“คุณย่าอย่าทำแบบนี้ให้เมียกับลูกน้องผมเห็นนะครับ เสียการปกครองหมด”
“ผิดสัญญากับย่าเมื่อไหร่ระวังเมียหนี ดีนะย่าไปเจอเมียของเราก่อนระหว่างทางที่จะหนี ไม่อย่างนั้นชาตินี้เราคงไม่ได้เห็นหน้าลูกเมียแน่นอน” ประโยคของผู้เป็นย่าทำให้หลานชายอย่างเขาต้องกราบแทบเท้า
คุณย่าของเขาฉลาด และเขารู้อยู่แล้วว่าทุกอย่างเพราะคุณย่าช่วยเขา
“แล้วก็ห้ามผิดสัญญาด้วย” หญิงชราย้ำเสียงหนัก
“โธ่... คุณย่า” นักรบโอดครวญก่อนจะกอดผู้เป็นย่าเอาไว้ แล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น
การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี นอกจากทำให้เราสบายใจแล้ว ยังทำให้เราไม่ต้องยึดติดอยู่กับความโกรธอีกด้วย
...จบ...
ซีรีส์คนเถื่อนง้องอนรัก เล่ม 2 เรื่องเจ้าพ่อง้องอนรัก
“เย็นนี้คุณตินจะไม่กลับมากินข้าวด้วยกันเหรอคะ” รุ้งรมิดาเอ่ยถามกฤตินด้วยน้ำเสียงเว้าวอน
“ฉันมีธุระ ไม่ต้องรอกินข้าวนะ” ประโยคของเขาทำให้รุ้งรมิดารู้สึกน้อยใจไม่น้อย
พักนี้เขามักหายไป ไม่บอกไม่กล่าว ไปไหนก็ไม่เคยบอกเล่าอะไรให้เธอฟังเลย
เธอรู้ดีว่าตัวเองนั้นเป็นแค่เมียลับของเขา ไม่ได้มีความสำคัญอันใดให้เขาต้องมาคอยรายงาน
แต่เมียลับคนนี้ก็มีหัวจิตหัวใจ เขาช่วยเธอเอาไว้และเลี้ยงดูกันมา กฎตายตัวคือห้ามรักผู้มีพระคุณอย่างเขา เขาดีกับเธอมาก หัวใจของคนเราไม่ใช่หินผา เธอรักเขาหมดใจ นี่คือเรื่องจริง
ด้วยสัญชาตญาณของผู้หญิง เธอจึงแอบตามเขาไป จนรู้ว่าเขานั้นถูกครอบครัวหาผู้หญิงที่คู่ควรให้แต่งงานด้วย
เขาไม่คิดจะบอกเธอ และเธอก็ไม่กล้าถามเขาตรง ๆ เพราะกลัวคำตอบ เลยแกล้งโง่ต่อไป ที่เขาไม่ได้มากินข้าวเย็นกับเธอวันนี้ ในขณะที่เธอเอาใจโดยการทำอาหารแสนอร่อยซึ่งเป็นของโปรดของเขาก็เพราะว่าเขาต้องไปกินมื้อค่ำกับว่าที่เจ้าสาว
คนในความลับเมียเก็บไร้ค่าอย่างเธอจะไปสำคัญอะไรกับเขาเทียบเท่ากับลูกคุณหนูคนดัง ทายาทคนเดียวที่ทำธุรกิจร่วมกับเขา
หลังจากกฤตินออกไปจากแพนเฮ้าส์แล้ว ก็มีแขกคนสำคัญมาหาเธอ สีหน้าเอาเรื่องของกชกานต์ทำให้รุ้งรมิดาต้องถอยหนีอย่างตกใจ
“นี่น่ะเหรอรังรักของเธอกับลูกชายของฉัน” กชกานต์มาพร้อมกับลูกน้องอีกหลายคน
“คุณนาย” รุ้งรมิดารู้จักกชกานต์ดี ท่านเป็นมารดาของกฤติน ครอบครัวของกฤตินทำธุรกิจเกี่ยวกับคลับ บาร์ คาเฟ่ สถานบันเทิงและธุรกิจกลางคืน เขาจึงเป็นเจ้าพ่อคนดังของที่นี่ เธอเองก็พึ่งใบบุญเขา หนีมาจากสามีที่มารดาเลี้ยงหาให้
มารดาเลี้ยงบังคับให้เธอเขาพิธีแต่งงานกับชายแก่ตัณหากลับหลังจากบิดาเสีย เธอเลยหนีมาขอความช่วยเหลือจากกฤติน เขาจึงรับเลี้ยงดูเธอเอาไว้
จริง ๆ แล้วเมื่อปีก่อนเขาเคยโดนคู่อริยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส และเธอได้ช่วยเขาเอาไว้ด้วยความ เขาจึงเอ่ยปากว่าหากเธอมีอะไรให้ช่วยก็ขอให้บอกเขาได้เลย
เธอหนีมาขอให้เขาช่วย แล้วก็ทำงานแลกเงินในคลับของเขา แต่โดนลูกค้าวางยาปลุกเซ็กซ์ เขามาช่วยเอาไว้เลยตกเป็นของเขา กฤตินซึ่งพึงใจเธออยู่แล้ว จึงรับเธอมาเลี้ยงดูเป็นผู้หญิงของเขา
ซึ่งเธอเองก็เหมือนตกกระไดพลอยโจนเพราะโดนวางยา เลยต้องตกเป็นของเขาโดยไม่ได้เต็มใจ แต่ในเวลาต่อมาเขาดีกับเธอมาก เธอเลยเต็มใจตกเป็นของเขาและอยู่กินกันเรื่อยมา
“ตอนนี้ลูกชายของฉันกำลังจะแต่งงาน” กชกานต์เข้าเรื่องในทันที ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตัวยาวในห้องรับแขก
“ค่ะ” เธอรู้ว่าเขากำลังจะแต่งงานเพราะแอบตามเขาไป จึงรู้ว่าเขาไปกินข้าวกับผู้หญิงอีกคน หล่อนคือนรีกานต์ พัทรเมธี ทายาทเพียงคนเดียวของเจ้าสัววรงค์กับคุณระริน
“เอาละฉันจะไม่อ้อมค้อม ตอนนี้หนูนรีกานต์น่ะกำลังตั้งท้องกับกฤติน เราเลยต้องรีบเลื่อนงานแต่งงานเข้ามาให้เร็วที่สุด เธอได้ยินแบบนี้แล้วคิดว่าไงล่ะ” ประโยคของคุณนายกชกานต์ทำให้รุ้งรมิดาหูอื้อตาลายไปหมด เธอควรทำอย่างไรล่ะ นั่นสิ หญิงสาวถามตัวเองด้วยความเจ็บปวด
“ถ้าเธอไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ฉันจะบอกให้ก็แล้วกัน เธอควรหลีกทางให้หนูนรีเขา เขากำลังจะแต่งงานเป็นเมียแต่ง กำลังจะมีลูกด้วยกัน หากเธอไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ สงสารเด็กตาดำๆ ก็ควรสนับสนุนให้ผู้ชายที่ช่วยเหลือเธอมาตลอดได้มีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์กับคนที่เหมาะสมคู่ควร เธอคิดว่าไงล่ะ”
“...” เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับอันใดจากรุ้งรมิดา อาจเพราะว่าเธอรู้สึกตื้อไปหมดในตอนนี้ เหมือนโดนค้อนปอนด์ทุบศีรษะซ้ำ ๆ จนเกิดความรู้สึกมึนงง
“หนูนรีกานต์น่ะเขาเพียบพร้อม เขาดีทุกอย่าง ฐานะชาติตระกูลการศึกษา เธอเทียบอะไรเขาไม่ได้เลยนะ ถ้าเธอรักลูกชายของฉันจริง ก็ควรที่จะมีความสุขที่จะได้เห็นเขาแต่งงานกับผู้หญิงดี ๆ ตินน่ะเขาเป็นคนขี้สงสาร จะบอกเธอตรง ๆ เขาก็คงไม่กล้า เพราะกลัวเธอจะเสียใจ ฉันเลยต้องมาจัดการบอกเธอเองนี่แหละ นี่เขาสองคนก็ออกไปกินข้าวด้วยกัน ตินเขาบอกเธอไหมล่ะ” คุณนายกชกานต์จี้ตรงจุด