bc

สามีข้าคือชายบ้าที่สั่งฆ่าชายามาแล้วเจ็ดคน

book_age18+
274
ติดตาม
1.1K
อ่าน
จบสุข
เดินทางข้ามเวลา
องค์ชาย
ดราม่า
ชายจีบหญิง
ฉลาด
มัธยมปลาย
ปิ๊งรักวัยเด็ก
substitute
like
intro-logo
คำนิยม

ศัลยแพทย์แห่งศตวรรษที่ 20 อยู่ดีๆก็ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของบุตรสาวนายพรานที่มี ภาระต้องเลี้ยงดู ไหนจะมีย่าที่ป่วยติด พ่อขาหักที่เลี้ยงตัวเองไม่ได้ และน้องชายที่อายุเพียง 7 หนาว โจวลี่หลินจึงต้องรับภาระเลี้ยงดูทั้งสามคนไปโดยปริยาย แต่สวรรค์ยังไม่พอใจ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดส่งนางให้ไปเป็นชายาของอ๋องปีศาจ ที่มีงานอดิเรกคือฆ่าชายาตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอมาแล้วถึงเจ็ดคน      สวรรค์เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายกับข้านัก…      "นี่นางยังไม่ตายอีกหรือ"      "ไม่เพียงยังไม่ตาย แต่ตอนนี้นางยังมีชีวิตอยู่ดี นางฝากความมาถึงท่านอ๋องอีกด้วยว่า พระองค์เล่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่"      เฉินตงหยางคิ้วกระตุก "นางน่าสนใจดีนี่" ………………………….       เท่านั้นยังไม่พอ เขายังมีสตรีในดวงใจอยู่แล้ว นางที่เป็นเพียงบุตรนายพรานจะเอาสิ่งใดไปสู้       "ต่อให้ข้าต้องบั่นคอเจ้าเพื่อนาง ก็ไม่คิดลังเลแม้นสักนิด เช่นนั้นเจ้าอย่าได้คิดว่าตนเองสำคัญ"       'พวกท่านรักกันเหตุใดถึงยังจับข้าเข้าตำหนักมาเล่า บ้าจริง…!!! งั้นก็หย่าขาดข้าไปเสียสิ แล้วไปรักกันให้พอ'

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ช่วยเหลือบุรุษแปลกหน้า
"นี่มันโชคชะตาบ้าบออันใด หนาวขนาดนี้ข้ายังต้องออกมาข้างนอก ข้าจะไม่แข็งตายไปก่อนหรือ" หิมะขาวโพลนปกคลุมไปทั่วบริเวณโดยรอบ ผู้คนต่างหลบเลี่ยงความหนาว ด้วยการซุกตัวอยู่แต่ในเรือน ไม่คิดจะเอาชีวิตมาเสี่ยง แต่กับสตรีผู้นี้ที่ไม่รู้กำลังคิดสิ่งใดอยู่ ถึงได้กล้าออกมาเผชิญความหนาวอย่างไม่กลัวตาย ถึงแม้โจวลี่หลินจะบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ แต่ขาทั้งสองข้างก็ยังคงก้าวเดินไป ทั้งที่มีหิมะปกคลุมกว่าครึ่งขา ยังดีที่เสื้อคลุมที่นางสวมใส่อยู่ ดูเหมือนว่าจะสามารถกันลมหนาวให้หญิงสาวได้ดีพอสมควร ถึงแม้เนื้อผ้าจะดูหยาบกระด้าง หาใช่เนื้อผ้าชั้นดีที่คนมีฐานะจะสวมใส่ออกมาเพื่อกันลมหนาวในบรรยากาศเช่นนี้ แต่เมื่อพิจารณาให้ดีแล้ว พบว่ามันถูกตัดเย็บขึ้นมาอย่างลวกๆ แต่กลับกันลมหนาวได้เป็นอย่างดี ด้วยด้านในไม่ทราบว่าถูกยัดสิ่งใดเข้าไป แต่ผู้สวมใส่กลับรู้สึกอุ่นสบาย ลมหนาวไม่สามารถกระทบผิวหนังนางได้เลย "พี่ใหญ่ข้าได้ยินคล้ายกับมีบางสิ่งกำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่หลังพุ่มไม้บริเวณนั้น มันจะใช่สัตว์ป่าหรือไม่" โจวลี่หลินได้ยินก็ดวงตาเปล่งประกาย หากเป็นอย่างที่น้องชายของนางว่า วันนี้ถือเป็นโชคดีแล้ว หญิงสาวจึงรีบเดินไปที่พุ่มไม้บริเวณที่น้องชายได้บอกกับตน นางค่อยๆย่างเท้าเข้าไปอย่างเงียบกริบ ด้วยกลัวว่าเจ้าสิ่งที่อยู่บริเวณนั้นจะตกใจและหนีไปเสียก่อน "เสี่ยวเหอเจ้าอ้อมไปทางซ้าย พี่จะอ้อมไปอีกทาง" นางกระซิบบอกแผ่วเบา โจวฮุ่ยเหอพยักหน้า พร้อมทั้งทำตามแผนการที่พี่สาวได้บอกกับตนเอง ในใจของเด็กหนุ่มเกิดความลุ้นระทึกไม่ต่างกัน เพราะนี่อาจจะเป็นอาหารจานเนื้อมื้อแรกในรอบหลายวัน หลังจากที่พวกเขาได้กินแต่ผักต้มกับมันเผา จนลิ้นแทบจะลืมรสชาติเนื้อสัตว์ไปแล้ว แต่เมื่อทั้งสองค่อยๆเข้าไปยังบริเวณพุ่มไม้ ที่คิดว่าจะมีสัตว์ป่าบาดเจ็บหลบซ่อนอยู่ กลับต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อพบว่าหลังพุ่มไม้นั้น เป็นชายหนุ่มที่มีเลือดไหลโทรมกาย บริเวณหน้าขาของเขามีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก ชายหนุ่มผู้นั้นร้องครางออกมาอย่างไม่รู้สติ สองพี่น้องที่อยู่ในอาการตกตะลึงในตอนแรกเมื่อตั้งสติได้ โจวลี่หลินผู้เป็นพี่ จึงได้เอ่ยออกมาก่อนว่า "เสี่ยวเหอไม่ใช่สัตว์ป่า แต่เป็นคนนอนบาดเจ็บ เจ้ารีบมาช่วยพี่เร็วเข้า" โจวลี่หลินรีบวางหน้าไม้ที่อยู่ในมือลงไปเก็บไว้ด้านข้าง พร้อมกับตรงเข้าไปหาชายหนุ่มที่นอนบาดเจ็บไม่รู้สติยังเบื้องหน้า นางสำรวจร่างกายของเขาเบื้องต้น และพบว่าปัญหาหลักคือรอยแผลขนาดเท่าฝ่ามือที่อยู่บริเวณหน้าขา ซึ่งทำให้มีเลือดออกเป็นจำนวนมาก นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มเสียเลือดไปมากจนไม่รู้สติ "ดูเหมือนว่าเขาจะนอนจมกองเลือดอยู่ที่นี่นานแล้ว ดูจากรอยเลือดยังบริเวณนี้ ก็ถือว่ามีจำนวนไม่น้อยเลย พี่จำเป็นต้องห้ามเลือดให้เขาเสียก่อน" "พี่ใหญ่เราปล่อยเขาไว้เช่นนี้ไม่ดีกว่าหรือ เหตุใดจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือชายแปลกหน้าผู้นี้ด้วย หากเขาเป็นคนไม่ดีเล่า" "เสี่ยวเหอช่วยคนอย่างไรก็เป็นบุญกุศล อย่างน้อยเขาคงไม่อกตัญญู ถึงขนาดคิดจะทำร้ายพวกเราหรอก และที่สำคัญตอนนี้ เกรงว่าแม้แต่เรี่ยวแรงจะขยับกาย บุรุษผู้นี้ก็คงไม่สามารถทำได้ เจ้าอย่ากังวลนักเลย" "แล้วท่านพี่รู้หรือว่าต้องทำเช่นไร" ไม่แปลกที่โจวฮุ่ยเหอจะเกิดความสงสัย เพราะพี่สาวอย่างโจวลี่หลิน เป็นเพียงเด็กสาวบ้านนอกที่อาศัยอยู่ในป่าเขา นางอายุเพียงสิบหกหนาว แล้วจะรู้วิธีช่วยคนได้อย่างไร พี่สาวของนางมิใช่หมอเสียหน่อย โจวลี่หลินไม่มีเวลาจะต่อปากต่อคำกับน้องชายตนเองเท่าใดนัก นางไม่อยากเสียเวลาอธิบายกับเขามากไปกว่านี้ แต่หากไม่อธิบายน้องชายคงไม่ยอมโดยง่าย จึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจแทน "ย่อมต้องได้อยู่แล้ว แต่ก่อนข้าเห็นท่านพ่อออกไปล่าสัตว์ได้รับบาดเจ็บกลับมา ก็มีท่านย่าคอยช่วยเหลือทำแผลให้กับท่านพ่อเช่นนี้ มันคงจะไม่ยากเกินไปนักหรอก เจ้าอย่าลืมว่าอาการบาดเจ็บของท่านพ่อครั้งล่าสุด ก็เป็นพี่ที่ช่วยเอาไว้ เจ้าเองก็รีบมาช่วยพี่เสียที ยืนพูดอยู่ตรงนั้นก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด" มือทั้งสองข้างของโจวลี่หลินง่วนอยู่กับการตรวจดูบาดแผล สายตามุ่งมั่นของนางจ้องเขม็งที่แผลฉกรรจ์ พร้อมกับที่ฉีกชายผ้าของบุรุษผู้นั้นออก แล้วนำมามัดที่บริเวณต้นขาเหนือบาดแผล ซึ่งมันมีผ้ามัดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะใช้งานได้ไม่ดีเท่าใดนัก เมื่อเห็นว่าตอนนี้ เลือดได้หยุดไหลแล้ว นางจึงได้พรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนที่จะใช้มีดที่นำติดตัวมาด้วย ตัดขาเกงเกงของบุรุษผู้นั้นออก โจวฮุ่ยเหอผู้เป็นน้องชายดวงตาเบิกกว้างตกใจกับการกระทำของนาง "พี่ใหญ่นั่นท่านคิดจะทำอันใด" "หากไม่ทำเช่นนี้ จะตรวจดูบาดแผลได้อย่างไร" "แต่ท่านเป็นสตรี และเขาก็เป็นบุรุษ หนำซ้ำบาดแผลยังอยู่ใกล้กับหน้าขามาก ทำเช่นนี้เกรงว่าจะเป็นการไม่ควรหรือไม่" "เสี่ยวเหอเหตุใดเจ้าถึงได้ดูกังวลนัก เรื่องใดก็กลัวไปเสียหมด" โจวลี่หลินเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์แล้ว น้องชายของนางไม่เพียงไม่ลงมือช่วย ยังจะกล่าววาจาให้นางเป็นกังวลอีก แต่บทสนทนาของสองพี่น้องก็ต้องหยุดลง เมื่ออยู่ดีๆมือหนาของบุรุษที่อยู่ในอาการบาดเจ็บ ก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กของนางอย่างรวดเร็ว "เจ้าเป็นใคร…!?" ภาพที่ชายหนุ่มเห็น เป็นเพียงใบหน้าเลือนลางของหญิงสาวผู้หนึ่ง ถึงแม้นั่นจะเป็นเพียงภาพลางๆ แต่ก็สามารถบอกได้ว่าสตรียังเบื้องหน้านี้เป็นหญิงงามผู้หนึ่ง เนื่องด้วยว่าดวงตากลมโตที่มีแพขนตายาวปกคลุมช่างดูสวยหวาน เข้ากับรูปหน้าที่มีจมูกเชิดรั้นรับกับริมฝีปากอิ่มน้ำรูปกระจับสีแดงสด ผิวพรรณขาวละเอียดราวกับหิมะ นี่ย่อมไม่ใช่หญิงสาวชาวป่าธรรมดาแน่ โจวลี่หลินไม่เพียงไม่หวาดกลัว นางยังจ้องกลับไปที่ดวงตาของเขา พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูมั่นคงจริงใจ "ข้าเพียงดูแลทำแผลให้ท่าน หากไม่อยากตายอยู่ตรงนี้ ก็ให้ข้าดูแลทำแผลให้ท่านจนแล้วเสร็จ หรือไม่เช่นนั้นก็จงนอนจมกองเลือดตายอยู่ตรงนี้…เลือกเอา" เฉินตงหยางชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ก็ยอมปล่อยมือออกให้หญิงสาวได้ดูแลทำแผลให้กับตน แต่เนื่องด้วยว่าบาดแผลอยู่ใกล้บริเวณโคนต้นขามาก เขาจึงรู้สึกเก้อกระดากอาย เมื่อต้องเปิดเปลือยร่างกายให้กับหญิงสาวแปลกหน้าผู้นี้ได้เห็น โจวลี่หลินเองก็คล้ายกับจะรู้ว่าชายหนุ่มกำลังคิดสิ่งใดอยู่ นางจึงได้กล่าวออกมาอย่างติดตลก เพื่อลดอาการประหม่าของเขาลง "ท่านอย่าได้กังวลไปเลย หากว่าท่านสามารถรอดชีวิตไปได้ เอาไว้ข้าจะดูแลรับผิดชอบในตัวท่านเองดีหรือไม่" ผู้กล่าวๆออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน แต่ผู้ฟังกลับมีใบหน้าเห่อร้อนแทนเสียแล้ว "รีบทำหน้าที่ของเจ้าให้แล้วเสร็จ อย่าได้พูดจาไร้สาระ" โจวลี่หลินอมยิ้มเมื่อเห็นว่าใบหูของเขาแดงก่ำ นางละสายตากลับไปสนใจบาดแผลของเขาแทน เมื่อหญิงสาวสำรวจบาดแผลเรียบร้อยแล้ว โจวลี่หลินก็สั่งให้น้องชายก่อไฟ พร้อมกับไปหาน้ำสะอาดมาต้ม เพื่อที่จะดูแลทำแผลให้กับบุรุษผู้นั้นเท่าที่จะทำได้ เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว นางจึงได้วางอุปกรณ์ที่พกมาด้วยของตนเองออกมากางไว้เบื้องหน้า ถึงแม้สายตาของเขาจะพร่าเลือนมองเห็นทุกอย่างได้ไม่ชัดนัก แต่ชายหนุ่มก็สังเกตได้ว่าห่อผ้าที่หญิงสาวกางออกเมื่อสักครู่นี้ ได้มีเข็มรูปร่างแปลกประหลาด พร้อมกับขนสีดำบางอย่าง วางอยู่คู่กัน ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นด้วยไม่เข้าใจว่านั่นคือสิ่งใด จนเมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวเอ่ยบอกกับตนเอง เขาจึงได้หลุดออกมาจากในภวังค์ "ข้าจะดูแลเย็บแผลเพื่อห้ามเลือดให้กับท่าน มันอาจจะเจ็บสักหน่อย" "เย็บแผลคืออันใด เหตุใดไม่ใช้ยาสมานแผล" เฉินตงหยางยังคงไม่วางใจเพราะการรักษาบาดแผลในยุคสมัยนี้มิใช่ว่าใช้ยาเพื่อสมานแผลก็เพียงพอหรอกหรือ เหตุใดสตรีผู้นี้ถึงต้องกล่าวว่ากำลังจะทำการเย็บแผลให้กับเขาเล่า เมื่อคิดว่านางเป็นเพียงสตรีธรรมดา จะสามารถเข้าใจถึงการรักษาบาดแผลได้อย่างไร ชายหนุ่มจึงมีสีหน้ากังวล และไม่เชื่อถือโจวลี่หลินเลยแม้แต่น้อย "แผลใหญ่ขนาดนี้หากไม่เย็บแผล เกรงว่าพอขยับเลือดในกายท่านก็คงไหลออกมาจนหมดตัวพอดี วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีเชื่อข้าเถิด ว่าหากท่านรอดชีวิตไปได้ จะต้องรู้สึกขอบคุณข้าที่ช่วยท่านในวันนี้อย่างแน่นอน อีกอย่างเข็มที่นำมาใช้เย็บแผลให้กับท่านนี้ ข้าก็ได้คิดค้นขึ้นมาเอง ถึงแม้มันจะใหญ่ไปสักหน่อย แต่มันก็ดีที่สุดเท่าที่ข้าจะสามารถหาได้ และขนหมูป่านี้รับรองว่าจะสามารถช่วยยึดบาดแผลของท่านให้สมานกันได้ภายในเวลาแค่เจ็ดถึงสิบวัน ท่านก็สามารถกลับมาเดินเหินได้อย่างปกติแล้ว" "ขนของหมูป่า…!?" ยิ่งเมื่อได้ยินว่านางจะใช้สิ่งใดในการทำแผลให้กับตนเอง ชายหนุ่มก็ยิ่งมีใบหน้าซีดเผือดลงมากกว่าเดิม เขาจ้องเขม็งไปที่นางอย่างไม่วางตา จนโจวลี่หลินเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์แล้ว "คนเขาจะช่วยยังเรื่องมากอีก ข้าควรปล่อยท่านให้ตายอยู่ตรงนี้ดีหรือไม่" เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ของนาง เฉินตงหยางจึงได้มีท่าทีอ่อนลง เขากล่าวถามนางออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา คล้ายกับต้องการสร้างกำลังใจให้กับตนเองมากขึ้น "เจ้าใช้วิธีนี้กับผู้ใดแล้วบ้าง" "ไม่ต้องห่วงท่านถือเป็นคนแรก ที่ข้าทดลองใช้วิธีนี้ หากมันไม่สำเร็จข้าคงต้องไปใช้วิธีอื่น" "_" เฉินตงหยาง

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

เกิดใหม่พร้อมกับมิติฟาร์มส่วนตัว

read
4.4K
bc

รอยตรวน

read
1K
bc

รอยรักคนใจร้าย

read
9.4K
bc

ข้านี่แหล่ะ ฮูหยินของท่านแม่ทัพ

read
3.4K
bc

พิษรักซาตาน

read
5.0K
bc

ฮูหยินกลับมาเถิดข้าไล่พวกนางไปหมดแล้ว

read
9.4K
bc

ทาสรักของจอมมาร

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook