ทางด้านของชัชวิน เขาเดินทางไปที่ช่อง 99 เพื่อประชุมกับพนักงานในช่วงเช้า และจะคุยไปถึงรายละเอียดงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ด้วย
ผู้ช่วยคนสนิทของเขาพอเห็นเจ้านายเดินมาก็เข้าไปต้อนรับ ในขณะที่ในมือถือแฟ้มเอกสารซึ่งเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการประชุมในวันนี้
"สวัสดีครับเฮียวิน วันนี้มีประชุมในช่วงเช้าประมาณ 9 โมง รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในแฟ้มเอกสารนี้นะครับ เดี๋ยวผมจะวางไว้ให้เจ้านายบนโต๊ะห้องทำงาน"
"อืม... ไม่มีอะไรสำคัญใช่ไหม"
"ถ้าเท่าที่ผมทราบไม่มีนะครับ อยากจะรับกาแฟร้อนสักแก้วไหมครับ เดี๋ยวผมสั่งคาเฟ่ข้างล่างขึ้นมาให้"
เขาเอ่ยถามตามหน้าที่ในแต่ละวัน ลาสเป็นผู้ช่วยคนสนิทที่คอยดูแลเจ้านายที่บริษัท งานบริหารทุกอย่างโดยเฉพาะเอกสารที่สำคัญ เขาจะเป็นจัดการแทบทั้งหมด
ส่วนลาฟาเขาเป็นผู้ช่วยคนสนิทอีกคน คนนั้นมีหน้าที่หลักคือคอยดูแลเบื้องหลังทั้งหมดของช่อง ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ ผู้จัด หรือใครก็ตามที่อยากจะคุยกับเฮียวิน ก็จะต้องผ่านการคุยกับเขาก่อนเบื้องต้น
"สวัสดีครับเฮียวิน"
"สวัสดีค่ะเฮียเมื่อคืนดูเท่มากเลยค่ะตอนที่ไปรับรางวัล"
"ไม่ต้องมาแซวผมกันเลย เข้าไปรอที่ห้องประชุมได้แล้วเดี๋ยวสักแป๊บหนึ่งผมจะตามไป"
พนักงานคนอื่นได้ยินแบบนั้นก็รีบพยักหน้ารับทราบก่อนจะพากันเข้าไปหยิบเอกสารบนโต๊ะทำงาน จากนั้นก็พากันเข้าไปนั่งรอในห้องประชุม เพราะว่าชัชวินค่อนข้างเป็นคนที่ตรงต่อเวลามาก และถ้าเกิดว่าเวลา 9:00 น เป๊ะเขาเข้ามานั่งอยู่ภายในห้องทำงาน บุคคลที่เข้ามาช้าคล้อยหลังของเขาก็จะถูกบ่นว่ามาสาย
"เอาล่ะทุกคนเรามาเริ่มประชุมกันเถอะ ขอพูดถึงเรื่องเมื่อคืนก่อน ขอบคุณทุกคนมากที่ตั้งใจทำงานเพื่อช่องของเรา จนทำให้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมแห่งปี 4 ปีซ้อน"
"เมื่อคืนเรตติ้งละครของเราก็พุ่งกระฉูดเลยค่ะ คงเป็นผลมาจากการรับรางวัลเมื่อคืนด้วย"
"มันก็แน่นอนอยู่แล้วล่ะ ช่องของเราได้รับรางวัล 4 ปีซ้อน และปีหน้าจะต้องได้รางวัลอีก พวกเราจะต้องรักษามาตรฐานนี้ไว้ให้ดีนะ ต้องตั้งใจรังสรรค์ผลงานออกมาให้ดีที่สุด เพื่อที่ช่องของเราจะเป็นนัมเบอร์วันตลอดไป"
ทุกคนหันไปมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ใครต่างก็มีความสุขกับการได้ร่วมงานกับช่องอันดับหนึ่งระดับประเทศ ซีรีย์บางเรื่องได้โกอินเตอร์ต่างประเทศซื้อไปรีเมค ดีขนาดนี้ใครจะกล้าลาออกบ้างล่ะ
"ผมต้องขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่ตั้งใจทำงานกันอย่างหนัก หวังว่าช่องของเราจะไปได้ไกลกว่านี้อีก ไม่มีหยุดพัฒนามีแต่จะเพิ่ม"
"พวกเราสัญญาค่ะว่าจะตั้งใจทำงานเพื่อนช่องของเรา"
ชัชวินยิ้มออกมาอย่างพอใจที่ทุกคนรักและเต็มที่กับช่องมากขนาดนี้ การที่ได้พนักงานดีเป็นลาภอันประเสริฐที่สุดแล้ว และเขาใช้หัวใจในการบริหารงานลูกน้องจึงรักและเต็มที่กับทุกงาน
"ว่าแต่คืนนี้มีงานปาร์ตี้ฉลองความสำเร็จกันนะ อย่าลืมแจ้งไปยังทุกฝ่ายล่ะ เตรียมชุดสวย ๆ จัดให้เต็มที่เลยนะ"
"ได้เลยครับเจ้านาย พวกเราไม่มีใครพลาดปาร์ตี้ที่สนุกแบบนี้อยู่แล้ว"
ทุกคนพยายามมาทั้งปีเพื่องานนี้แหละ สนุกสุดเหวี่ยงไปเลยเหมือนได้ปลดปล่อย และที่สำคัญที่สุดได้เจอกับเพื่อนร่วมช่องทุกคน ที่จะมาร่วมงานกันในคืนวันนั้นด้วย
"ถ้างั้นเริ่มประชุมกันได้เลย"
ใช้เวลาในการประชุมช่วงเช้าประมาณครึ่งค่อนวัน จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำงานที่ห้องของตัวเองต่อ ลาฟาที่เดินเข้ามาพร้อมกับอาหารกลางวันของเจ้านาย ก็ส่งไปให้เลขาหน้าห้องจัดเตรียมให้เฮียวินรับประทานในมื้อกลางวัน
"เอาไปใส่จานแล้วมาเสิร์ฟที่ห้องนะ"
"ได้ค่ะคุณลาฟา"
เลขาหน้าห้องหรือมิลลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย รับอาหารไปไว้ในมือก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องครัวเพื่อเตรียมเมนูอาหารกลางวันให้เจ้านาย ส่วนเขากำลังนั่งพักผ่อนในห้องทำงานโดยมีลาฟกำลังคุยเป็นเพื่อนอยู่
ก๊อก ก๊อก
"ขออนุญาตครับ"
"เข้ามาเลยลาฟา"
ลาฟาได้ยินเสียงของเพื่อนอีกคนก็เปิดประตูเข้ามาข้างใน ซึ่งบรรยากาศภายในห้องก็ดูผ่อนคลาย และเจ้านายเองก็ดูจะอารมณ์ดีไม่น้อย คงเพราะรางวัลที่เขาได้รับมาในค่ำคืนที่ผ่านมาแหละ
"เจ้านายจะพาคุณพิมพ์ชนกไปร่วมงานด้วยไหมครับ เมื่อวานเธอโทรศัพท์มาถามผมว่าที่บริษัทจะมีปาร์ตี้หรือเปล่า ผมก็นึกว่าเธอจะไปด้วยซะอีก"
ชัชวินเหลือบสายตามองลูกน้องก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ เพราะพิมพ์ชนกเป็นแบบนี้แหละเขาถึงไม่อยากไปไหนด้วย และมันเป็นความรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกกับการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
"ไม่ต้องให้ไปหรอก ฉันจะอึดอัดเสียเปล่า"
"นายจะทนไปแบบนี้อีกนานแค่ไหนครับ คนไม่รักกันแต่งงานกันไปก็ไม่มีความสุขหรอก"
ลาฟเอ่ยออกมาอย่างเห็นใจเจ้านาย พวกเขาอยู่กับคุณวินมาเป็นสิบปี ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างในชีวิตของเขา การโดนผู้ใหญ่บังคับแต่งงานไม่ใช่เรื่องสนุก แต่ก็นั่นแหละ เจ้านายยอมเองเพราะเขาก็ไม่ได้มีผู้หญิงแต่แรก ทว่าชีวิตคู่หลังแต่งงานกลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่หวัง
"แต่ผมว่าคุณพิมพ์ชนกรักนายนะครับ"
"ฉันพยายามแล้วที่จะรักเธอ แต่มันไม่มีความรู้สึกแบบนั้นเลย อาจจะเพราะว่าไม่ได้ใช้ชีวิตแบบสามีภรรยาเหมือนคู่อื่น แต่เอาเถอะอีกแค่ปีเดียวเท่านั้น ถ้ายังไม่ดีขึ้น คงต้องแยกทางกันจริง ๆ"
"คุณพิมพ์ชนกเธอจะยอมเหรอครับ"
"ก็นั่นแหละฉันถึงยังไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับเธอ เลยให้เงื่อนไขสามปีไป ช่างเถอะไม่อยากใส่ใจแล้ว มาคุยงานกันดีกว่าพูดเรื่องนี้แล้วฉันหงุดหงิด"
ชัชวินเอ่ยตัดบทเพราะไม่อยากพูดถึงเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดภายในใจ โดนครอบครัวจับคลุมถุงชนก็ว่าแย่แล้ว คืนส่งตัวเข้าห้องหอเขายังต้องมารับรู้ว่าเธอป่วยเป็นโรคตายด้านทางเพศอีก ถ้าบอกแต่แรกเชื่อเถอะคุณพ่อไม่มีทางให้แต่งเพราะท่านอยากมีหลานจะแย่ นี่ถือว่าเขาช่วยเก็บความลับและปล่อยให้เธอได้รักษาตัวเองตามที่ร้องขอ ซึ่งเขาสร้างเงื่อนไขเอาไว้ว่าสามปีเท่านั้น ถ้าเธอยังไม่ดีขึ้นจะต้องแยกย้ายจากกันไปด้วยดี...