ตอนที่ 2 ประสบการณ์ชีวิต (1)
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์แรกของการฝึกงาน พรุ่งนี้เสาร์อาทิตย์ขนิษฐาก็จะได้หยุดอยู่บ้านแล้ว และสี่วันที่ผ่านมาก็ถือว่าสนุกสนานดี แม้จะงงบ้างเหงาบ้างหรือตามไม่ค่อยทันเวลาพี่ๆ พูดเรื่องงานบ้าง แต่หมูน้อยก็ไม่ยอมแพ้แน่นอน
จนมาถึงเย็นวันนี้ที่การฝึกงานเสร็จสิ้นไปแล้วอีกวัน แต่ขนิษฐายังไม่สามารถกลับบ้านไปได้นี่สิ
“อยู่ไหนนะ” บ่นพึมพำพลางก้มลงไปมองใต้โต๊ะ
ตอนนี้พี่ๆ ทีมงานการตลาดส่วนใหญ่กลับบ้านกันไปหมดแล้ว บางคนที่ยังไม่กลับก็ลงไปชั้นล่างเพื่อไปหาอาหารรองท้องก่อนอยู่ยาวๆ เพราะจำเป็นต้องทำงานล่วงเวลา ก็เลยเป็นโอกาสให้ขนิษฐาได้ก้มๆ คลานๆ หมอบๆ มองหาของสำคัญของตนที่หล่นหายไปได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาตำหนิว่าทำอะไรแปลกๆ
“อยู่ไหนนะพี่ไอรอนแมน”
บ่นกับตัวเองเบาๆ ด้วยว่าทุกวันนั้นเธอจะพกพี่หุ่นไอรอนแมนตัวโปรดที่คุณพ่อเคยซื้อให้ตั้งแต่เด็กมาด้วย เป็นตัวที่เคยชำรุดนั่นล่ะ และก็ซ่อมแล้วซ่อมอีกจนอยู่ด้วยกันมาได้ถึงทุกวันนี้
ใครจะว่าบ้าก็ช่าง แต่ขนิษฐารักหุ่นยนต์ตัวนี้มาก มาฝึกงานก็เอามาด้วย เหมือนเอามาเป็นกำลังใจให้เธอแทนพ่อคิง พี่หุ่นตัวนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้รับพลังความเข้มแข็งของพ่อมาคอยคุ้มครอง แม้พ่อจะไม่ได้มาอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาก็ตาม
แต่ปัญหาคือตอนนี้พี่หุ่นของหมูน้อยหายไปไหน จะร้องไห้แล้วนะ แง้...
ขนิษฐาว้าวุ่นใจและรู้สึกใจหวิวๆ กลัวว่ามันจะหายไปจริงๆ ลึกๆ แล้วก็รู้สึกว่าน่าจะโดนใครแกล้งเอาไปซ่อนหรือเปล่าเพราะเธอเอาหุ่นใส่กระเป๋าไว้ตลอด แต่อีกใจก็ไม่อยากไปปรักปรำใคร
และในระหว่างที่กำลังก้มๆ เงยๆ หาอย่างไม่ลดละนั้น
“ไปไหนกันหมด”
โป๊ก!
สาวน้อยสะดุ้งตกใจจนหัวโขก เพราะดันไปก้มหาไอรอนแมนอยู่ใต้โต๊ะของพี่ทีมงานอีกคนหนึ่ง
“โอ๊ย...” โอดโอยก่อนจะคลานออกมาจากใต้โต๊ะ และเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่มาใหม่ก็ให้ตาโตอีกรอบ
“พี่เรียว...” ขนิษฐาจำเขาได้ วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เจอพี่เขา ไม่เหมือนเมื่อวานที่เจอตั้งสามรอบแน่ะ
“เป็นอะไรหรือเปล่า ไปทำอะไรใต้โต๊ะ แล้วทำไมยังไม่กลับบ้านอีก”
“คือหนู...”
ยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรเขาก็เอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน
“หัวโดนโต๊ะไหม ทำไมมันแดงอย่างนั้น”
“นิดหน่อยค่า”
พอได้ยินเธอว่าอย่างนั้น ชายหนุ่มเลยเดินไปวางแฟ้มงานไว้ที่โต๊ะของพี่ทีมงานการตลาดคนหนึ่ง จากนั้นก็หันมาพยักหน้าเรียกคนที่ยืนเอามือกุมขมับข้างที่ปูดแดงไว้
“หนูมานี่”
ขนิษฐาส่ายหน้าให้เขาพร้อมกับทำตาแดงๆ และเมื่อเห็นว่าเขาขมวดคิ้วก็เลยเอ่ย
“หุ่นน้องอ้ายหายไป ฮือๆ พี่ช่วยน้องอ้ายหาได้ไหมคะ ฮือ น้องอ้ายหาไม่เจอ”
ฉับพลันหมูน้อยก็ปล่อยให้น้ำตาร่วงแหมะๆ โดยไม่สนใจมารยาทอะไรอีกแล้ว หุ่นยนต์หายไป แล้วก็มาเจ็บตัว แถมวันนี้ยังต้องนั่งแท็กซี่กลับบ้านเองอีก และนี่ก็เลยเวลากลับมาครึ่งชั่วโมงแล้วด้วย
“ไม่ร้องๆ หุ่นอะไร หายที่ไหน เดี๋ยวพี่ช่วยหา” สหัสนัยเองก็ตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆ เด็กฝึกงานก็มายืนร้องไห้ต่อหน้าเขา
“หุ่นแบบนี้ค่ะ ฮึก” พยายามกลั้นสะอื้น แล้วกดเปิดอัลบั้มรูปภาพในโทรศัพท์เพื่อให้เขาดูรูปที่เธอเคยถ่ายเอาแก้มแนบกับไอรอนแมนสีแดงตัวโปรดไว้
สหัสนัยถอนหายใจอย่างอ่อนใจและสงสาร ก่อนจะเอ่ย
“ไปห้องพยาบาลก่อน เอาอะไรประคบหัวจะได้หายแดง เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เอาหุ่นมาคืนให้ ถ้าหล่นในนี้ก็อยู่ในนี้แหละ มันไม่หายไปไหนหรอก”
“จริงๆ เหรอคะ อ้ายจะได้หุ่นคืนจริงๆ ใช่ไหมคะ”
“จริงสิ” เขาพยักหน้าให้พร้อมกับยิ้มอ่อน
เมื่อได้ยินเขาให้ความเชื่อมั่นอย่างนั้นขนิษฐาก็เลยพยักหน้ารัวๆ จนเส้นผมกระจาย ก่อนจะเช็ดน้ำตาแล้วเดินตามเขาต้อยๆ ไปที่ห้องพยาบาลที่อยู่ชั้นเดียวกันกับฝ่ายการตลาดนั่นเอง
เมื่อมาถึงเขาก็สั่งให้เธอนั่งลง แล้วหยิบเจลประคบเย็นประคบตรงส่วนที่บวมแดงให้เป็นครั้งๆ ครั้งละประมาณสองถึงสามนาทีเห็นจะได้ ส่วนขนิษฐาที่เห็นหน้าตาเคร่งขรึมจริงจังของเขาก็อดชวนคุยตามประสาคนช่างจ้อไม่ได้
“อ้ายจะได้หุ่นคืนจริงๆ ใช่ไหมคะพี่เรียว”
“ครับ” เขาตอบรับสั้นๆ
นั่นเลยทำให้ขนิษฐาหาเรื่องถามเขาอีก
“พี่เรียวทำตำแหน่งอะไรหรือคะ ทำไมอ้ายไม่เห็นพี่เรียวมานั่งตรงฝ่ายการตลาดเลย”
“พี่ทำได้ทุกอย่างแหละ แล้วแต่เจ้านายจะสั่ง”
เขาไม่ได้โกหก เจ้านายที่ว่าก็คือคุณพ่อกับคุณแม่นั่นเอง ตอนนี้โปรเจกต์ที่ต้องดำเนินการเยอะแยะเต็มไปหมด เพราะอีกไม่นานเขาก็ต้องสานต่องานจากคุณพ่อเต็มตัว
“เก่งจังค่ะ อ้ายอยากทำงานเก่งๆ บ้าง”
ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ แต่ทำไมขนิษฐาถึงรู้สึกสนุกที่ได้คุยกับพี่เขาขนาดนั้นก็ไม่รู้ และความอ่อนโยนจากมือหนาที่ประคบแผลให้เธอนี่ก็อีก ทำไมถึงได้ใส่ใจคนอื่นมากขนาดนี้นะ แถมยังทำให้รู้สึกหวั่นไหวได้ง่ายๆ อีกด้วย
“เสร็จแล้ว น่าจะไม่บวมแล้วล่ะ” เขาเอ่ยเมื่อทาบาล์มแก้ฟกช้ำให้เธอบางๆ เสร็จเป็นลำดับสุดท้าย