ปากหนากัดงับยอดอกสีชมพูระเรื่อขบเม้มดูดเม้มหนักหน่วงเป็นจังหวะ อีกมือที่ไม่ได้กักกดข้อมือเล็กก็เคลื่อนมานวดเฟ้นเต้าเล็กที่เล็กเกินมาตรฐานของเขา แล้วยิ่งได้เคล้นคลึงเขาก็ยิ่งตื่นเต้น ยอดอกของชญาดาก็ตอบสนองตื่นเร่าขึ้นให้เขาดูดดึงเคล้าเคลีย
“อ่า อือ พะ...พอนะไทรีส ยะ..อย่าทำแบบนี้....”
“อ่า ยากแล้วแหละที่จะหยุดทิมมี่ ยากที่ฉันจะพอแค่นี้ อืม ตัวเธอหอมจริงๆ คนสวย อ่า” ชมพร้อมกับตวัดลากปลายลิ้นสากถูขึ้นลงจากร่องอกทั้งสองของหล่อนขึ้นไปยังลำคอระหง แล้วไล้เลื้อยขึ้นไปกัดเม้มคางเล็กแล้วเคลื่อนมาบดจูบปากหวานฉ่ำของสาวเอเชีย
“อ่ะ อือ”
เสียงคัดค้านกลืนหายเข้าไปในลำคอระหง มือใหญ่ที่รวบข้อมือเล็กผละปล่อยเคลื่อนมากดไหล่มนให้อยู่นิ่ง แล้วอีกมือก็บังคับคางเล็กให้แอ่นรับแรงจูบสวาทร้อนของตน เรียวลิ้นร้อนของไทรีสสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากน้อยอีกครั้ง และครั้งนี้ชญาดาได้เผลอจูบตอบกลับไร้เดียงสา มุมปากหนากระตุกพึงพอใจกับจูบไร้เดียงสาของเจ้าหล่อน เขาก็เริ่มรุกสอดแทรกปลายลิ้นเกี่ยวรัดคลึงเฟ้นควานรสหวานในโพรงปากน้อยแสนเดียงสาด้วยความเอาแต่ใจและช่ำชอง
“อ่า อือ หวานเป็นบ้า จูบแรกเหรอคุณหนู อือ” ผละห่างออกมาให้หล่อนได้หอบหายใจ แล้วตวัดปลายลิ้นไล่เลียริมฝีปากของตนเองแล้วโน้มลงกัดเม้มจมูกเชิดรั้นของเจ้าหล่อน
“อ่ะ อือ พะ...พอเถอะ ฉันจะไม่เข้ามาในสกายอีกแล้ว ปล่อยฉันนะไทรีส อือ” หล่อนบอกเสียงสั่นเครือ ตอนนี้ชญาดาหมดแรงจะต้านทานและจะต่อสู้แล้ว หล่อนพ่ายแพ้ หล่อนกลัวดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้นของเขา
“อ่า สายไปแล้ว เข้ามาอยู่ในนี้แล้วยากจะออกไปได้ นอกจากผมจะไล่คุณออกไป”
น้ำเสียงแหบพร่าจากการได้ลิ้มรสหวานในโพรงปากน้อยไร้เดียงสาของเจ้าหล่อนแล้วมันยิ่งทำให้คนบาปอยากรู้ว่าร่างกายนี้จะอ่อนเดียงสาไปด้วยหรือไม่ และไม่รอช้าจะปลดเปลื้องกางเกงของหล่อนออก เพียงไม่นานชญาดาก็เหลือแต่ร่างเปลือยเปล่านอนบิดดิ้นกายหนีไปมาใต้ร่างของตน
ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกกว้างเมื่อได้เห็นร่างของสาวเอเชียที่เล็กมาก เอวนั้นเขาใช้แค่มือเดียวก็รอบเอวของหล่อนแล้ว แล้วเต้าที่เล็กมากเหมือนของเด็ก ผมสีดำสลวยปล่อยสยายช่างยั่วยวน แล้วที่ทำให้เขาเบิกตาอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นส่วนสงวนของสาวเจ้า ช่างขาวนวลเนียนอวบอูมน่ากระแทกกระทั้นดีเหลือเกิน หล่อนไร้ต้นหญ้าปกคลุม หล่อนเกลี้ยงหมดจดจนเขาอยากจะโน้มลงไปจูบ และก็เร็วเท่าความคิด ไทรีสโน้มหน้าลงไปจูบเนินสวาทอูมอวบกลางหว่างขาของหญิงสาวทันที
“อ่ะ อือ หอม....ทำไมหอมแบบนี้ทิมมี่ อือ”
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ อึก ฮือ”
หล่อนบอกห้ามเขาเสียงสั่นสะอื้น น้ำตาอาบคลอดวงตากลมโตสดใสของหล่อน ไทรีสผละหน้าจากกลางหว่างขาขาวเนียนขึ้นไปสบจ้องดวงตาสวยที่อาบล้นไปด้วยน้ำใสๆ แล้วเขาก็เคลื่อนไปจูบปลอบประโลมหล่อนอย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน
“อ่า อย่าพูดแบบนั้นสิทิมมี่ ไม่อยากรู้เหรอว่าคนบาปอย่างฉันเด็ดแค่ไหน อือ”
“ไม่...ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ ฮือ” หล่อนส่ายหน้าปฏิเสธไม่ต้องการ แต่ไทรีสกลับเช็ดน้ำตาที่เปื้อนสองแก้มของหล่อนออกให้แผ่วเบา พร้อมกับกระซิบข้างหูของหล่อนแผ่วเบา
“มันสายไปแล้วที่รัก ตอนนี้ฉันต้องการเธอคนสวย”
ในตอนแรกไทรีสต้องการแค่อยากแกล้งเด็กสาว แต่เมื่อได้ใกล้ชิดสัมผัสแล้ว เขาเกิดต้องการและปรารถนาร่างเล็กที่ผิดสเปค ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เพียงแค่ได้ใกล้ชิดหัวใจก็ร้อนรุ่ม เต้นแรงผิดจังหวะแบบไม่เคยเป็นมาก่อน แต่กับชญาดาเขากลับรู้สึกเสียความเป็นตัวเอง เสียความเด็ดเดี่ยว เสียความดุดันไปอย่างบอกไม่ถูก
“ยังไม่สายไทรีส ยะ...หยุดเถอะนะ หยุดทุกอย่างแล้วฉันจะไม่เข้ามายุ่งที่นี่อีก ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฮือ”
“หอมสวยขนาดนี้ใครจะปล่อยคุณหนูคนสวยไปได้ล่ะ ตอนนี้อยากรู้แล้วสิว่าตรงนั้นของเธอจะแน่นและรัดฉันแรงแค่ไหนทิมมี่”
น้ำเสียงแหบห้าวพูดออกมาเหมือนไม่มีอะไรที่น่ากลัว เขาผละร่างออกห่างหล่อนเล็กน้อยเพื่อจะปลดชุดของตนเองออก และเพียงเวลาไม่นานร่างเปลือยเปล่าสมบูรณ์แบบที่หน้าอกเต็มไปด้วยแผลเป็นจากสมัยก่อนที่เขาโดนเจ้าของบ่อนที่เคยไปเล่นไล่ฆ่าฟันแทง เนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยแผลเป็น มันทำให้มีเสน่ห์ดึงดูด แม้ผิวจะขาวแต่กลับดูแข็งแรงและบึกบึน
ว้าย!
ชญาดาร้องตกใจเมื่อถูกกระชากขาทั้งสองข้างเข้าไปหาร่างเปลือยของเขา หล่อนกลัวจนตัวสั่นในตอนนี้ กลัวและรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตนเองเมื่อได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะได้เจอกำลังชูชันชี้หน้า มันทั้งใหญ่และยาว ใหญ่กว่าแขนของหล่อนด้วยซ้ำตอนนี้
“อือ ไม่นะ อย่าทำอะไรฉันนะไทรีส”
หึหึ
“ทิมมี่เธอรู้ไหมการที่เป็นเด็กดื้อและหลงเข้ามาในแดนบาปแล้วยากจะรอด ไม่เป็นฉันก็เป็นคนอื่นอยู่ดีคนสวย” เขาจับเรียวขาเล็กทั้งสองข้างของเจ้าหล่อนฉีกแยกกว้างเปิดทางให้ตนเองได้แทรกกลางร่างน้อยของหล่อน พร้อมดึงรั้งเข้าหาตนเอง
“มะ...ไม่นะไทรีส”
“ฉันไม่เคยละเว้นหนูด้วยสิ ยิ่งหนูสวยๆ แบบนี้ยิ่งยากจะปล่อยไปได้” ลูบไล้มือหยาบกร้านไปกับร่องขาหนีบของหล่อน แล้วไล้ไปยังกุหลาบงามอวบอูมกลางร่าง มือใหญ่สอดแทรกนิ้วใหญ่โตเสียดสีไปกับกลีบสวาทสีชมพูระเรื่อ
“อ่ะ อือ ไม่นะไทรีส ฉันไม่ต้องการ”
“แต่ฉันต้องการทิมมี่ อ่า หวาน” นำนิ้วที่เสียดสีกับกลีบดอกไม้ของเจ้าหล่อนมาดูดเม้มเย้ยหยัน
ชญาดาเบือนหน้าหนีท่าทางน่ารังเกียจของไทรีส หล่อนเกลียดเขาแต่ก็ใจเต้นแรงไปกับสัมผัสหวามของชายหนุ่ม
“ไหนดูสิว่าจะแน่นแค่ไหน” ไทรีสเอ่ยเสียงแปร่งพร่าแล้วโน้มหน้าหล่อลงมาถูไถกับหน้าท้องแบนราบที่เจ้าตัวกำลังบิดเร่าดิ้นกายถอยหนี
“อือ ไม่นะไทรีส อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันจะไม่เข้ามาในคาสิโนของนายอีกแล้ว อ่ะ อือ”
“จะเข้ามาตอนไหนก็ได้หลังจากนี้ สกายต้อนรับเธอเสมอทิมมี่”
เขาเอ่ยเสียงพร่า ลากเรียวลิ้นสากตวัดเลียหน้าท้องแบนราบที่เคลื่อนไหวขึ้นลงตามแรงหอบหายใจของหล่อน มือของหล่อนดันไหล่กว้างของเขาออก พร้อมกับกำจิกเล็บยาวจนเจ็บและมีเลือดซึมออกมาตามเล็บของหล่อน แม้ไม่เห็นด้วยตาแต่เขาก็รู้สึกได้เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดเตะจมูกของตน
“ไม่...ฉันจะไม่เข้ามาที่นี่อีกแล้ว ให้ตายก็ไม่เข้า ถ้าฉันออกไปจากที่นี่ได้ฉันจะไม่มาแดนบาปแห่งนี้อีก” หล่อนโต้ตอบเสียงสั่นเครือ ตอนนี้ร้องไห้จนไม่รู้จะร้องไห้ยังไงแล้ว น้ำตาก็แห้งเหือดไปเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ต้องสะดุ้งกรีดร้องเจ็บปวดทรมานสุดเสียงเมื่อไทรีสกระแทกกายแข็งร้อนเข้ามาในร่างของหล่อน
กรี๊ดดดดดด
“จะ...เจ็บ! ฮือๆ ฉันเจ็บไทรีส” สองมือน้อยทุบตีเตียงด้วยความเจ็บปวดทรมานดิ้นรนหาทางหนีจากความอึดอัดทรมานนี้ ร่างน้อยถูกของแข็งกระแทกสอดแทรกเข้ามากลางร่าง ตอนนี้ร่างกายเล็กของหล่อนรู้สึกเหมือนถูกจับขาฉีกแยกออกจากกันคนละทิศละทางเลยก็ว่าได้
“ฮือๆๆ เจ็บ! ไทรีส ฉันเจ็บ อึก ออกไป...ฮือๆๆ” หล่อนร้องไห้ขอร้องให้เขาหยุด แต่หน้าของไทรีสที่จ้องมองมาทางหล่อนไม่ได้มีความสงสารหรือเห็นใจส่งมาให้ แต่มันเป็นยิ้มน่ากลัวของเขาที่ส่งกลับมาเยาะเย้ย แล้วเสียงที่น่ารังเกียจก็ตามมา
“อ่า คับแน่นเป็นบ้าทิมมี่...ชูว์” เป่าปากตัวเองออกมาด้วยความอึดอัด และด้วยความรู้สึกดีที่ได้เป็นผู้ชายคนแรกของชญาดาจนไม่อาจจะปกปิดยิ้มพึงพอใจไว้ได้
“อือ ปะ...ปล่อยฉันเถอะไทรีส ออกไปเถอะฉันเจ็บ อึก” หล่อนขอร้องเขาเสียงแผ่วเบา
“ชูว์ ครั้งแรกมันก็เป็นแบบนี้แหละทิมมี่ แต่มันจะดีถ้าผมขยับ อือ อย่าดิ้น ยิ่งดิ้นคุณยิ่งตอดรัดผมและทำให้ผมอยากกระแทกคุณเหมือนสัตว์ป่า อ่า แน่นเป็นบ้า อูว์”
กัดเม้มปากแน่นเมื่อหล่อนบิดกายดิ้นหนีจากแรงกระแทกของตน มือใหญ่จับรั้งเอวเล็กบางไว้เพียงมือเดียวแล้วกระตุกรั้งเข้าหาตน ยิ่งทำให้เจ้าหล่อนบิดหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ ยิ่งได้เห็นคนตัวเล็กเจ็บปวดเขาก็ยิ่งพึงพอใจเมื่อได้เป็นคนแรกของเจ้าหล่อน