะคะท่านเซอร์ มิทราบว่าห้องน้ำไปทางไหน"
"ข้าจะพาไปเองครับ เชิญท่านนักบุญหญิงตามข้ามาก็พอ"
เซดี้จับมือของอลิซเพื่อจะพาลุกขึ้นแต่เซอร์เจสันรีบกล่าวดักเอาไว้
"นักบุญหญิงเซดี้อยู่ที่นี่เถอะครับ ข้าจะพานักบุญหญิงอลิซไปเอง ท่านดยุคทั้งสองกำลังมาไว้ใจข้าได้เลยครับ"
เซดี้มิสามารถกล่าวคำปฏิเสธได้ เธอจึงยอมให้อลิซไปกับเซอร์เจสัน
อลิซเดินมาเรื่อยๆ ก็พบทุ่งดอกคอสมอสขนาดใหญ่ หลังทุ่งดอกไม้ก็คือห้องน้ำ....
สภาพห้องน้ำมันทำให้อลิซตกใจ เธอหันมองหน้าของเซอร์เจสันช้าๆ
เพราะมันมีที่นั่งฉี่วางเรียงราย แต่ไม่มีผนังกั้นแม้แต่นิดเดียว
นี่ยังเรียกห้องน้ำได้งั้นเรอะ!!
เธอหันไปมองหน้าของเจสัน ด้วยดวงตาที่ดูน่าสงสาร
"ข้าไม่กล้าเข้าห้องน้ำเช่นนี้หรอกค่ะ!! ข้า...กลัว และมันก็ไม่ปลอดภัย..."
เจสันชะงัก เขาลืมไปได้อย่างไรว่านี่คือห้องน้ำของทหาร และนักบุญหญิงเป็นสตรี
"คะ คือว่าห้องน้ำด้านในคฤหาสน์จะสามารถใช้ได้ก็ต่อเมื่อท่านดยุคอนุญาตเท่านั้นครับ"
อ่า ปวดฉี่จนจะราดอยู่แล้ว ให้ตายเถอะ!!
"เข้าป่าก็ได้ค่ะ ข้าสามารถไปฉี่ในทุ่งดอกไม้นี้ได้ไหมคะ ข้าอั้นไม่ไหวแล้ว"
ทุ่งดอกคอสมอสนี้ท่านดยุคคริสเตียนหวงมาซะด้วยสิ แต่ด้วยใบหน้าของท่านนักบุญหญิงที่กำลังทรมานนั้นมันทำให้เขากล่าวคำปฏิเสธไม่ออก
"ครับ ข้าจะเฝ้าด้านนอกให้เอง"
อลิซถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอรีบวิ่งเข้าไปที่ทุ่งดอกคอสมอสอย่างรวดเร็ว พอมาถึงตรงกลางที่เธอมั่นใจว่าไม่น่าจะมีใครเห็น อลิซถกกระโปรงขึ้นพร้อมกับนั่งลงเพื่อจะฉี่
อ่า อดกลั้นเอาไว้เกือบตาย ในที่สุดก็ได้ปลดปล่อยสักที ทว่าดอกคอสมอสด้านหน้าของเธอมันกำลังถูกแหวกออกพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามา
"...ข้ายังไม่เสร็จนะคะท่านเจสัน อย่าพึ่งเข้า....มา"
ไม่ทันแล้ว ตอนนี้ดอกคอสมอสที่ปิดบังตัวเธอเอาไว้ถูกแหวกออก....พร้อมกับใบหน้าของบุรุษผู้หนึ่งที่ไม่ใช่ท่านเจสัน.....
ใบหน้าของเขาหล่อเหลาจนเธอแทบจะหยุดหายใจ เราทั้งสองสบตากันท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมา ราวกับว่านี่คือฉากของนิยายโรแมนติก ทุกองค์ประกอบดีหมด ติดอย่างเดียวตรงที่เธอกำลังนั่งฉี่อยู่....
เป็นครั้งแรกที่อลิซรู้สึกอับอายมากที่สุดในชีวิต เธออยากจะลุกหนีตอนนี้แต่ก็ลุกไม่ได้เพราะยังฉี่ไม่สุด
เขายกมือขึ้นมาปิดตาเอาไว้พร้อมกับหันหลังให้เธออย่างรวดเร็ว
"บอกข้าที ว่าเจ้าเป็นใครและเข้ามาทำอะไรในสวนดอกไม้ของข้า!!"
เขาก็เห็นไม่ใช่เรอะ!! ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ แล้วจะถามให้เธออับอายไปอีกทำไม!!
อลิซรีบลุกขึ้นพร้อมกับใส่กางเกงซับในอย่างรวดเร็ว เธอหันหลังเพื่อเตรียมจะวิ่งหนี แต่เขาไว้กว่า เขาคว้าผ้าคลุมผมของเธอเอาไว้และดึงมันออก ตามด้วยจับข้อมือของเธออย่างรวดเร็ว เนื่องจากที่พื้นมีหิมะทับถมอยู่ มันทำให้เธอลื่นล้ม และเขาเองก็ล้มตามเธอมาติดๆ
"ปล่อยข้านะ!! ท่านจะทำอะไร!!
"แล้วเจ้าจะหนีไปไหน!! ข้ายังถามเจ้าไม่จบเลย บังอาจยิ่งนัก"
เซอร์เจสันได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเขาจึงรีบวิ่งเข้ามา ก็ต้องตกใจที่ท่านดยุคกำลังนอนทับนักบุญหญิงอยู่
"ใจเย็นก่อนนะครับท่านดยุค ข้าจะอธิบายให้ท่านฟังเอง"
คริสเตียนลุกขึ้นพร้อมทั้งมองไปที่อลิซพอมองดูดีๆ เธอสวมชุดนักบุญหญิงนี่นา หรือว่าจะเป็นนักบุญหญิงที่มากับขบวนวันนี้
"ลุกไหวไหมครับท่านนักบุญหญิงอลิซ"
อลิซมองที่เซอร์เจสัน ก่อนที่เธอจะร้องไห้ออกมา เธอร้องไห้อย่างหนักจนเซอร์เจสันและคริสเตียนตกใจเป็นอย่างมาก พวกเขาทั้งสองคนล้วนแล้วแต่ทำอะไรไม่ถูก
"...เจ็บตรงไหนงั้นหรือครับ"
อลิซยกมือขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้ เธอไม่ได้เจ็บ แต่ตอนที่เธอล้ม เธอดันล้มทับตรงที่ตัวเองฉี่เอาไว้ และกระโปรงของเธอมันก็กำลังเปียกชุ่มไปด้วยฉี่ของเธอเอง...
แล้วเธอจะยังมีหน้าบอกบุรุษทั้งสองคนนี้ยังไงเล่า!!!