พรหมลิขิตเหรอ? ความเฮงซวยน่ะสิไม่ว่า!!!
หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยราวกับนางฟ้า กำลังนั่งดื่มอยู่ภายในร้านเหล้าเล็กๆ บริเวณปากซอยด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาอย่างเชื่องช้าไม่ขาดสาย
ความเจ็บจี๊ดแทงลึกเข้าไปที่หน้าอกข้างซ้ายของเธอ หลังจากที่ได้รู้ว่าคนรักที่คบกันมาเกือบสองปี แท้จริงแล้วมีลูกและเมียซุกซ่อนเอาไว้อยู่แล้ว ทำให้เธอกลายเป็นชู้ที่ไปแย่งสามีชาวบ้านด้วยปริยาย
“ร้านจะปิดแล้วนะครับ” พนักงานเดินเข้ามาบอกเธอที่นั่งอยู่เพียงคนเดียวในร้านพร้อมกับขวดเหล้าหลายขวดวางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะ
"อือ~”
“ยัยมุกๆ กลับบ้านได้แล้ว” เสียงหวานดังก้องอยู่ในหัวของเธอ หญิงสาวแทบจะไม่มีสติหลงเหลืออยู่จนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นยังไง
คะนิ้งที่เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวรีบมุ่งตรงมาหาพราวมุก หลังจากที่รับรู้เรื่องราวทุกอย่าง เธอเองทั้งเป็นห่วงและสงสารเพื่อนสนิทในคราวเดียวกัน
ผู้ชายคนนั้นคือแฟนคนแรกของพราวมุก ต่อหน้าก็ทำตัวดีเป็นสุภาพบุรุษเสมอ ไม่เคยล่วงเกินพราวมุกเลยสักครั้ง แต่ใครจะคิดกันว่าผู้ชายคนนั้นจะซุกซ่อนลูกเมียของตัวเองเอาไว้เกือบสองปี จนกระทั่งเมียของผู้ชายคนนั้นมาเจอและทำป่าวประกาศว่าพราวมุกมาแย่งสามีของตัวเอง ทำให้ครอบครัวของคนอื่นต้องแตกหัก
“ไม่เป็นไรนะ ไปนอนคอนโดฉันดีกว่า สภาพแบบนี้กลับบ้านไปก็โดนน้าอุ่นทำร้ายแน่ๆ”
ครืด~ ครืด~
“ว่าไงพี่คณิน” คะนิ้งรีบรับสายของพี่ชาย พลางเหลือบมองเพื่อนสนิทที่เมาแอ๋กำลังนอนร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
(อยู่ไหน)
“กำลังจะกลับคอนโด เพิ่งไปรับยัยมุกมา”
(...) ปลายสายเงียบลง เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอบอก
“มีอะไรหรือเปล่า”
(แต่จะถึงเวลาที่ต้องบินไปอังกฤษแล้วไม่ใช่เหรอ)
“ค่ะ แต่หนูเป็นห่วงพราวมุก” อันที่จริงเธอจะต้องบินไปอังกฤษเพื่อคุยงานกับลูกค้า แต่เพราะเป็นห่วงพราวมุกจึงเลือกที่จะมาหาแทนที่จะตรงไปสนามบินเลย
(พาพราวมุกมาไว้ที่คอนโดพี่ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะพาไปส่งเอง)
“...”
“ค่ะ” คะนิ้งตอบรับ ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางมุ่งตรงไปยังคอนโดของพี่ชายซึ่งหาจากบริเวณนี้เพียงสามกิโลเมตร
“พี่คณิน” คณินมุ่งตรงเข้ามาหาน้องสาวที่เข้ามาจอดรถบริเวณด้านหน้าของคอนโด
“เธอรีบไปเถอะ เดี๋ยวพี่จะช่วยดูแลพราวมุกให้” คะนิ้งพยักหน้ารับ ก่อนที่คณินจะช้อนตัวของพราวมุกออกมาไปจากรถ แล้วจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปในคอนโด
เธอเองก็เป็นห่วงพราวมุกไม่น้อย แต่เพราะธุรกิจก็สำคัญ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฝากพราวมุกไว้กับพี่ชายของเธอ ซึ่งทั้งสองเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก่อนที่คณินจะไปเรียนต่างประเทศและเพิ่งกลับมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“ขอโทษนะยัยมุก ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว” คะนิ้งรู้สึกผิดเล็กน้อย ทั้งที่เคยออกปากให้สัญญากับพราวมุกไว้แท้ๆ แต่กลับรักษาสัญญาไม่ได้ แต่ก็มั่นใจได้ว่าพี่ชายของเธอไม่มีทางทำร้ายพราวมุกแน่นอน
ร่างกำยำวางหญิงสาวในอ้อมกอดลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม ก่อนจะนั่งยองๆ บริเวณข้างเตียง พลางจ้องมองใบหน้าสวยที่เปื้อนหยาดน้ำตา
“พี่คณิน~ ฮืออออ” เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อเขา ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง
“ร้องไห้เดี๋ยวไม่สวยหรอก”
“เขาโกหก~ ฮึก... ฮือออ”
“ไม่เป็นไรนะ” คณินพยายามจะปลอบคนตัวเล็ก แต่อีกฝ่ายยังคงร้องไห้ไม่หยุด
ฝ่ามือหนาประคองใบหน้าของหญิงสาวก่อนจะเช็ดน้ำตาให้เบาๆ แล้วจึงจุมพิตลงบริเวณหน้าผากของเธออย่างถือวิสาสะ
“อย่าร้องไห้เลยนะ เด็กดี” หญิงสาวเริ่มหยุดร้องไห้ แต่ความเมายังคงไม่สร่างไป คณินจึงใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดใบหน้าของเธอเบาๆ พร้อมกับปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เย็นลง
“พี่คณิน” พราวมุกเอ่ยเรียกชื่อของเขาอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูชัดถ้อยชัดคำยิ่งกว่าตอนแรก ดวงตาทั้งสองข้างของเธอบวมช้ำเล็กน้อยแต่ดูเหมือนจะเริ่มสร่างเมาไปบ้างแล้ว
“รู้สึกดีขึ้นหรือยัง”
“พี่ก็ใจร้ายไม่ต่างจากผู้ชายคนนั้น”
“...”
“คนหลอกลวง!”
“...”
“ฉันจะกลับบ้านแล้ว” พราวมุกลุกพรวดพราดออกจากเตียง วันนี้มีแต่เรื่องที่ทำให้เธอเจ็บปวดใจไปหมด ตั้งแต่ไอ้ผู้ชายคนนั้น จนมาถึงคนนี้คนที่เป็นรักแรกของเธอและเป็นคนที่ทิ้งเธอไปโดยไม่บอกกล่าวกันสักคำ...
“พี่ไม่ให้เธอกลับ” คณินรีบเดินมาขวางประตูเอาไว้ พร้อมกับดึงรั้งร่างเล็กเข้ามากอด
น้ำตาที่เพิ่งจะหยุดไป เริ่มกลับมารื้นไหลลงมาอีกครั้ง ความรู้สึกเจ็บที่ดวงตาทำให้พราวมุกรู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้มากเกินไป แต่ก็ไม่อาจห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลได้
“พี่จะกลับมาอีกทำไม”
“พี่ขอโทษ ตอนนั้นพี่เข้าใจว่าเธอเป็นแฟนกับหมอนั่น พี่ก็เลยเลือกที่จะถอยออกมา พี่ผิดเองที่ไม่คิดให้ถี่ถ้วนก่อน”
“ไอบ้า เป็นหมอจริงหรือเปล่า ทำไมถึงได้โง่ หูเบาขนาดนี้ล่ะ” เธอด่าเขาด้วยความโมโห แต่หากเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงก็คงจะต้องโทษตัวต้นเหตุที่กุเรื่องทุกอย่างขึ้นมาด้วย
“...”
“พอเถอะ ฉันไม่อยากคุยกับพี่แล้ว”
“ถ้างั้นก็กลับไปนอนสิ” พราวมุกกลับไปนอนที่เตียงเหมือนเดิม
คณินถอนหายใจเล็กน้อย แล้วจึงปิดไฟและเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
ตู้แช่ไวน์ที่เพิ่งถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง เต็มไปด้วยไวน์หลากหลายยี่ห้อที่เจ้าของห้องชื่นชอบเป็นพิเศษ ราคาก็แพงกว่าไวน์ธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับเขาเรื่องราคาไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด
ขวดไวน์ยี่ห้อดังส่งตรงจากฝรั่งเศสถูกเปิดออก กลิ่มหอมละมุนของมันทำให้ชายหนุ่มหลงใหลจนแทบจะถอนตัวไม่ขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น รสชาติของไวน์ยี่ห้อนี้ยังทำให้เขาหยุดที่จะดื่มมันไม่ได้
ทว่าวันนี้รสชาติของมันกลับรุนแรงกว่าทุกครั้งที่เคยดื่ม กลิ่นหอมของมันทำให้เขาเจ็บปวดหัวใจยิ่งกว่าเดิม แต่ยิ่งเจ็บมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งดื่มมันมากขึ้นเท่านั้น ราวกับเป็นการลงโทษตัวเองที่ได้ทำผิดของพราวมุกไว้ ปล่อยให้หญิงสาวอันเป็นที่รักต้องไปเจอกับเรื่องเลวร้าย
คณินเหลือบมองโทรศัพท์ที่ถูกโยนทิ้งไว้อีกฝากของโซฟา ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาพร้อมกับต่อสายหาใครบางคน
“จัดการเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เรียบร้อยหรือยัง”
(คลิปถูกลบหมดแล้วครับ โชคดีที่ยังไม่ได้กระจายเป็นวงกว้าง เลยจัดการได้ทันครับ)
“ดี แล้วก็ส่งคนที่จับตามองคนที่บ้านของพราวมุกด้วย มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลให้เก็บหลักฐานมาให้หมด” นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกผิด ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องที่ทิ้งหญิงสาวไปเมื่อหลายปีก่อน แต่แม้กระทั่งเรื่องครอบครัวของหญิงสาวเขาก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน
(ครับนายน้อย)
ของเหลวสีม่วงแดงมองเผินๆ คล้ายกับน้ำองุ่นไหลผ่านริมฝีปากหนาก่อนจะดิ่งลึกสู่ลำคอซ้ำแล้วซ้ำเหล่า เป็นเวลากว่าสองชั่วโมง รู้ตัวอีกทีขวดไวน์ก็กองเกลื่อนรอบตัวของเขาแล้ว
ร่างสูงพยุงตัวเองกลับเข้าไปในห้องนอนที่มีหญิงสาวกำลังพักผ่อนอยู่ ในหัวของเขาคิดอะไรอย่างอื่นไม่ออกเอาแต่นึกถึงพราวมุกอยู่ตลอดเวลา
แกรก~
หญิงสาวสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง ก่อนที่จะตามมาด้วยกลิ่นไวน์ที่เธอจำได้แม่นว่าผู้ชายคนนั้นชื่นชอบไวน์ยี่ห้อนี้มาก
“พราวมุก” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยดังขึ้นใกล้ๆ เธอ ก่อนที่พื้นที่เตียงข้างๆ จะยุบลงพร้อมกับร่างสูงที่โผเข้ากอดเธออย่างถือวิสาสะ
“...”
“พี่รู้ว่าเธอตื่นแล้ว” ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เมาหนักอย่างที่เธอคิด ก็แหงล่ะสิ เขาคอแข็งจะตายไป คงไม่เมาขนาดที่จะไม่มีสติหรอก
“งั้นก็ปล่อยสิ”
“ขอกอดหน่อยไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้” พราวมุกปฏิเสธเสียงแข็ง
“แต่พี่อยากกอด”
“...”
หญิงสาวเงียบลง เพราะไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับเขาต่ออีกแล้ว ความมึนจากฤทธิ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ยังไม่จางลง หากไม่รีบพักผ่อน พรุ่งนี้เธอก็คงจะแฮงก์แน่
คณินโอบคนตัวเล็กเข้ามากอดให้ใกล้กว่าเดิม พลางใบหน้าซบลงบริเวณต้นคอของเธอ ท่ามกลางเสียงอันเงียบสงัดยังคงหลงเหลือเสียงของลมหายใจและเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงาน
แต่ไม่ว่าชายหนุ่มจะพยายามข่มตาหลับยังไง ดวงตาทั้งสองก็ยังคงไม่ยอมให้ความร่วมมืออยู่ดี จนกลายเป็นว่าตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าเขาไม่ได้หลับเลยสักนิด