น่ารำคาญชะมัด

972 คำ
"ไม่ได้ไม่มีเงินจ่าย แต่ว่าฉันไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเช่าแล้วน่ะ" อีกคนเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอสมาร์ทโฟน คงจะแชทรายงานสดเข้าไปในไลน์กรุ๊ปเรียบร้อยแล้วก่อนที่รัญชิดาจะตอบซะอีก ชาติที่แล้วนางคงจะเกิดเป็นนกพิราบสื่อสาร จิตวิญญานจึงยังตกค้างมาจนถึงชาตินี้ "แล้วได้งานหรือยังจ้ะ?" รัญชิดาอยากจะถอนหายใจ เฮ้ย!แรงๆใส่หน้านาง "ยัง ยังไม่ได้หางาน" รัญชิดาตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงราบเรียบต่อหน้าอุ๋มอิ๋มไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายด้วย เพียงแต่ตอนนี้อุ๋มอิ่มกำลังยืนขวางทางเธออยู่กล่องใบใหญ่ที่เธอถืออุ้มเอาไว้เพื่อไปใส่ของมันกินพื้นที่ไม่สามารถที่จะเดินหนีไปไหนได้ "อ้าวเหรอ ไปทำงานกับเรามั้ย ที่บริษัทรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่IT Supportอยู่นะ เงินเดือนสตาร์ทตั้งหมื่นห้าแหน่ะ" รัญชิดากระตุกยิ้มออกมามันขำแต่มันไม่สามารถที่จะหัวเราะก๊ากออกมาได้ ขำความจุ้นจ้านขำความไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรเลยของยัยนี่ 'คนรับใช้บ้านฉันยังเงินเดือนสองหมื่นอัป เธอจะให้ฉันไปทำงานเงินเดือนหมื่นห้า ป๊าด!หมื่นห้าได้แค่ค่ารองเท้าของฉันแค่ข้างเดียวเองย่ะ..เมื่อไหร่จะหลีกทางไปสักทีนะน่ารำคาญชะมัด' รัญชิดายิ้มหน้าเป็นแต่แอบด่าในใจ นี่ไม่ด่าออกมาตรงๆก็ถือว่าให้เกียรติมากแล้วนะ "ขอบใจนะ ฉันคงต้องขอตัวไปเคลียร์ห้องก่อน" "ละ..แล้วเรื่องงานล่ะ ไม่สนใจเหรอ ฉันจะได้โทรหาเอชอาร์ให้ ฉันสนิทกับเอชอาร์นะ" ยังตามมาขิงไม่จบจ้า..ยุ่งวุ่นวายดีแท้ ชีวิตของฉันฉันจัดการเองได้ "ไม่เป็นไรฉันไม่สะดวกน่ะ" ตอบพรางหาช่องทางแทรกตัวเองเดินหนีไปอย่างไวไม่สนใจเสียงเรียกอีกคนที่ยังคงดังตามมาไม่หยุด อุ๋มอิ๋มบังเอิญเช่าหอพักอยู่ที่นี่เหมือนกันกับเธอตั้งแต่ปีหนึ่ง แรกๆก็เหมือนว่าจะดีมากๆหลังๆชอบเอาเธอไปนินทา เธอเลยตีตัวออกห่างไม่สะดวกใจที่จะคบคนตอแหลพวกนี้ ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่างมันท็อกซิกเกินไป อยู่ใกล้ๆแล้วทำให้รู้สึกปวดหัวและก็ไม่อยากปั้นหน้าใส่ใครด้วย เสียดายที่เพื่อนสนิทของเธอย้ายไปเรียนต่อที่ต่างประเทศซะแล้ว นอกจากธีร์ตอนนี้เธอก็ไม่เหลือใครที่สนิทมากแล้วจริงๆ ทว่าเอาเข้าจริงๆพี่ธีร์ก็ไม่ใช่พี่ธีร์ของเธอแล้ว เออ!ย้ำมันเข้าไป..ย้ำให้เจ็บ เจ็บแล้วจะได้จำแล้วนำไปคิดปรับปรุงตัวเอง "อะไรของนาง หยิ่งเหมือนเดิมเลยแหะ ทำตัวอย่างกะลูกคุณหนูทั้งๆที่เป็นแค่นักศึกษาตกงาน" ยังไม่ทันที่รัญชิดาจะเปิดประตูเข้าห้องก็ได้ยินเสียงยัยนั่นแขวะตามหลังมาแล้ว อยากตะโกนออกไปว่าเธอเข้าใจถูกแล้วจ้ะ!แต่ทำได้เพียงแค่คิด อยู่แบบนี้ดีกว่าที่จะทำตัวเป็นลูกคุณหนูที่รายล้อมไปด้วยผู้คนมากมายแต่หาคนที่จริงใจไม่ได้เลย ความสัมพันธ์แบบเรียลไร้จริตเธอชอบแบบนั้นมากกว่า ก็ซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองแบบนี้ไงเลยโดนทิ้ง! พูดถึงก็ยังขยาดยัยอุ๋มอิ๋มคนนี้ไม่น้อยเอาเธอไปนินทาซะเละเทะวันนั้นถ้าไม่ใช่ว่าเธอนั่งอยู่ในห้องน้ำแล้วเผลอได้ยิน ป่านนี้คงกลายเป็นเพื่อนสนิทกับยัยนี่ไปแล้วมั้ง แต่ตัวของรัญชิดาไม่เคยมีนิสัยแบบนี้ เธอแข็งกระด้างเอาแต่ใจก็จริงแต่เรื่องนิสัยนินทาว่าร้ายคนอื่นไปทั่วเธอไม่เคยทำเลยสักนิด เพียงแค่เอาแต่ใจ ดื้อรั้น ขี้งอนกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เธอก็เป็นแค่กับพี่ธีร์คนเดียวเท่านั้น ไม่เคยนอกใจ ไม่เคยนอกกาย ทำไมนะทำไมพี่ธีร์ถึงไม่รักเธอแล้ว คิดได้ก็ฟุบหน้าลงกับฝ่ามืออีกครั้ง ปวดหัวใจเกินไปแล้วจริงๆ! รัญชิดามักจะทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าคนอื่น แต่แอบมาหลบมุมร้องไห้คนเดียวบ่อยๆ บางทีเธอก็เริ่มสงสัยตัวเองว่าเธอกำลังจะเป็นโรคซึมเศร้าแล้วหรือเปล่า รุ่งอรุณของเช้าวันใหม่ วันนี้ธีร์ตื่นเช้าเป็นพิเศษ เมื่อวานหลังจากรัญชิดากลับไปก็ทำให้เขานอนคิดทั้งคืนว่าจะทำยังไงดีไม่ให้หล่อนกลับมาอีก จะย้ายคอนโดหนีก็ไม่ได้ หรือจะเปิดตัวมีแฟนใหม่แม่งไปเลยก็ไม่ได้อีก ไม่อยากดึงผู้หญิงอีกคนมาเจ็บเพราะเขาพาเธอมาใช้เป็นเครื่องมือทำอะไรแบบนี้ "อุย!" ความเหม่อทำให้เขาลืมไปว่ากำลังยืนกดน้ำร้อนใส่แก้วกาแฟอยู่ ความร้อนของน้ำที่ไหลล้นลงมาลวกมือทำให้เขาสะดุ้งโหยง "เครียดเกินไปมั้ยวะกู?" ตึ่ง! (มอนิ่งนะคะ ^ ^) ข้อความจากแอปไลน์ดังขึ้นส่งมาจาก เมษา นั่นเอง เธอแชทมายาวเหยียดตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแต่เขาเพิ่งจะได้เปิดอ่านเมื่อเช้า เมื่อคืนไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นแต่ยังไม่มีอารมณ์ที่จะคุยกับใครทั้งนั้น ตี้ด! เสียงเตือนจากเครื่องทำแซนวิชดังขึ้น ทำให้เขาหันไปสนใจกับอาหารเช้าตรงหน้า สลัดความคิดเรื่องฟุ้งซ่านออกไป วันนี้มีประชุมพรีเซนต์รายงานสรุปเกี่ยวกับงานซ่อมแซมแต่เช้า ควรเอาสมองทั้งหมดไปอยู่กับเรื่องงานไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม