มารดาเจ้าเถอะเป็ดน้อยชิงซาน!!

1130 คำ
“มารดาเจ้าเถอะเป็ดน้อยชิงซาน!” ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ยอย่างนั้น แต่เสียงของนางไม่ได้หลุดรอดจากริมฝีปากอิ่มสวย ยามนี้เรือนกายแกร่งส่งความอุ่นทาบทับร่างนาง ส่วนที่มันควรจะแข็งก็ส่งความร้อนนาบอยู่ในจุดซึ่งส่งผลให้นางซาบซ่าน ยามนั้นความหวามไหวไหลท่วมท้นทั่วร่าง ท้องน้อยนางเกิดความรัญจวนใจ สัมผัสเช่นนี้หรือที่หญิงชายพึงมีต่อกัน นางถวิลหารสชาติเช่นนี้เสมอมา ซึ่งตอนนี้เหมือนตกอยู่ในอำนาจล่อลวงของบุตรมังกร ดวงตาคมกริบของมู่ชิงซานที่มองนางหาได้เจือความต่ำช้าน่ารังเกียจ หากเต็มไปด้วยประกายสดใสราวเด็กเล็กๆ ไร้เดียงสา แต่กลับเป็นนางที่มิอาจหักห้ามใจ “สวย สวยเหลือเกิน...” เสียงนั้นฟังแล้วชวนให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ นิ้วยาวใหญ่สัมผัสหน้าผากเนียน เขาค่อยๆ ลูบไล้ช้าๆ ปลายนิ้วส่งกระแสความอุ่นซ่านถึงฟ่านรั่ว-เจี๋ย ดวงตากลมโตปิดลง นางเคลิ้มไหวต่อสัมผัสมู่ชิงซาน เขาลูบไล้หัวคิ้วและเลื่อนลงทีละนิด กระทั่งหยุดบนเปลือกตา หัวใจนางเต้นรุนแรง ความรู้สึกเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันเป็นเรื่องผิดบาปหรือไม่ หากนางจะนอนนิ่งๆ แล้วปล่อยให้ชายหนุ่มเย้าหยอกสัมผัสผิวกายนางด้วยนิ้วยาวใหญ่ของเขา “ข้าชอบ...” เขาเอ่ย ลมหายใจผะผ่าวร้อนรินรดใบหน้านาง พร้อมกันนั้นปลายนิ้วยังเคลื่อนที่ต่อกระทั่งหยุดตรงสันจมูก ฟ่านรั่วเจี๋ยตกใจ นางจะให้ชายผู้นี้สัมผัสจุดที่อ่อนไหวของตนไม่ได้ “ถอยออกไปเป็ดน้อย เจ้ากำลังล่วงเกินข้า เด็กปีศาจ!” นางว่าเสียงหลง พลางรีบใช้สองมือดันหน้าอกแกร่งของเขาออก แต่ร่างกายเขาใหญ่โตกว่านาง อีกทั้งยังไม่ยอมเชื่อฟังสิ่งที่นางกล่าว มู่ชิงซานกำลังจะสัมผัสปลายจมูกฟ่านรั่วเจี๋ย นางจึงชิงบีบยอดหน้าอกเขาแรงๆ ด้วยสองมือ “จั๊กจี้...ฮิๆ ข้าชอบ” เขาว่าพลางดิ้นไปมา ก่อนเบี่ยงตัวหลบและถอยห่างฟ่านรั่วเจี๋ย จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ยามนั้นหญิงสาวหายตกใจอยู่มิน้อย นางจับจมูกของตนซึ่งหวงแหนเหลือเกิน พอมู่ชิงซานเห็นอาการแปลกๆ จึงหัวเราะขบขัน พร้อมเอ่ยว่า “สวยๆ มันสวย ข้าชอบ” ตั้งแต่เกิดสิ่งนี้คือปมด้อยของฟ่านรั่วเจี๋ย นางได้รับการสืบทอดมาจากมารดา มันคือพิษหนอนกู่ที่กัดกินร่างกาย ซึ่งนางต้องเลี้ยงพวกมันด้วยยาสมุนไพรตามตำราที่มารดาเขียนไว้ มือเรียวสวยจับปลายจมูกตน นางรู้สึกโล่งใจต่อสิ่งที่หวาดหวั่นเพราะเป็นฝันร้ายตลอดมา โชคดีที่นางอยู่ในตำหนักอันห่างไกลผู้คน จึงเป็นการซ่อนนางเอาไว้ไม่ให้ผู้อื่นพบเห็น ฟ่านรั่วเจี๋ยเลยมิใช่ตัวประหลาดแสนอัปลักษณ์ล่มเมืองอย่างที่ใครๆ เกลียดชัง ตำหนักเย็นแห่งนี้มีบ่อน้ำพุและหินมหัศจรรย์ มีคุณสมบัติช่วยควบคุมหนอนกู่ซึ่งอยู่ในร่างนาง “สวย...” เขาเอ่ยอีกหน ทำทีจะเอื้อมมือมาสัมผัสจมูกนางอีกครั้ง แต่นางโมโหและเกิดความฉุนเฉียว ด้วยคิดไปว่ามู่ชิงซานล้อเลียนตน นางจึงแยกเขี้ยวขู่ อีกฝ่ายเลยหงอ สีหน้าเขาสลดลงและร่ำๆ จะร้องไห้งอแง ภาพของคนตัวโตที่กลายเป็นดั่งเด็กน้อยทำให้นางฉุกคิดอะไรขึ้นได้ต้องขอบคุณสวรรค์ที่เมตตาให้นางมีโอกาสเก็บบุตรชายของฮ่องเต้ต้าหลางไว้ในกำมือได้ นับแต่นี้สตรีแสนอัปลักษณ์จะเลี้ยงดูเขา แล้วในวันข้างหน้านางจะส่งมู่ชิงซานไปจัดการทุกคนที่เป็นต้นเหตุให้มารดานางถูกขับมาอยู่ในตำหนักเย็น แล้วรับเคราะห์กรรมเลวร้ายด้วยการลงโทษอย่างป่าเถื่อนให้เป็น ‘คนหมู’ จนจบชีวิตลงอย่างสยดสยอง “เป็ดน้อย ให้ข้าเป็น ‘มารดา’ ของเจ้าได้หรือไม่” ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ยถามอีกฝ่าย ชายหนุ่มทำหน้าเหลอหลา ก่อนทวนคำพูดนาง “มารดา” “ใช่ นับแต่นี้ข้าจะเป็นแม่นม เอ๊ย...เป็นมารดาเจ้า คอยฟูมฟักเป็ดน้อยหลงทางให้เป็นเด็กดี” ฟ่านรั่วเจี๋ยเอ่ยจบก็ยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่แจ้งชัดว่ามีเลศนัยแอบแฝงอย่างชั่วร้าย ฟ่านรั่วเจี๋ยไม่เคยแต่งตัวให้ชายคนใดมาก่อน โดยเฉพาะคนที่ร่างกายสูงใหญ่และเต็มไปด้วยมัดกล้าม พอนางหาชุดที่เหมาะกับเขาแล้ว มู่ชิงซานจึงดูเหมือนชายหนุ่มชาวบ้านทั่วไป ทว่าใบหน้าคมคาย ผิวพรรณแม้จะมีบางส่วนไหม้แดดบ้าง กระนั้นยังมิอาจทำให้ความหล่อเหลาลดน้อยลงแต่อย่างใดดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ใครจำเขาได้ นางจึงหลอกล่อเขาให้สวมหน้ากากที่ประดิษฐ์ขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้านี้นางได้ใช้มันอำพรางตนกับมู่หรูซื่อจนทำให้อีกฝ่ายขวัญหนีดีฝ่อมาแล้ว ด้วยเขาคิดว่านางคือตัวประหลาดแสนน่ากลัว มือเรียวสวยค่อยๆ ติดหน้ากากกับใบหน้าซีกซ้ายของมู่ชิงซาน และเมื่อตบแต่งเรียบร้อย ใบหน้าหล่อเหลาจึงมีสีดำเป็นปื้นใหญ่ราวกับเป็นคนหน้าด่าง คืนนั้น อาหารมื้อเย็นบนโต๊ะคือสิ่งที่ทำขึ้นง่ายๆ ผัดลวกราดน้ำปรุงรสเปรี้ยว ไก่ผัดขิง พร้อมข้าวอบน้ำแตงโม และยังมีขนมแป้งทอดไส้เผือกกับถั่วแดง นางกินและมองชายหนุ่มซึ่งนิ้วทั้งสิบของเขาเปรอะเปื้อนไปหมดนอกจากนั้นอาหารบางส่วนยังติดข้างแก้มเขาด้วย “ค่อยๆ กินเป็ดน้อย ไม่มีใครแย่งหรอก” นางบอก แต่ชายหนุ่มชี้ไปยังตือเมี่ยว มันร้องเสียงดังอู๊ดๆ อยู่มิห่างเขา “ไม่ต้องห่วง อาเมี่ยวแค่อยากเล่นกับเจ้า” มู่ชิงซานยิ้มกว้าง เมื่อได้ยินคำว่าเล่นเขาจึงหยุดกินทันที “อิ่มแล้วก็ไปล้างมือ” นางชี้ให้ดูที่ขันน้ำใบใหญ่ แทนที่เขาจะล้างมือกลับเอาศีรษะลงไปจุ่ม พลอยให้หญิงสาวต้องหัวเราะลั่น “ไม่ ข้าไม่ได้ให้เจ้าอาบน้ำ” ฟ่านรั่วเจี๋ยหัวเราะต่อไปอีกสักพัก นางจึงเก็บจานอาหารตรงหน้าและตั้งใจออกไปดูรอบๆ เรือนหลังเล็กของตน ถึงจะอยู่ที่นี่มานานและไม่ค่อยมีใครอยากมาข้องเกี่ยว แต่บางครั้งนางต้องระวังตัว เกาเจียวหั่วให้ทหารมาเดินลาดตระเวนแถวกำแพงด้านนอกอยู่ตลอดก็จริง ทว่าบางคราพวกที่อยู่ในวังหลวงก็ส่งสายสืบมาสอดแนมความเป็นไปของนางเป็นระยะๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม