แด๊ดดี้ขาพลอยเจ็บ

2586 คำ
?พลอยร้อยเหลี่ยมเล่ห์? ?ผ้ายับที่พับไว้ : เขียน ———-บทที่ 4 ถึงกำหนดนัดเจอกันอีกครั้ง คุณอาชาส่งคนมารอรับฉันที่หน้ามหาลัย ฉันเหลียวซ้ายแลขวา จนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครเห็นถึงได้เดินข้ามถนนไปอีกฟากเพื่อขึ้นรถ คราวก่อนอีนุ๊กเล่นฉันไว้เกือบแย่ยังไม่ได้ไปสะสาง คราวนี้ฉันไม่เสี่ยงอีกแล้ว ทำอะไรต้องทำให้รอบคอบ ฉันเดินข้ามถนนมาเดินหารถตามรูปที่อีหลิวส่งให้เช็คดูป้ายทะเบียนจนแน่ใจ พอขึ้นมานั่งบนรถ ไม่เจอกับคุณอาชา มีเพียงคนขับรถหน้าตาหล่อนั่งหน้านิ่งติดเครื่องรถรออยู่ “รอนานไหม” ฉันตัดสินใจถาม เพราะกว่าจะเดินหารถเจอก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร นายคนขับรถนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร เห็นก้มหน้ากดโทรศัพท์อยู่แป้บหนึ่งก็ออกรถมาเลย หยิ่งเหลือเกิน ไม่พูดก็ไม่พูดวะ!! ฉันก้มหน้ากดโทรศัพท์ระหว่างทางเพราะมันไม่มีอะไรจะทำ อีคนขับรถนี่ก็ไม่พูดไม่จาจะได้คุยกันบ้างไม่ให้เงียบเป็นป่าช้าแบบนี้ “มองอะไร!!” ฉันโวยขึ้นเมื่อรู้สึกว่า คนขับรถกำลังมองฉันอยู่ผ่านกระจกมองหลัง แม้เขาจะสวมแว่นดำแต่ด้วยความรู้สึก มันรับรู้ได้ว่าเขากำลังมองฉันอยู่ “ฉันถามว่ามองอะไร!!” ฉันถามซ้ำอีกครั้งเมื่อไม่ได้รับคำตอบ แต่คนขับยังคงนิ่งและตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไปอย่างไม่สนใจคำถามของฉันสักนิด “จะไม่ตอบใช่ไหม ได้ฉันจะฟ้องคุณอาชา ว่าแกแอบมองฉัน” ฉันตัดสินใจเอาคุณอาชามาขู่เพื่อจะเอาคำตอบ นายคนขับรถนั่นยกมือขึ้นขยับแว่นแล้วยิ้มเย้ยหยันฉันพร้อมกับหัวเราะในลำคอ “ตลกเหรอ หัวเราะอะไร!!” “คุณอาชาไม่ชอบผู้หญิงขี้วีนหรอกนะ อีกอย่างที่มองก็เพราะแปลกใจเฉยๆ ไม่ได้นึกพิศวาสอะไรเลย” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยพลังงานความกวนประสาทอย่างบอกไม่ถูก “พูดแบบนี้หมายความว่าไง” “ก็หมายความว่า มองด้วยความสงสัย ไม่คิดว่าคนรูปร่างหน้าตาแบบนี้ มีการศึกษาระดับนี้ ท่าทางก็ไม่ใช่คน....แบบนั้น แต่มาทำอาชีพขายศักดิ์ศรี” ฉันเดือดจนเลือกขึ้นหน้า หนอยยย กล้าดียังไงมาว่าฉันแบบนี้ ตัวเองดีนักหรือไง “อาชีพคนขับรถมันมีศักดิ์ศรีนักนี่ ฉันจะขายอะไรมันก็เรื่องของฉัน ทำไม!? คนอื่นที่เคยมารับมันเป็นยังไง ปากแบบนี้น่าจะโดนคนอื่นเอารองเท้าส้นสูงฟาดจนปากแตกไม่น่ามาว่า มาพูดจาดูถูกคนอื่นได้อีกนะ” “สภาพมันไม่เห็นน่าซื้อเลยไง จืดอย่างกับน้ำเต้าหู้ค้างคืน ปกติเห็นคนอื่นเขาสวยเช้ง เงินที่ได้เอาไปไหนหมด อย่างน้อยน่าจะเก็บไปอัพไซส์หน้าอกหน่อยก็ยังดี มันดูไม่ดึงดูดอะไรเลย” “ไอ้ทุเรศ!! นี่แกแอบมองหน้าอกฉันเหรอ” ฉันว่าพร้อมทั้งยกมือขึ้นมากอดกุมที่หน้าอกตัวเอง “แหม อีกไม่นานเดี๋ยวก็ต้องไปถอดแบให้ลูกค้าแล้ว ทำมาอายอะไรกับแค่คนมองผ่านเสื้อผ้า แอ๊บอินโนเซนท์ไปก็เท่านั้น คุณอาชาน่ะเขาโชกโชนเรื่องนี้ เขาดูรู้” “ฉันไม่ได้แอ๊บอินโนเซนท์ แต่ฉันยังบริสุทธิ์จริงๆ” ฉันพยายามจะต่อล้อต่อเถียงกับไอ้คนขับรถปากหมานี่ เหนื่อยชะมัด ทำไมต้องมาเจอคนแบบนี้ด้วยวะ “ที่บอกให้ เพราะหวังดี สวยกว่านี้ทีสองทีเขาก็ยังเขี่ยทิ้ง กลัวจะขยี้เส้นพรหมจรรย์แหลกแล้วก็ไม่รับเลี้ยงน่ะสิ” มันยังไม่เลิกพูดจาปากปีจอ ยิ่งฟังก็ยิ่งขึ้น “เก็บปากไว้กินข้าวเถอะ ไม่ต้องมาหวังดีกับฉัน ฉันน่ะจะเสียอะไรทีต้องไตร่ตรองดีแล้วว่ามันคุ้ม จำหน้าฉันไว้เลย ฉัน...!! พลอยมายา แกจะได้รับส่งฉันจนเบื่อหน้าแน่นอน” ไอ้คนขับรถมันไม่ตอบอะไรแต่เหลือบตามองฉันผ่านกระจกมองหลังแล้วแสยะยิ้มแบบโคตรดูถูก พอ ไม่ไปเถียงกับมันแล้ว เก็บเสียงไว้ครางแบบที่ดูคลิปมาดีกว่า เถียงกับคนขวางโลกแบบนี้ เถียงให้ตายก็เหนื่อยเปล่า สักพักรถก็แล่นมาถึงหน้าคอนโดหรูที่ฉันเคยมาคราวก่อน ฉันรีบลงจากลงทันที เบื่อขร้หน้าไอ้คนขับรถปากหมานี่เต็มทน หลังจากลงรถมาแล้วก็จัดระเบียบเสื้อผ้าให้มันดูเรียบร้อยก่อนจะสาวเท้าเดินตรงเข้าไปในคอนโด ฉันยื่นบัตรแสดงตัวที่คุณอาชาฝากอีหลิวมาให้เพื่อขอขึ้นไปบนชั้นวีไอพี จากนั้นก็ตรงขึ้นไปชั้นที่เป็นห้องของคุณอาชาเขาเลย คราวนี้ฉันไม่ได้โง่เง่าเคาะประตูอีกแล้ว ถึงหน้าห้องก็กดกริ่ง ไม่นานเจ้าของห้องก็เปิดประตูรับ “ตรงต่อเวลาดีนี่” เขาว่าพร้อมกับผายมือให้ฉันเข้าไปในห้อง วันนี้ฉันยังคงใส่ชุดนักศึกษามาเพราะเขาได้ส่งข้อความไปสั่งฉันไว้แล้วว่าอยากเห็นฉันในชุดนักศึกษาอีกครั้ง ฉันเดินถือซองเอหสารตรงไปนั่งที่โต๊ะ คุณอาชาปิดประตูแล้วเดินตามเข้ามานั่งคนละฝั่งกับฉัน รู้สึกเกร็งๆ ยังไงก็ไม่รู้ สายตาเขาดูหื่นมากผิดกับคราวก่อนอย่างกับคนละคน “เริ่มตกลงเรื่องสัญญาเลยก็แล้วกัน เอาที่เธอกรอกมาแล้วส่งมาให้ฉัน จะได้รู้ว่าทำอะไรกับเธอได้บ้าง อ่านทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม” เขาถามขณะที่ฉันกำลังยื่นเอกสารให้เขา “ค่ะอ่านอยู่หลายรอบ หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตประกอบด้วยเพราะบางข้อพลอยก็ไม่เข้าใจเลย” เขาเพียงพยักหน้ารับก่อนจะเปิดเอกสารสัญญาและข้อตกลงอ่านอย่างละเอียด “ทำไมถึงแทบจะใช้อุปกรณ์อะไรไม่ได้เลย? กลัวเหรอ?” หลังอ่านข้อตกลงฝั่งฉันจนครบหมดแล้ว เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาถาม “ค่ะ พลอยเปิดรูปแล้วก็คลิปดูประกอบแล้ว พลอยว่ามัน....ค่อนข้างจะน่ากลัว” ฉันตอบไปตรงๆ “เธอเรียนภาษาอังกฤษใช่ไหม?” “การตลาด อินเตอร์ค่ะ แต่ก็ใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด” “เคยอ่านนิยายภาษาอังกฤษเพื่อฝึกภาษาไหม?” เขาถามต่อ ฉันเองก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่นักว่าถามทำไม “เคยค่ะ พวกเฌอร์ล็อร์กโฮม แฮรี่พ็อตเตอร์ แวมไพร์ทไวไลท์...” “เคยอ่านฟิตตี้เชร์ดไหม?” ฉันคิดแล้วไม่มีผิดว่ามันคล้ายๆ กับนิยายที่เคยอ่าน แสดงว่าเขาก็เป็นแบบนั้นน่ะเหรอ พวกรสนิยมมีเซ็กส์แบบซาดิสม์ ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง “เคยค่ะ” “เธอไม่อยากเป็นทาสสวาทให้ฉันเหรอ เราตะมีความสุขไปด้วยกัน ฉันรับประกันว่าเธอจะต้องเพลิดเพลินกับสิ่งที่ฉันมอบให้” เขาว่าพร้อมทั้งเอื้อมมือมาจับมือของฉัน จริงๆ ในใจก็กลัวอยู่หรอกเพราะฉันเห็นมาหมดแล้วว่าไอ้กระบวนท่าในข้อตกลงมันเป็นอย่างไร แต่ดูคุณอาชาเขาจะอยากทำมาก ถ้าฉันยอมรับตรงนี้ได้ เงินจำนวนไม่น้อยเลยนะที่จะเข้ามาหา อีกอย่างฉันอยากขอให้เขาช่วยหาที่พักใหม่ให้ด้วย ถ้าฉันยอมเขามันคงไม่ยากหนอกกับอีแค่ขอค่าหอเดือนละไม่เท่าไหร่ ฉันชั่งใจไม่นานคิดคำนวณดูกะว่าน่าจะคุ้มจึงได้ตกลงตัดสินใจ “ค่อยเป็นค่อยไปได้ไหมคะ พลอย...ไม่มีประสบการณ์ตรงนี้เลย” “ได้สิ ฉันไม่รีบหรอก ค่อยๆ เรียนรู้ไปถ้าเธอทำให้ฉันพอใจ เราก็จะได้พึ่งพาอาศัยกันอีกนาน และที่สำคัญถ้าเธอให้ความสุขกับฉันได้อย่างเต็มที่ เธออยากได้อะไรฉัน ก็ให้เธอเต็มกำลังฉันเหมือนกัน” ฉันพยักหน้าตอบ ฉันอ่านประวัติของเขามาแล้ว ความรวยเขาน่ะไม่จกตาแน่นอน เจ้าของธุรกิจนำเข้า-ส่งออกอัญมณี อันดับต้นๆ ของประเทศ แต่ประวัติไม่มีเรื่องผู้หญิงมห้เห็นเลย ไม่มีข่าวเสียหายมีแค่ว่าเป็นพ่อหม้ายเนื้อหอม เคยแต่งงานมีลูกแล้ว แต่ไม่มีภาพลูก-เมียให้เห็น แต่ก็ช่างเถอะ ใครสนล่ะ ฉันอยากได้เงินไม่ได้อยากได้ตัวหรือหัวใจเขาอยู่แล้ว “อ่านข้อตกลงทางกฎหมายแล้วใช่ไหม” “ค่ะ อ่านและเซ็นต์เรียบร้อยแล้ว “ดี งั้นคงจะเข้าใจดีแล้วนะ อย่าคิดแบล็คเมล์ฉันเป็นอันขาด เพราะฉันเกลียดการถูกหักหลังเป็นที่สุด และมันก็ไม่คุ้มด้วย กลับกัน ถ้าเธอซื่อสัตย์และภัคดีต่อฉัน ฉันสามารถบันดาลให้เธอได้ทุกอย่าง ไม่ว่าเธอจะเอาอะไร” “พลอยจะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง ทำทุกอย่างที่คุณสั่งให้พลอยทำ จะอยู่ในเขตของตัวเอง ไม่ล้ำเส้น ไม่วุ่นวาย ไม่ทำให้คุณต้องเหนื่อยเรื่องอื่น นอกจากเรื่องบนเตียง...” บทพูดที่จำมาจากนิยาย พร้อมท่าทางยั่วยวนที่จำจากละคร ดูมันจะทำให้หนุ่มใหญ่นักธุรกิจพอใจอย่างมาก เขายิ้มออกมาทันทีพร้อมกับลุกขึ้นเดินอ้อมมาที่ด้านหลังของฉัน ก่อนจะใช้แขนโอบรัดร่างของฉันแน่น มือสองข้างค่อยๆ จับประคองสองเต้าอวบและออกแรงบดขยี้ช้าๆ มันให้ความรู้สึก....เสียววาบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำหนักมือที่พอเหมาะนวดกลึงอยู่บนเนินเนื้อหน้าออกในจังหวะที่พอดี “เรียกฉันว่า...แด๊ดดี้ทุกครั้งที่เราเจอกันที่นี่ หรือที่ที่ทีแต่เรา ตกลงไหม” เขากระซิบบอกเสียงกระเส่าอยู่ที่ข้างหู ก่อนจะก้มลงไซร้ไปตามซอกคอ มันสยิวจนขนลุกซู่ แผงหนวดที่ไล้ไปบนผิวที่ลำคอผสมกับจังหวะมือที่บีบขยำอยู่บนอก พาให้ฉันเคลิบเคลิ้มไปตามสัมผัสที่ได้รับ “อื้อ...” ฉันหลุดครางไปอย่างไม่ตั้งใจเมื่อถูกปลายลิ้นที่ให้ผิวสัมผัสที่หยาบและสากตวัดเข้าที่ซอกคอช้าๆ ก่อนจะไล่เลียไปตามผิวบริเวณคอ มือหนาของคุณอาชาเริ่มขยับมาปลดกระดุมเสื้อฉันที่ละเม็ด จนหมดจากนั้นเขาจึงสอดมือเข้าไปวนเสื้อแล้วโอบขยำสองเต้าอวบไปพร้อมกับการดูดเหน็บที่ลำคอของฉัน “ซ่อนรูปเอาเรื่องอยู่นะ” เขาเอ่ยปากบอกก่อนจะยิ้มหยันอย่างพอใจ เขาประคองฉันให้ลุกขึ้นก่อนจะหมุนเอาอี้ให้หันหน้าเขาหาตัวแล้วกดฉันให้กลับลงไปนั่งบนเก้าอี้ คุณอาชาแหวกเสื้อนักศึกษาของฉันออกก่อนจะมุดหน้าเข้ามาไซร้ที่หน้าอกของฉัน และสูดดมอย่างคนหื่น สลับกับใช้ลิ้นเลียที่เนินเนื้อเหนือบลาสีดำของฉัน “ซู๊ดดด อืม....กลิ่นมันหอมรัญจวน” เขาว่าก่อนจะซุกหน้าลงไปที่อกของฉัน มือข้างหนึ่งล้วงไปที่ด้านหลังเพื่อปลดตะขอเสื้อใน เขาทำมันอย่างชำนาญเมื่อตะบอถูกปลดบลาที่เกาะอยู่บนอกก็หลุดหลวมเผยให้เห็นอกอวบที่ซ่อนอยู่ใต้ร่มผ้าอย่างเต็มตา เขาซบหน้าลงสูดดมและโลมเลียอย่างหื่นกระหายเสียงหายใจหอบพาให้ฉันสยิวซู่พาลหายใจหอบตามอย่างไม่รู้ตัว เขาเริ่มใช้ปากดูดเม้มบนเนินนมและขยับเข้าที่ที่ยอดสีชมพูอ่อน จากเบาและแรงขึ้น แรงขึ้น “อู้ววว....” มันคือรสสัมผัสที่ฉันไม่เคยพบเจอมาก่อน มันร้อนระอุดั่งไฟเผา ซาบซ่านสยิวกายอย่างบอกไม่ถูก มันไม่เห็นจะแย่ตรงไหน ไม่แปลกใจเลยว่าคนอื่นทำไมถึงทำงานแบบนี้ได้ทั้งที่มันถูกเหยียดหยามนักว่าเป็นงานขายศักดิ์ศรี เขาเริ่มล้วงมือไปใต้กระโปรงหนักศึกษา แล้วถอดเอากางเกงในตัวน้อยที่ชุ่มไปด้วยความต้องการของฉันออกมาแล้วยกขึ้นสูดดมกลิ่นสาวกระคุ้นความราคะตัวเอง เราสบประสานสายตาอย่างรู้กัน คุณอาชาถลกกระโปรงนักศึกษาทรงเอของฉันขึ้นก่อนจะจับขาฉันอ้าออกแล้วมุดหน้าลงไปลิ้มชิมรสน้ำหวานจากกลีบสาวที่กำลังชุ่มแฉะ สัมผัสที่ลิ้นแตะลงบนกลับแล้วชอนไชเข้าไปดูดเลียที่เกสรมันคือสัมผัสสวรรค์ ฉันในตอนนี้ ทั้งซี้ดปาก ทั้งร้องคราง เอวก็แอ่นรับด้วยความปรารถนา มือข้างหนึ่งเกาะอยู่ที่โต๊ะข้างๆ ส่วนอีกข้างก็กดศีรษะของคนที่นั่งอยู่ที่พื้นอย่างไร้ยางอาย ไม่นานเมื่อเขาดูดชิมน้ำหวานจนพอใจแล้วเขาก็ลุกขึ้นก่อนจะช้อนอุ้มร่างของฉันไปที่เตียงและวางลงอย่างเบามือ จัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออกจนหมด แล้วค่อยๆ คลานขึ้นมาคล่อมบนตัวฉัน กระโปรงที่ถูกถลกขึ้นอยู่ถูกถอดออกและโยนลอยหายไปกลางอากาศ แต่เสื้อยังคงสวมอยู่ในสภาพปลดเปลื้องกระดุมแต่แหวกออกให้เห็นหน้าอกที่เปลือยจากเสื้อในที่ไม่ได้ติดตะขอ เขาก้มหน้าลงดูดเลียสองอกอวบอีกครั้งและค่อยๆ เอาแก่นกายถูบนเนินเนื้อที่เปียกเยิ้มด้วยน้ำหวาน ฉันรู้สึกเสียวกระสันครั่นเนื้อครั่นตัว ร่างกายร้อนวูบวาบเหมือนจะอดรนทนรอขั้นต่อไปไม่ไหว แต่เมื่อมันค่อยๆ ขยับเคลื่อเข้ามาในนัวกลับรู้สึกเจ็บแปล๊บจนแทบสิ้นใจ มันคือความเจ็บบนความสุขสมและเป็นความเจ็บที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับร่างกายมาก่อน “อื้อ....แด๊ดดี้ขาพลอยเจ็บ” ฉันเริ่มดิ้นเมื่อมันเจ็บเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ มือทั้งสองเริ่มออกแรงดันอกที่ทาบอยู่บนตัวให้ออกห่าง แต่เขาก็จับมือฉันรวบขึ้นไปกดไว้ที่เหนือร่างและออกแรงดันกิจกรรมที่ค้างอยู่ให้ไปต่อ “เจ็บนิดเดียวก็สบายแล้ว” ฉันรู้ว่าขั้นตอนนี้หากไม่เคยผ่านอะไรมาจะเจ็บมาก แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะมากเท่านี้ ฉันเริ่มดิ้นและขัดขืนด้วยความที่เจ็บเหลือทน แต่แรงของผู้หญิงตัวเล็กๆ หรือจะสู้ผู้ชายร่างกายกำยำซ้ำยังออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ฉันทนเจ็บอยู่พักหนึ่งอาการก็ค่อยทุเลาลงและกลับสู่ความรู้สึกก่อนหน้าโดยมีความเจ็บซ่อนอยู่ลึกๆ เมื่อมันเข้าที่เข้าทางดีแล้ว เขาก็ออกแรงกระทำเต็มที่แม้ฉันจะยังเจ็บอยู่แต่มันก็ดีขึ้นมากเริ่มมีความรู้สึกร่วมเคลิบเคลิ้มเพลินเพลินไปกับแผ่นดินกามโลกีย์ที่ท่องไปด้วยกันบนเตียง ใช้เวลาอยู่พักหนึ่งทุกอย่างก็สิ้นสุดลง ฉันไม่ได้รู้สึกอุ่นอย่างที่อ่านมาจากอินเทอร์เน็ตเพราะคุณอาชาใส่ถุงยาง แต่นี่ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่สุขสม เหมือนกับที่คาดไว้ก่อนแล้ว งานนี้ไม่ได้ยากอะไรเลยแค่นอนทนเจ็บเสียหน่อยเท่านั้นเอง....
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม