“ค่ะคุณย่า” เธอเดินคุยกับท่านมายังดอกไม้ที่สวนหลังบ้าน ม่านไหมรู้สึกว่าคุณย่าหงส์หยกเป็นคนที่น่าทึ่งมากจริงๆ ไม่เสียชาติเกิดที่เธอได้รู้จักกับท่าน
คุณย่ายิ้มเจ้าเล่ห์ ที่พาหลานสะใภ้มาเดินในสวนหลังบ้านเช่นนี้เพราะอยากให้ลูกชายที่กำลังทำอาหารอยู่ได้ชุ่มชื่นหัวใจ เพราะในห้องครัวสามารถมองออกมายังสวนหลังบ้านได้
แล้วก็จริงตามคาด คนที่ไม่ได้เห็นหน้าผู้หญิงที่รักมานานแรมเดินแอบเห็นผ่านห้องครัวแล้วหัวใจเต้นถี่แรงแทบจะโลดออกมานอกอก
“การเดินบนพื้นดินแบบนี้มีประโยชน์มากนะ ตอนเด็ก ๆ เราก็เดิน เราก็เล่นแบบไม่ใส่รองเท้า”
“หนูเพิ่งรู้นะคะนี่”
“การที่ฝ่าเท้าและร่างกายของเราได้สัมผัสกับพื้นโลก จะทำให้เรารู้สึกดี ผ่อนคลาย และมีความสุข ร่างกายของเราก็เหมือนบ้านที่ดีและปลอดภัย ต้องมีระบบสายดิน ป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วจากเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ให้ไหลผ่านตัวเรา แต่ไหลผ่านลงดินแทน เพื่อทำให้ประจุไฟฟ้านั้นเป็นกลาง พื้นดินจึงเป็นเหมือนแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ ทำให้ประจุไฟฟ้าในระบบต่าง ๆ เกิดความสมดุล รวมทั้งประจุไฟฟ้าในร่างกายของเราด้วย” คุณย่าพูดเป็นวิชาการแต่ได้ความรู้มากมายเหลือเกิน
เธออยู่ในเมืองก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเรียนหนังสือ เท้าเปล่าได้สัมผัสพื้นดินและพื้นหญ้าน้อยมาก
“พื้นทรายตรงหาดก็ดี โขดหินตรงน้ำตกก็ดี หรือพื้นหญ้าพื้นดินหน้าบ้านก็ดี ยิ่งมีน้ำค้างตรงหญ้าตอนเช้ายิ่งดี” คุณย่ากำลังเดินเล่นในสวนดอกไม้ที่งดงาม กลิ่นหอมกรุ่นนั้นทำให้หญิงต่างวัยทั้งสองรู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย
ท่านถอดรองเท้าเดิน และเธอก็ทำตามท่านด้วย
“อาหารคงใกล้เสร็จแล้ว เราไปกินอาหารฝีมือหลานย่ากัน อร่อยหรือไม่อร่อยมาดูกัน” คุณย่าพูดยิ้ม ๆ หลังจากพาหลานสะใภ้มาผ่อนคลายในสวนดอกไม้
การเดินเข้าในห้องอาหารทำให้หัวใจสองดวงเต้นแรง ทั้งนักรบและม่านไหมมองสบตากันด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง
คุณย่าหงส์หยกยิ้มออกมา การที่ม่านไหมมาอยู่ที่นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ท่านกลัวหลานชายจอมซื่อบื้อจะเสียผู้หญิงที่รักและลูกในท้องไป จึงชิงไปรับเด็กสาวมาพักอยู่ที่นี่เสียก่อน แล้วให้เจ้าตัวดีตามลูกเมียมาทีหลัง
ถึงท่านจะแก่แล้ว อยู่แต่บนเขาที่เกาะแห่งนี้ แต่ท่านรู้ทุกเรื่องนั่นแหละ อยู่ที่ว่าจะเข้าไปช่วยหรือไม่เท่านั้นเอง
คนเราอาจจะทำผิดพลาดไปบ้าง แต่ถ้ามันไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายก็ควรให้อภัยกัน
คุณย่าไม่ได้ขอร้องให้เธอให้อภัยเขา แต่ท่านสอนให้เธอรู้จักคุณค่าของเวลาและชีวิต เธอนึกขอบคุณท่านยิ่งนัก ที่ทำให้เธอได้สติ
อะไรก็ตามไม่ควรมากจนเกินไป น้อยจนเกินไป พอ ๆ ดีแล้วมันจะทำให้เราผ่อนคลาย ไม่เครียดจนเกินไป ไม่ตึงจนเกินไป หรือไม่หย่อนจนเกินไป
อาหารมากมายบนโต๊ะทำให้ม่านไหมนึกทึ่ง ไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้น่ากินขนาดนี้
“เฮียทำเต็มที่เลยนะไหม เป็นการขอโทษที่ทำให้ไหมดูไร้ค่าในวันนั้น แต่ตอนนี้เฮียรู้ใจตัวเองแล้วว่าเฮียรักไหมคงเสียไหมไปไม่ได้ ต่อจากนี้ไปเฮียจะทำอาหารให้ไหมกินทุกวัน จะดูแลไหมกับลูกให้ดีที่สุด” เขาให้คำมั่นสัญญาต่อเธอ
“เฮียรบ” ม่านไหมเรียกเขาเสียงสั่นก่อนจะโผเข้ากอดเขาเอาไว้ แล้วร้องไห้ออกมา
คุณย่าหันไปยักคิ้วให้กับคราม ลูกน้องคนสนิทของหลานชาย นั่นทำให้ครามอ้าปากค้าง
อย่าบอกนะว่านี่คือแผนการ
คุณท่านร้ายกาจมาก!!!
หลังจากปรับความเข้าใจกันในวันนั้น ม่านไหมก็ได้กินอาหารฝีมือของนักรบทุกวัน เขาทำอาหารอร่อย และทำแต่อาหารที่มีประโยชน์ให้เธอกับลูกในท้อง
คุณย่ายิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะหลานชายไม่ค่อยมาหา มัวแต่บ้างาน ตอนนี้มีตัวประกันแล้ว แค่สะกิดบอกหลานสะใภ้นิดเดียวว่าคิดถึง หลานสะใภ้มาหาเมื่อใด หลานชายก็ต้องตามก้นเมียต้อย ๆ มาหาท่านด้วย
ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสามตัว
“ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสามตัวคือยังไงครับคุณท่าน” ครามที่ได้ยินด้วยความบังเอิญ เอ่ยถามหญิงชราด้วยความสงสัย
“คิดว่ายังไงล่ะ” หญิงชราหัวเราะ
“ผมไม่ทราบครับ”
“ไปจับกุ้งมาด้วยแปดสิบตัว”
“ครับ”
“ดีใจใหญ่เชียวนะ”
“ก็กุ้งของคุณท่านอร่อย ผมได้กินถึงยี่สิบตัว ผมเลยดีใจครับ”
“ไปได้แล้ว” คุณย่าพยักหน้าให้ก่อนจะยิ้ม
ในขณะที่นักรบไม่ได้คิดจะลงจากเขา ออกจากเกาะกลับไปบนฝั่ง เพราะการใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงที่รักทำให้เขามีความสุขที่สุด
การได้ดูแลเธอ ได้คุยกับลูกทุกวัน ทำให้เขาอิ่มเอมหัวใจไม่น้อย และนั่นทำให้เขาสำนึกว่าทิ้งคุณย่าที่รักไปนานแค่ไหนแล้ว
เขาได้เจอท่านเดือนละครั้งหรือไม่ได้เจอท่านเลย ท่านอาจจะมีความสุขกับชีวิตที่ท่านออกแบบเองบนเกาะแห่งนี้ แต่ก็คงเหงาคิดถึงเขาเหมือนกัน
“ผมผิดไปแล้วครับคุณย่า ต่อจากนี้ไปผมจะมาเยี่ยมคุณย่าให้บ่อยได้เท่าที่คุณย่าต้องการ”
“เราต้องทำงาน ย่าเข้าใจ แต่รับปากอะไรเอาไว้ทำให้ได้ด้วย ถ้าไม่มาตามที่สัญญา ย่าจะไปหา”
“โอ๊ย! คุณย่าอย่าดึงหูผมมากสิครับ มันยานไปหมดแล้ว” เขาร้องโอดโอย ก่อนที่คุณย่าหงส์หยกจะหัวเราะชอบใจ