เมื่อกินอาหารมื้อเช้าเสร็จแล้วเพียงกมลจึงหันมาพูดกับน้องสาวว่า
“เป็นยังไงบ้างจ๊ะ อาหารมื้อเช้าวันแรกของปางไม้ มันอาจจะดูเป็นอาหารสากลสักหน่อยนะเพราะปกติพี่จะชอบสั่งให้ป้าวรรณาจัดแบบนี้ให้แต่ว่าพรุ่งนี้พี่จะให้ป้าวรรณาจัดเป็นอาหารพื้นเมืองอย่างที่พวกเราเคยกินกันตอนอยู่บ้าน”
“ไม่เป็นไรเหรอกค่ะพี่เพียง นิ่มกินแบบไหนก็ได้ จะเป็นอาหารฝรั่งหรือว่าจะเป็นอาหารพื้นเมืองนิ่มก็กินได้ทุกอย่างค่ะ”
“ดีจังเลย ตอนแรกพี่ก็นึกว่านิ่มน่ะอยากจะกินอาหารแบบสากลเหมือนที่พี่กินอยู่เป็นประจำ ที่พี่ชอบกินแบบนี้ไม่ใช่ว่าพี่กระแดะเหรอกนะ เพราะจะว่าไปพื้นเพของเราก็เป็นคนแถวนี้อยู่แล้วแต่ว่าพี่ชินที่จะชอบกินแบบนี้ ขนมปังไข่ดาวแล้วก็ไส้กรอกตามด้วยโจ๊กถ้วยเล็กๆ มันอร่อยแล้วก็อิ่มท้อง...พี่เด็จคะ ก้มหน้าก้มตากินน่ะไม่คิดจะชวนนิ่มคุยอะไรบ้างเลยเเหรอคะ”
เพียงกมลหันไปทางจเด็จที่กำลังก้มหน้ากินอาหารในจานเงียบๆ เขาเงยหน้าขึ้นและวางช้อนกับส้อมลง ยิ้มกับภรรยาและพูดว่า “พี่จะต้องพูดอะไรอีกล่ะก็ในเมื่อเพียงน่ะคุยกับนิ่มอยู่แล้วก็เพียงไม่ได้เจอนิ่มตั้งแต่นิ่มไปเรียนไม่ใช่เเหรอ พี่ก็เลยคิดว่าเปิดโอกาสให้สองพี่น้องคุยกันจะดีกว่าเพราะพี่เองเป็นผู้ชายก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เดี๋ยวพูดไปจะหมดสนุกเอาซะเปล่า”
“ก็พูดคุยเรื่องทั่วไปไงคะพี่เด็จ...อย่างเช่นงานในปางไม้ ชีวิตคนที่นี่แล้วก็อาจจะมีเรื่องอะไรสนุก ๆ ให้นิ่มทำแก้เหงาในปางไม้นี้ด้วย นิ่มจ๊ะ...แถวนี้เป็นป่าแต่ก็มีที่ที่ให้เข้าไปเที่ยวเยอะแยะเลยนะถึงจะเป็นป่ารกยังไงแต่ก็มีคนมาเที่ยว บางทีเขาก็มากันเป็นครอบครัว เอาอย่างนี้นะจ๊ะเดี๋ยวว่าง ๆ พี่จะให้พี่เด็จพานิ่มออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้างเพราะว่าในปางไม้นี่มันก็มีแต่งานของคนงาน มีช้างอาจจะไม่มีอะไรที่น่ารื่นรมย์มากนักสำหรับนิ่ม”
“ไม่เป็นไรเหรอกนะคะพี่เพียง ที่นิ่มมาอยู่ที่นี่ก็ตั้งใจไว้อย่างหนึ่งแล้วว่าจะมาอยู่คอยดูแลพี่เพียงด้วย เพราะว่าตอนนี้พี่เพียงก็ยังต้องอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอนิ่มก็เลยคิดว่าถ้านิ่มได้มาคอยดูแลเพียงก็จะได้ไม่เหงาไงคะ”
“ไม่ต้องมาคอยดูแลพี่เหรอก พี่อยู่ที่นี่อากาศก็ดีคนก็ดี พี่ก็ไม่ได้รู้สึกเหงาอะไร ก็จะมีบ้างเป็นบางครั้งถ้าพี่เด็จไปต่างจังหวัดแต่หลังๆมาเนี่ยพี่เด็จไม่ค่อยได้ไปไหนบางทีพี่ก็คิดว่าพี่เองหรือเปล่าที่ทำให้พี่เด็จไม่ค่อยได้ออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอก มานึก ๆ ดูเหมือนตัวถ่วงยังไงก็ไม่รู้สิ”
บทที่ 6
“จะให้พี่ไปไหนล่ะเพียงในเมื่อเมียพี่ไม่สบายอยู่อย่างนี้พี่ก็คงไม่มีอารมณ์ที่จะออกไปเที่ยวไหนเหรอกพี่เองก็อยากอยู่ใกล้ชิดได้อยู่ดูแลเพียงเหมือนกัน”
จเด็จแทรกขึ้นขณะเขาเหลือบมองนภัทสรีย์พี่ก็สบนัยน์ตาของเขาอยู่แล้ว หญิงสาวรู้สึกราวกับมีแรงกระเพื่อมจากประกายตาคมเข้มคู่นั้นที่มองมาทุกครั้ง ทุกคำพูดและการกระทำของจเด็จแสดงให้เห็นว่าเขาพยายามที่จะเน้นย้ำให้เธอได้รับรู้ว่าผู้หญิงคนเดียวในชีวิตของเขาคือเพียงกมลเท่านั้น
ขณะที่นภัทสรีย์กำลังจะหยิบถ้วยชาขึ้นจิบ เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้าง ๆ ก็ดังขึ้นเธอหยิบมันขึ้นมาดูชื่อของสายเรียกเข้าก็เหลือบมองพี่สาวและพี่เขยก่อนที่จะเอ่ยว่า
“พี่เพียงคะ นิ่มขอตัวไปโทรศัพท์แป๊บนึงนะคะพอดีว่าเพื่อนของนิ่มโทรมาค่ะ”
พอบอกแล้วก็ลุกขึ้นและเดินเลี่ยงออกไปขณะที่เพียงกมลมองตามก่อนหันกลับมาทางสามีของเธอ ในเวลานั้นจเด็จยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ เพียงกมลจึงพูดว่า
“พี่เด็จ...เพียงบอกแล้วยังไงล่ะคะว่าให้พี่เด็จน่ะช่วยแสดงความอ่อนหวานกับน้องสาวของเพียงหน่อย”
เสด็จวางแก้วกาแฟลงและหันกลับมายังภรรยา
“จะให้พี่อ่อนหวานแบบไหน บอกแล้วยังไงว่าขอให้พี่แสดงสิ่งนี้กับเมียของพี่คนเดียวเถอะ แต่พี่ก็ไม่ได้พูดอะไรที่มันดูไม่ดีกับน้องสาวของเพียงเลยนะ พี่ก็เป็นของพี่แบบนี้เพียงก็รู้อยู่แล้ว อาจจะไม่โรแมนติกเอาใจใครไม่เป็นพูดจาก็ไม่หวานหู”
“ของแบบนี้มันต้องค่อย ๆ ฝึกนะคะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป”
“บอกตามตรงเลยนะเพียงว่าพี่รู้สึกว่าฝืนตัวเองเต็มทน พี่ไม่รู้นะว่าเพียงรู้สึกยังไงกับการที่มีผู้หญิงคนอื่นมาอยู่ใกล้ ๆ สามีของเพียงแบบนี้”
“มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนี่คะ พี่เด็จก็คิดว่านิ่มเขาก็เป็นน้องสาวของเพียงและก็เขามีศักดิ์เป็นน้องเมียของพี่เด็ดยังไงล่ะคะ”
“เพียงก็รู้อยู่แก่ใจนะว่าไอ้ที่เป็นอยู่นี่นะมันเป็นยังไง แต่ก็ขอร้องเถอะอย่าให้พี่ต้องฝืนใจมากไปกว่านี้เลย”
“แต่กับพี่เด็จสัญญากับเพียงแล้วนะคะ”
เพียงกมลเป็นฝ่ายดึงมือหนาแกร่งของสามีมากุมไว้บนไว้บนแก้มของเธอและจ้องมองจเด็จแววตาเว้าวอน